Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 143 สามกองทัพใหญ่ในอนาคต! (3)
ในขณะที่กล่าวเช่นนั้
น โจวเหว่ยชิงก็ยัดแก่นพลังสวรรค์ประมาณ
สิบกว่าชิ
้
นใส่มือของหม่าฉุน จากนั
้
นเขาก็เอื้อมมือไปที่อกอีกครั้
งและ
หยิบอีกหนึ่งกํามือ… หลังจากที่นําออกมาประมาณร้อยชิ้
นหรือมากกว่า
นั
้
น ในที่สุดเด็กหนุ่มก็หยุดมือ
หม่าฉุนและอู่หยาไม่คุ้นเคยกับแก่นพลังสวรรค์มากนัก พวกเขาจึง
รู้สึกเพียงว่าแก่นพลังสวรรค์เหล่านี้ค่อนข้างงดงาม อย่างไรก็ตาม ซ่าง
กวนเฟยเอ๋อร์ซึ่งนั่
งอยู่บนหลังม้ากลับตกตะลึงไปโดยสิ้
นเชิง
แก่นพลังสวรรค์ทั้
งหมดที่โจวเหว่ยชิงนําออกมา อย่างน้อยก็เป็น
ระดับเทวะ บางส่วนมาจากระดับราชาสวรรค์ยิ่
งไปกว่านั้
น มีตัวใหญ่ 2
ชิ
้
นที่ดูเหมือนจะมาจากอสูรสวรรค์แข็งแกร่งยิ่
งกว่านั
้
น!
แต่ละชินถือเป็นสมบัติล�าค่า!
้ โจวเหว่ยชิงร�ารวยเช่นนี้ตั้
งแต่
เมื่อไหร่? ที่สําคัญกว่านั้
น ในบรรดาแก่นพลังสวรรค์ทั้
งหมด มีบางส่วน
ที่เป็นเป้าหมายในการเข้าสู่สวรรค์หมื่นอสูรของพวกเขาด้วย
“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่
งรีบไป” ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก้าวไปข้างหน้าอย่าง
รวดเร็ว เลือกแก่นพลังสวรรค์ระดับราชาสวรรค์และระดับที่สูงกว่านั้
น
ออกอย่างรวดเร็ว
“เจ้ากําลังทําอะไรน่ะ?” โจวเหว่ยชิงถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
และหญิงสาวก็จ้องมองเขาอย่างโกรธเคืองพลางกล่าวว่า “เจ้ากําลัง
พยายามจะฆ่าพวกเขาหรือ? รู้หรือไม่ว่าแก่นพลังสวรรค์เหล่านี้มีมูลค่า
เท่าใด? ของที่เหลือก็มากเกินพอแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็หลายสิบล้าน
หรืออาจจะมากกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญทอง ถ้าพวกเขาพยายามจะ
ขายของที่ข้าเพิ่
งหยิบออกไปจริงๆ นั่
นก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย เจ้า
ไม่รู้หรือว่าคนบริสุทธิ์
มีปัญหาได้เพียงแค่มีทรัพย์สมบัติมากเกิน ไป?
อย่างไรก็ตาม เจ้าได้แก่นพลังสวรรค์พวกนี้มาจากไหน?”
