I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 63 ภรรยาทําไมตัวของเจ้าถึงเย็นนัก?
I Don’t Want To Defy The Heavens DTH ตอนที่ 63 ภรรยาทําไมตัวของเจ้าถึงเย็นนัก?
การที่ลูกพี่ลูกน้องกลับมามันทําให้เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น
ด้วยสุดยอดตัวช่วยนี้เขาก็ไม่จําเป็นต้องกลัวหากต้องเผชิญหน้ากับปัญหา แต่เรื่องมือสังหารก็ยังคงเป็นปัญหาเหมือนเดิมเพราะต่อให้เป็นลูกพี่ลูกน้องเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ขอ งอีกฝ่ายสุดท้ายแล้วไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี
หรือควรจะพูดว่าพึ่งพาระบบสนับสนุนขนาดเล็กดี
หลิน ฟานและเหลียง อี้ชูก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก พวกเขาแค่ยกยอกันและพูดเรื่องไร้แก่นสาร
เขาสังเกตเห็นว่าเมื่อเร็วๆนี้สีหน้าของเหลียง อี้ชูไม่ได้แย่เหมือนแต่ก่อน มันแตกต่างจากการพบกันครั้งแรกของพวก เขามาก
ใบหน้าของเขามีเลือดฝาดมากขึ้น
นี่แสดงให้เห็นว่าชีวิตของเหลียง อี้ชูในตระกูลเหลียงเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโนมที่จะได้รับตําแหน่งหัวหน้าตระกูลค่อนข้างสูง
ด้วยไวน์และอาหารดีๆ เวลาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“นายน้อยเหลียง ข้าว่าเราพอกันแค่นี้ดีกว่า ไว้พบกันใหม่เมื่อมีโอกาส” หลิน ฟานยืนขึ้นและป้องหมัดเจตนาของเขาชัดเจนเขาอยากจะสิ้นสุดการยกยอกันแค่นี้
เหลียง อี้ชูยิ้มและกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว นายน้อยหลินโปรดดูแลตัวเองด้วย”
ภายในร้าน
“คุณซู นายน้อยหลินเขาเป็นคนดีใช้ไหม?” เหลียงอี้ชูถาม
ซู เซียงกระพริบตา แล้วเขาจะตอบคําถามนี้ยังไงดี? ทุกสี่งที่เห็นว่าดีมันเป็นเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้นส่วนภายในนั้น กลับน่ากลัวจนถึงขนาดทําให้ผู้คนสั่นกลัว
ณ คฤหาสน์ตระกูลหลิน
เมื่อหลิน วานยีพบว่าโจว เชียงเหมากลับมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ทําไมเขาถึงกลับมาเร็วนัก?
แม้ว่าโจรสลัดที่อยู่ในแม่น้ําเว่ยเหอจะไม่แข็งแกร่งมากนักแต่พวกมันค่อนข้างเจ้าเลห์
เขารู้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาสําหรับเชียงเหมาที่จะกวาดล้างโจรสลัดเหล่านั้น แต่มันเร็วเกินไป! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เพราะเขากลับมาเร็วกว่าเวลาที่คาดการณ์ไว้ถึงครึ่งหนึ่ง
“นายท่าน ท่านไม่จําเป็นต้องคิดให้มากความ เราก็แค่ประเมินความสามารถของเชียงเหมาต่ําไปก็เท่านั้น” อาวุโสรูปลอบใจ เรื่องความแข็งแกร่งของโจว เชียงเหมามันอยู่ เหนือความคาดหมายของทุกคน
หรือบางทีพวกโจรสลัดอาจจะโง่และประมาทเกินไปโดยตัดสินใจเข้าสู้กับเชียงเหมาตรงๆส่งผลให้ทั้งกลุ่มล่มสลาย
หลินวานยี่ส่ายหัว
เขาประเมินเชียงเหมาต่ําไป
ระดับการฝึกฝนของเชียงเหมาอยู่ที่เส้นทางการต่อสู้ขั้น8และอีกไม่นานเขาก็จะทะลวงเข้าสู่ขั้น9
ความเร็วในการบ่มเพาะของเขามันเข้าขั้นอัจฉริยะ อัจฉริยะที่แท้จริง
เขาใช้ความพยายามตลอดนับสิบปีเพื่อฝึกฝนให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงของตระกูลหลิน
ในอนาคตเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าเด็กไม่เอาไหนจ สามารถมีชีวิตที่ดีได้
“ท่านพ่อ ข้ากลับมาแล้ว” หลังจากที่หลิน ฟานกลับมาเขาก็เห็นพ่อของเขายืนคุยกับอาวุโสคู่อยู่ข้างสระน้ําในลานบ้าน
“ท่านลุง พวกโจรสลัดในแม่น้ําเว่ยเหอทั้งหมดถูกกําจัดเรียบร้อยแล้ว” โจวเชียงเหมารายงาน
พวกโจรสลัดอ่อนแอเกินไปและมีเพียงแต่ตัวหัวหน้าเท่านั้นที่มีความสามารถอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามช่องว่างระหว่างพวกเขามันก็มีมากเกินและไม่ใช่เรื่องท้าทายสําหรับเขาเลยแม้ แต่น้อย
“เยี่ยมมาก เจ้าทําได้เยี่ยมมาก” หลิน วานยี่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจโจวเชียงเหมาทําได้ดีจริงๆ
แต่ก็อย่างว่าเขากลับมาเร็วเกินไป แตกต่างจากที่เขาคิดไว้อย่างสิ้นเชิง
ทําไมเขาถึงไม่อยู่ที่นั่นให้นานกว่านี้กัน?
