HOKAGE RYOS PATH - ตอนที่ 53 ความแข็งแกร่งของราสะ
นิยาย HOKAGE RYOS PATH บทที่ 53 ความแข็งแกร่งของราสะ บทที่53ความแข็งแกร่งของราสะ ซาคุโมะกับย่าโจนั้นเป็นคู่ปรับกันและคุ้นเคยกับจุดแข็งและวิธีการต่อสู้ของกันและกัน ซาคุโมะนั้นมีความแข็งแกร่งโดยรวมมากกว่าเล็กน้อยแต่ความสามารถของย่าโจที่ใช้จักระเพื่อควบคุมหุ่นเชิดนั้นไม่สามารถมองข้ามได้เลย เธอยังเป็นนินจาระดับคาเงะเชี่ยวชาญการใช้หุ่นเชิดจนซาคุโมะแทบไม่สามารถโจมตีเธอได้ ในอีกด้านหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือการต่อสู้ของจิไรยะกับคาเซคาเงะรุ่นที่4 ราเสะนั้นมีพลังขีดจำกัดทางสายเลือดเป็นแม่เหล็กในมังงะไม่ได้บอกว่าเขามีวิชาอะไรแต่จากที่เรียวสังเกตแล้วเขาน่าจะมีจักระธาตุลมและสายฟ้า คนที่แข็งแกร่งพอๆกับระดับคาเงะจะต้องมีมากกว่าความสามารถในการใช้ธาตุสำหรับหัวกะทินั้นต้องมี2ธาตุขึ้นไป โดยรวมแล้วคาเสะคาเงะรุ่นที่4ก็ไม่มีข้อยกเว้นเขาใช้พลังแม่เหล็กโดยใช้จักระธาตุสายฟ้าและลมรวมกัน จิไรยะนั้นมีความเข้าใจในวิชานินจาและรู้เกี่ยวกับวิชานินจาเป็นจำนวนมากเขาสืบทอดความเชี่ยวชาญของโฮคาเงะรุ่นที่3ที่มีทักษะไร้ที่ติ มันยากที่จะทำนายผลลัพธ์ของการต่อสู้จิไรยะนั้นเชี่ยวชาญเรื่องจักระธาตุต่างๆและธาตุธรรมชาติแต่คาเสะคาเงะรุ่นที่4เองนั้นก็ไม่ได้ธรรมดาเช่นกัน “ชั้นไม่คิดว่าลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่3จะเป็นนินจาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ถ้าเราต่อสู้ที่อื่นมันคงไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะนาย”ราสะกล่าวออกมา “โอ้นายหมายความว่าตั้งแต่ที่พวกเราอยู่ในทะเลทรายนายจะเอาชนะชั้นยังไงก็ได้สินะ?”จิไรยะสามารถวัดระดับความสามารถของศัตรูระหว่างต่อสู้ได้และเขารู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะราสะได้โดยง่ายยกเว้นเขาจะใช้โหมดเซียน “ไม่ใช่ว่านายมีตระกูลฮิวงะที่มีเนตรสีขาวงั้นเหรอ?พวกเขาไม่เห็นว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในทะเลทราย?”ราสะควบคุมทรายก่อนที่จะพุ่งไปยังจิไรยะ “นายควบคุมทรายได้?เป็นร่างสถิตย์สัตว์หางงั้นเหรอ?ไม่ใช่นายไม่ได้ผนึกหนึ่งหางไว้ในร่างกายของนาย”จิไรยะไม่ได้สนใจกับทรายที่เคลื่อนเข้าหาเขามากนักและสร้างกำแพงดินขึ้นมาเพื่อป้องกัน “อะไรกัน!?”กำแพงดินของจิไรยะถูกฟังโดยง่ายโดยทรายของราสะจิไรยะเหมือนกับกำลังจะพ่ายแพ้หลังจากที่ทรายได้เข้ามาโจมตีเขา “จิไรยะมันจบแล้ว!”คาเสะคาเงะรุ่นที่4ประกาศชัยชนะออกมาและพร้อมที่จะรุกฆาตจิไรยะในทันที เมื่อจิไรยะได้รับบาดเจ็บเขาก็หยิบหินฟื้นฟูของเรียวขึ้นมาก่อนที่จะกระตุ้นใช้มันคาเสะคาเงะรุ่นที่4ใช้คาถาลมระดับBเป็นจำนวนมากพุ่งเข้าโจมตีจิไรยะแต่ด้วยที่จิไรยะมีหินฟื้นฟูอยู่เขาจึงสามารถควบคุมความเสียหายได้และจิไรยะก็สามารถหลบระเบิดลมครั้งใหญ่ของคาเสะคาเงะรุ่นที่4ได้ “คาถาอัญเชิญ”จิไรยะต้องการเวลาเล็กน้อยในการักษาบาดแผลของตนเองกามะบนตะจะมาช่วยเขายื่อราสะเอาไว้ “กามะบนตะระวังนะเจ้าหมอนี้แข็งแกร่งมาก!”จิไรยะเอ่ย “ชั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนนายสักหน่อย”กามะบุนตะพูดออกมาสิ่งที่เขาพูดนั้นล้วนไม่ห่างจากความจริงมากเท่าไหร่คาเสะคาเงะได้เพิ่มความระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นประสบการณ์การต่อสู้เป็นเวลาหลายปีทำให้เขาเข้าใจว่าจิไรยะมีอะไรที่พิเศษ “วิชาอัญเชิญงั้นเหรอนึกว่าเป็นข่าวเลือซะอีกกบแดงยักษ์!”
