I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 78 ท่านเลี้ยงลูกสาวคนนี้อย่างไร?
นิยาย I Don’t Want To Defy The Heavens
DTH ตอนที่ 78 ท่านเลี้ยงลูกสาวคนนี้อย่างไร?
ปีศาจหยินตายในที่สุด
มันจากไปอย่างสงบโดยปราศจากเสียงคร่ำครวญและการดิ้นรน
ปีศาจหยินเป็นเพียงผู้สัญจรผ่านเข้ามาในชีวิตของหลินฟานเท่านั้นและมันก็ได้ทำหน้าที่ของมันแล้วมันสามารถเพิ่มชีวิตชีวาให้เขาได้ดังนั้นมันจึงค่อนข้างคุ้มค่า
สำหรับหลินฟานชีวิตในปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
เขาต้องเผชิญกับความกดดันมากมายเนื่องจากภูมิหลังของเขา
เขาเพียงแค่ต้องการใช้ชีวิตในแบบนายน้อยของตระกูลที่ร่ำรวยแต่เขากลับต้องเผชิญหน้ากับความกดดันในทุกๆที่ที่เขาไปมันทำให้เขารู้สึกแย่จริงๆ
ณคฤหาสน์ตระกูลหยวน
หวังหยุนเฟยนั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักนิ้วของเขาแตะที่ของสงวนของเขา“เกิดอะไรขึ้น…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับข้า!?”
ตอนนี้เขากำลังกลัว
หลังจากที่เขากลับมาเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆแต่แล้วจู่ๆเขาก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ส่วนนั้นของเขาดูเหมือนจะขี้เกียจราวกับมันกำลังหลับแม้ว่าเขาจะพยายามมาสักพักหนึ่งแล้วแต่มันก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยสถานการณ์นี้มันช่างแย่จริงๆ
หวังหยุนเฟยพยายามปลอบใจตัวเอง
บางที่อาจเป็นเพราะความกลัวจึงส่งผลให้เกิดปัญหาชั่วคราวเช่นนี้
“ฟุบ!”
มีการเคลื่อนไหวจากด้านนอก
“นายน้อยท่านหัวหน้าตระกูลต้องการให้ท่านกลับไป
หวังหยุนเฟยประหลาดใจเขาถูกขอให้กลับโดยเร็ว
เขาพึ่งมาถึงเมืองหยูฉางได้ไม่นานและไม่คิดเลยว่าต้องกลับเร็วขนาดนี้“อาข้าเข้าใจแล้ว”
เขามาที่เมืองหยูฉางเพื่อใช้เวลาของเขาแม้ว่าสภาพโดยรอบจะไม่ดีนักแต่เมืองหยูฉางที่ยากไร้นี้ก็ยังมีศาลาหงซิวที่ควรค่าแก่การมา
เขายังคงเล่นกับน้องชายของเขาต่อไปอีกเล็กน้อยแต่มันก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆเขาจึงคิดไม่สนใจมันชั่วคราวก่อนที่จะเก็บของและเตรียมมุ่งหน้ากลับ
ตระกูลหวังของเขานั้นซับซ้อนมากโดยที่มันถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มอำนาจหลายกลุ่มและเขาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทรงพลังแต่เขาก็ยังประมาทไม่ได้
การแต่งงานกับตระกูลใหญ่จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเขา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นมากนักแต่เพื่ออนาคตเขาจึงจำเป็นต้องเสียสละเพราะตราบใดที่เขาได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการมันก็จะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้อีก
ณเมืองหลงตระกูลหลี
นกอินทรีสีขาวทะยานผ่านอากาศก่อนที่จะร่อนลงมาที่ลานบ้านของตระกูลชนชั้นสูงตระกูลหนึ่งมันร้องเสียงร้องแหลมออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจ
หัวหน้าตระกูลหลี่เดินออกมาจากห้องโถงและมองไปที่มันก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วเพราะรู้ได้ทันทีเลยว่าอินทรีตัวนี้คือผู้ส่งสารของตระกูลหลินจากเมืองหยูฉาง
หัวหน้าตระกูลหลี่ยกแขนขึ้นเพื่อให้อินทรีมาเกาะที่แขนของเขาจดหมายจากตระกูลหลินถูกใส่มาในกระบอกไม้ไผ่ท่อนหนึ่งซึ่งถูกมัดเอาไว้กับกรงเล็บของมัน
เขาหยินจดหมายออกมาและเมื่อเขาได้อ่านข้อความที่เขียนอยู่ด้านในสีหน้าของหัวหน้าตระกูลหลี่ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
เนื้อหาภายในทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย
“หลินวานยี่ต้องการหารือเรื่องการแต่งงาน?”
