I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 82 มันง่ายเพียงแค่เรียกข้าว่าพ่อ
นิยาย I Don’t Want To Defy The Heavens
DTH ตอนที่ 82 มันง่ายเพียงแค่เรียกข้าว่าพ่อ
ณ ลานด้านหลัง
หลิน ฟานและลูกพี่ลูกน้องของเขา กําลังวางแผนอย่างลับๆ เรื่องนี้มันต้องทั้งว่องไวและรวดเร็วดั่งทหารนับพันที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและมิอาจหยุดยั้ง
แต่ที่สําคัญกว่านั้นคือพ่อของเขาเป็นผู้กุมชะตาเรื่องนี้ ทําให้ตัวเขาในตอนนี้ ทั้งอ่อนแอและโดดเดี่ยวยากจะขัดขืน
“ลูกพี่ลูกน้อง เรื่องนี้ท่านลุงตัดสินใจไปแล้ว ถ้าท่านรู้ว่าท่านทําแบบนี้ เกรงว่าปัญหาที่ตามมาจะแก้ไม่ง่ายนัก” โจวเชียงเหมากล่าว
เขาควรจะปล่อยวางเรื่องนี้และฟังลุงของเขา
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหานี้ก็จริง แต่เราต้องแก้มันให้ได้ แล้วทําไมข้าถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเจ้าหวังให้ข้าถูกผลักเข้าไปในไฟนี้? เจ้าอยู่ข้างใครกันแน่?” หลิน ฟานเคาะหัวของโจวเชียงเหมาและพูด
โจว เชียงเหมาเกาหัวของเขาและทําตัวไม่ถูก
“ลูกพี่ลูกน้อง แน่นอนว่าข้าต้องยืนอยู่ข้างท่านอยู่แล้ว”
หลิน ฟานสงบลง “งั้นก็ดี เพราะถ้าแม้แต่เจ้าก็ไม่อยู่ข้างข้า ข้าคงเจ็บปวดไม่น้อย”
หลี่ จือเซียวเป็นที่ชื่นชอบของหลินวานยี่ แม้ว่าหลิน ฟานจะยังไม่ได้แต่งงานกับเธอ แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอในฐานะลูกสะใภ้ของเขาแล้ว
คฤหาสตระกูลหลินมีที่ว่างมากมาย
การที่พวกเธอย้ายเข้าไปในที่ที่ใหญ่ที่สุด และดีที่สุดทันทีก็พอที่จะบอกได้ว่า หลิน วานยพอใจกับหลี่ จือเซียวมากแค่ไหน เขาถึงกับมอบลานที่ดีที่สุดให้กับเธอเพื่ออาศัยอยู่ในคฤหาสน์เชียวนะ
เมื่อหลิน ฟานรู้เรื่องนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรพูดอย่างไรดี
ภายในบ้าน
ซุยหลานกําลังทําความสะอาด “คุณหนู ท่านหัวหน้าตระกูลหลินปฏิบัติต่อท่านเป็นอย่างดี แต่สําหรับนายน้อยหลินข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนดีนัก”
เธอถือกระถางดอกไม่ไว้ในมือและนํามันไปวางไว้ข้างหน้าต่าง ไม่นานทั่วทั้งห้องก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้
“เขาจะเป็นคนดีหรือไม่นั้นไม่สําคัญสิ่งที่สําคัญคือข้าสามารถควบคุมอนาคตของตนเองได้” หลี่ จือเซียวกล่าว
เมื่อครั้งที่เผชิญหน้ากับหลิน ฟานในห้องนั่งเล่น เธอก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เธอค่อนข้างพอใจกับตระกูลหลินมากทีเดียว และเนื่องจากไม่มีใครได้รับอิสรภาพหลังจากแต่งงาน เธอจึงเลือกสามีที่ไม่สามารถควบคุมเธอได้
หลังจากพบกันครั้งแรก เธอก็รู้ได้ทันทีเลยว่านายน้อยตระกูลหลินผู้นี้ไม่ชอบเธอ ซึ่งยอดเยี่ยม มันดีแล้วที่เขาไม่ชอบเธอ มันช่วยเธอขจัดปัญหาไปได้มาก
ซุยหลานวางทุกอย่างลง และเดินมาที่ด้านข้างของคุณหนู “แต่คุณหนู ท่านคงจะต้องเจ็บปวดมากที่ต้องอยู่กับคนที่ท่านไม่ได้ชอบ ถ้านายน้อยหลินรักคุณหนูบ้างก็คงดี เพราะอย่างน้อยก็มีคนดู แลท่านเพียงแต่ตอนนี้…”
เธอไม่รู้จะพูดอะไร
คุณหนูไม่ชอบนายน้อยหลิน และนายน้อยหลินก็ไม่ได้ชอบคุณหนูเช่นกัน ในครั้งแรกที่พบกัน กลิ่นอายของการปะทะก็คละคลุ้งไปทั่ว หลังจากนี้พวกเขาจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนานแล้วแบบนี้มันจะผ่านไปได้อย่างไร?
“ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าไม่เคยพบกันมาก่อน แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันได้เลยไม่ใช่หรือ?” หลี่ จือเซียวกล่าว
สําหรับสิ่งเหล่านี้เธอไม่สนใจมากนัก
ตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกผ่อนคลายมาก และไม่กังวลกับเรื่องเหล่านั้นอีกต่อไป
ในคืนนั้นที่จันทร์เป็นทรงกลม
การปรากฏตัวของหลี่ จือซียวทําให้ เขาสัมผัสได้ถึงวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอาหารค่ําที่ผ่านมา เขาพบว่าทัศนะคติของพ่อที่มีต่อหลี่ จือเซียวนั้นดีมาก แต่ตัวเขากลับได้รับความเย็นชาเล็กน้อยแทน
ตําแหน่งในตระกูลของเขาได้รับผลกระทบ
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องสั่งสอนเธอเสียหน่อย
จากสถานการณ์ปัจจุบัน มันยากมากที่พ่อของเขาจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ อาจจะกล่าวได้ว่ามันใกล้เคียงกับคําว่าเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว
ดังนั้นทางเลือกเดียวของเขาคือให้หลี่ จือเซียวถอยออกมาจากตระกูลหลิน และมุ่งหน้ากลับเมืองหลงของนางไป
แต่ปัญหาที่สําคัญในตอนนี้เลยก็คือ เขาไม่รู้ว่าเขาจะเอาชนะนางได้หรือไม่
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคืนนี้”
หลิน ฟานคว้าเสื้อผ้าสีดําบนโต๊ะ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงด้วยตัวเอง
เขาถอดเสื้อผ้าออกและเตรียมที่จะเปลี่ยน
แต่ทันใดนั้นสายลมกระโชกก็พัดผ่าน เข้ามาจากด้านนอก
มันเย็นเล็กน้อย
ข้าลืมปิดหน้าต่าง!
ในตอนที่เขากําลังจะปิดมันนั้นเอง เงาดําก็แวบผ่านเข้ามาพร้อมกับดาบในมือ และเขาก็สลบไป
ช่วงเวลาก่อนที่เขาจะหมดสติ มันมีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของเขา
มือสังหารอยู่ที่นี่
ข้าตายแน่
ไฟภายในห้องของหลี่ จือเซียวยังคง สว่างอยู่หลังจากมาที่ตระกูลหลิน เธอก็ยังคงทําตัวตามปกติโดยไม่ได้รู้สึกคิดถึงบ้านแต่อย่างใด
แต่เธอรู้สึกราวกับว่านี่คือการเริ่มต้นใหม่
และสถานการณ์ของนายน้อยตระกูลหลินก็ทําให้เธอพึงพอใจมาก
ทันใดนั้นหูของเธอก็สั่นเล็กน้อย มีการเคลื่อนไหวบางอย่างด้านนอก เธอจึงตะโกนออกมา “นั่นใคร!”
เมื่อกล่าวจบ เธอก็เคลื่อนตัวไปยังด้านนอกอย่างรวดเร็ว
ไม่พบใคร แต่เธอก็ไม่ประมาท เพราะ เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเอง มันเหมือนเสียงฝีเท้าเบาๆเดินเข้ามาในลานบ้าน
ในตอนนั้นเอง สิ่งที่เธอไม่ทันสังเกต คือมันมีเงาบางอย่างกําลังเคลื่อนไหว จากนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังเธอจากเงาที่สั่นไหวนั้น
อาการขนลุกแล่นไปทั่วร่าง
ความรู้สึกของวิกฤตปรากฏขึ้นในใจ
สัมผัสที่หกของผู้หญิงเป็นสัญชาตญาณที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ ทันทีที่เธอสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนอยู่ข้างหลังเธอ ความรู้สึกนั้นก็ระเบิดออกมาจากหัวใจ และมีอิทธิพลต่อเธอ
ปัก!
ขณะที่เธอกําลังหันกลับมาเพื่อตอบโต้ ดาบเล่มหนึ่งก็ตกลงมา จากนั้น ภาพตรงหน้าเธอก็มืดลงและหมดสติไป
“ท่านลุง แบบนี้ถือว่าเราไม่ไว้หน้าลูกพี่ลูกน้องหรือไม่?” โจว เชียงเหมากระซิบ
“ไม่ต้องกังวล ข้ารู้ดีว่าเจ้าอยู่ข้างเดียวกับเจ้าเด็กไม่เอาไหน แต่ในฐานะลูกพี่ลูกร้องเจ้าควรคิดถึงเขาบ้าง เจ้าต้องการให้เขาอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตงั้นหรือ?”