โจวเหว่ยชิงยิ้
มและพูดว่า “หึๆ เจ้ายังต้องถามอีกหรือ? แน่นอนว่า
มาจากอาจารย์ของข้า… อ่า…รู้สึกดีมากจริงๆที่มีอาจารย์! ฮ่าๆๆ พวก
เจ้าทุกคนก็จะได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้เช่นกัน”
เมื่อได้ยินคําพูดของโจวเหว่ยชิง หม่าฉุนก็เก็บรักษาแก่นพลัง
สวรรค์ไว้อย่างรวดเร็ว การแสดงออกบนใบหน้าฉายชัดว่า ‘ข้าจะเก็บ
พวกนี้ไว้ไม่ให้คืนหรอก’ ด้วยรูปร่างที่สูงตระหง่านของเขา ชายหนุ่มจึง
ดูดีมาก แม้จะดูตัวยักษ์ทึมทื่อและใสซื่อกว่าโจวเหว่ยชิง แต่ความเจ้า
เล่ห์ของเขาก็ไม่น้อยไปกว่าอีกฝ่ายเช่นกัน อู่หยากลอกตามองเขา แต่
เธอก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร
แต่สิ่
งที่โจวเหว่ยชิงพูดก็เป็นความจริง…การมีอาจารย์เป็น
ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก! แม้ว่าเขาจะมีอาจารย์อีกสองคนคือมู่เอิน
และฮูเหยียนเอ้าป๋อ แต่อาจารย์สองคนนี้ก็ไม่ใช่จ้าวมณีสวรรค์สิ่
งที่
พวกเขาสอนจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝึกปราณ
นับตั
้
งแต่ที่มณีสวรรค์ของโจวเหว่ยชิงตื่นขึ้
นมา อาจกล่าวได้ว่า
เกือบทุกขั
้
นตอนการฝึกฝนของเขามาจากการทดลองของตนเอง วิชา
เทพอมตะ ศาสตรามณียุทธ์การกักเก็บทักษะ แม้กระทั่
งการใช้ทักษะ
สถานะปีศาจกลายร่างหรือทักษะกลืนกิน ทั
้
งหมดนี้ได้ถูกบ่มเพาะขึ
้
น
อย่างช้าๆหลังการลองผิดลองถูก ในสถานการณ์การต่อสู้จริง และผ่าน
ความเป็นความตายอีกนับไม่ถ้วน ค่อยๆพัฒนาขึ
้นในช่วงหลายปีที่ผ่าน
มา โจวเหว่ยชิงไม่เคยเรียนรู้อย่างเป็นระบบระเบียบมาก่อน ในเรื่องนี้
เขาย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบกับสมาชิกของมหาดินแดนศักดิ์
สิทธิได้ ์
พรสวรรค์ของโจวเหว่ยชิงนั้
นโดดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย ทั
้
งยัง
ได้รับการยกย่องอย่างล้นหลามในหลายๆด้าน กระนั
้
น มันก็เป็น
พรสวรรค์อันน่าเหลือเชื่อเดียวกันนี้ที่ซุกซ่อนข้อบกพร่องเอาไว้
มากมาย การที่จ้าวมณีสวรรค์เรียนรู้ด้วยตนเอง ล้มลุกคลุกคลานโดย
ไม่ได้ร�าเรียนหรือสืบทอดวิชามาจากที่อื่น เช่นนี้ทุกคนย่อมสามารถ
จินตนาการได้แล้วว่ามันจะยากเย็นแค่ไหน แม้โจวเหว่ยชิงจะไม่ได้
แสดงปัญหาใดๆให้เห็นจนถึงตอนนี้แต่ก็เหมือนกับที่หลงซื่อหยาได้
อธิบายไว้ก่อนหน้า เนื่องจากระดับพลังปราณของเขาจะต้องเพิ่
มขึ
้
น ใน
ที่สุดมันก็จะเริ่
มรบกวนเขา การมีทักษะ 72 ทักษะเป็นสิ่
งที่ไม่มีจ้าวมณี
สวรรค์ธรรมดาคนใดสามารถจินตนาการได้และหากโจวเหว่ยชิง
พยายามฝึกฝนพวกมันให้เชี่ยวชาญทั้
งหมดจริงๆ เขาก็จะไม่มีทางไป
ถึงจุดสูงสุดของจ้าวมณีสวรรค์ได้ในชีวิตนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม เวลานี้แตกต่างไปจากเดิมเมื่อมีหลงซื่อหยา หกสุด
ยอดมหาราชาสวรรค์อยู่ในฐานะอาจารย์ของเขา ชายที่เคยผ่าน
ขั
้
นตอนล้มลุกคลุกคลานและสร้างรูปแบบการฝึกใหม่ของตัวเองขึ
้
นมา
เป็น 100 ปีของการสั่
งสมความสามารถที่แท้จริง การตรากตรําและ
ทํางานหนักทําให้เขาประสบความสําเร็จในวันนี้หลงซื่อหยารู้ดีว่าการ
เป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่ฝึกฝนด้วยตนเองนั้
นยากเย็นเพียงใด รวมถึง
เส้นทางคดเคี้ยวมากมายที่พวกเขาอาจต้องเดินข้ามผ่าน นอกจากนี้
เช่นเดียวกับโจวเหว่ยชิง เขามี6 ทักษะธาตุและชุดในตํานานที่มีต้น
กําเนิดมาจากนิกายมรดกแห่งจ้าวผู้แข็งแกร่งเหมือนกัน ไม่ต้องสงสัย
เลยว่าเขาเป็นคนที่เหมาะจะเป็นอาจารย์สอนโจวเหว่ยชิงที่สุดในโลก!