“ท่านลุง ข้าเอาสมบัติของพวกมันกลับมาด้วยสี่กล่องใหญ่ใครมันจะไปคิดละว่ากลุ่มโจรสลัดเล็กๆกลุ่มหนึ่งจะ รวยได้ถึงขนาดนี้?มันจะต้องได้มาจากการปล้นเรือหลาย สําเป็นแน่” โจวเชียงเหมากล่าว
แม่น้ําเว่ยเหอเป็นเส้นทางเดินเรือที่สําคัญจึงทําให้มีเรือสินค้าหลายลําเลือกที่จะใช้มันเป็นทางผ่านเรือบางลําอาจจะไม่สามารถหาผู้เชี่ยวชาญมาปกป้องได้ดังนั้นจึงถูกดักปล้น
และสําหรับเรือที่มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งติดเรือมาด้วยหลังจากที่พวกมันตรวจสอบแล้วพบว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าจึงล่าถอยไป
พื้นที่ส่วนที่ติดกับแม่นเว่ยเหอใกล้กับเมืองหยูฉางอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลหยวนและเหลียงแต่เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร พวกเขาจึงปล่อยให้ พวกโจรสลัดทําอะไรก็ได้ตามที่พวกมันต้องการ
“ท่านพ่อ ข้าขอพาลูกพี่ลูกน้องไปพักผ่อนก่อนนะ” หลินฟานกล่าว
ระบบสนับสนุนขนาดเล็กของเขามีปัญหาเล็กน้อย
นั่นคือเขาต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน มิเช่นนั้นเขาจะไม่ได้สามารถรับคะแนนความโกรธ
ในช่วงก่อนหน้านี้เขาต้องเก็บตัวต่ําเพราะลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่อยู่บ้าน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สร้างปัญหามากนัก แต่ในเมื่อตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องของเขากลับมาแล้ว เขาจะต้องไปกลัวใครหน้าไหนอีก?
หลิน วานยี่เปิดปากและพูดออกมา “อย่าออกไปไหนในช่ วงนี้”
“ทําไม?” หลิน ฟานงุนงง “ท่านพ่อข้าไม่ได้คิดจะก่อปัญหาใดๆแถมวันนี้ข้ายังไปเยี่ยมนายน้อยสามที่ตระกูลเหลียงเลยด้วยซ้ําและเราก็แก้ไขความเข้าใจผิดกันเรียบร้อย แล้ว”
“ความโกรธ +66
“ข้าบอกไม่ให้ออก ก็ไม่ต้องออก ทําไมเจ้าถึงชอบพูดเรื่องไร้สาระอยู่เรื่อย?” หลินวานยี่ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
“เข้าใจแล้ว ท่านเป็นพ่อส่วนข้าเป็นลูก และข้าจะฟัง ท่าน” หลินฟานไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะตอนนี้ท่านเริ่มจํากัดอิสรภาพของลูกชายตนเอง ช่างน่ากลัว จริงๆ
แน่นอนว่าเขาก็ตอบส่งๆไปงั้นแหละ
มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาจํากัดอิสรภาพของเขา
เป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ
เพราะเขายอมตายเสียดีกว่าสูญเสียอิสรภาพของตน
เขาพาลูกพี่ลูกน้องกลับไปที่ลานด้านหลัง
“น้องอู่ช่วงนี้ช่วยติดตามเขาด้วย” หลิน วานยกล่าวด้วยเสียงต่ํา
ในฐานะพ่อแล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าลูกชายจอมดื้อรั้นของเขาคิดยังไง
เขาก็แค่พูดออกมาแบบไม่คิดอะไร และวันรุ่งขึ้นก็ยังคงออกไปข้างนอกตามเดิม
“ขอรับนายท่าน
ท้องฟ้ามืดมิดเป็นสัญญาณของค่ําคืนที่มาเยือน
หมู่บ้านตระกูลหวังกําลังคึกคัก เหตุเพราะวันนี้มีคนแต่งงานดังนั้นชาวบ้านจึงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือจัดงานให้แบบเรียบง่าย
หลังงานแต่งจบลง
หวัง ต้าเหอแกว่งมือไปมาพลางฮัมเพลงขณะกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์
“หม ทําไมวันนี้ภรรยาข้าถึงนอนเร็วนัก?”