“แน่นอนว่าไม่” โจว เชียงเหมาส่ายหัว “แต่ท่านลุง คุณหนูหลี่ยังไม่ได้เห็นด้วย แล้วแบบนี้มันไม่ถือว่าเราล่วงเกินนาง?”
“ล่วงเกินอะไรกัน? นางเรียกข้าว่าท่านพ่อเมื่อตอนกลางวัน ดังนั้นนางจึงเป็นลูกสะใภ้ของข้า สิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้าก็เร็ว หากมันเกิดเร็วกว่าสักครู่ความต่างของมันคืออะไร?”
โจว เชียงเหมาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และ พบว่าเรื่องที่ท่านลุงพูดนั้นสมเหตุสมผล
แน่นอนว่ามันไม่ต่างกันจริงๆ
“หยุดพูดไร้สาระ และรีบมาช่วยข้าเร็ว”
ทั้งสองแอบลอบเข้าไปในบ้านแล้ววางพวกเขาลงบนเตียง
เมื่อมองไปที่ทั้งสองที่ไม่ได้สติ หลิน วานยี่ก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขาควรจะเก็บสาวใช้ไว้ในตระกูลหลินสักคน ถ้าเขารู้ว่ามันต้องมีวันที่จะต้องถอดเสื้อผ้า เช่นวันนี้
แน่นอนว่าเขาจะไม่ถอดเสื้อผ้าของหลี่ จือเซียว นางเป็นลูกสะใภ้ของเขา เขาจะไปทําอย่างนั้นได้อย่างไร?
“ถอดเสื้อผ้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้าออก” หลิน วานยี่กล่าว
โจว เชียงเหมาตกใจ “ท่านลุง ท่าน เอาจริง? แล้วแบบนี้ลูกพี่ลูกน้องจะไม่ถูกฟันจนตายในวันรุ่งขึ้นเอาหรือ?”
“ข้าบอกให้เจ้าทําก็ทําไปเถอะ! ทําไม ถึงพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องมากนัก? หรือเจ้าไม่ฟังลุงของเจ้าแล้ว?” หลิน วานยี่กล่าวอย่างเหลืออด
โจว เชียงเหมาไม่กล้าขัดขืนและเห็นด้วยกับสิ่งที่ลุงของเขาพูด ในตอนที่ โจว เชียงเหมายังเด็กเขาถูกลงโทษจน ทําให้เขากลัวลุงของเขา ดังนั้นเขาจึงถอดเสื้อผ้าของลูกพี่ลูกน้องออกทั้งหมดทันที
หลิน วานยี่มองลงไปที่เป้ากางเกงของลูกชายของเขาจากนั้นก็พยักหน้า ด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลว ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง น่าจะเพียงพอ สําหรับให้กําเนิดบุตร”
มันเป็นคืนที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา
ทุกอย่างในคฤหาสน์กลับคืนสู่สภาวะสงบ
โอ้กอู้โอก!
เสียงไก่ขันดังขึ้นเป็นสัญญาณของรุ่งสาง
หลิน ฟานมีความฝันอันยาวนาน แต่โชคดีที่มันไม่ใช่ฝันร้าย
เมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็พบว่ามีใบหน้าของใครบางคนอยู่ใกล้เขา มันค่อนข้างคุ้นเคย แต่ก็มีความแปลก
หลี่ จือเซียวก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน ทําให้ทั้งสองสบตากัน
หลิน ฟานวางมือบนหน้าอกของเธอ และบีบมันโดยสัญชาตญาณ นี่ไม่ใช่
ความรู้สึกแย่ๆปรากฏขึ้นในใจของเขา
เขาตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าและพบว่าเสื้อผ้าทั้งหมดของเขา กองอยู่บนพื้น เขาหยิบมันขึ้นมาและสวมอย่างใจเย็นก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปทันที
“โห ที่แท้พวกเจ้าก็มีความคิดเช่นนี้ มาที่ห้องของข้าถอดเสื้อผ้าของข้าออก และทําให้ความบริสุทธิ์ของข้ามัวหมอง ในฐานะหญิงสาวเจ้าไร้ยางอายขนาดนี้ ได้อย่างไร?” หลิน ฟานสบถขณะเดินออกไปข้างนอก
แม่ง!
นี่มันไม่ใช่ห้องของข้า!
หลี่ จือเซียวที่ยังคงสับสนค่อยๆกลับมาตอบสนองอย่างช้าๆ
การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไปและ เด้งตัวขึ้นจากเตียง
“หลิน ฟาน ข้าต้องการชีวิตเจ้า!” ใบหน้าของหลี่ จือเซียวเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เธอเหยียดแขนออกก่อนที่หอกที่เธอนํามาด้วยจะบินเข้ามา เธอคว้ามันไว้แน่น และฟันตรงไปที่หลิน ฟาน
‘ความโกรธ +666’
“เชี่ย!”
หลิน ฟานหนีไปทันที
ความโกรธนี้เป็นของจริง และเธอก็จริงจังกับมันมาก