แม้ว่าหลงซื่อหยาจะยังไม่ได้เริมสอนและชี้แนะโจวเหว่ยชิงอย่างจริงจัง ่
แต่แน่นอนว่าเมื่อเริ่
มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว มันจะต้องมีประโยชน์
ต่อจ้าวมณีน้อยผู้นี้อย่างมาก
ท่ามแสงสว่างเรืองรอง โจวเหว่ยชิงยิ้
มน้อยๆ และพูดว่า “หม่าฉุน
อู่หยา เจ้าสองคนระวังตัวด้วย เช่นเดียวกับที่เฟยเอ๋อร์พูด อย่าเปิดเผย
ความมั่
งคั่
งของเจ้าง่ายๆ ทุกครั
้
งที่ขายแก่นพลังสวรรค์เหล่านี้อย่าขาย
มากเกินไปในครั้
งเดียวหรือขายในที่เดียวกัน ขายเพียงไม่กี่ชินก็ใช้ได้ ้
แล้ว ส่วนที่เหลือเจ้าสามารถมอบให้ผู้อาวุโสของเจ้านําไปใช้นี่ยังเป็น
การเพิ่
มความมั่
นใจกับพวกเขาด้วย ข้าคิดว่าไม่จําเป็นต้องพูดอะไรอีก
เชื่อว่าเจ้าทั้
งคู่จะสามารถโน้มน้าวชาวเผ่าของเจ้าได้ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่
ถ้าเจ้าสองคนไม่กลับมา ข้าก็จะไม่จากไป ดังนั
้
นไม่ว่าเจ้าจะกลับมา
หรือไม่โปรดส่งจดหมายมาให้ข้าด้วยล่ะ”
หม่าฉุนหัวเราะและทุบหน้าอกของตัวเองอย่างมั่
นใจขณะที่กล่าว
“แน่นอนว่าเราจะกลับมาอีก ข้ายังต้องเรียนรู้จากพี่ใหญ่หลินอีก เพื่อ
เดินไปตามเส้นทางโล่ประสานศาสตรามณียุทธ์ของข้าต่อไป นี่อาจเป็น
ศึกชี้ชะตาสําหรับเรา หากเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด อู่หยากับข้าก็
สามารถหนีมาหาท่านได้เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ” หลังจากพูดแบบ
นั
้
น เขาก็เลี้ยวม้ากลับ ทั
้
งเขาและอู่หยาพลันมุ่งหน้าไปทางอื่น ทั
้
งสอง
คนมีป้ายกองทัพที่โจวเหว่ยชิงมอบให้และมันก็จะทําให้พวกเขาผ่าน
ด่านได้โดยไม่มีปัญหา ถึงอย่างไรมันก็เป็นแผ่นป้ายจากผู้บัญชาการ
กองทหารเซินจี้จะมีปัญหาอะไรได้อีก?
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เฝ้ามองดูพวกเขาจากไป จากนั
้
นเธอก็จับแขน
ของโจวเหว่ยชิงและเอ่ยอย่างดุร้าย “อ้วนน้อย มาให้ข้าดูว่าเจ้าได้อะไร
จากอาจารย์ของเจ้าบ้าง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าไม่ต้องการเดินทางไป
ยังสวรรค์หมื่นอสูรอีกต่อไป อย่าบอกนะว่าเจ้ามีแก่นพลังสวรรค์ที่เป็น
วัตถุดิบเพียงพอแล้ว?”