ในสนามรบนินจาโคโนฮะที่เห็นจิไรยะได้รับบาดเจ็บก็พลังใจเริ่มถดถอยแต่หลังจากที่พวกเขาเห็นกามะมุนตะพวกเขาก็เริ่มมีกำลังใจอีกครั้ง เรียวนำทีมของเขาเข้าไปรักษานินจาโคโนฮะที่โดนพิษและบาดเจ็บในขณะที่ตัวเองแอบเข้าสนามรบไปอย่างเงียบๆ โคโนฮะอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถชนะได้เลยเป็นความจริงที่ว่าระดับพลังโดยรวมของนินจาของโคโนฮะนั้นเหนือกว่าของของหมู่บ้านทรายเหมือนกับที่ซาคุโมะกล่าวเอาไว้ในสภาพแวดล้อมนี้ทั้งสองฝ่ายมีความแข็งแกร่งเกือบเท่ากัน ในแง่ของตัวเลขโคโนฮะมีทีมแพทย์ของพวกเขาพร้อมลงสนามรบตลอดเวลานินจาสายต่อสู้มากกว่า8000แต่หมู่บ้านทรายนั้นมีนินจากว่า12,000คน เรียวเข้าใจแจ่มแจ้งว่าหากจิไรยะหรือซาคุโมะแพ้ละก็กองทัพของโคโนฮะจบเห่แน่ เมื่อครู่เขาพึ่งเห็นจิไรยะทำการ[อัญเชิญ]กามะบนตะขึ้นมาในสนามรบเขาคิดว่าเขาก็จะอัญเชิญกามะฮิโระมาบ้างถึงแม้จะไม่ช่วยให้ชนะคาเสะคาเงะรุ่นที่4ได้แต่ก็สามารถซื้อเวลาให้จิไรยะได้มีเวลาฟื้นฟูบาดแผลของตนเอง มันไม่มีทางที่เรียวจะนั่งอยู่เฉยๆแล้วมองกองทัพของโคโนฮะพ่ายแพ้ไปแบบนี้เขาต้องต่อสู้เพื่อประโยชน์ของพันธมิตรอิโนะ-จิกะ-โจและสู้เพื่อจิไรยะ เมื่อเขาเข้ามาสู่สนามรบแล้วเขาก็เห็นจิไรยะถูกคาเสะคาเงะใช้ทรายฝั่งเข้าเอาไว้เขาเปิดใช้งานเนตรวงแหวนก็พบจิไรยะที่มีแต่หัวโผล่ขึ้นมาจากทรายสองมือประสานกันเรียวรู้เลยว่าจิไรยะกำลังพยายามเข้าสู่โหมดเซียน ฝุ่นทองของราสะนั้นสามารถสร้างทรายที่มีส่วนผสมของทองด้วยเหตุนี้มันจึงหนักกว่าและเป็นอันตรายมากกว่าทรายทั่วไปกามะบุนตะไม่มีทางที่จะเอาชนะการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ดังนั้น “คาถาอัญเชิญ!” นอกสนามรบนั้นได้มีควันขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเรียวได้อัญเชิญกามะฮิโระ “ฮิโระช่วยจัดการพวกนินจาทรายที่!”เรียวพูดออกมา “เยี่ยม”กามะฮิโร่เป็นพวกบ้าการต่อสู้เขาคันไม้คันมือมานานแล้ว เขาเหมือนหมาป่าท่ามกลางฝูงแกะเขาได้ชักดาบสั้นคู่นึงของเขาก่อนที่จะฟันมันใส่นินจาทรายเหล่านินจาทรายที่เห็นการปรากฏตัวของกามะฮิโระนั้นก็ต่ำนตระหนกงัดวิชานินจาทุกชนิดใส่กบตัวนี้ในทันที อย่างไรก็ตามเรียวได้เข้าสู่โหมดจักระน้ำแข็งสายฟ้าทุกการกระพริบตาเขาจะใช้ใบมีดจักระของเขาปาดคอหอยของพวกนินจาทรายแล้วหลบพวกวิชานินจาเป็นบางครั้ง คาเสะคาะเงะรุ่นที่4ได้รู้สึกถึงตัวตนของเรียวและกามะฮิโระแล้วพวกเขาทั้งสองคนได้สังหารโจนินไป4คนและจูนนอีกจำนวนมาก เขาไม่สามารถที่จะปล่อยให้เรียวนั้นฆ่านินจาทรายของเขาราวกับฆ่ามดหรีอนี้จะเป็นนินจาลึกลับซึ่งอยู่ในระดับคาเงะราสะได้ละการโจมตีจากจิไรยะจากนั้นก็พุ่งเข้าไปโจมตีเรียวในทันที “จะไปแล้วเหรอ?