นิยาย | Don’t Want To Defy The Heavens DTH ตอนที่ 94 ทําไมถึงมีคนไร้ปราณีเช่นนี้อยู่ได้
การพูดคุยมันจบเร็วเกินไป
ตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งนี้จะดําเนินไปถึงตอนกลางคืนและเขาจะมีเวลาร์ดแต้มความโกรธจนถึงตอนนั้น แต่เมื่อดูจากสถาการณ์ตอนนี้ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์
กองทัพโลหิตเงินทนทุกข์ทรมานจากการถูกทรมานด้วยความปรารถนา
มันทั้งแข็งอึดอัดแออัดและเจ็บปวด
เจ้าเด็กนี่มันชั่วร้ายมาก
ถ้าเขาอยู่ที่อื่นพวกเขาคงชักดาบออกมาและฟันเขาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
สีหน้าของหลิว ชวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ตอนแรกเขายังคงหัวเราะ แต่ตอนนี้เขาไร้ความรู้สึก และไม่มีความผันผวนใดปรากฏให้เห็น
สายตาของเขาเมื่อมองไปทางหลิน ฟานดูไม่เป็นมิตรมากขึ้น
เขาซ่อนมันได้ดีจริงๆ
เขาพบว่าสถาการณ์ของกองทัพโลหิตเงินดูเหมือนจะผิดแปลกไปเล็กน้อยพวกเขาต้องการก่อกบฏร์ไม่? ทําไมถึงทําท่าทางเช่นนั้น? พวกเจ้ากาลังทําให้ข้าขายหน้าดูเหมือนเมื่อกลับไปข้าต้องสั่งสอนพวกเขาเสียหน่อย
กองทัพโลหิตเงินก้มหน้า พวกเขารู้ตัวว่าได้ทําให้กองทัพโลหิตเงินขายน้า
“ท่านพ่อดูพวกเขาสิ พวกเขาไม่สบายรีไม่? อีกอย่างข้าว่าท่ายืนของพวกเขามันก็ดูแปลกๆด้วย” หลิน ฟานชี้ไปที่กองทัพโลหิตเงิน
ความโกรธ +77
ความโกรธ +88
เขาได้แต้มความโกรธเพิ่มอีก 7,588
ให้ตายสิ นี่มันรู้สึกดีชะมัน
สําหรับกองทัพโลหิตเงิน หลิน ฟานจะไม่รู้จริงหรือว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
แล้วทําไมมันถึงเป็นพวกเขาที่ถูกตําหนิ
หากไม่ใช่เพราะเจ้า พวกข้าจะมาตกอยู่ในสภาพนี้งั้นหรือ?
เลวร้ายจริงๆ
การที่พวกเขาใส่ชุดเกราะแล้วต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ใครเล่าจะทนไหว?
หลิน วานยพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด
“สหายหลิน ข้าหวังว่าเจ้าจะลองพิจารณาดูใหม่อีกครั้ง บางครั้งปฏิเสธเร็วเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี” หลิวชวนกล่าว
ภารกิจของเขาในการรับสมัครหลิน วานยี่ล้มเหลว
มันทําให้เขาอารมณ์เสียมาก
สิ่งที่ราชาหรูทงให้ควาสําคัญคือความสามารถส่วนบุคคล ในเมื่อเขาทํางานไม่สําเร็จก็แปลว่าเขาล้มเหลว
หลิน วานยกล่าว “ไม่จําเป็น เจ้าสามารถกลับไปบอกราชาหรูทงได้เลยว่าข้าไม่เห็นด้วย”
ดูเหมือนว่าการเจรจาจะล้มเหลว
หลิน ฟานไม่อยากให้หลิว ชวนไป เพราะถ้าเขาไป กองทัพโลหิตเงินก็ต้องออกไปพร้อมกับเขาด้วย และแหล่งรีดแต้มความโกรธของเขาก็จะหายไป
“ทําไมท่านถึงรีบร้อนขนาดนั้น? อยู่ต่อสักระยะหนึ่งจะเป็นไรไป?” หลินฟานพยายามรั้งเขาไว้
ดีที่สุดถ้พวกเขาไม่จากไปและอยู่ที่เมืองนี้ต่ออีกสักสองสามวัน
ใครจะรู้บางที่พวกเขาอาจพัฒนาความรู้สึกร่วมกันขึ้นมาก็ได้
หลิว ชวนไม่ได้มีความประทับใจที่ดีนักต่อหลิน ฟาน เอาเข้าจริงหากจะกล่าวให้ถูกต้องคือเขาไม่ประทับใจใครสักคนในตระกูลหลินเลยต่างหาก
“ข้ามีเรื่องต้องท่าเลยไม่สามารถอยู่ต่อได้ ลาก่อน” หลิว ชวนคารวะการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มันดูไม่อบอุ่นอย่างที่เคยเป็น
ในช่วงเวลาสุดท้ายนี้หลิน ฟานกาลังครุ่นคิดว่าเขาควรจะทําอย่างไรดีถึงจะปิดได้อย่างสวยงาม
ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นไส้กรอกที่อยู่บนพื้น
“งั้นท่านก็นําไส้หรอกเหล่านี้กลับไปให้ราชาหรูทงด้วยสิ ถือซะว่าเป็นของขวัญจากตระกูลหลินของข้า”หลินฟานกล่าว
ความโกรธ +999
ความโกรธของหลิว ชวนพุ่งไปหยุดอยู่ที่ 999 เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการฆ่าหลินฟาน
ไส้กรอก?
