I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 95 ก้าวหน้าครั้งใหญ่
นิยาย | Don’t Want To Defy The Heavens
DTH ตอนที่ 95 ก้าวหน้าครั้งใหญ่
“ท่านพ่อ ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นซู เซียงใช่ไหม?” เหลียง ชูกลัวเล็กน้อยที่จะ ยืนยัน
เขาดูคุ้นเคย
แต่มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง จริงไหม?
ซู เซียงได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเหลียงของเขา ดังนั้นแม้ว่าเขาอยากจะแยก ทาง อย่างน้อยเขาก็ควรแจ้งให้ทางนี้ทราบเสียก่อน
“ไม่ใช่แค่เหมือน แต่นั่นคือเขา” น้ําเสียงของหัวหน้าตระกูลเหลียงดูไม่ค่อยดีนัก แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากทรยศตระกูลเหลียงและตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคน
เหลียง ชูกล่าวด้วยความเสียใจ “เมื่อก่อนข้ารู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่ใช่คนที่ตระกูล เหลียงของเราสามารถรั้งไว้ได้ ใครจะไปคิดว่าเวลานั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้”
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนน่าตกใจเกินไป
ซู เซียงแทงตัวเอง
แค่คิดก็เจ็บตามแล้ว
ณ คฤหาสน์ตระกูลหลิน
“ท่านพ่อ พวกเขาจะนํากองทัพใหญ่มาโจมตีพวกเราหรือไม่?” หลิน ฟานถาม
ปัญหานี้ค่อนข้างซับซ้อนและร้ายแรง
หากพวกเขาโจมตีจริงๆ ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ
หลิน วานนี่จ้องเขม็ง “ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไป ทําไม เจ้าต้องกังวลด้วย?”
หลิน ฟานขมวดคิ้ว “ข้าแค่ถาม ไม่มีความหมายอื่นใด”
เขารู้สึกซาบซึ้ง ดูเหมือนพ่อจะรักเขามาก!
เขาไม่อยากพูดกับเจ้าเด็กไม่เอาไหนไปมากกว่านี้
ผู้ส่งสารที่ราชาหรูทงส่งมาถึงแม้จะถูกฆ่าโดยเขา แต่ทําไมถึงต้องน่าพวกเขาไป ทําไส้กรอกด้วย? นั่นไม่คิดว่ามันโหดเหี้ยมไปหน่อยหรือ?
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโกรธ นั่นทําให้เขามอบแต้มความโกรธให้หลิน ฟานอีก 111 แต้ม
หลิน ฟานคิดว่าการต่อสู้กาลังจะเกิดขึ้นเพราะพวกเขาล้มเหลวในการรับสมัครพ่อ ของเขา แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่ นิดเดียว
ภายในคฤหาสน์
สิ่งที่รออยู่ทําให้หลิน วานยี่ปวดหัว
ตอนเข้ามาหัวหน้าตระกูลหลี่มาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แต่เมื่อเขาต้องการจะ จากไป เขาแทบจะคุกเข่าและขอร้องให้หลิน ว่านยี่ปล่อยพวกเขาไป
“น้องหลี่ นั่นเจ้ากําลังทําอะไร? เจ้าก็รู้อยู่ว่าเราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง” หลิน วานยี่หยุดหัวหน้าตระกูลหลี่เอาไว้และจับมือแน่นไม่ปล่อย
“เอ่อ… พี่หลิน ความจริงแล้วข้ายังมีเรื่องมากมายที่ต้องกลับไปสะสางที่ตระกูล ไว้ เดี๋ยวเราค่อยมาร่วมตัวกันใหม่เมื่อมีโอกาสน่าจะดีกว่า” หัวหน้าตระกูลหลี่พยายามดิ้น รนและต้องการดึงมือของเขากลับ
พี่ชาย ได้โปรดปล่อยข้าเถอะ
ตระกูลหลี่ของเราจะไม่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้
ส่วนเรื่องแต่งงานก็ถือซะว่าหยุดเอาไว้ชั่วคราวและค่อยคุยกันหลังเรื่องทั้งหมดคลี่ คลายแล้ว
แม้เขาจะไม่ได้พูดออกไป แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาอยากจะสื่อ
สาหรับผู้อื่นแล้วชื่อราชาหรูทงเป็นดั่งฝันร้าย
ใบหน้าของหัวหน้าตระกูลหลี่เปลี่ยนเป็นสีแดง และในที่สุดเขาก็ดึงมือของเขาก ลับมากได้ “งั้นข้าก็คงไม่มีอะไรจะกล่าวกับพี่หลินนอกจากค่าว่าลาก่อน”
หลิน วานยี่ไม่อยากให้เรื่องจบลงแบบนี้ “น้องหลื่อย่าเพิ่งไปเลยนะ เราสามารถคุ ยกันก่อนได้ หากเป็นเรื่องราชาหรูทงก็อย่ากลัวไปเลย ข้าสัญญาว่ามันจะไม่มีปัญหา ใดๆเมื่อเราเกี่ยวดองกัน แต่ถ้าเจ้ายกเลิกงานแต่งไปทั้งๆแบบนี้ เจ้าไม่คิดว่านั่นจะทํา ให้เด็กสองคนนั้นน่าสงสารไปหน่อยหรือ?”
