I Don’t Want To Defy The Heavens - ตอนที่ 35 เขาร้องไห้
ในขณะที่หลิน ฟานกำลังเดินเล่นตามปกติก็ได้มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่ข้างหน้าของเขา
มันได้มีเงาร่างหนึ่งบินออกมาจากร้านพร้อมกับเสียงดังปัง
“ไอหย่า เจ็บชิบ” ชายผู้นั้นนอนราบไปกับพื้นด้วยผมที่ยุ่งเหยิง เขาบ่นออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับเอามือลูบก้นไปด้วย
ในตอนนั้นเองก็ได้มีหลายคนรีบเดินออกมาจากร้าน พวกเขาทั้งเตะและต่อยพร้อมกับดุด่า “ถ้าเจ้ากล้ามาก่อปัญหาอีก ข้าจะทำลายมือเจ้าซะ!”
หลังจากที่พูดจบพวกเขาก็รีบกลับเข้าไปในร้านที่พวกเขาออกมา
อา ห้องพนันนี่เอง
คนที่ออกมาเหล่านั้นเป็นคนของห้องพนัน เห็นได้ชัดว่าคนที่ถูกทุบตีเป็นคนที่สร้างปัญหาให้กับพวกเขา
ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ
เขาลุกขึ้นและปัดก้นของเขา “หึ เจ้ากล้าขู่ปู่ของเจ้างั้นรึ โชคดีของพวกเจ้าที่ข้าไม่ต้องการลดตัวลงไปเล่นกับเด็ก”
ชาวบ้านที่อยู่โดยรอบไม่ได้ตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในทุกๆวันพวกเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไปกี่ครั้งแล้ว
คนที่เดินทางมาที่นี่ต่างก็เข้ามาด้วยความตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความฝัน มีคนแบบเขาเดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย
“ลูกพี่ลูกน้องชายคนนี้ไม่ธรรมดา” โจว เชียงเหมากล่าวหลังจากที่สังเกต
“เขาไม่ธรรมดาแล้วทำไม ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ตราบใดที่เขายังเป็นมนุษย์มันก็ไม่มีอะไรน่ากลัว” หลิน ฟานกล่าว
ชายวัยกลางคนที่ถูกโยนออกมาได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันจึงได้เดินมาทางพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “คำพูดของนายน้อยท่านนี้ช่างมีเหตุผลนัก”
“ข้าชื่อเฟิง โพหลิว ถ้าไม่เป็นการรบกวนข้าขอทราบนามของท่านได้หรือไม่?”
เฟิง โพหลิวยืนตรง แม้ว่าผมของเขาจะไม่เรียบร้อยและยังมีฝุ่นติดอยู่บนใบหน้า เขาก็ยังคงคิดว่าตัวเองนั้นดูหล่อเหลามาก
เขาสัมผัสและเล่นกับหนวดของตัวเอง
เมื่อเห็นดังนั้นโจว เชียงเหมาจึงรีบเดินมาขวางข้างหน้าและมองที่ชายคนนั้นด้วยความระมัดระวัง
ตราบใดที่เขามีพิรุธโจว เชียงเหมาจะลงมือจัดการเขาโดยทันที
“ลูกพี่ลูกน้องอย่ากังวลไปเลย” หลิน ฟานตบไหล่ลูกพี่ลูกน้องของเขาจากนั้นก็ยิ้มและตอบกลับไป “ข้าชื่อหลิน ฟาน”
เฟิง โพหลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ชื่อดี! ไม่ว่ามองมุมไหนท่านก็ไม่น่าจะเป็นสามัญชนได้เลย และเมื่อรวมชื่อกับรูปลักษณ์ของท่านเข้าด้วยกันแล้ว ความเป็นไปได้เดียวคือท่านจะต้องเป็นนายน้อยหลิน จากตระกูลหลินอย่างแน่นอน”
“ตาถึงมาก” หลิน ฟานยอมรับและเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูดมา
ทักษะการเยินยอของคนผู้นี้น่าจะได้รับการฝึกฝนและขัดเกลามานานนับหลายสิบปี
“นายน้อยหลิน ท่านช่างดูเหมือนคนที่ข้าเคยรู้จักในอดีตจริงๆ ท่านพอจะมีเวลาคุยกับข้าสักเล็กน้อยหรือไม่?” เฟิง โพหลิวกล่าวออกมา
“ถ้าเจ้ามีอะไรจะคุยก็คุยมันที่นี่เลย พวกเราล้วนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น” หลิน ฟานกล่าว
ในตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญ
เพราะถ้านับแค่ความสามารถในการเข้าหาผู้คนของเฟิง โพหลิวมันก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่มีแล้ว
เฟิง โพหลิวเดินเข้ามาใกล้หลิน ฟาน เขายิ้มพร้อมกับกล่าวออกมา “น้องชายท่านพอจะให้ข้ายืมเงินเพื่อแก้มือกับสิ่งที่เสียไปได้หรือไม่?”