โจวเหว่ยชิงหยิบถุงมิติออกมาจากอกของเขาด้วยท่าทีสบายๆ
ผลักมันไปที่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์และพูดว่า “ดูด้วยตัวเองเถิด”
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มองไปยังถุงมิติอย่างสงสัย ก่อนที่จะหมุนเวียน
พลังปราณสวรรค์ของเธอเข้าไปภายในเพื่อตรวจสอบดูทันทีที่ทํา
เช่นนั
้
น เธอก็ตกใจจนเกือบจะโยนถุงมิติทิ้
ง
หลินเทียนอ้าวยืนอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของโจวเหว่ยชิง นิ่
งเงียบแต่
กลับยิ
้
มน้อยๆ ด้วยนิสัยที่มั่
นคงไม่วอกแวกของชายหนุ่ม แม้ว่าพวกเขา
จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน แต่เขาก็มักจะวางตําแหน่งตัวเองในฐานะ
ผู้ติดตามของโจวเหว่ยชิงเสมอ เด็กหนุ่มได้ลบพิธีเลือดตราประทับธาตุ
มืดทิ้
งไปแล้ว แต่ในใจของเขา ตราประทับนั
้
นจะไม่มีวันถูกลบออกไป
“ นะ…นี่…อ้วนน้อย หกสุดยอดมหาราชาสวรรค์มอบทั้
งหมดนี้ให้
เจ้า…?!” ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์พูดติดอ่างและสูญเสียความสงบไปโดย
สิ
้
นเชิง
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่! หากข้ามีสิ่
งเหล่านี้แต่แรก
ข้าจะยังต้องขบคิดวางแผนไปสวรรค์หมื่นอสูรกับเจ้าอีกหรือ?”
“ใจกว้าง…ใจกว้างจริงๆ…ข้าไม่เคยพบเคยเห็นอาจารย์ที่ใจกว้าง
ขนาดนี้มาก่อน เหว่ยชิง ครั
้
งนี้เจ้าโชคดีเกินไปแล้ว! ข้าไม่สามารถบอก
จํานวนแก่นพลังสวรรค์ได้ด้วยการมองเพียงครั้
งเดียวด้วยซ�า ภูเขากอง
พะเนินพวกนี้…อาจารย์ของเจ้าปล้นขุมทรัพย์พวกนี้มาจากภูเขาหิมะ
สวรรค์หรือ? ถ้าเจ้าขายแก่นพลังสวรรค์ทั้
งหมดนี้เจ้าจะได้รับเงิน
จํานวนมหาศาล…ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะประเมินมูลค่าของมันได้”
โจวเหว่ยชิงถอนหายใจเบาๆและพูดว่า “อาจารย์ของข้าบอกว่า
เขาจะไม่ช่วยข้าทําอะไรเลย เขาจะแนะนําและสั่
งสอนข้าเท่านั
้
น ความ
ตั
้
งใจของเขาคือการที่ข้าทําทุกอย่างให้สําเร็จด้วยตัวเอง และมีเพียงแค่
ทําเช่นนั
้
น ข้าจึงจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งท่ามเส้นทางขรุขระของ
ชีวิต อย่างไรก็ตาม แม้อาจารย์จะพูดอย่างนั้
น แต่เขาก็ช่วยข้ามาก
เกินไปแล้ว ถุงมิติแก่นพลังสวรรค์ชิ้
นนี้เพียงอย่างเดียวก็ช่วยแก้ปัญหา
ของเราได้หลายอย่าง แต่ข้าจะส่งต่อสิ่
งนี้ให้เจ้าเก็บไว้รอใช้งานเมื่อ
กลับไปถึงกองพันไร้พ่าย ข้าจะต้องใช้เวลามุ่งสมาธิไปที่การฝึกฝนสิงที่ ่
อาจารย์สอนสักพัก และนั่
นก็ป็นสิ่
งที่ข้าต้องให้ความสนใจที่สุด