แน่นอนว่าสำหรับเรื่องนี้สิ่งแรกที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องการปฏิเสธแต่เป็นเรื่องความสัมพันธ์แทน
ตระกูลชนชั้นสูงอย่างพวกเขาจำเป็นต้องอาศัยการแต่งงานเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับตระกูล
จึงเป็นธรรมดาที่การแต่งงานของบุตรสาวคนโตหลี่จือเซียวก็จะถูกตัดสินใจโดยเขาเช่นกัน
แม้ว่าเมืองหยูฉางจะเป็นเมืองทุรกันดารที่ห่างไกลแต่อิทธิพลของตระกูลหลินก็ไม่ได้อ่อนแอและพวกเขาก็น่าจะเข้ากันได้ดี
“ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่มีทางเลือกมากนัก”หัวหน้าตระกูลหลี่พึมพำ
ผู้อื่นอาจไม่ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ของนางแต่เขารู้ดีแม้นางจะเป็นคนสวย…แต่นางกลับชอบเล่นกับดาบและหอกทางด้านอารมณ์ของนางก็ค่อนข้างก้าวร้าว
ในอดีตไม่ใช่ว่าไม่เคยมีนายน้อยจากตระกูลที่ร่ำรวยมาขอแต่งานแต่พวกเขาต่างพากันหวาดกลัวจนฉี่ราด
บุตรสาวของเขาต้องการต่อสู้กับนายน้อยเหล่านั้นนางกวาดพวกเขาด้วยหอกจนเกือบจะทำให้พวกเขาเปลี่ยนจากผู้ชายเป็นขันทีเป็นเหตุให้หลังจากนั้นเป็นต้นมาจึงไม่มีใครกล้ามาขอนางแต่งงานอีกเลย
นับตั้งแต่นั้นก็ผ่านมาหลายปีแล้ว
หากนางยังไม่รีบแต่งงานละก็เกรงว่าหลังจากนี้คงเริ่มมีข่าวลือออกมา
ณลานด้านหลัง
“คุณหนู!คุณหนู!นี่มันไม่ดีแล้ว”สาวใช้รีบเข้ามา
หลี่คือเซียวจับหอกและกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ประจำตระกูลอยู่เธอหันกลับมาและแทงออกไปเกิดแสงระเบิดออกมาจากหอกตรงไปยังสาวใช้ก่อนที่หอกจะหยุดห่างจากใบหน้าของนางเพียงนิ้วเดียว
สาวใช้กรีดร้องและล้มลงกับพื้น
“ซุยหลาน?มีอะไรงั้นหรือ?”หลี่คือเซียวถามหลังจากถอยหอกกลับ
ซุยหลานถอนหายใจอย่างโล่งอกหลังจากที่เห็นหลี่จ่อเซี่ยวหยุดฝึกเธอกลัวจนแทบตาย“คุณหนูข้าได้ยินมาว่าตระกูลหลินจากเมืองหยูฉางได้ส่งคำร้องขอเรื่องแต่งงานของท่านมา”
ขอหลี่คือเซียวเป็นคนที่งดงามมากคนหนึ่งและการที่เธอฝึกฝนตลอดทั้งปีทำให้แม้แต่เสื้อผ้าก็มิอาจปกปิดออร่าที่กล้าหาญของเธอได้
“แต่งงาน?มันยังมีคนกล้าฝ่าความตายมาขอข้าแต่งงานด้วยงั้นรึ?”หลี่คือเซียวกล่าว
ซุยหลานพยักหน้า“อืมมันเป็นตระกูลหลินจากเมืองหยูฉางและข้าก็ยังได้รู้มาอีกว่านายน้อยของตระกูลนั้นเป็นแค่ขยะที่อ่อนแอทั้งชีวิตไม่เคยฝึกฝนอะไรเป็นแค่นายน้อยที่ไม่มีอะไรดีหากท่านหัวหน้าตระกูลเห็นด้วยกับเรื่องนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับการผลักท่านเข้ากองไฟเลยไม่ใช่หรือ?”
“ท่านพ่อเห็นด้วย?”หลี่คือเซียวถาม
ซุยหลานไม่ค่อยแน่ใจ“ข้าไม่รู้แต่เมื่อดูจากสถานการณ์แล้วข้าไม่คิดว่าท่านจะปฏิเสธ
ด้วยการขยับข้อมืออย่างรวดเร็วของหลี่คือเซียวทำให้หอกเคลื่อนออกจากมือของเธอก่อนที่มันจะเสียบเข้าไปที่ชั้นวางอาวุธอย่างแม่นยำ“ข้าเห็นด้วย”
“อ้า?”
ซุยหลานอ้าปากค้าง“คุณหนูท่านเห็นด้วยงั้นเหรอ?”