การแสดงออกของหลิน ฟานยังคงไม่แย่แสขณะที่เขาส่ายหัว “ไม่”
“เจ้าต้องการอะไร? ถ้าเจ้าแค่อยากจะมายืมเงินเจ้าสามารถมองหาผู้อื่นได้ แต่ถ้าเจ้าอยากจะโกงลูกพี่ลูกน้องข้าจะอดเจ้าซะ” มุมมองที่โจว เชียงเหมามีต่อเฟิง โพหลิวเปลี่ยนไป
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนธรรมดา แต่สุดท้ายแล้วยังไงเขาก็ยังคงเป็นเพียงนักพนันเท่านั้น
หากชายตรงหน้าเขาต้องการเงินของลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาคงทำได้แค่ฝันเท่านั้น
“ได้โปรดใจเย็นลงก่อน ข้าเพียงแค่อยากจะทำธุรกิจกับลูกพี่ลูกน้องของเจ้าก็เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาโกงแต่อย่างใด” เฟิง โพหลิวกล่าว จากนั้นเขาก็ใช้ประโยชน์จากความสนใจของหลิน ฟานเปิดแขนเสื้อและหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาอย่างระมัดระวัง
“น้องชายข้าไม่ได้พยายามจะหลอกเจ้า สิ่งนี้คือเทคนิคลับที่หายาก ถ้าไม่ใช่เพราะข้าขาดเงินข้าคงไม่คิดจะขายมัน”
“ชู่! อย่าเสียงดังไปเดี๋ยวผู้อื่นจะได้ยิน ที่ท่านเห็นอยู่นี่เป็นเทคนิคลับของครอบครัวข้า และถ้าหากผู้อื่นพบเรื่องนี้เข้า เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะไม่สามารถปกป้องท่านได้”
หลิน ฟานเหลือบมอง “เทคนิคลับอะไรกัน มันยอดเยี่ยมขนาดไม่มีวิชาไหนเทียบเคียงมันได้เลยงั้นรึ?”
เฟิง โพหลิวกระแอมเบาๆ เขาเงยหน้าขึ้นและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน จากนั้นเขาก็ดึงหนังสือกลับมาเล็กน้อย
“ท่านลองมองดูสิ นี่คือเทคนิคควบคุมแมลงมันสามารถควบคุมแมลงได้ทุกชนิด และที่สำคัญบนโลกนี้ไม่มีที่ไหนที่ไม่มีแมลง”
“และเนื่องจากน้องชายกับข้ามีชะตาต้องกันมันจึงเป็นสาเหตุให้ข้าตัดสินใจขายมันให้กับท่าน”
หลังจากที่พูดจบ เฟิง โพหลิวก็จัดเสื้อผ้าของเขาจากนั้นก็มองซ้ายมองขวาและทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เจ้าจะขายมันเท่าไหร่?” หลิน ฟานถาม
“ไม่แพง แค่ไม่กี่สิบ… ไม่สิ ข้าไม่ได้ต้องการจะขายมันเพียงเพราะความบังเอิญ ที่ข้าต้องการจะให้ท่านเพราะท่านเหมือนคนที่ข้ารู้จัก”
“แต่ถ้าข้าให้ท่านไปโดยท่านไม่ต้องจ่ายมันก็จะเป็นการดูถูกสถานะของท่านและทำให้ท่านเสียหน้า ดังนั้นมันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้ายกเรื่องการแลกเปลี่ยนขึ้นมา”
ดูเหมือนว่าสาเหตุที่เฟิง โพหลิวเข้าหาเขาจะเป็นเรื่องการขายหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่แรก
“ไม่มีปัญหา สิ่งที่ข้ากลัวที่จะเสียมันไปมากที่สุดคือหน้าของข้า” หลิน ฟานกล่าวอย่างใจเย็น
ใช่แล้วตั้งแต่ต้นเขาได้เข้าไปเล่นกับไฟ และตอนนี้เขาก็กำลังถูกมันเผา
เขาประเมินชายผู้นี้ต่ำไปเล็กน้อย
เฟิง โพหลิวตกตะลึงจากนั้นก็ยิ้มออกมา “น้องชายช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ”
“สิบสองเพียงพอหรือไม่? เพราะสิ่งที่ข้าสนใจไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นความสามารถของเจ้า ดังนั้นข้าจึงอยากจะช่วยเจ้าสักเล็กน้อย” หลิน ฟานกล่าว
“น้องชายท่านช่างเป็นคนที่มีคุณธรรมสูงส่งยิ่งนัก ข้าจะจำบุญของท่านเอาไว้” เฟิง โพหลิวป้องกำปั้นด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
