Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 139 พลิกฝ่ามือควบคุมเมฆ หมุนฝ่ามือบังคับฝน![1] (1)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 139 พลิกฝ่ามือควบคุมเมฆ หมุนฝ่ามือบังคับฝน![1] (1)
อันที่จริงความลับที่ยิ่
งใหญ่ที่สุดของโจวเหว่ยชิงในลูกศรดอกที่ 6
คือจักรพรรดิสีเงินที่กําลังซ่อนตัวอยู่ ด้วยแสงไฟอันทรงพลังจากทักษะ
กระชากมิติถั่
วแดงน้อยจึงสามารถปกปิดตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในฐานะที่เป็นอสูรสวรรค์ระดับเทวะขั้
นสูง เมื่อมันจงใจปกปิดตัวเอง
เป็นพิเศษ และรวมกับความจริงที่ว่าหานเทียนโหยวกําลังเสียสมาธิ
ดังนั
้
นแม้จะเป็นประสาทสัมผัสอันเฉียบคมของจ้าวมณีสวรรค์ระดับ
ราชา เขาก็ยังไม่รู้ว่าถั่
วแดงน้อยซ่อนอยู่ด้านหลังลูกศรดอกนี้
ทักษะกระชากมิติเพียงชนิดเดียวของโจวเหว่ยชิงคงไม่สามารถ
ทะลุผ่านโล่เมฆาเพลิงเข้าไปได้แต่ถ้ามันถูกเพิมเข้าไปในทักษะผสาน ่
ของจักรพรรดิสีเงินอย่างทักษะกระชากมิติสีเงินล่ะ? แม้โล่เมฆาเพลิง
บริเวณนั
้
นจะถูกใส่พลังเข้ามาจนเต็มที่ ทว่าก็ยังมีโอกาสใช้2 ทักษะ
ทะลวงผ่านไปได้นับประสาอะไรกับการจู่โจมกะทันหันตรงจุดที่
อ่อนแอ
แสงสะท้อนสีเงินทะลุผ่านเข้ามาทางด้านขวาและ ณ จุดนี้แม้ว่า
หานเทียนโหยวต้องการที่จะปลดปล่อยเกราะป้องกันเทพเจ้าอื่น
ออกมาก็สายเกินไปแล้ว การโจมตีครั้
งนี้ทําให้เขารู้สึกถึงภัยคุกคามถึง
ชีวิต พลังที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังจักรพรรดิสีเงินนั้
นร้ายแรงเกินไป
ในช่วงวิกฤตระหว่างความเป็นความตายนั้
นเอง หานเทียนโหยวก็
แสดงพลังในฐานะจ้าวมณีสวรรค์ระดับราชาสวรรค์ออกมา การจู่โจม
นั
้
นมุ่งไปที่บริเวณซี่โครงของเขา และในจังหวะนั้
น ชายชราก็ตอบสนอง
อย่างรวดเร็วด้วยการสูดหายใจเข้าลึก ทําให้บริเวณหน้าอกของเขายุบ
เป็นหลุมเข้าไป พลังปราณสวรรค์พลันระเบิดออกมา อวัยวะภายใน
ของเขาก็ถูกดันลงไปที่บริเวณหน้าท้องอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกัน
มือขวาของหานเทียนโหยวก็ตบลงไปที่หน้าอกของตนเอง
เมื่อรู้ว่าสายเกินไปที่จะสกัดกั้
นการโจมตีสิ่
งเดียวที่เขาทําได้คือลด
ความเสียหายที่ได้รับจากทักษะกระชากมิติสีเงินให้เหลือน้อยที่สุด
*แคร่ก* *ตูม*
เสียงนั
้
นรวมเข้ากับฝนหมอกเลือด ตามด้วยเสียงดังจากฝ่ามือของ
หานเทียนโหยวที่ตบเข้าใส่หน้าอกของตนเอง
จักรพรรดิสีเงินพุ่งไปเจาะสีข้างซ้ายของหานเทียนโหยวและโผล่
ออกมาทางด้านขวา ทําให้เกิดหมอกเลือดหนาทึบขึ
้
นในทันที
ฝ่ามือที่ฟาดลงใส่ตนเองของหานเทียนโหยวครั้
งนี้เป็นการลงมือ
อย่างสินหวังที่สุดแล้ว ้ แม้ว่ามันจะทําให้ตัวเองบาดเจ็บหนัก เขาก็ไม่มี
ทางเลือกอื่นนอกจากต้องทําเช่นนี้เพื่อป้องกันร่างกายด้วยพลังปราณ
