I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 75 นี่แตกต่างจากที่ข้าคิดไว้เล็กน้อย
I Don’t Want To Defy The Heavens DTH ตอนที่ 75 นี่แตกต่างจากที่ข้าคิดไว้เล็กน้อย
หลิน ฟานพาลูกพี่ลูกน้องของเขาเข้าไปข้างในจากประตูหลัง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวกลางวันแสกๆนั้นชั่วร้ายเกินไป
ปีศาจหยินที่อยู่บนหลังของโจวเชียงเหมากําลังสับสน
พวกเขาพาข้ามาที่นี่ทําไม?
ทําไมถึงไม่ฆ่าข้าซะ?
ตัวมันถูกทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ในฐานะปีศาจหยินที่ตลอดมาเป็นแต่ผู้ล่า มันจึงไม่คิดว่าวันหนึ่งตนจะถูกทรมานเช่นนี้
“ลูกพี่ลูกน้องที่นี่มันมีตั้งหลายห้อง แล้วแบบนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาอยู่ห้องไหน?” โจวเชียงเหมาถาม
ศาลาหงซิ่วเป็นหอนางโลมที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหยูฉาง นั่นจึงบงการพบกนักที่ทั้งสองจะหาเป้าหมายที่เป็นสาเหตุว่าทําไมมันถึงมีห้องมากมายนัก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะหาคนเพียงสองคนจากห้องทั้งหมดนี้
“อย่ากังวลไป และตั้งใจฟังให้ดี เจ้าได้ยินเสียงพิเศษหรือไม่?” หลินฟานยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้เขาเงียบ
โจวเซียงเหมาตั้งใจฟัง เสียงบางอย่างค่อยๆลอยเข้ามาในหูของเขา
“อื้ม!”
เสียงมันฟังดูหยาบคายและเหมือนมีความสุขไปพร้อมกัน
หลังจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นอีก
“อ้า!”
หลินฟานมองไปทางลูกพี่ลูกน้องของเขาแล้วกรอกตา “ลูกพี่ลูกน้อง นั่นเจ้ากําลังทําอะไร
อยู่?”
“ลูกพี่ลูกน้อง เมื่อกี้ข้ากําลังฟังเสียงบางอย่างที่ดังเข้าหู” โจวเชียงเหมากล่าว
แม้คนอื่นจะไม่ได้ยิน แต่ด้วยกําลังภายในที่แข็งแกร่งของเขาทําให้หูของเขาไวต่อเสียงมาก แม้แต่เสียงเบาๆเขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ชัดเจน
“ได้ยินว่าอะไร?” หลินฟานถาม
โจว เขียงเหมาตั้งใจฟังจากนั้นก็เปิดปากและพูดในสิ่งที่เขาได้ยิน
“อ้า อา อื้ม! อา อิม อา อ้า!…”
หลินฟาน “???”
“พอแล้ว หยุดเลียนแบบได้แล้ว”
หลิน ฟานรีบบอกให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาหยุดเลียนแบบ เชี่ย! หากยังทําเช่นนี้ต่อไปเขาจะต้องลําบากแน่
“เราไปหาต้นตอของเสียงนี้กัน”
พวกเขาทั้งสองทําตัวลับๆล่อๆ ไม่สิ พวกเขาไม่ได้ทําตัวลับๆล่อๆ แต่เดินเข้าไปอย่างเปิดเผยเลยต่างหาก
ที่นี่เป็นเพียงแค่หอนางโลม ไม่จําเป็นต้องระวังอะไรขนาดนั้น
ภายในห้อง หยวนเทียนชูนั่งนิ่ง ดวงตาของเขากระจ่างชัดไม่มีความผันผวนเลยแม้แต่น้อย
แต่คอที่เคลื่อนไหวกลับทรยศเขา
หญิงสาวจากหอนางโลมกําลังเต้นรําอยู่ต่อหน้าเขา การเคลื่อนไหวของเธอช่างน่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยเสน่ห์หาทําให้เกิดความยั่วยวนเกินห้ามใจ
“นี่..นี่มันไม่ใช้การแลกเปลี่ยนทางวรรณกรรมที่ข้าต้องการ” หยวนเทียนชูรู้สึกว่าคอของเขาแห้งผาก ทําให้เขาต้องการดื่มน้ํา ภาพตรงหน้าเขามันน่าดึงดูดเกินไป
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเวลานางโลมสวมใส่ชุดกึ่งโปร่งแสงแล้วมันจะมีเสน่ห์ขนาดนี้
เธอมีเสน่ห์มากว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยพบมา
ในตอนนั้นเองเสียงหายใจหอบก็ดังออกมาจากห้องข้างๆ
หยวนเทียนชูคร่ําครวญในใจ แม่ง! ทําไมต้องตอนนี้ด้วย
สิ่งที่นายน้อยหวังเป็นมันไม่ต่างอะไรจากสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์
“นายน้อยหยวน มานอนบนเตียงสิคะ ข้าจะได้ปรนนิบัติท่าน” นางโลมเดินมาอยู่ด้านข้างของเขา กลิ่นหอมจากร่างกายของเธอลอยออกมา และทันที่ที่ผิวของพวกเขาสัมผัสกัน ข้างล่างของเขาก็แข็งขึ้นทันที
“ข้ามาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนวรรณกรรมและความรู้” หยวนเทียนชูกล่าว
ในตอนนี้เขาต้องการสงบอารมณ์ที่ขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามร่างกายที่ชื่อสัตย์ของเขากลับตามนางโลมมาที่ข้างเตียง
ด้วยปากที่ไม่ตรงกับใจบวกกับความคิดที่กําลังยุ่งเหยิงส่งผลให้หัวใจของเขาเต้นรัว
หญิงสาวยิ้ม “นายน้อยหยวน ท่านต้องการแลกเปลี่ยนความรู้? ถ้าเช่นนั้นท่านก็สามารถทําตัวเป็นนักวิชาการ ในขณะที่ข้าจะสวมบทเป็นหญิงสาวผู้หน้าสงสารที่แอบชื่นชมนายน้อย”
หยวน เทียนชูตกตะลึง
หืม!