“เรารีบไปกันเถอะค่ะคุณหนู” ซุยหลานถือกระเป๋าและรีบเดินออกไป
คฤหาสน์หลินน่ากลัวเกินไป
สาหรับซุยหลานแล้วที่แห่งนี้คือขุมนรกที่น่าสะพรึงกลัว
หลี่ คือเซียวก็ไม่อยากอยู่นานกว่านี้และต้องการไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเช่นนั้น
เหตุเพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้มากมายในหัวใจของนาง
“ช่างเถอะพี่หลิน ช่างเถอะ ไว้เราค่อยมาเจอกันใหม่เมื่อมีโอกาส” หัวหน้าตระกูล หลี่ลากครอบครัวของเขาออกไปโดยไม่เปิดโอกาสให้หลิน วานยกล่าวอะไรเพิ่มอีก เขาขึ้นรถม้าและบอกคนขับให้รีบออกตัวทันที
อันตราย
มันอันตรายเกินไป
หลิน วานยี่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าที่มืดมน เจ้าสารเลวหรูทง!
เป็นเพราะเจ้า ลูกสะใภ้ของข้าถึงต้องหนีไป
อย่าให้ข้าเจอเจ้าล่ะกัน
“ท่านพ่อ…” หลิน ฟานไม่ได้พูดอะไรสักค่า เขาไม่ได้พูดออกมาจนพวกเขาจาก ไปไกลแล้ว
เขามีความสุขมากและต้องการส่งเสียงเชียร์ออกมาดังๆ
ในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็ไปได้สักที
ราชาหรูทงทําได้ดีมาก อย่างน้อยเขาก็ช่วยทางอ้อม ในอนาคตหากพวกเขาได้ พบกัน เขาคงจะคุยกับเขาดีๆและอาจจะไม่ต้องต่อสู้กับเขา
มีคนดีๆ ไม่มากที่ยินดีช่วยเหลือเขา
หลิน วานยี่ตบไหล่หลิน ฟาน “เจ้าอย่าเศร้าไปเลยฟานเอ๋อร์ ที่ตระกูลหลีไม่เห็น ด้วยเพราะพวกเขาสายตาคับแคบ แต่อย่าห่วงไปข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่คนเดียวแน่ และจะหาคนที่ดีกว่านี้มาให้
ประทับใจ
ถ้าเป็นคนอื่นคงน้ําตาซึมไปแล้วแน่ๆ
“ท่านพ่อ ทําไมท่านไม่ลองทํามันให้ช้าลงหน่อย ยังไงซะข้าก็ไม่ได้อยากมีตอนนี้” หลิน ฟานกล่าว
หลิน วานยกล่าว “จะไปไหนก็ไป”
“เอาล่ะ ก็ได้” หลิน ฟานเดินออกมา เขาหันศีรษะกลับไปและเห็นพ่อของเขาเอา มือไพล่หลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
บนนั้นมันมีอะไรให้ดู?
ไม่เห็นน่าสนใจเลยสักนิด
เขามาที่ลานด้านหลังและมองไปยังระบบสนับสนุนขนาดเล็ก
ร่างกาย : 180 (เส้นทางต่อสู้ขั้นหก)
กาลังภายใน : 180 (เส้นทางต่อสู้ขั้นหก)
เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้นสาม)
เทคนิคบ่มเพาะ : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (กลับสู่ความจริง) เทคนิคควบคุมแมลง (พื้นฐาน) กายราชันที่มิอาจสั่นคลอน (ยังไม่ได้เรียน) ทักษะดาบสายฟ้าสี่รูปแบบ (รอบรู้) หัตถ์เศษหยกรวมศูนย์ (ยังไม่ได้เรียน)
แต้มความโกรธ : 35,633
มากมาย! ช่างมากมายนัก! เขาไม่เคยเห็นแต้มความโกรธมากขนาดนี้มาก่อน
เขาต้องการเพิ่มสถานะ
แต่ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าเขาทําไม่ได้ ทั้งร่างกายและกําลังภายในของเขาไม่ ได้เพิ่มขึ้น
เกิดอะไรขึ้น? มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
หลิน ฟานครุ่นคิดก่อนจะมีความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นมา หรือเป็นเพราะเทคนิค การบ่มเพาะจิตใจของเขาจะต่าเกินไป?
