I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 99 ป่าชานเมืองตะวันออก
นิยาย I Don’t Want To Defy The Heavens
DTH ตอนที่ 99 ป่าชานเมืองตะวันออก
บนถนนที่ห่างไกลจากเมืองโหย่วรถม้ากําลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบ
โจว เชียงเหมาขี่ม้าของเขาและมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากเนื่องจากตอนนี้ความปลอดภัยของลูกพี่ลูกน้องขึ้นอยู่กับเขาแล้ว ดังนั้นเขาจะต้องไม่ประมาท
ภายในรถม้า
ขณะนี้ทั้งสามกาลังจ้องกันและกัน
หลิน ฟานหรี่ตาและยิ้ม “ฮี”
หยวน เทียนชและเหลียง หยงฉีแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาทั้งคู่ยิ้มออกมาเช่นเดียวกับหลินฟาน
แต่ภายในใจพวกเขาไม่ได้สงบเหมือนภายนอก
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคิด
ใครจะไปคิดว่าหลังจากสู้กันในเมืองโหย่วมาอย่างยาวนาน สิ่งที่พวกเขาได้รับคือสถานการณ์ปัจจุบัน
เพื่อนที่ดูถ่อมตัวและนิสัยดีที่อยู่ข้างนอกนั่นเป็นผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์ของเขาหากพวกเขาถูกฆ่าในที่ไร้ผู้คนเช่นนี้เกรงว่าคงไม่มีใครมาเก็บศพให้พวกเขา
เมื่อหลิน ฟานยกมือขึ้นทั้งสองก็ตกใจมากจนถอยกลับ พวกเขาคิดว่าหลินฟานกำลังจะโจมตีพวกเขา แต่ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลินฟานเพียงแค่ตบไหล่ของพวกเขาเท่านั้น
“เราทุกคนมาจากเมืองโหย่ว นั่นหมายความว่าเราทุกคนเป็นเพื่อนจากที่เดียวกันและควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันพวกเจ้าว่างั้นไหม?” หลินฟานกล่าว
เหลียง หยงฉีพยักหน้า “ใช่ เจ้าพูดมีเหตุผล
ตอนนี้เจ้าใหญ่สุด ดังนั้นทุกสิ่งที่เจ้าพูดจึงถูกต้อง
เจ้าคือกฎและเราทําได้เพียงฟังเจ้า
สมองของหยวนเทียนชูทํางานอย่างรวดเร็ว
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?
มันมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่หรือไม่?
แม้ภายนอกหลิน ฟานจะดูจริงใจ แต่เขาก็ไม่กล้าประมาท จากเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาเขาก็ได้ข้อสรุปว่าหลินฟานไม่ควรถูกทําให้โกรธเคืองเขาต้องกําลังวางแผนบางอย่างแน่และข้าจําเป็นต้องสังเกตด้วยระมัดระวังมิฉะนั้นเขาคงจะตกลงไปในหลุมพรางโดยที่เขาไม่ทันรู้ด้วยซ้ํา
เขาประสบเหตุการณ์มาหลายครั้งจนเกือบตกลงไปในนั้น หากไม่ใช่เพราะเขาไหวตัวทันเขาคงจะสูญเสียจนไม่เหลือแม้แต่ชั้นในให้ใส่
“สหายหยวน ทําไมเจ้าไม่พูดอะไรหน่อยเล่า? หรือเจ้าอยากสู้กับข้าต่อไป?” หลินฟานถาม
หยวน เทียนชูตอบ “ไม่ สหายหลินพูดถูกแล้ว ตอนนี้เราไม่ได้อยู่เมืองโหย่วดังนั้นไม่ว่าก่อนหน้านี้เราจะมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน เราก็ควรทิ้งมันไว้ที่นั่น”
354 ตอนนี้นี่เป็นทางเดียว
เขาได้ลองคิดเกี่ยวกับมันแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าคําพูดเหล่านี้มีความหมายซ่อนอยู่หรือไม่
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าทําไมพ่อของเขาถึงบอกให้เขาตามหลินฟานออกมา
เขาไม่เข้าใจจริงๆ
หลิน ฟานเปิดม่าน “ลูกพี่ลูกน้อง ท่านพ่อบอกให้เราไปที่ไหนนะ?”
“ลูกพี่ลูกน้อง ท่านลุงต้องการให้เราไปที่ภูเขาวิถียุทธ์” โจว เชียงเหมากล่าว
พวกเขาเพิ่งออกจากเมืองมาได้ไม่นานทําให้เขาคุ้นเคยกับบริเวณนี้ แต่ถึงแม้จะคุ้นเคยเขาก็ยังต้องระมัดระวัง
“ภูเขาวิถียุทธ์?” หลิน ฟานไม่เข้าใจเขาทําได้ค่อนข้างดีในเมืองโหย่วแล้วทําไมพ่อของเขาถึงต้องการให้เขาไปภูเขาวิถียุทธ์ด้วย?“ต้องใช้นานเท่าไหนกว่าเราจะไปถึง?”