ในตอนนี้เจ้าสามารถนําสิ่
งของจําเป็นจากถุงมิติไปทํายาและช่วยพี่
น้องกองพันไร้พ่ายของเราปลุกมณีพลังของพวกเขาได้ทันที”
“กองพันไร้พ่ายของเราไม่ได้มุ่งเพิ่
มจํานวน แต่มุ่งเสริมพลังให้
แข็งแกร่งอย่างแท้จริง มีเพียงนักรบระดับสูงที่ได้รับการหล่อหลอมจาก
เปลวไฟสงครามเท่านั้
นที่จะกลายเป็นยอดฝีมือ ถ้าหม่าฉุนและอู่หยา
กลับมาพร้อมกับเผ่าของพวกเขาสําเร็จ ด้วยนักรบเผ่ากวางหิมะและ
พลธนูกองพันไร้พ่ายของเรา นี่จะเป็นกองทัพที่ยิ่
งใหญ่มาก ทั
้
งยัง
ครอบคลุมการโจมตีทุกประเภท ด้วยคนเพียงไม่กี่พันคนเหล่านี้ข้า
มั่
นใจว่าจะเราจะสั่
นสะเทือนอาณาจักรป่ายต้าได้”
ในขณะที่พูดถึงจุดนั้
น แสงเยียบเย็นก็ผุดขึ้
นมาในดวงตาของโจว
เหว่ยชิง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เดินทางไปยังสวรรค์หมื่นอสูรตามแผน
เดิม แต่ความมั่
นใจของเขาก็เพิมขึ ่ ้
นอย่างมาก ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้อยู่
ตัวคนเดียวอีกต่อไป และตอนนี้เขาก็เริ่
มสร้างกองทัพของตัวเองขึ
้
น
มาแล้ว
ทั
้
งสามคนกลับไปที่กองพันไร้พ่ายอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่เขา
กล่าวไว้ในแผนก่อนหน้านี้โจวเหว่ยชิงได้นําแก่นพลังสวรรค์ออกมา
ส่วนเล็กๆ และส่งต่อที่เหลือให้ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์นอกจากวัตถุดิบที่
จําเป็นสําหรับตัวยาปลุกพลังมณีประจํากายแล้ว เธอยังส่งต่อแก่นพลัง
สวรรค์ที่มีประโยชน์น้อยกว่าให้หลินเทียนอ้าวนําไปขายเป็นเงินสํารอง
หากกองพันไร้พ่ายต้องการเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาก็สามารถนําเงินเหล่านั้
น
มาใช้ได้ถึงอย่างไรแก่นพลังสวรรค์ระดับสูงเช่นนี้ก็มีราคาแพงมาก
เสมอไม่ว่าจะขายในอาณาจักรใดก็ตาม
…
หนึ่งเดือนต่อมา
ณ วังสวรรค์ไพศาล
“น่าขันนัก! เฟยเอ๋อร์จะหนีไปกับโจวเหว่ยชิงได้อย่างไร ไม่น่า
แปลกใจเลยที่เราไม่พบนางที่ไหนเลย” ซ่างกวนเทียนเยว่พูดอย่าง
ฉุนเฉียว
ซ่างกวนเทียนหยางได้กลับเข้าสู่การฝึกแบบปิดประตูแล้ว และ
ปัจจุบันซ่างกวนเทียนเยว่ก็มีสถานะเป็นผู้ดูแลวังสวรรค์ไพศาลทั้
งหมด
จ้านหลิงเทียนคุกเข่าข้างหนึ่งอย่างเคารพต่อหน้าซ่างกวนเทียน
เยว่ แต่การแสดงออกของเขาเหมือนบ่อน�าไร้ระลอกคลื่น ยังคงนิ่
งสงบ
และไม่ยินดียินร้าย
เขาใช้เวลาทั้
งเดือนกว่าจะกลับมาถึงวังสวรรค์ไพศาล และนั่
นก็
เห็นได้ชัดว่านั่
นเกินความจําเป็นไปมาก ความจริงเขาตั
้
งใจทําโดยมี
จุดประสงค์แอบแฝงจึงไม่รีบร้อนที่จะกลับมา หรืออาจกล่าวได้ว่าเขา