สวรรค์อันทรงพลังของตนเอง หยุดจักรพรรดิสีเงินไม่ให้ระเบิดร่างของ
เขาด้วยพลังเจาะทะลวงและใช้แรงอัดนั้
นขับไล่มันออกไป มิฉะนั
้
น หาก
จักรพรรดิสีเงินอยู่ในร่างกายของเขานานกว่านี้และสร้างความเสียหาย
ขึ
้นมาได้มันก็คงจะไม่ใช่แค่แผลฉีกขาดธรรมดาๆ
ถึงกระนั
้
น ร่างกายของเขาก็ถูกเจาะจนทะลุอยู่ดีกระดูก กล้ามเนื้อ
เส้นลมปราณ ทั
้
งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยแรงดันจากฝ่ามือ
ที่กดอวัยวะภายในของเขาให้เคลื่อนที่ต�าลง เลือดจึงพวยพุ่งออกมาจาก
บาดแผลของหานเทียนโหยว และชายชราก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด
เช่นกัน
เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าตัวเองจะล่มเรือในคลองแคบ[2]
และได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะโจวเหว่ยชิง
ลูกศรดอกที่ 6 ของโจวเหว่ยชิงนี้ช่างมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างแท้จริง
หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าหานเทียนโหยวเป็นจ้าวมณีสวรรค์ระดับ
ราชา กระทั่
งยอดฝีมือระดับเทวะขั
้
นสูงสุดที่มีมณี9 ชุดก็คงจะเสียชีวิต
ทันที
กับศัตรูของเขา โจวเหว่ยชิงไม่เคยยั้
งมือ ในเวลาเดียวกันกับที่
ลูกศรดอกที่ 6 แทงทะลุร่างหานเทียนโหยว ลูกศรดอกที่ 7 ของเขาก็พุ่ง
ลงมาแล้ว
ถึงอย่างไรหานเทียนโหยวก็เป็นยอดฝีมือ ด้วยความเสียหาย
รุนแรงที่เขาได้รับจากลูกศรดอกที่ 6 ชายชราจะกล้าปล่อยให้ลูกศรดอก
ที่ 7 ของโจวเหว่ยชิงทะลวงรูบนโล่เมฆาเพลิงเข้ามาได้อย่างไร? นั่
น
ไม่ใช่การฆ่าตัวตายหรอกเหรอ?
ด้วยเหตุนี้เขาจึงบังคับตัวเองให้ระงับความเจ็บปวดบนบาดแผล
หมุนตัวเล็กน้อยอย่างยากลําบากและใช้มือซ้ายฟาดลูกศรดอกที่ 7
ออกไป
ลูกศรที่ 7 ของโจวเหว่ยชิงก็มีเพียงทักษะเดียวฝังอยู่ อย่างไรก็ตาม
ลูกศรที่สร้างขึ้นโดยพลังปราณสวรรค์ดอกนี้กลับมีแสง 3 สีคือ ฟ้า ดํา
และเทา
ถ้าจะบอกว่าการลอบจู่โจมของจักรพรรดิสีเงินถั่
วแดงน้อยนั
้
นทรง
พลังอย่างมาก ลูกศรดอกที่ 7 นี้ก็เป็นการโจมตีด้วยพลังที่แท้จริงของ
โจวเหว่ยชิงเพราะมันอัดแน่นไปด้วยพลังส่วนใหญ่ของเขา ชื่อของมัน
คือสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืด
เดิมทีเมื่อโจวเหว่ยชิงยังอยู่ในระดับมณี3 ชุด เขาได้ใช้ทักษะนี้
เพื่อเอาชนะปีศาจน้อยเซินที่มีมณี6 ชุด ตอนนี้เด็กหนุ่มมาถึงมณี4 ชุด
ได้ครึ่งทางแล้ว และด้วยการเค้นใช้พลังปราณสวรรค์จนหยาดหยด
สุดท้าย ในที่สุดโจวเหว่ยชิงก็สามารถปลดปล่อยทักษะนี้ออกมา
หลังจากยิงลูกศรไปก่อนหน้านี้6 ดอก
ตามแผนเดิมของโจวเหว่ยชิง ในลูกศร 6 ดอกแรก แม้แต่
จักรพรรดิสีเงินที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ลูกศรดอกที่ 6 ทั
้
งหมดล้วนทําเพื่อสร้าง
ฐานที่มั่
นคงสําหรับลูกศรดอกสุดท้ายนี้โจวเหว่ยชิงมั่
