I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 49 เอาจริงดิ?
“นี่มันจิตสังหาร!”
จิตสังหารที่กระจายออกมาจากตัวของฝ่ายตรงข้ามทำให้หลิน ฟานหายใจไม่ออก
หลิน ฟานถอยไปที่มุมหนึ่งคว้าดาบบนผนังที่ใช้เป็นของตกแต่งขึ้นมาและแสร้งทำเป็นสงบ ตามมาด้วยเสียงดัง ‘เคร้ง’ ดาบก็ได้มาอยู่ในมือของเขา
“ที่นี่มันแคบเกินไป เราออกไปสู้กันข้างนอกเถอะ”
เขาผลักประตูและเดินออกไปทันทีก่อนที่มือสังหารจะทันได้พูดอะไร
อันที่จริงแล้วข้างในของเขากำลังตื่นตระหนกเนื่องจากเขาต้องระวังมือสังหาร ถ้าอีกฝ่ายเริ่มลงมือสถานการณ์คงจะแย่ลงไม่น้อย
ทันทีที่เขาออกมาข้างนอก เขาก็รีบวิ่งไปทั่วลานพร้อมตะโกนออกมาทันที
“มือสังหารโว้ย! มือสังหาร!! พวกเจ้าหายหัวไปไหนกันหมด?”
ฟุบ!
เสียงดังขึ้นที่ข้างหูของเขา และก่อนที่เขาจะทันได้รู้ตัว กรีชสั้นเล่มหนึ่งก็ได้ตัดผมส่วนหนึ่งของเขาและลอยเข้าไปปักที่กำแพงด้านหนึ่งของลาน
เหงื่อเย็นไหลออกมาจากหน้าผากของเขา
ครั้งนี้ดูเหมือนมือสังหารจะเปลี่ยนไปเขากลายเป็นจริงจังมากขึ้น ความรู้สึกที่ถูกปกคลุมไปด้วยความตายทำให้เขาหวาดกลัว
“ท่านพ่อ! ท่านรู้ไหมว่าลูกชายของท่านกำลังจะถูกฆ่า!!”
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการเป็นลูกชายของครอบครัวที่ร่ำรวยจะอันตรายขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะต้องเจอกับมือสังหารเป็นครั้งคราวเขาก็ยังรับได้ แต่ชายคนนี้กลับมาที่นี่เกือบทุกวัน นี่ข้าไม่ได้รับโอกาสให้มีชีวิตอยู่เลยรึไงกัน?
ด้านนอกยามทั้งหมดที่มีหน้าที่ปกป้องเขากำลังนอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับ เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพวกเขาเป็นหรือตาย
ทันใดนั้นก็ได้มีแสงเย็นพุ่งเข้ามาโดยเล็งมาที่หัวของเขา
หลิน ฟานกลิ้งไปด้านข้าง ดาบในมือของเขาฟันออกไปทันทีจนทำให้เกิดเสียงดัง ‘แก็ง’ พร้อมกับประกายไฟที่เกิดจากดาบของเขาและกรีชของมือสังหารปะทะกัน
กำลังภายในที่แข็งแกร่งพุ่งเข้ามาหาเขาทันที
ตูม!
แขนของเขาสั่นเนื่องจากต้องทนรับกำลังภายในพวกนั้น เขากลิ้งไปด้านข้างอีกหลายครั้งเพื่อพยายามรักษาระยะห่างจากมือสังหาร
แต่อย่างไรก็ตามภายในพริบตาเดียวมือสังหารก็ได้มาอยู่ตรงหน้าของเขาในตอนที่เขาลุกขึ้น ชายคนนั้นหมุนกริชในมือและฟันเข้าที่คอของเขาทันที
คู่ต่อสู้ของเขาเร็วเกินไป
แม้ว่าเขาจะฝึกวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตจนถึงระดับสูงสุด(กลับสู่ความจริง) แล้วก็ตาม แต่ประสบการณ์ต่อสู้จริงที่เขามีมันก็น้อยเกินไป
ร่างกายของเขามีปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณ เขาระเบิดความสามารถที่น่าอัศจรรย์ต่อหน้าอันตรายถึงชีวิตที่กำลังจะมาถึง
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงได้รับบาดแผลที่คอขณะที่มีเลือดไหลซึมออกมา
โชคดีที่แผลมันไม่ได้ลึกมาก มันถึงแค่ชั้นผิวหนังเท่านั้น
“ข้าเกือบจะตายแล้วจริงๆ” หลิน ฟานสัมผัสที่บาดแผล มันไม่เจ็บ น่าจะเป็นเพราะร่างกายของเขาเข้าสู้ระดับเส้นทางการต่อสู้ขั้นสามแล้ว ซึ่งทำให้เขาสามารถทนต่อการเจ็บปวดได้ในระดับหนึ่ง
ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น
นี่คือเรื่องจริงครั้งนี้ชายคนนี้เอาจริง
ที่นี่คือลานด้านหลังของคฤหาสน์ตระกูลหลินและมันก็น่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างหลิน ฟานกลับรู้สึกเหมือนไม่มีที่ซ่อน
ศัตรูสามารถปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของเขาได้ในเวลาสั้นๆ
“ครั้งนี้ข้าต้องจริงจัง ถ้าข้าประมาทข้าอาจจะตายด้วยน้ำมือของมือสังหาร และนั่นจะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่” หลิน ฟานจับดาบในมือแน่น เขาย่อตัวลงและพยายามกลบจุดอ่อนของเขา
แม้ว่าวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตจะเป็นวิชาดาบขั้นพื้นฐาน แต่มันก็ไม่สามารถดูถูกได้ โดยเฉพาะหลิน ฟานที่เข้าสู่ระดับกลับสู่ความจริงแล้วเขาสามารถใช้วิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อสร้างความเสียหายให้มากที่สุดได้
ปัง!