ต่อมาเฟิง โพหลิวก็เอาหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากอกซ้ายของเขาจากนั้นก็ยัดมันลงไปในมือของหลิน ฟานและตบไหล่ของเขาอย่างรวดเร็ว “น้องชายสิ่งที่ท่านได้รับไปมันเป็นวิชาที่ดี มันเป็นวิชาที่ดีจริงๆ ข้าหวังว่าเมื่อเราได้พบกันอีกในอนาคตท่านจะสามารถเรียนรู้วิชานี้ได้จนสำเร็จ”
“โกวชิเอาเงินให้เขาไป” หลิน ฟานกล่าว
โกวชิมองไปที่นายน้อยจากนั้นก็มองไปที่เฟิง โพหลิว เพื่อนคนนี้ต้องโกงอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากนายน้อยเห็นด้วยแล้วเขาจะพูดอะไรได้อีก
สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือส่งเงินให้ชายตรงหน้าสิบสองเหรียญเท่านั้น
รอยยิ้มที่บานราวกับดอกไม้ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฟิง โพหลิว “เอาล่ะน้องชายในเมื่อข้าเสร็จธุระแล้ว งั้นข้าก็ขอตัวลาไปก่อนก็แล้วกัน”
จากนั้นเขาก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หันกลับมามองอีกและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ลูกพี่ลูกน้อง ชายคนนั้นเป็นพวกนักต้มตุ๋นแน่นอน เพราะปกติแล้วเทคนิคการเพาะปลูกจะมีราคาค่อนข้างแพง นี่ข้ายังไม่ได้นับรวมวิชาที่มีเอกลักณ์แบบนี้ซึ่งนับว่าหายากอย่างมากมันแทบจะไม่มีขายในตลาด” โจว เชียงเหมาพูด
หลิน ฟานยิ้ม “ไม่ต้องกังวล การเยินยอก็นับว่าเป็นความสามารถ สำหรับข้าการที่ได้เจอคนอย่างเขาเยินยอในตอนเช้าแบบนี้มันทำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้นอย่างมาก”
ในฐานะนายน้อยที่ร่ำรวยเขาจะต้องมีนิสัยเช่นนี้ และเนื่องจากชายคนนั้นยกย่องเขาจนกระทั่งเขารู้สึกดี เขาจึงต้องตบรางวัลให้สักหน่อย
“เอาล่ะ เราไปที่ศาลาเสาวธารเมามายเพื่อดื่มชากันเถอะ” หลิน ฟานถือพัดพร้อมกับเอามืออีกข้างหนึ่งวางพาดไว้ข้างหลัง เขาพยายามทำตัวให้เหมือนนายน้อยขณะที่กำลังเดินออกไป
พัดอันที่เขากำลังใช้อยู่เขาเพิ่งได้มันมาในวันนี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยเหมาะกับตัวของเขาสักเท่าไหร่
เมื่อเฟิง โพหลิวเห็นหลิน ฟานเดินออกไปเขาก็กลับเข้าไปในร้านพร้อมกับจะโกนออกมาว่า “เจ้าหลานชายล้างคอรอปู่ของเจ้าได้เลย!”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงดัง ‘ปัง’ เกิดขึ้น
เฟิง โพหลิวที่เพิ่งเข้าไปถูกโยนออกมาอีกครั้ง
“ถ้าเจ้ากล้าก่อปัญหาโดยไม่มีเงิน ข้าจะหักขาของเจ้าซะ!” เสียงที่แข็งกระด้างดังขึ้น
“หึหึ” เฟิง โพหลิวปัดฝุ่นที่หลังของเขา “ได้เวลาไปหาคนหนุ่มสาวที่มีความฝันในเส้นทางของศิลปะการต่อสู้แล้ว”
จากนั้นเขาก็ตบที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา สิ่งที่เคยอยู่ตรงนั้นเขาเอามันไปแลกกับเงินแล้ว
ทันใดนั้นเขาก็ตกตะลึง
เขาเอามือไปตบที่ด้านขวาจากนั้นก็ด้านซ้ายสลับไปมา
ด้านซ้ายว่างเปล่า ส่วนด้านขวายังมีของอยู่
“ด้านซ้ายเป็นของจริงส่วนด้านขวาเป็นของปลอม”
“หรือว่าด้านขวาจะเป็นของจริงและด้านซ้ายเป็นของปลอมกันนะ”
“ซ้ายจริง ขวาปลอม เอ….ไม่ถูกต้องงั้นหรือ อา~ หัวข้าทำไมมันถึงปวดเช่นนี้ ทุกอย่างในตอนเช้ามันก็ปกติดี แล้วทำไม?”
เฟิง โพหลิวรีบหยิบหนังสือออกมา ชื่อที่อยู่บนหน้าปกมันก็เขียนว่าเทคนิคควบคุมแมลงเหมือนกัน แต่เนื้อหาที่อยู่ข้างในมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่อยู่ทางซ้าย
เมื่อเขาเปิดหน้าแรกและเห็นเนื้อหาที่อยู่ข้างในเขาก็กลายเป็นแข็งค้างโดยสมบูรณ์
ทันใดนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมา
“น้องชายกลับมาก่อน! ท่านเอาไปผิดเล่ม!”