เป็นไส้กรอกที่เจ้าทํา?
แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะเชื่อในสิ่งที่หลิน วานยพูด
นับเป็นวิธีการที่ชั่วร้ายนักกับการบดคนที่ราชาหรูทงส่งมาเป็นไส้กรอกกลับไปแบบนี้เยี่ยมเยี่ยมมาก!
หลิว ชวนโบกมือเพื่อบอกให้กองทัพโลหิตเงินขนไส้กรอก จากนั้นเขาก็มองไปยังหลินวานยี่ “สหายหลิน เจ้าและข้าก็เป็นเพื่อนกันมานานดังนั้นเจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าจะไม่ทําร้ายเจ้า การที่เห็นเจ้าไม่เชื่อใจแบบนี้ทําให้ข้าเสียใจมาก
“สหายหลิว ถ้ำข้าเชื่อเจ้า ข้าก็คงไม่มีตระกูลหลินและลูกชายอย่างที่เป็นอยู่นี้แล้วเจ้าล่ะมีอะไรบ้าง?” หลิน วานยี่ถาม
หลิว ชวนพูดไม่ออกมา
คาถามนี้มันแทงใจดําเขา
“เขาก็ยังมีไอนั่นของเขาอยู่ไง” หลิน ฟานกล่าวอย่างสบายๆ
หลิว ชวนโกรธ
ความโกรธ +777
“เจ้าเด็กไม่เอาไหน เมื่อครู่เจ้าพูดว่ากระไรนะ?” หลิน วานยี่ขมวดคิ้ว
หลิน ฟานกล่าวอย่างไร้เดียงสา “ท่านพ่อ ข้าไม่ได้พูดอะไรสักหน่อยข้าแค่อยากบอกว่าพวกทหารจากกองทัพโลหิตเงินดูเหมือนก่าลังเจ็บปวดมากในตอนที่เหล่าหญิงสาวจากศาลาหงซิ่วเดินผ่านไปข้าสังเกตเห็นว่าเป้าของพวกเขาบวมแถมดวงตาของพวกเขาก็เริ่มแดงก่านั่นทําให้ข้ารู้สึกว่าพวกเขาอยากข่มขืนพวกนาง”
ความโกรธ + 77
ความโกรธ + 88
ความโกรธ + 99
ความโกรธ + 111
บางครั้งก็มีคนแตะร้อยแต้ม ส่วนคนที่เหลือก็ยังคงรักษามาตรฐานเดิมของพวกเขาไว้
ครั้งนี้เขาได้มาอีก 9,056 แต้ม
ระบบสนับสนุนขนาดเล็กเริ่มแสดงความแข็งแกร่งของมัน ที่นี่มีคนเพียงร้อยกว่าลองคิดดสิหากมีหลายพันหรือหลายหมื่นคนมันจะเป็นภาพที่น่าตกใจขนาดไหน
เมื่อถึงตอนนั้นเป็นไปได้มากว่าจะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้น และเขาคงโดนตัดหัวก่อนจะน่าไปเตะแทนลูกบอล
กองทัพโลหิตเงินโกรธ
เจ้าเด็กนี่กําลังทําให้พวกเขาดูแย่
มันไม่มีที่ว่างตรงเป้าเนื่องจากถูกชุดเกราะคลุมเอาไว้หมด แล้วแบบนี้จะบอกว่าเจ้ามีดวงตาที่มองทะลุไปถึงข้างในได้ยังไง?
แม่ง!