ไม่ต้องห่วงเดี่ยวชั้นจัดการนายเอง!”จิไรยะที่เข้าสู่โหมดเซียนเรียบร้อยก็พูดออกมาเขาไม่มีทางให้ราสะไปโจมตีเรียวเด็ดขาด “เป็นครั้งแรกที่เธออัญเชิญพวกเรามาทำไมมันถึงเละตุ้มเป๊ะขนาดนี้?”ชิมะที่ถูกอัญเชิญบ่นออกมาทันที “แม่จำดูเหมือนว่าจิไรยะจังจะไม่ทางเลือกอื่นแล้วนะไม่ต้องโกรธไปหรอกแล้วจิไรยะจังใครเป็นคู่ต่อสู้ของเธอกันละ?ทำไมเธอถึงต้องอัญเชิญพวกเราทั้งสองคนมาด้วย?”ฟุคาซากุพูดออกมา “หัวหน้าท่านชิมะขอโทษนะครับตอนนี้ผมกำลังเผชิญหน้ากับคาเสะคาเงะรุ่นที่4อยู่ผมไม่สามารถเอาชนะเขาได้ถ้าพวกท่านไม่ช่วยเหลือผม”จิไรยะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในที่ขณะทั้ง3กำลังคุยกันอยู่ราสะถือโอกาศนี้โจมตีจิไรยะทันทีดูเหมือนเขาจะกังวลว่าเรียวจะสังหารนินจาฝ่ายเขาไปมากเท่าไหร่เขาจึงต้องรีบจัดการจิไรยะให้ได้ซะก่อน ทรายทองกลายเป็นคลื่นและพุ่งไปยังทางจิไรยะอย่างรวดเร็ว “ทรายนี้มีทองคำอยู่ในนั้นหรือ”ฟุคาซาคุสามารถสัมผัสได้ทันที จิไรยะใช้กำแพงดินอีกครั้งแต่คราวนี้มันอัดแน่นไปด้วยจักระเซียนที่เพิ่มความแข็งแกร่งของมันอย่างมากดังนั้นมันจึงสามารถที่จะกันฝุ่นทองของราสะได้ คาเสะคางะรุ่นที่4มองไปยังจิไรยะด้วยความตกตะลึงเขาสังเกตเห็นกบ2ตัวที่อยู่บนไหล่ของจิไรยะเขารีบประสานอินเพื่อล้อมกรอบจิไรยะในทันที “[หลุมศพทราย!][พิธีศพทะเลทราย!]”แรงกดดันมหาศาลที่เกิดขึ้นจากทรายทำให้จิรายาประสบปัญหา “จิไรยะจังใช้น้ำมันเยอะๆ!”ชิมะพูดออกมา “[คาถาเซียนโกะซาเอม่อน]!”ทองคำรอบๆตัวของจิไรยะเริ่มละลายเนื่องจากมีอุณหภูมิที่สูงมากและเม็ดทรายก็เป็นผลึกใสทึบ
นิยาย HOKAGE RYOS PATH บทที่ 53 ความแข็งแกร่งของราสะ
บทที่53ความแข็งแกร่งของราสะ
ซาคุโมะกับย่าโจนั้นเป็นคู่ปรับกันและคุ้นเคยกับจุดแข็งและวิธีการต่อสู้ของกันและกัน
ซาคุโมะนั้นมีความแข็งแกร่งโดยรวมมากกว่าเล็กน้อยแต่ความสามารถของย่าโจที่ใช้จักระเพื่อควบคุมหุ่นเชิดนั้นไม่สามารถมองข้ามได้เลย
เธอยังเป็นนินจาระดับคาเงะเชี่ยวชาญการใช้หุ่นเชิดจนซาคุโมะแทบไม่สามารถโจมตีเธอได้
ในอีกด้านหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือการต่อสู้ของจิไรยะกับคาเซคาเงะรุ่นที่4
ราเสะนั้นมีพลังขีดจำกัดทางสายเลือดเป็นแม่เหล็กในมังงะไม่ได้บอกว่าเขามีวิชาอะไรแต่จากที่เรียวสังเกตแล้วเขาน่าจะมีจักระธาตุลมและสายฟ้า
คนที่แข็งแกร่งพอๆกับระดับคาเงะจะต้องมีมากกว่าความสามารถในการใช้ธาตุสำหรับหัวกะทินั้นต้องมี2ธาตุขึ้นไป