เขาสามารถทําแบบนั้นได้จริงๆงั้นหรือ?
นั่นน่าสนใจมาก
บนหลังคา หลินฟานและโจวเชียงเหมาที่แต่เดิมแล้วต้องการจะพังประตูเข้าไป แต่เมื่อพวกเขาคิดว่าการทําแบบนั้นมันใหญ่เกินจําเป็น พวกเขาจึงกลัวว่าจะทําตามเป้าหมายที่ต้องการไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมที่จะเข้าไปจากทางหลังคาเพื่อลอบโจมตี
เขายกกระเบื้องออกเพื่อดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นข้างใน
โชคดีที่มันไม่ได้แย่อย่างที่คิด
หยวนเทียนซูชูแก้วขึ้นเหนือหัวขณะท่องบทกวีที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์
ส่วนหญิงสาวที่อยู่ข้างๆก็กําลังมองไปทางเขาด้วยดวงตาเปล่งประกาย เธอลากคางเผยให้เห็นความน่าหลงใหล จากนั้นเธอก็ค่อยๆเข้าใกล้หยวนเทียนชู “นายน้อยหยวน ท่านช่างมีความสามารถจริงๆ บทกวีที่ไพรเราะของท่านทําให้ผู้หญิงตัวเล็กๆเช่นข้าร้อนรุ่ม แค่เพียงได้ใกล้ชิดท่านก็ทําให้ข้าสบายใจ”
หยวนเทียนชูไม่ไหวติง และผลักเธอออกไปเบาๆ“คุณผู้หญิง โปรดเคารพตนเองด้วย”
การสวมบทบาทนี้ทําให้หยวนเทียนชูมีความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
ในตอนนี้เขากลายเป็นนักวิชาการอัจฉริยะที่มีผู้หญิงกระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของเขาเนื่องจากพรสวรรค์อันโดดเด่น แต่เขาก็ทําตัวไม่ไหวติงดั่งสุภาพบุรุษที่ไม่หวั่นไหวเพราะความงาม
“สถานการณ์นี้มันอะไรกัน?” หลินฟานมอง และพบว่าสิ่งที่แตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้โดยสิ้นเชิง
พวกเขากําลังอยู่ที่หอนางโลม
สิ่งที่เกิดขึ้นควรเป็นตอกเสาส
มันลงเอยเช่นนี้ได้อย่างไร?