คนที่โกหกหน้าาตายได้นั้นน่ากลัวที่สุด
พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่หลิน ฟานด้วยความโกรธ ตราบใดที่ได้รับคําสั่งพวกเขาคงพุ่งไปสับเจ้าเด็กเวรนี้เป็นคนแรกอย่างแน่นอน
“ดีมากและลาก่อน ข้าจะน่าถ้อยคําทั้งหมดนี้ไปรายงานแก่ราชาหรูทง” หลิวชวนขึ้นหลังม้า“กลับ!”
เสียงกีบม้าดังกึกก้องไม่นานกองทัพก็จากไป
หลิน วานยหรี่ตาและจ้องมองอย่างไร้ความรู้สึกไปยังหลิน ฟาน “เจ้าเด็กไม่เอาไหน ข้าขอถามหน่อยว่าอะไรที่ทําให้เจ้าคิดว่าสามารถพึ่งพาได้จนถึงขั้นกล้าหยิ่งพยองขนาดนี้?”
“ท่านพ่อ แน่นอนว่าต้องเป็นท่านอยู่แล้ว!” หลิน ฟานกล่าว
นี่ไม่ใช่ค่าถามที่ไร้สาระหรอกหรือ?
แน่นอนว่ายังไงเขาก็ต้องพึ่งพาพ่ออยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อ เขาก็คงไม่กล้าอวดดีถึงขนาดนี้
จากเหตุการณ์นี้ทําให้สิ่งต่างๆชัดเจนขึ้น เนื่องจากอีกฝ่ายไม่กล้าลงมือในทันทีนั่นหมายความว่าสถานการณ์มันคงไม่ง่ายอย่างที่เห็น
นอกจากนี้เขาก็พบว่าการพูดจาดีๆก็ไม่เลวเลยทีเดียว
“อื่ม ดี อย่างน้อยเจ้าก็รู้” หลิน วานยพยักหน้าเห็นด้วยกับคําพูดของเขา
หลิน ฟานมองกองทัพโลหิตเงินที่เคลื่อนตัวไปไกลและรู้สึกเสียใจอย่างที่สุดช่างน่าเสียดายจริงๆที่ไม่สามารถใช้เวลากับพวกเขาได้มากกว่านี้
หากพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันอีกสักสองสามวัน เขาสัญญาเลยว่าจะทําให้กองทัพโลหิตเงินจ่าเขาได้ไม่รู้ลืม
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เสียไปแล้วทําก็ทําได้เพียงปล่อยวาง
ภายในคฤหาสน์
หัวหน้าตระกูลหลี่ไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้ได้ เขาไม่ได้สงบเหมือนหลินวานยี่แต่ค่อนข้างตื่นตระหนก
อีกฝ่ายคือราชาหรูทงเชียวนะ
การทําให้ราชาหรูทงขุ่นเคืองนั่นหมายถึงอนาคตที่ยากล่าบาก
“สามี ข้าว่าเราควรไปได้แล้ว ที่นี่มันอันตรายเกินกว่าจะฝากลูกสาวของเราไว้”หลี่หมิงกล่าว
หัวหน้าตระกูลหลี่เห็นด้วย “อม ข้าก็คิดเช่นนั้นเราทําได้เพียงพาลูกสาวของเรากลับส่วนเรื่องการแต่งงานเราคงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้ไฟกองนี้ลามไปถึงตระกูลหลี่”
เมื่อเจอเหตุกาณ์แบบนี้เป็นธรรมดาที่พวกเขาต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะต่อสู้กับราชาหรูทงร่วมกับตระกูลหลิน
การทําแบบนั้นมันไม่ต่างจากร้องขอความตาย
บนถนน
ใบหน้าของหลิว ชวนเย็นชา คนไม่มีสมองอย่างหลิน วานยคงไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ราชาหรูทงให้ความสําคัญกับเขานั่นเป็นเพราะความสามารถของเขาแต่เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงกล้าต่อต้านราชาหรูทง?