ในขณะที่เขาตกตะลึงมือสังหารก็โจมตีเขาอีกครั้ง กริชในมือของเขาสะท้อนแสงภายใต้แสงจันทร์
“หวังว่าความวุ่นวายที่นี่จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้”
หลิน ฟานสูดหายใจเข้าลึกๆและตะโกนออกมา
“พยัคฆ์อาฆาต!”
กำลังภายในส่วนหนึ่งของเขากระจายลงบนใบดาบกลายเป็นเสือสีดำที่กำลังคำราม จากนั้นเขาก็ฟันไปทางมือสังหารทันที
เคร้ง!
พวกเขาปะทะกันอีกครั้งทำให้เกิดเสียงดังไปทั่วลาน
“ช้าเกินไป แถมยังมีจุดอ่อนเต็มไปหมด”
เมื่อหลิน ฟานคิดว่าเขารับได้ มือสังหารก็กล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำทันที ทันใดนั้นเองมือสังหารก็หลบดาบไปด้านข้าง เขาฟันกริชลงมาจนสุดและเฉือนออกไปทันที
ฉัวะ!
สีข้างของหลิน ฟานถูกฟัน เสื้อผ้าของเขาฉีกขาด เลือดที่ไหลออกมาย้อมผ้าเป็นสีแดง
อึก!
แม่งโคตรเจ็บ!
ความเจ็บปวดจากการที่ผิวหนังถูกเฉือนออกทำให้หลิน ฟานขมวดคิ้ว
มือสังหารไม่ได้หยุดและโจมตีที่ด้านหลังของเขาอีกครั้งทันที ถ้าเขาถูกแทงครั้งนี้ผลที่ตามมาจะกลายเป็นหายนะ และมันก็อาจจะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้
“ไอเชี่ยเอ้ย!” หลิน ฟานหันหน้ากลับมาและตะโกนออกไปอย่างดุร้าย จากนั้นเขาก็ยกดาบในมือขึ้นเพื่อปิดกั้นการแทง
แก็ง!
กำลังภายในของศัตรูนั้นแข็งแกร่งเกินไป
ส่วนพลังที่ระเบิดออกมาแต่ละครั้งมันก็มากเกินไป
หลิน ฟานกระเด็นออกไปทันที หัวของเขากระแทกเข้ากับอิฐทำให้ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างของเขา
“แข็งแกร่ง เขาแข็งแกร่งกว่าข้ามากเกินไป”
ข้าต้องเพิ่มคะแนน
ในตอนนี้เขาไม่คิดอะไรให้มากความและลงคะแนนไปที่กำลังภายในโดยตรง
กำลังภายใน : 90 (เส้นทางการต่อสู้ขั้นสาม)
ในขณะเดียวกันเขาก็ยกระดับคัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญเช่นกัน โดยเขาใช้คะแนนไปกับมัน 1,000คะแนน
เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้นสอง)
หลังจากนั้นไม่นานก็มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งเกิดขึ้นกับร่างกายของเขา และดูเหมือนกำลังภายในของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน
กำลังภายในสีม่วงของคัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญทำงานโดยอัตโนมัติและเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บของเขา
มือสังหารตกใจเล็กน้อยเมื่อเขาสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลิน ฟาน
เขาพึ่งทะลวงระดับงั้นเหรอ?
ช่างมันเพราะยังไงข้าทำแค่ต้องทดสอบเขาดูเพื่อหาคำตอบเท่านั้น!