นใจว่าหากลูกศรที่
7 ของเขาจะสามารถเจาะเข้าไปในร่างกายของศัตรูตามหลังจักรพรรดิ
สีเงินไปได้แน่นอน นับประสาอะไรกับระดับราชาสวรรค์บางทีแม้แต่
ระดับมหาราชาสวรรค์ก็ต้องตายด้วยซ�า
น่าเสียดายที่เขาไม่คุ้นเคยกับปฏิกิริยาตอบสนองของระดับราชา
สวรรค์นัก แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้สุดท้ายหานเทียนโหยวก็
ยังสามารถปัดลูกศรดอกที่ 7 ออกไปได้อยู่ดี
*พรึ่บ* ไม่มีการระเบิด มีเพียงเสียงกระทบดังขึ
้
นเบาๆ
หานเทียนโหยวสั่
นสะท้านอย่างรุนแรงขณะที่มือซ้ายทั้
งหมดของ
เขาเปลี่ยนเป็น 3 สีคือสีฟ้า สีดํา และสีเทา
สายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดไม่ได้มีพลังระเบิดทําลายล้างที่รุนแรง แต่มี
พลังเจาะทะลุทะลวงที่ไม่อาจหาใครเทียบได้หานเทียนโหยวได้รับ
บาดเจ็บอย่างหนัก และพลังปราณสวรรค์ของเขาก็ไม่สามารถ
ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันได้ทันใดนั้
น
ทักษะที่น่าหวาดกลัวก็แทรกซึมเข้ามาในฝ่ามือของเขาและขยับขึ้นไป
ตามแขนด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
หานเทียนโหยวไม่ใช่ปีศาจน้อยเซิน ก่อนหน้านี้เมื่อปีศาจน้อยเซิน
ถูกโจมตีโดยสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืด เธอก็หมดสติไปทันทีขณะที่มัน
กระจายไปทั่
วร่างกาย ด้วยปราณขั
้
นทะลุสวรรค์ของเขา พิษของ
สายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดจึงแพร่ออกไปได้ช้าลงมาก แต่ก็ยังเป็นที่แน่นอน
ว่าหากมันกระจายไปทั่
วร่างกายของเขาได้จริงๆ สิ่
งนี้ก็จะกลายเป็นพิษ
ที่ร้ายแรงมาก
ในช่วงเวลานั้
น หานเทียนโหยวได้ตัดสินแล้วว่าพิษ 3 ธาตุที่แปลก
ประหลาดนี้ไม่ใช่สิ่
งที่เขาสามารถต้านทานได้แม้จะมีปราณสวรรค์ขั้
น
บรรลุวิถีสิ่
งเดียวที่ชายชราทําได้คือหน่วงให้มันเคลื่อนที่ช้าลง
จ้าวนรกที่ยังมีชีวิตก็มีชีวิตดั่
งเช่นฉายาของเขา ไม่เพียงโหดเหี้ยม
กับศัตรูเท่านั
้
น แต่ยังโหดเหี้ยมกับตัวเองได้มากกว่า หานเทียนโหยว
ฟาดมือขวาของเขาลงไปโดยไม่ลังเล เลือดสดๆ พลันไหลทะลักออกมา
ในทันทีชายผู้นี้ได้สับแขนซ้ายของตัวเองทิ้
ง!
มือขวาของเขาเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้า กระทุ้งสองสามจุดรอบ
แขนที่หักอย่างรวดเร็วเพื่อผนึกเส้นลมปราณและห้ามเลือด ใน
ขณะเดียวกัน อวัยวะภายในที่เขากดให้ลงไปอยู่ที่ท้องก็ม้วนกลับเข้าที่
ตามเดิม ปัจจุบันหานเทียนโหยวอยู่ในสภาพที่อ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อจักรพรรดิสีเงินได้บินทะลุผ่านร่างของหานเทียนโหยว สมาชิก
หุบเขาอเวจีสีเลือดทุกคนที่เฝ้าดูอยู่ก็เกิดอาการตกตะลึง ถึงอย่างไรผู้
เฒ่าหานก็เป็นถึงจ้าวมณีสวรรค์ระดับราชาสวรรค์! โจวเหว่ยชิงทํา
เช่นนั
้
นได้อย่างไรกัน?