แม้เขาจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้กังวลกับมันมากนัก
ทุกคนภายในหมู่บ้านต่างก็เข้าร่วมงานแต่งรวมถึงภรรยาของเขาด้วย แต่นางกลับไปตอนรับประทานอาหารเสร็จมีเพียงเขาเท่านั้นที่อยู่ที่นั่นเพื่อดื่มจนจบ
เขายืนอยู่ที่หน้าประตูและรู้สึกได้ถึงลมหนาวที่พัดผ่า เข้ามา
เขาผลักประตูไม้ออกส่งเสียงดังเอี้ยด
ข้างในบ้านของเขามันมืดมากไม่มีแม้แต่แสงเทียนสักเล่ม
หวัง ต้าเหอส่ายหัวและพึมพํา “ภรรยา ข้าว่าเจ้าทําเกินไปหน่อยนะ ข้ายังไม่ได้กลับด้วยซ้ํา แต่เจ้ากลับดับเทียนเสียแล้ว”
เขาเดินโซเซไปที่เตียง ตรงที่ภรรยาของเขากําลังนอนอยู่
“ภรรยา เจ้าหลับหรือยัง?” หวัง ต้าเหอถามเบาๆ
ไม่มีการตอบกลับ
หวัง ต้าเหอครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะเอื้อมมือไปทางเตียงและเลื่อนไปที่เอวของเธอ
ทันใดนั้นเขาก็หดมือกลับอย่างรวดเร็ว ตัวของภรรยาเขามันเย็นมากราวกับเขากําลังสัมผัสกับน้ําแข็ง
“ภรรยา ทําไมตัวของเจ้าถึงเย็นนัก? เจ้าเป็นหวัดเพราะอาบน้ํานานไปงั้นหรือ?”
หวัง ต้าเหอลุกขึ้นและต้องการพลิกร่างของภรรยาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะหากเธอปวยเขาจะได้พาเธอไปรักษา
เมื่อเขาเห็นใบหน้าของเธอ ทุกอย่างก็จมดิ่งลงสู่ความมืดมิด
ตอนเช้า
“อ้ากก!”
เสียงตะโกนด้วยความหวาดกลัวทําลายเช้าที่เงียบสงบนี้
ชาวบ้านหลายคนรีบวิ่งมาทางต้นเสียงทันที
“ต้าเหอและภรรยาของเขาตายแล้ว!” ชายวัยกลางคนพูดขณะที่นั่งทรุดลงกับพื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความ ตื่นตระหนกและพยายามชี้เข้าไปในบ้าน
ณ คฤหาสน์ตระกูลหลิน
หลิน ฟานตื่นขึ้นมาและพร้อมที่จะเริ่มเช้าวันใหม่อันสดใส นี้
แล้ววันนี้ข้าจะทําอะไรดี?
มันไม่มีอยู่ในหัวของเขาเลยแม้แต่น้อย
ความสัมพันธ์ของเขากับเหลียง หยงฉีเริ่มดีขึ้นอย่างช้าๆเมื่อวานเขาเพิ่งมอบของขวัญให้ ถ้าวันนี้เขาเข้าไปทุบตีอย่า งนั้นมันคงจะดูแย่ไปหน่อย
“นายน้อยมีบางอย่างเกิดขึ้นที่หมู่บ้านตระกูลหวัง ข้าได้ยินมาว่ามีบางคนเสียชีวิต” โกวชถืออ่างล้างหน้าเดินเข้ามา
หลิน ฟานอยากรู้อยากเห็น “มีคนตาย?”
เขาอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้ยินว่าใครตายในความคิดของเขาการที่คนตายถือเป็นเรื่องใหญ่
“ใช่ขอรับมีคนตาย แต่ข้าไม่รู้สาเหตุ เหตุการณ์นี้มีคนตายทั้งสิ้นสองคนและทั้งคู่ต่างก็เป็นสามีภรรยากัน ร่าง ของพวกเขาถูกพบเมื่อเช้านี้และข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเสียชีวิตอย่างทรมาน บางคนภายในเมืองลือกันว่ามันเป็นฝีมือของปีศาจ” โกวชกล่าวถึงเรื่องซุบซิบที่เขาได้ยินมา
หลิน ฟานล้างหน้าขณะที่ความอยากรู้อยากเห็นของเขาเพิ่มขึ้นพวกเขาตายอย่างทรมาน?
แล้วมันทรมานขนาดไหนล่ะ?
สําหรับการมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับปีศาจ มันค่อนข้างลึกลับเล็กน้อย
แต่มันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องกัน
“ไปเรียกลูกพี่ลูกน้องของข้ามา เราจะมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านตระกูลหวังด้วยกันเพราะไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็ยังอยู่ภายใต้การดูแลของเรา” หลินฟานกล่าว
มันเป็นความรับผิดชอบของเขาดังนั้นเขาจึงต้องทํา