โดยรวมแล้วคาเสะคาเงะรุ่นที่4ก็ไม่มีข้อยกเว้นเขาใช้พลังแม่เหล็กโดยใช้จักระธาตุสายฟ้าและลมรวมกัน
จิไรยะนั้นมีความเข้าใจในวิชานินจาและรู้เกี่ยวกับวิชานินจาเป็นจำนวนมากเขาสืบทอดความเชี่ยวชาญของโฮคาเงะรุ่นที่3ที่มีทักษะไร้ที่ติ
มันยากที่จะทำนายผลลัพธ์ของการต่อสู้จิไรยะนั้นเชี่ยวชาญเรื่องจักระธาตุต่างๆและธาตุธรรมชาติแต่คาเสะคาเงะรุ่นที่4เองนั้นก็ไม่ได้ธรรมดาเช่นกัน
“ชั้นไม่คิดว่าลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่3จะเป็นนินจาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ถ้าเราต่อสู้ที่อื่นมันคงไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะนาย”ราสะกล่าวออกมา
“โอ้นายหมายความว่าตั้งแต่ที่พวกเราอยู่ในทะเลทรายนายจะเอาชนะชั้นยังไงก็ได้สินะ?”จิไรยะสามารถวัดระดับความสามารถของศัตรูระหว่างต่อสู้ได้และเขารู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะราสะได้โดยง่ายยกเว้นเขาจะใช้โหมดเซียน
“ไม่ใช่ว่านายมีตระกูลฮิวงะที่มีเนตรสีขาวงั้นเหรอ?พวกเขาไม่เห็นว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในทะเลทราย?”ราสะควบคุมทรายก่อนที่จะพุ่งไปยังจิไรยะ
“นายควบคุมทรายได้?เป็นร่างสถิตย์สัตว์หางงั้นเหรอ?ไม่ใช่นายไม่ได้ผนึกหนึ่งหางไว้ในร่างกายของนาย”จิไรยะไม่ได้สนใจกับทรายที่เคลื่อนเข้าหาเขามากนักและสร้างกำแพงดินขึ้นมาเพื่อป้องกัน
“อะไรกัน!?”กำแพงดินของจิไรยะถูกฟังโดยง่ายโดยทรายของราสะจิไรยะเหมือนกับกำลังจะพ่ายแพ้หลังจากที่ทรายได้เข้ามาโจมตีเขา
“จิไรยะมันจบแล้ว!”คาเสะคาเงะรุ่นที่4ประกาศชัยชนะออกมาและพร้อมที่จะรุกฆาตจิไรยะในทันที
เมื่อจิไรยะได้รับบาดเจ็บเขาก็หยิบหินฟื้นฟูของเรียวขึ้นมาก่อนที่จะกระตุ้นใช้มันคาเสะคาเงะรุ่นที่4ใช้คาถาลมระดับBเป็นจำนวนมากพุ่งเข้าโจมตีจิไรยะแต่ด้วยที่จิไรยะมีหินฟื้นฟูอยู่เขาจึงสามารถควบคุมความเสียหายได้และจิไรยะก็สามารถหลบระเบิดลมครั้งใหญ่ของคาเสะคาเงะรุ่นที่4ได้
“คาถาอัญเชิญ”จิไรยะต้องการเวลาเล็กน้อยในการักษาบาดแผลของตนเองกามะบนตะจะมาช่วยเขายื่อราสะเอาไว้
“กามะบนตะระวังนะเจ้าหมอนี้แข็งแกร่งมาก!”จิไรยะเอ่ย
“ชั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนนายสักหน่อย”กามะบุนตะพูดออกมาสิ่งที่เขาพูดนั้นล้วนไม่ห่างจากความจริงมากเท่าไหร่คาเสะคาเงะได้เพิ่มความระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นประสบการณ์การต่อสู้เป็นเวลาหลายปีทำให้เขาเข้าใจว่าจิไรยะมีอะไรที่พิเศษ
“วิชาอัญเชิญงั้นเหรอนึกว่าเป็นข่าวเลือซะอีกกบแดงยักษ์!”