มือสังหารย่อตัวลงเหมือนนกนางแอ่นและพุ่งเข้าใส่หลิน ฟานโดยที่ตัวของเขายังคงก้มต่ำอยู่ กริชในมือของเขาถูกปกคลุมด้วยชั้นแสงบางๆ
“จะมากเกินไปแล้ว” หลิน ฟานโกรธมากขณะที่ฟันออกไปอีกครั้ง
การฟันครั้งนี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
แสงสีม่วงเข้าปกคลุมใบดาบอีกครั้ง แม้มันจะบางเบา แต่มันก็ยังมีอยู่และออร่าที่ออกมาจากมันนั้นแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
เคร้ง!
พวกเขาปะทะกันอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองหลิน ฟานก็พบว่าดาบเล่มนี้แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก ความรู้สึกที่เขาได้รับมันไม่ใช้ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป แต่เป็นสามารถต้านทานได้
มือสังหารชะลอตัวเล็กน้อย ซึ่งสำหรับผู้เชี่ยวชาญแล้วนี่คือจุดอ่อน
เขาตัดสินใจรออยู่ครู่หนึ่ง
แต่หลิน ฟานก็ไม่พบจุดอ่อนนี้
สีหน้าภายใต้หน้ากากของมือสังหารกลายโกรธเกรี้ยว กริชในมือของเขาสั่นเล็กน้อยและแทงออกไปทันที จากนั้นเขาก็สะบัดมือฟันไปที่หน้าอกของหลิน ฟาน เลือดของเขาไหลออกมามากขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้
“น่าเสียดาย การทะลวงผ่านของเจ้าทำให้ข้าตกใจและเผยจุดอ่อนของข้า แต่เจ้ากลับไม่สังเกตเห็นมันและคว้าโอกาสนี้ไว้”
มือสังหารไม่คิดจะคุยเรื่องไร้สาระกับหลิน ฟานอีกต่อไป กรีชในมือของเขาเป็นเหมือนงูพิษที่ไร้ร่องรอยและไม่มีตัวตน ทำให้ยากที่จะระบุว่ามันมาจากทางไหน
หลังจากนั้นไม่นาน
หลิน ฟานกำลังยันพื้นด้วยมือข้างเดียว เขาหอบ ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยบาดแผลส่วนเสื้อผ้าของเขาก็ถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือด
เขาพยายามเต็มที่แล้ว แต่เขากลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมือสังหารเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงดังมาจากระยะไกล
“ไอมือสังหารหน้าไหนมันกล้ามาก่อปัญหาที่ตระกูลหลินของข้า!” อาวุโสวู่โจมตีทันที นิ้วทั้งห้าของเขากางออกและพยายามคว้ามือสังหารคนนั้นไว้
มือสังหารมองไปที่หลิน ฟานเล็กน้อยก่อนที่จะหายตัวไปทันที
“ข้าจะกลับมา”
อาวุโสวู่ลอยลงมาข้างๆหลิน ฟาน “นายน้อยท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ร่างกายของหลิน ฟานเต็มไปด้วยเหงื่อและเขาก็กำลังหอบอย่างหนัก “มองข้าสิ! ข้าดูเหมือนคนไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“แล้วเราก็ต่อสู้กันตั้งนานทำไมเจ้าถึงพึ่งมาตอนนี้?”
เมื่อเขาพูดจบเขาก็หมดแรงและเป็นลมลงไปทันที
………
ณ ห้องศึกษา
“เจ้าเด็กไม่เอาไหนไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หลิน วานยี่ถาม
อาวุโสวู่ตอบ “ข้าส่งคนไปดูแลเขาแล้ว เขาแค่ใช้พลังมากเกินไปและหมดสติ”
จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดบางอย่าง
“นายท่านข้าว่าครั้งนี้ท่านทำเกินไปเล็กน้อย”
เขาไม่เคยคิดเลยว่าท่านหัวหน้าตระกูลจะไม่ใจอ่อนและทำให้เกิดบาดแผลมากมาย แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บที่ภายนอก แต่การที่เขาเสียเลือดมากเกินไปก็เป็นอันตรายเช่นกัน
หลิน วานยี่กล่าวอย่างไร้ความรู้สึก “เฉพาะเมื่อคนเราต้องเผชิญหน้ากับความตาย เราถึงจะสามารถข้ามขีดจำกัดของเราได้ การลอบสังหารก่อนหน้ากลายเป็นจริงจังและสามารถคุกคามชีวิตของเขาได้ เขาจะต้องใส่ใจและปฏิบัติต่อการลอบสังหารที่เขาเจออย่างจริงจัง”
“ดูเหมือนว่าผลลัพธ์มันจะไม่เลวเลย”
“เขาสามารถทะลวงระดับได้ในการต่อสู้”
เมื่อเห็นดังนั้นอาวุโสวู่จึงทำได้เพียงภาวนาให้นายน้อยสามารถอยู่รอดต่อไปได้
เพราะท่านหัวหน้าตระกูลจริงจังในครั้งนี้