เขาพยายามเพิ่มแต้มเข้าไป ยังไงซะเขาก็สามารถเรียกคืนได้หากจําเป็น
ด้วยแต้มความโกรธกว่าพันแต้มทําให้คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญเพิ่มขึ้นเป็นขั้น 4
จากนั้นเขาก็ค่อยๆเพิ่มมันเข้าไปอีกโดยรวมแล้วเขาใช้มันไปทั้งหมดเจ็ดพันแต้ม
คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้น10)
คุณภาพของกําลังภายในของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
กาลังภายในที่เดิมเป็นสีม่วง
ในเวลานี้สีม่วงนั้นได้ถูกผสมด้วยสีทอง
คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญมีทั้งหมด 33 ขั้น สิบขั้นแรกนั้นง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ดู เหมือนหลังจากนี้ต่างหากคือปัญหาที่แท้จริง
หลิน ฟานไม่ชอบฝึกฝน
แต่จากสามัญสํานึกของเขา การฝึกขั้นหลังจากนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่
ขณะนี้ทั้งร่างกายและกําลังภายในของเขาสามารถเพิ่มระดับได้แล้ว
ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป
ตอนนี้หนึ่งจุดต้องการ 200 แต้มความโกรธซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม
ร่างกาย : 210 (เส้นทางต่อสู้ขั้นเจ็ด)
เขาใช้แต้มความโกรธไปอีกหกพันแต้ม
นอกจากนี้เขาก็ยังเพิ่มกําลังภายในของเขาเป็นขั้นเจ็ดเช่นกัน
ในชั่วพริบตาการเปลี่ยนแปลงของกําลังภายในก็ได้สร้างความตกตะลึงให้กับหลิน ฟาน
ก่อนหน้านี้เมื่อเขาเพิ่มระดับกําลังภายในมันทําให้เขาสามารถมองเห็นได้ทั้งภาย ในและภายนอก แต่ตอนนี้กําลังภายในอันทรงพลังกําลังหมุนวนในร่างกายของเขา เพื่อก่อตัวเป็นดาราจักร(กาแล็กซี) ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์
ใจเย็น
ใจเย็นหน่อยสิตัวข้า
สําหรับผู้อื่นแล้วการที่ระดับเพิ่มขึ้นคงทําให้เขาหรือเธอคนนั้นรู้สึกได้ถึงความสํา เร็จที่ระเบิดในหัวใจ
แต่สําหรับหลิน ฟานแล้วมันไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น
เนื่องจากเขาถูกบังคับให้ต้องฝึกฝน
ถ้าไม่มีใครบังคับ แล้วทําไมเขาถึงต้องฝึกฝนด้วย? มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากและ คงจะทรมานมากกว่านี้หากเขาไม่มีระบบสนับสนุนขนาดเล็กคอยช่วย
เขายังคงมีแต้มความโกรธเหลืออยู่อีก 16,633 แต้ม
เพิ่มเข้าไปอีก
ร่างกาย : 240 (เส้นทางต่อสู้ขั้นแปด)
กําลังภายใน : 240 (เส้นทางต่อสู้ขั้นแปด)
เขาเพียงแค่ต้องใช้แต้มความโกรธอีก 12,000 แต้ม
การบ่มเพาะช่างง่ายดายนัก
มันง่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
พลังที่มีเขาเป็นจุดศูนย์กลางแผ่ออกไป มันพัดฝุ่นที่อยู่รอบๆ ตัวเขาฟังกระจาย
แต้มความโกรธที่เหลือยอีกสี่พันแต้มนั้นไม่เพียงพอต่อการยกระดับ ดังนั้นการใช้ มันเพื่อปรับปรุงเทคนิคบ่มเพาะจึงดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
เพิ่มแต้มเข้าไป
หัตถ์เศษหยกรวมศูนย์
สถานะของเขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก ในมุมมองของหลิน ฟาน ตัวเขาในตอนนี้ถือ เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง
ร่างกาย : 240 (เส้นทางต่อสู้ขั้นแปด)
กาลังภายใน : 240 (เส้นทางต่อสู้ขั้นแปด)
เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้นสิบ)
เทคนิคบ่มเพาะ : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (กลับสู่ความจริง) เทคนิคควบคุมแมลง (พื้นฐาน) กายราชันที่มิอาจสั่นคลอน (ยังไม่ได้เรียน) ทักษะดาบสายฟ้าสี่รูปแบบ (รอบรู้) หัตถ์เศษหยกรวมศูนย์ (รอบรู้)
แต้มความโกรธ : 133
วิธีที่หลิน ฟานบ่มเพาะนั้นง่ายเกินไป
ระดับบ่มเพาะของทั้งร่างกายและกําลังภายในของเขามาถึงระดับ 8 แล้ว สําหรับ คนปกติ นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาอาจไม่สามารถทําได้ตลอดชีวิต
แต่หลิน ฟานกลับสามารถทําได้แถมใช้เวลาเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น ซึ่งนั่นน่ากลัวจริงๆ
โดยเฉพาะร่างกาย สําหรับคนทั่วไปที่ต้องการฝึกฝน พวกเขาจําเป็นต้องหาเทคนิ คบ่มเพาะภายนอกและยังต้องฝึกฝนมันอย่างมีสติ มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่เพียงแต่ล้ม เหลวในการฝึกแต่พวกเขาจะสูญเสียตัวตนไปอีกด้วย
เพื่อไม่ให้มีคนลากเขาลงจากตําแหน่งนายน้อยผู้ว่ารวย เขาจึงจําเป็นต้องมีพลัง
เขาไม่มีทางเลือก
ช่างน่าปวดหัวจริง