ในสนามรบนินจาโคโนฮะที่เห็นจิไรยะได้รับบาดเจ็บก็พลังใจเริ่มถดถอยแต่หลังจากที่พวกเขาเห็นกามะมุนตะพวกเขาก็เริ่มมีกำลังใจอีกครั้ง
เรียวนำทีมของเขาเข้าไปรักษานินจาโคโนฮะที่โดนพิษและบาดเจ็บในขณะที่ตัวเองแอบเข้าสนามรบไปอย่างเงียบๆ
โคโนฮะอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถชนะได้เลยเป็นความจริงที่ว่าระดับพลังโดยรวมของนินจาของโคโนฮะนั้นเหนือกว่าของของหมู่บ้านทรายเหมือนกับที่ซาคุโมะกล่าวเอาไว้ในสภาพแวดล้อมนี้ทั้งสองฝ่ายมีความแข็งแกร่งเกือบเท่ากัน
ในแง่ของตัวเลขโคโนฮะมีทีมแพทย์ของพวกเขาพร้อมลงสนามรบตลอดเวลานินจาสายต่อสู้มากกว่า8000แต่หมู่บ้านทรายนั้นมีนินจากว่า12,000คน
เรียวเข้าใจแจ่มแจ้งว่าหากจิไรยะหรือซาคุโมะแพ้ละก็กองทัพของโคโนฮะจบเห่แน่
เมื่อครู่เขาพึ่งเห็นจิไรยะทำการ[อัญเชิญ]กามะบนตะขึ้นมาในสนามรบเขาคิดว่าเขาก็จะอัญเชิญกามะฮิโระมาบ้างถึงแม้จะไม่ช่วยให้ชนะคาเสะคาเงะรุ่นที่4ได้แต่ก็สามารถซื้อเวลาให้จิไรยะได้มีเวลาฟื้นฟูบาดแผลของตนเอง
มันไม่มีทางที่เรียวจะนั่งอยู่เฉยๆแล้วมองกองทัพของโคโนฮะพ่ายแพ้ไปแบบนี้เขาต้องต่อสู้เพื่อประโยชน์ของพันธมิตรอิโนะ-จิกะ-โจและสู้เพื่อจิไรยะ
เมื่อเขาเข้ามาสู่สนามรบแล้วเขาก็เห็นจิไรยะถูกคาเสะคาเงะใช้ทรายฝั่งเข้าเอาไว้เขาเปิดใช้งานเนตรวงแหวนก็พบจิไรยะที่มีแต่หัวโผล่ขึ้นมาจากทรายสองมือประสานกันเรียวรู้เลยว่าจิไรยะกำลังพยายามเข้าสู่โหมดเซียน
ฝุ่นทองของราสะนั้นสามารถสร้างทรายที่มีส่วนผสมของทองด้วยเหตุนี้มันจึงหนักกว่าและเป็นอันตรายมากกว่าทรายทั่วไปกามะบุนตะไม่มีทางที่จะเอาชนะการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ดังนั้น
“คาถาอัญเชิญ!”