เขาวางกระเบื้องกลับในตําแหน่งเดิมและเดินไปที่ห้องอื่นพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องอย่างเงียบเชีย
เขาลองเปิดกระเบื้องดู และพบว่าสถานการณ์มันเป็นอย่างที่หลินฟานจินตนาการเอาไว้
ร่างสามร่างกําลังนัวเนียกันอยู่ และส่งเสียงร้องดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
ช่างตรงไปตรงมาต่างจากหยวนเทียนซูโดยสิ้นเชิง
เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนแต่ละระลอกดังกลบเสียงที่อยู่รอบทั้งหมด
“ลูกพี่ลูกน้องตอนนี้เราควนทําเช่นไรดี?” โจวเชียงเหมาถาม
เขารู้สึกว่าสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องของเขากําลังทํานั้นช่างซับซ้อน
หวังหยุนเฟยเป็นนายน้อยตระกูลหวังและมีสถานะไม่ธรรมดา หากพวกเขายั่วยุอีกฝ่ายจริงๆ มันจะไม่มีทางให้พวกเขาถอยและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็นศัตรูกัน
หากมองอย่างมีเหตุผล ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดคืออย่ายั่วยุเขามากเกินไป
แต่ลูกพี่ลูกน้องของเขากลับพยายามแกล้งอีกฝ่าย ดังนั้นตัวเขาจะทําให้ลูกพี่ลูกน้องผิดหวังได้อย่างไร
หากอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยกับเขา เขาก็ยังจะทําเหมือนเดิมอยู่ดี
ส่วนเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ปล่อยให้มันเกิดไป
หลินฟานครุ่นคิดและมองไปทางปีศาจหยิน ทางด้านปีศาจหยินรู้สึกหวาดกลัวสายตานั้น และสัมผัสได้เลยว่าต้องมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นแน่
ความหวังที่จะถูกเพื่อนเผ่าเดียวกันช่วยเหลือได้กลายเป็นศูนย์ไปแล้ว
เหตุเพราะมันสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวในปาชานเมืองทางทิศตะวันออก มันมีคนมุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อสังหารปีศาจหยินและทําให้ตกลงสู่ความหวาดกลัว
ที่ตัวมันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นได้ เพราะระหว่างพวกมันมีสิ่งที่เรียกว่าการเชื่อมต่อทางอารมณ์ซึ่งกันและกันอยู่
คืนนั้นมันสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากพวกพ้องหลายตนราวกับพวกเขากําลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวยิ่ง
หลินฟานละสายตาจากปีศาจหยินและยกกระเบื้องต่อไป
เขากลัวว่าเขาจะหยุดทําแบบนี้ในเมืองหยูฉางไม่ได้ เพราะถ้าหากเขาไม่ทํา เขาก็จะไม่ได้รับคะแนนความโกรธ
ในตอนนี้ ปีศาจหยินรู้สึกสับสนมาก
นั่นเขากําลังจะทําอะไร?
กําลังภายในแผ่ออกมาจากร่างของหลินฟาน มันเปลี่ยนเป็นด้ายและพันรอบตัวปีศาจหยินก่อนที่เขาจะค่อยๆหย่อนมันลงจากหลังคา
หวังหยุนเฟยและหญิงสาวจากหอนางโลมกําลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เสียงดังเอี๊ยดอ๊าดดังออกมาจากเตียงไม้ ขณะที่เตียงสั่นสอดรับกับเสียงที่ดังออกมา
ปีศาจหยินรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ทางด้านหวังหยุนเฟยเขากําลังจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหว และไม่ได้สนใจเงาข้างหน้านัก เขาคิดว่ามันคงเป็นของหนึ่งในหญิงสาวที่กําลังเล่นกับเขา
เขาจึงไม่ได้พูดอะไร และทําการบรรจงจูบลงบนใบหน้าของปีศาจหยินเป็นครั้งคราว
ปีศาจหยินตกตะลึง ดวงตาของมันเบิกกว้าง
นี่มันอะไรกัน?
มนุษย์ผู้นี้แม้แต่ปีศาจหยินก็ยังไม่ปล่อยไปเลยหรือ?
“อ้า!”
เสียงกรีดร้องระเบิดออกมา
มันเป็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่กําลังเช็ดร่างกายของตนเพื่อเตรียมพร้อมให้การบริการแก่นายน้อย แต่เมื่อเธอเห็นนายน้อยกําลังจูบกับปีศาจหยิน
เธอจึงตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอเห็นว่าปีศาจหยินมันดูน่ากลัวแค่ไหน ทําให้เธอหวาดกลัวจนเป็นลมไปทันที
หวัง หยุนเฟยรู้สึกภูมิใจมากโดยคิดว่าหญิงสาวนางนี้ที่อยู่ภายใต้เขาไม่สามารถทนแรงเขาไหว นางจึงกรีดร้องออกมาดังๆก่อนที่จะทรุดลงไป
แต่ทําไมเขาถึงรู้สึกว่ากลิ่นปากของนางช่างแย่นัก? แถมเขาก็ยังสงสัยว่าทําไมฟันของนางค่อนข้างแหลม?
เขาลืมตาขึ้น และตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
เขาตะโกนออกมาดังๆ ก่อนที่ดวงตาของเขาจะกลอกและเป็นลมไปในทันที
หญิงสาวที่ถูกเขากดเอาไว้ก็กรีดร้องออกมาก่อนที่จะเป็นลมตามเขาไป
บนหลังคา
หลินฟานรู้สึกสับสนเล็กน้อย
สิ่งนี้มันแตกต่างจากที่เขาคิดไว้มาก
ในเมื่อเป็นลมไปกันหมดแล้วแบบนี้ใครจะให้คะแนนความโกรธแก่เขา?
ตื่นสิ!
อย่างน้อยพวกเขาก็ควรรู้ว่าเป็นฝีมือของใครก่อนที่จะเป็นลม