“อืม”หลี่จ่อเซี่ยวมีความคิดของตัวเอง
ในฐานะบุตรสาวของตระกูลชนชั้นสูงเรื่องแต่งงานไม่ใช่เรื่องที่เธอสามารถตัดสินใจเองได้และด้วยชื่อเสียงในไม่กี่ปีที่ผ่านมามันจึงไม่มีใครกล้ามาขอเธอแต่งงานอีก
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเธอไม่จำเป็นต้องแต่งงาน
เนื่องจากเธอมันเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุว่าต้องแต่งงานกับใครในอนาคต
มันจะดีกว่าไหมถ้าเธอเลือกคนที่อ่อนแอเป็นคู่ชีวิต?
จากนั้นเธอก็จะสามารถควบคุมอนาคตของตัวเองได้โดยไม่ถูกรบกวน
เขาไม่ได้บ่มเพาะดังนั้นเขาจึงอ่อนแอหากเขาไม่เห็นด้วยเธอก็แค่ต้องตบเขาแม้ว่าเขาจะขัดขืนแต่เขาก็ไม่มีทางเอาชนะเธอได้อย่างแน่นอน
สำหรับเธอแล้วนายน้อยจากตระกูลหลินแห่งเมืองหยูฉางน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“ลูก…”หัวหน้าตระกูลหลี่เดินเข้ามา
หลี่คือเซียวเข้าประเด็นทันที“ท่านพ่อข้าเห็นด้วยกับการแต่งงาน”
เมื่อหัวหน้าตระกูลหลี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้แปลกใจราวกับเขารู้ว่าบุตรสาวของเขาคิดอะไร“เจ้าไม่คิดจะเจอหน้าเขาก่อนเลยงั้นรึ?”
“ไม่จำเป็นตราบใดที่เขาไม่น่าเกลียดมากข้าก็จะเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้”หลี่คือเซียวกล่าว
คือเงนี้น่าเกลียดมากขาออ่อนในจึงไม่มีใครกล้ามาขอ
ถ้านายน้อยของตระกูลหลินน่าเกลียดมากจนถึงขั้นที่เธออาเจียนทันทีที่เห็นมันก็เป็นเรื่องปกติที่เธอจะถอยออกมา
“ลูกคิดดีแล้วใช่ไหม?หากใช่พ่อจะได้ตอบกลับไป”หัวหน้าตระกูลหลี่กล่าว
หลี่จือเซียวส่ายหัว“ท่านพ่อไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายกลับไปเพราะข้าจะนำของขวัญไปให้เป็นการส่วนตัวเองหากนายน้อยผู้นั้นน่าเกลียดเกินไปข้าก็จะกลับมาพร้อมกับของขวัญแต่ถ้าไม่ข้าก็จะอยู่ที่นั่นต่อ”
เป็นคำตอบที่เอาแต่ใจ
แม้ว่าหัวหน้าตระกูลหลีจะคุ้นเคยกับบุคลิกของบุตรสาวแต่เขาก็ยังตกตะลึงจนพูดไม่ออกเธอดูไม่ใส่ใจ
แทนที่จะรอให้อีกฝ่ายมาที่ตระกูลหลี่เพื่อขอแต่งงานอย่างเป็นทางการแต่เธอกลับต้องการไปที่ตระกูลหลินด้วยตัวเองพร้อมกับของขวัญมากมาย
ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิด?
“คุณหนูแล้วข้าล่ะ?”ซุยหลานกล่าวอย่างกังวลเธอคิดว่าคุณหนูจะไม่พาเธอไปที่นั่นด้วย
“แน่นอนว่าเจ้าต้องมากับข้าข้าไม่คุ้นเคยกับการให้คนแปลกหน้ามารับใช้หลี่คือเซียวกล่าว
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของซุยหลาน
เธอแค่ไม่อยากแยกจากคุณหนู
หัวหน้าตระกูลหลี่รู้สึกอยู่เสมอว่าบุตรสาวของเขาแทบรอไม่ไหวที่จะออกจากตระกูลหลี่ไป
นี่มันไม่ใช่สัญญาณที่ดี
การที่บุตรสาวแต่งงานมันก็เหมือนน้ำที่กระจัดกระจาย
และถ้าหากบุตรสาวของเขาก่อปัญหาจนถึงจุดที่ตระกูลหลินส่งกลับมานั่นคงเป็นการเสียหน้าครั้งใหญ่
หัวหน้าตระกูหลี่รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ปล่อยให้เด็กคนนี้บ่มเพาะ
ในตอนแรกตัวเขาคิดว่าการที่เธอมีทักษะติดตัวมันจะช่วยป้องกันไม่ให้เธอถูกรังแกในอนาคต
แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านไปหลายปีเธอจะพัฒนาจนกลายเป็นบุตรสาวคนนี้ในปัจจุบัน
มันคือความผิดพลาด