ราชาหรูทงจะต้องเป็นผู้ปกครองโลกได้อย่างแน่นอน
ที่เขาติดตามราชาหรูทงนั่นก็เพื่ออนาคตที่รออยู่ของเขา
และตอนนี้เขาก็อยู่ไม่ไกลจากสิ่งที่เขาต้องการ
เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะอยู่ใต้เพียงคนเดียวและเป็นผู้ที่อยู่สูงกว่าคนนับหมื่น
หลังจากคิดถึงอนาคตที่รออยู่ หลิว ชวนก็ยิ้มออกมา
ทันใดนั้นก็ได้มีร่างหนึ่งปรากฏตัวและหยุดกองทัพโลหิตเงินไว้
“เจ้าเป็นใคร?” หลิว ชวนถาม
นับตั้งแต่วินาทีที่กองทัพโลหิตเงินเข้ามาในเมือง ซูเซียงก็แอบตามอยู่ในเงามืดมาตลอดและเมื่อเห็นว่าโอกาสมาถึงเขาก็ก้าวออกมาแสดงตัวว่าอยากติดตามหลิวชวนเพื่อเข้าร่วมกับราชาหรูทง
“เรียนนายท่าน ข้าน้อยมีชื่อว่า เซียง ข้าชื่นชมท่านมากและต้องการติดตามเคียง ข้างเพื่อรับใช้ท่าน” ซู เซียงคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับก้มหัว
เขาจากเมืองจักรพรรดิและมายังเมืองโหย่วนอกเหนือจากการซ่อนตัวจากอันตรายแล้วเขายังมีความสามารถมากมายที่เขาไม่สามารถแสดงออกมาได้
แต่ตอนนี้โอกาสของเขามาถึงแล้ว
ถ้าเขาสามารถรับใช้ราชาหรูทงได้ เขาเชื่อว่าเขาสามารถทําอะไรบางอย่างได้ด้วยทักษะที่เขามี
“โอ้ เจ้าชื่นชมข่า?” หลิว ชวนมองไปยัง เซียงอย่างสงสัย “งั้นเจ้างั้นรีว่าข้าเป็นใคร?”
ซู เซียงตอบ “เป็นธรรมดาที่ข้าต้องรู้จักท่านหลิว ชวนผู้เป็นที่ปรึกษาระดับสูงของราชาหรูทง ข้าได้ยินเรื่องราวของท่านมานานแล้วจึงต้องการใช้โอกาสนี้ติดตามท่าน”
“เจ้าคิดว่าตัวเองซื่อสัตย์และภักดีรึไม่?” หลิว ชวนถาม
“ค่าสั่งของท่านเป็นดั่งพระราชกฤษฎีกาจากสวรรค์”
“งั้นถ้าเขาสั่งให้เจ้าตาย เจ้าจะยอมรีไม่?” หลิว ชวนถาม
“แน่นอน หากท่านอยากให้ข้าตาย ข้าก็จะทําตามโดยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว”
สิ้นเสียงของเขา หลิว ชวนก็โยนกริชไปตกลงตรงหน้าซู เซียง “หยิบมันขึ้นมาและแทงท้องของเจ้า”
สีหน้าของซู เซียงไม่เปลี่ยนแปลง เขาหยิบกริชขึ้นมา สูดหายใจเข้าลึกๆและเปล่งเสียงออกมาเบาๆก่อนจะแทงเข้าที่ท้องของเขาความเจ็บปวดทําให้ร่างกายของเขาสั่นแต่เขาก็ไม่แม้แต่จะเปล่งเสียง
“ฮ่าฮาฮา” หลิน ชวนหัวเราะ “โง่ เจ้านี่มันโคตรโง่เลย ข้าบอกให้เจ้าท่าแล้วเจ้าก็ดันทําตามที่ข้าบอก ข้าล่ะอยากรู้จริงๆว่าเจ้าโตมาโง่แบบนี้ได้ยังไง?”
เขาขี่ม้าผ่านซู เซียงโดยไม่สนใจเขา
กองทัพโลหิตเงินผ่านเขาไปและมองเขาอย่างเย็นชา
ไม่ว่าใครต่างก็อยากติดตามหลิว ชวน ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการมันเป็นได้เพียงแค่ความฝัน
ซู เซียงอดทนต่อความเจ็บปวดและตะโกน “ข้าต้องการติดตามท่านจริงๆแม้ท่านจะทําราวกับข้าเป็นสุนัขข้าก็ยอม”
ไม่มีใครตอบ
สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ซู เซียงไม่เต็มใจยอมรับ
ไม่นานหลังจากนั้น ทหารคนหนึ่งก็ขี่ม้ามาและกล่าวด้วยท่าทางประชดประชัน“ท่านบอกว่าท่านขาดสุนัขที่เชื่อฟัง หากเจ้าอยากเข้าร่วมจริงๆก็ให้ตามไปส่วนเจ้าจะตายระหว่างทางไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเจ้า”
ซู เซียงจับหน้าท้องของเขาและเดินตามพวกเขาไป
เขาไม่เต็มใจ
เขาต้องการกลับไปที่เมืองจักรพรรดิและทวงคืนทุกสิ่งที่ควรจะเป็นของเขากลับมา
ดังนั้นราชาหรูทงจึงเป็นโอกาสเดียวของเขา
MANGA DISCUSSION