โจว เชียงเหมามองแผนที่“มันไม่ไกลมากด้วยความเร็วปัจจุบันของเรา เราจะถึงที่นั่นภายในสิบวันถึงครึ่งเดือน”
โอ้พระเจ้า !
สิบวันถึงครึ่งเดือนคือไม่ไกล? แล้วอย่างไหนที่ถือว่าไกล?
ช่างน่ากลัวจริงๆ
เส้นทางที่พวกเขาเดินทางมันต้องผ่านป่าชานเมืองด้านตะวันออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“นายน้อย พวกเรากําลังจะเข้าสู่ป่าตะวันออกข้าได้ยินมาว่าที่นี่อันตรายมากหลายคนที่ลองเข้าไปไม่ได้กลับออกมาอีกเลย”โกวชิกล่าว
มันฟังดูน่ากลัว แต่เขาไม่ได้กลัวเลยสักนิด
ก็ในเมื่อเขามีนายน้อยอยู่ข้างๆ เขาจะต้องกลัวอะไรอีก?
เหลียง หยงฉิมองออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆหัวใจของเขารู้สึกหนาวเหน็บ เขากําลังคิดว่าควรทําอย่างไรดีเมื่อพวกเขาเผชิญเข้ากับอันตราย
แน่นอนว่าชายคนนี้จะต้องทิ้งพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย
หลิน ฟานกล่าวอย่างสงบ “โกวช เจ้าอย่าไปเชื่อข่าวลือพวกนั้นมากนักทําไมพวกเขาถึงออกมาไม่ได้?ข้าว่าพวกเขาต้องหลงทางอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน”
“คําพูดของนายน้อยมีเหตุผล”
ในไม่ช้พวกเขาก็มาถึงป่าชานเมืองด้านตะวันออกอย่างรวดเร็ว
ด้านในและด้านนอกของป่าแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจนราวกับเป็นหยินและหยางด้านในของป่านั้นมืดมาก แม้จะมองเห็นได้บ้างแต่มันก็ค่อนข้างคลุมเครืออยู่ดี
เหลียง หยงฉีมองเข้าไป “มันรู้สึกมืดมนจริงๆ”
หยวน เทียนชูกลืนน้ำลาย “สหายหลิน ข้ารู้สึกว่านี่เป็นปัญหาถ้าเราเข้าไปและเจอกับอันตรายเข้ามันจะไม่มีใครตอบรับเลยหากเราร้องขอความช่วยเหลือ
“อย่ากังวลไป ลูกพี่ลูกน้องกับข้าก็อยู่ที่นี่ เจ้าจะไม่ตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน” โจวเชียงเหมากล่าว
เหลียง หยงฉีและหยวน เทียนชูสาปแช่งเขาอย่างเงียบๆ
ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะปกป้องลูกพี่ลูกน้องของเจ้า แต่ใครเล่าจะปกป้องเรา?
เมื่ออันตรายมาเยือนเราก็คงไม่พ้นเป็นเหยื่อล่อให้ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าหรอกถูกไหม?
ตามจริงแล้วโจว เชียงเหมาก็มีความคิดแบบนั้นจริงๆ หากพวกเขาเผชิญกับอันตรายร้ายแรงเขาจะไม่ลังเลเลยที่จะเสียสละพวกเขาก่อนจะนําตัวลูกพี่ลูกน้องหนีไป
“นั่นคือสิ่งที่เจ้ากลัว? นี่เจ้าอายุเท่าไหร่กันมันก็แค่มืดกว่าปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่เจ้ากลับดูกลัวมากช่างน่าอายเสียจริง เข้าไปข้างในกันเถอะจะกลัวไปเพื่ออะไร?”หลินฟานกล่าวอย่างใจเย็น
หากฐานการบ่มเพาะเขาไม่สูงพอ เขาก็คงจะกลัวไม่ต่างกัน
แต่น่าเสียดาย ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีมันไม่อนุญาตให้เขาเก็บตัวต่า
เส้นทางต่อสู้ขั้นแปดดูเหมือนจะไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก แต่เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่ฝึกทั้งสองเส้นทางดังนั้นมีอะไรที่เขาต้องกลัว?