นอกสนามรบนั้นได้มีควันขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเรียวได้อัญเชิญกามะฮิโระ
“ฮิโระช่วยจัดการพวกนินจาทรายที่!”เรียวพูดออกมา
“เยี่ยม”กามะฮิโร่เป็นพวกบ้าการต่อสู้เขาคันไม้คันมือมานานแล้ว
เขาเหมือนหมาป่าท่ามกลางฝูงแกะเขาได้ชักดาบสั้นคู่นึงของเขาก่อนที่จะฟันมันใส่นินจาทรายเหล่านินจาทรายที่เห็นการปรากฏตัวของกามะฮิโระนั้นก็ต่ำนตระหนกงัดวิชานินจาทุกชนิดใส่กบตัวนี้ในทันที
อย่างไรก็ตามเรียวได้เข้าสู่โหมดจักระน้ำแข็งสายฟ้าทุกการกระพริบตาเขาจะใช้ใบมีดจักระของเขาปาดคอหอยของพวกนินจาทรายแล้วหลบพวกวิชานินจาเป็นบางครั้ง
คาเสะคาะเงะรุ่นที่4ได้รู้สึกถึงตัวตนของเรียวและกามะฮิโระแล้วพวกเขาทั้งสองคนได้สังหารโจนินไป4คนและจูนนอีกจำนวนมาก
เขาไม่สามารถที่จะปล่อยให้เรียวนั้นฆ่านินจาทรายของเขาราวกับฆ่ามดหรีอนี้จะเป็นนินจาลึกลับซึ่งอยู่ในระดับคาเงะราสะได้ละการโจมตีจากจิไรยะจากนั้นก็พุ่งเข้าไปโจมตีเรียวในทันที
“จะไปแล้วเหรอ?ไม่ต้องห่วงเดี่ยวชั้นจัดการนายเอง!”จิไรยะที่เข้าสู่โหมดเซียนเรียบร้อยก็พูดออกมาเขาไม่มีทางให้ราสะไปโจมตีเรียวเด็ดขาด
“เป็นครั้งแรกที่เธออัญเชิญพวกเรามาทำไมมันถึงเละตุ้มเป๊ะขนาดนี้?”ชิมะที่ถูกอัญเชิญบ่นออกมาทันที
“แม่จำดูเหมือนว่าจิไรยะจังจะไม่ทางเลือกอื่นแล้วนะไม่ต้องโกรธไปหรอกแล้วจิไรยะจังใครเป็นคู่ต่อสู้ของเธอกันละ?ทำไมเธอถึงต้องอัญเชิญพวกเราทั้งสองคนมาด้วย?”ฟุคาซากุพูดออกมา
“หัวหน้าท่านชิมะขอโทษนะครับตอนนี้ผมกำลังเผชิญหน้ากับคาเสะคาเงะรุ่นที่4อยู่ผมไม่สามารถเอาชนะเขาได้ถ้าพวกท่านไม่ช่วยเหลือผม”จิไรยะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ในที่ขณะทั้ง3กำลังคุยกันอยู่ราสะถือโอกาศนี้โจมตีจิไรยะทันทีดูเหมือนเขาจะกังวลว่าเรียวจะสังหารนินจาฝ่ายเขาไปมากเท่าไหร่เขาจึงต้องรีบจัดการจิไรยะให้ได้ซะก่อน
ทรายทองกลายเป็นคลื่นและพุ่งไปยังทางจิไรยะอย่างรวดเร็ว
“ทรายนี้มีทองคำอยู่ในนั้นหรือ”ฟุคาซาคุสามารถสัมผัสได้ทันที
จิไรยะใช้กำแพงดินอีกครั้งแต่คราวนี้มันอัดแน่นไปด้วยจักระเซียนที่เพิ่มความแข็งแกร่งของมันอย่างมากดังนั้นมันจึงสามารถที่จะกันฝุ่นทองของราสะได้
คาเสะคางะรุ่นที่4มองไปยังจิไรยะด้วยความตกตะลึงเขาสังเกตเห็นกบ2ตัวที่อยู่บนไหล่ของจิไรยะเขารีบประสานอินเพื่อล้อมกรอบจิไรยะในทันที
“[หลุมศพทราย!][พิธีศพทะเลทราย!]”แรงกดดันมหาศาลที่เกิดขึ้นจากทรายทำให้จิรายาประสบปัญหา
“จิไรยะจังใช้น้ำมันเยอะๆ!”ชิมะพูดออกมา
“[คาถาเซียนโกะซาเอม่อน]!”ทองคำรอบๆตัวของจิไรยะเริ่มละลายเนื่องจากมีอุณหภูมิที่สูงมากและเม็ดทรายก็เป็นผลึกใสทึบ