แน่นอนว่าความตกตะลึงที่แท้จริงนั้
นเกิดขึ
้
นเพียงชั่
วครู่ และพวก
เขาก็ไม่สามารถอดทนเฝ้าดูได้อีกต่อไป ทั
้
งหมดจึงพุ่งเข้ามาร่วมวงทันที
หนึ่งในจ้าวมณีสวรรค์ระดับ 8 ชุดพุ่งเข้าใส่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์อย่าง
รวดเร็ว สกัดกั
้
นการโจมตีที่กําลังจะพุ่งเข้าสู่ตัวหานเทียนโหยว ส่วนคน
อื่นๆ ก็เลือกต่อสู้กับโจวเหว่ยชิงและคนที่เหลือ
ตอนนี้จักรพรรดิสีเงินได้พุ่งออกจากร่างกายซีกหนึ่งของหานเทียน
โหยวและกําลังบินวนรอบๆ พวกเขาท่ามกลางแสงสีเงินเรืองรอง มัน
ทะยานออกไปหาจ้าวมณีสวรรค์ระดับ 8 ชุดอีกคนจากหุบเขาอเวจีสี
เลือดในทันทีหลินเทียนอ้าวและหม่าฉุนต่างแยกกันเข้าประกบศัตรูที่มี
มณี7 ชุด ในขณะที่ปีศาจน้อยเซินเข้าโจมตีหม่าฉุนที่อ่อนแอที่สุดใน
กลุ่มของโจว เหว่ยชิง
น่าประหลาดใจที่ต้องบอกว่าเพียงติดตามหลินเทียนอ้าวเพื่อ
เรียนรู้จากเขาไม่กี่เดือน ตอนนี้พลังของหม่าฉุนกลับเพิ่
มขึ
้
นอย่างมาก
แล้ว โล่ประสานศาสตรามณียุทธ์3 ชิ
้
นของเขาเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว
แสดงทักษะอย่างช�าชองขณะขยับไปรอบๆ เปลี่ยนตําแหน่งคล้ายคลึง
กับการเคลื่อนไหวของหลินเทียนอ้าว อย่างน้อยเขาก็สามารถรั้
งปีศาจ
น้อยเซินไว้ได้ครู่หนึ่ง
ถึงกระนั
้
น สิ่
งต่างๆ ก็ไม่ได้ดําเนินไปด้วยดีสําหรับพวกเขา โจว
เหว่ยชิงและจ้านหลิงเทียนต่างก็กลายเป็นบุคคลไร้ประโยชน์เนื่องจาก
ใช้พลังปราณสวรรค์ไปจนหมดในระหว่างการต่อสู้โจวเหว่ยชิงอาจจะ
ดีกว่าเล็กน้อยเนื่องจากความสามารถในการฟื้ นฟูที่แท้จริงของวิชาเทพ
อมตะ ตราบใดที่สหายของเขายังต้านศัตรูได้อีกสักพัก เด็กหนุ่มก็จะฟื้ น
ความสามารถในการต่อสู้และพลังปราณสวรรค์กลับคืนมาได้อย่างไรก็
ตาม จ้านหลิงเทียนได้เผาผลาญพลังทั้
งหมดของตัวเองไปพร้อมกับการ
โจมตีด้วยหอกเพียงครั้
งเดียว และมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเข้าร่วม
การต่อสู้อีกครั
้
ง
สถานการณ์กําลังเลวร้ายลงอย่างมาก ถึงอย่างไรคู่ต่อสู้ของพวก
เขาทั
้
งหมดก็เป็นยอดฝีมือจากหุบเขาอเวจีสีเลือด และแม้แต่ซ่างกวน
เฟยเอ๋อร์เองก็ยังมีช่วงเวลาที่ยากลําบากขณะสู้กับจ้าวมณีสวรรค์ระดับ
8 ชุด มีเพียงจักรพรรดิสีเงินถั่
วแดงน้อยที่สามารถงัดข้อกับฝ่ายตรง
ข้ามได้แต่ก็แค่พอสูสีเท่านั้
น สําหรับคนอื่นๆ พวกเขาทั
้
งหมดล้วนตก
เป็นฝ่ายเสียเปรียบ โดยเฉพาะหม่าฉุนและอู่หยาที่กําลังตกอยู่ใน
อันตรายและอาจแพ้ได้ทุกเมื่อ
โจวเหว่ยชิงรีบปล่อยต้าหวงและเอ้อหวงออกจากแหวนมิติของเขา