ความโกรธ +66
ความโกรธ +66
เหลียง หยงฉีโกรธมาก
อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันเขาจึงไม่กล้าพูดออกมายังไงซะเขาก็ถูกทางตระกูลบังคับให้ออกมาเนื่องจากมันไม่มีที่สําหรับเขาอีกแล้วช่างเป็นชะตากรรมที่น่าเศร้า…
เมื่อเข้าสู่ป่าชานเมืองทิศตะวันออก อุณหภูมิโดยรอบก็ลดลงอย่างฉับพลัน
ตามมาด้วยเสียงแปลกๆที่ดังขึ้นเป็นระยะ
พวกมันไม่ได้ฟังดูเหมือนเสียงร้องของสัตว์ป่า
หลิน ฟานเปิดม่านและออกมานั่งข้างนอกรถม้าโกวชดึงบังเหียนและกล่าวอย่างกังวล“นายน้อยข้างนอกมันหนาวท่านรีบเข้าไปข้างในเถอะ”
“ไม่ต้องห่วง ข้าแค่อยากออกมาดู”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาในป่าตะวันออก ด้วยเส้นทางต่อสู้ขั้นแปดทําให้ตอนนี้ประสาทสัมผัสของเขาดีขึ้นอย่างมาก
ที่นี่อันตราย
เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ดูอันตราย แน่นอนว่ากลิ่นอายจะไม่หลอกลวงเขา
ในความมืด
มีร่างที่มืดมิดก่าลังเคลื่อนไหว
“มีมนุษย์เข้ามาห้าคน อาะ กลิ่นพวกมันดูน่าอร่อยมาก”
“แค่ห้าคนแล้วแบบนี้เราจะแบ่งกันอย่างไร ดีไม่ดีเราอาจไม่ได้รับแม้แต่เศษ..”
สิ่งที่อยู่ในป่าแถบชานเมืองด้านตะวันออกยังคงเป็นปริศนาสําหรับคนทั่วไปเมื่อปีศาจหยินหลับใหล ป่าชานเมืองจะมืดลงเล็กน้อย และในบางครั้งก็จะมีสัตว์ร้ายแฝงตัวอยู่รอบๆ
ส่วนมนุษย์จะเผชิญอันตรายเมื่อเข้ามาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโชคของพวกเขา
แต่ตอนนี้ปีศาจหยินได้ตื่นขึ้นเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่มีคนเข้าไปในป่าแถบชานเมืองแห่งนี้โดยพื้นฐานแล้วไม่มีทางรอด
ขณะนี้บริเวณโดยรอบเงียบสนิท
หลิน ฟานมองไปด้านข้าง และรู้สึกราวกับมีใครบางคนกาลังจ้องมองมาทางพวกเขา
“เฮ้ย! ใครซ่อนอยู่ตรงนั้น?” หลิน ฟานตะโกน
หยวน เทียนชและเหลียง หยงในรถม้าตัวสั่นอย่างรุนแรง
แม่ง!
เจ้าช่วยอย่าทําให้ผู้อื่นตกใจจะได้ไหม? พวกข้ายิ่งขี้กลัวและนี่ราดได้ง่ายอยู่
มือของโจว เชียงเหมาวางอยู่บนอาวุธ สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเฉียบคมเขารู้สึกว่ามีบางสิ่งที่แปลกประหลาดกําลังแอบตามพวกเขา
การเคลื่อนไหวของมันแปลกและยากต่อการตรวจจับ แต่มันมีอยู่จริง
ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งคล้ายลมพัดผ่านเข้ามา
เกิดเสียงกรอบแกรบดังขึ้นรอบๆก่อนจะค่อยๆไกลออกไปราวกับมีบางอย่างกําลัง
“ลูกพี่ลูกน้อง ดูเหมือนมันจะหนีไปแล้ว” โจว เชียงเหมากล่าว
“หนีไปแล้ว?” หลิน ฟานพบว่ามันแปลก
พวกมันมาเพื่ออะไร?
แล้วการที่จู่ๆก็วิ่งหนีไปแบบนั้นมันจะไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ?
ไกลออกไป
อาวุโสหวี่กาลังยืนอยู่บนกิ่งไม้ ดวงตาของเขากาลังจับจ้องไปยังที่แห่งหนึ่งปีศาจหยินเป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่สําหรับนายน้อย
เขามาที่นี่ก็เพื่อส่งนายน้อยให้เดินทางผ่านป่าตะวันออกอย่างปลอดภัย
เพราะถึงแม้ว่าท่านหัวหน้าตระกูลจะสอนบทเรียนที่โหดร้ายแก่ปีศาจหยินไปแล้วแต่ดูเหมือนพวกมันไม่คิดจะกลัวเขาอีกต่อไปดังนั้นอย่าหวังเลยว่าพวกมันจะแสดงความเมตตาเพียงเพราะนายน้อยเป็นลูกชายของท่านหัวหน้าตระกูล