ทําเพื่อซื้อเวลาให้กับซ่างกวนเฟย เอ๋อร์
ความคิดของจ้านหลิงเทียนนั
้
นตรงไปตรงมา เขาต้องการสร้าง
โอกาสให้กับโจวเหว่ยชิงและซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เพื่อให้ความสัมพันธ์
ของพวกเขาแน่นแฟ้นยิงขึ ่ ้
น ด้วยวิธีนี้เมื่อโจวเหว่ยชิงมีความสัมพันธ์
กับทั
้
งซ่างกวนปิงเอ๋อร์และซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เขาจะไม่ได้มีโอกาสมายุ่ง
เกี่ยวกับเสว่เอ๋อร์ของตัวเอง
สําหรับความรู้สึกที่มีต่อโจวเหว่ยชิง หลังจากการเดินทางข้าม
พรมแดนทางเหนือครั
้
งนี้จ้านหลิงเทียนก็เข้าใจอีกฝ่ายมากยิ่
งขึ
้
น แม้ว่า
เด็กหนุ่มจะไม่ได้หล่อเหลาเป็นพิเศษ แต่เขาก็มีเสน่ห์ในตัวเองอย่างน่า
ประหลาดและสามารถดึงดูดทุกคนรอบตัวให้เข้ามาหาได้โดยเฉพาะ
อย่างยิ่
งเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับหานเทียนโหยว โจวเหว่ยชิงพยายาม
ใช้ความเยือกเย็นและพลิกลิ้
นของเขาเจรจาให้คนทั้
งหมดหลุดออกจาก
สถานการณ์จนตรอกได้และในที่สุดก็ยังกลายเป็นศิษย์ของหกสุดยอด
มหาราชาสวรรค์…ทั้
งหมดนั
้
นรวมเข้าด้วยกันทําให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่และ
แข็งแกร่งยิ่
งขึ
้
น จ้านหลิงเทียนสามารถคาดเดาได้ว่าในบรรดาคนรุ่น
เยาว์ทั่
วทั
้
งดินแดน โจวเหว่ยชิงจะเป็นคู่แข่งที่ยิ่
งใหญ่ที่สุดของตนเอง
อย่างแน่นอน บางทีอาจเป็นคนที่เขาไม่สามารถเทียบเคียงได้ด้วยซ�า
แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่มีเจตนาร้ายต่อโจวเหว่ยชิงอีกแล้ว แต่เขาก็ยัง
ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายมีโอกาสทําความสนิทสนมกับซ่างกวนเสว่เอ๋อร์จะ
เกิดอะไรขึ้นถ้าซ่างกวนเสว่เอ๋อร์เป็นเหมือนน้องสาวทั้
งสองของตนเอง
และเกิดความรู้สึกบางอย่างกับโจวเหว่ยชิงหลังจากได้ติดต่อใกล้ชิดกับ
เขา? เช่นนั
้
นเขาจะทําอะไรได้?
ย้อนกลับไปในปัจจุบัน การแสดงออกของซ่างกวนเทียนเยว่นั
้
นดู
ขุ่นมัวและบูดบึ
้
ง เขากําลังเดินวนไปรอบๆ คราวนี้ซ่างกวนเทียนหยาง
ได้เข้าสู่การปิดประตูฝึกปราณอีกครั้
งเพื่อพยายามฝ่าด่านระดับเทพ
เจ้าสวรรค์แม้ว่าโอกาสในการประสบความสําเร็จจะไม่สูงนัก แต่ก็ยังมี
ความหวังที่พวกเขายึดมั่
นอยู่เสมอ
สําหรับโจวเหว่ยชิง ซ่างกวนเทียนเยว่ไม่รู้ว่าคิดอย่างไรกับเด็ก
หนุ่มดีทว่าสายตาของเขาก็มองการณ์ไกลกว่าจ้านหลิงเทียนมาก ทั
้
งยัง
รอคอยที่จะคว้าโอกาสนําโจวเหว่ยชิงเข้าสู่วังสวรรค์ไพศาลมาโดย
ตลอด
……………………………………………