ตอนนี้เด็กหนุ่มทําได้แค่พยายามงัดทุกอย่างที่มีออกมาอย่างเต็มที่ เด็ก
หนุ่มวางมือทั
้
งสองข้างไว้บนร่างหมีสวรรค์วิญญาณน�าแข็งทั้
ง 2 ตัว
ตามลําดับก่อนจะเริ่
มกลืนกินพลังปราณสวรรค์เพื่อเติมเต็มให้ตัวเอง มี
เพียงแค่การกลืนกินพลังปราณสวรรค์ให้เร็วที่สุดเท่านั้
นที่จะทําให้เขา
สามารถกลับเข้าร่วมการต่อสู้ได้
น่าเสียดาย หลังจากนั
้
นครู่หนึ่ง หัวใจของโจวเหว่ยชิงก็พลันต้อง
รู้สึกหนักอึ
้
งราวกับมีหินถ่วง
หานเทียนโหยวค่อยๆ เงยศีรษะขึ
้
นมา ในช่วงเวลาสั้
นๆ นั
้
น เขาได้
รักษาอาการบาดเจ็บให้คงที่แล้ว แม้ว่าการขยับอวัยวะภายในจะสร้าง
ความเสียหายให้กับตัวเองเป็นอย่างมาก แต่อย่างน้อยพวกมันก็ยัง
ได้รับการปกป้องจากการจู่โจมของจักรพรรดิสีเงิน ด้วยพลังปราณ
สวรรค์ในคลังขนาดใหญ่ของเขา ชายชราจึงยังคงสามารถต่อสู้ได้แม้ว่า
จะไม่เต็มกําลังนักก็ตาม
เมื่อมองไปบนพื้นที่แขนของเขาถูกแสง 3 สีที่แตกต่างกันกลืนกิน
เข้าไปและค่อยๆละลายกลายเป็นแอ่งเลือด ดวงตาของหานเทียนโหยว
ก็กลายเป็นสีแดงก�า
แม้ในอดีตที่เขาต้องเผชิญหน้ากับซ่างกวนหลงหยินและพ่ายแพ้
หานเทียนโหยวก็ยังไม่ได้สูญเสียมากมายขนาดนี้! นี่เป็นความอัปยศอด
สูถูกหยามเกียรติเสียยิ่
งกว่าสิ่
งอื่นใดที่เขาเคยพบพานมาตลอดช่วง
ชีวิตอันยาวนานของตนเอง ในขณะนี้หัวใจของชายชราจึงเต็มไปด้วย
ความโกรธแค้นไม่มีที่สินสุด
้ เขาไม่ต้องการเพียงแค่อยากสังหารเด็ก
น้อยเหล่านี้แต่ต้องการใช้กลทรมานหลายพันวิธีเพื่อให้พวกมันร้องขอ
ความตาย
หานเทียนโหยวยกมือขวาที่เหลืออยู่ขึ้
น ไฟสีแดงหนาทึบพลันก่อ
ตัวรวมกัน ด้วยเสียงคํารามดังลั่
น หานเทียนโหยวสะบัดฝ่ามือขวาของ
เขาออกไป 4 ครั
้
งกลางอากาศและแสงสีแดงก็ทะยานออกไป 4 ทิศทาง
คราวนี้เขาไม่ได้ยั้
งมือแม้แต่น้อย พลังปราณสวรรค์ที่เหลืออยู่จึงระเบิด
ออกมาในครั้
งเดียว
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์หลินเทียนอ้าว อู่หยาและหม่าฉุนกระเด็น
กลับไปทันทีก่อนจะกระอักเป็นเลือดสดๆ เมื่อจ้าวมณีสวรรค์ระดับ
ราชาระเบิดพลังออกมาอย่างเต็มที่ด้วยความโกรธเช่นนี้พวกเขา
ทั
้
งหมดจึงดูอ่อนแอลงไปทันทีเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย
“พวกเจ้าทุกคน หยุด” หานเทียนโหยวตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
และสมาชิกหุบเขาอเวจีสีเลือดก็ก้าวถอยหลังทันทีจักรพรรดิสีเงินถั่
ว
แดงน้อยกลับไปหาโจวเหว่ยชิงอย่างรวดเร็วก่อนจะร่อนลงเกาะบนไหล่
ของเขา
จากนั
้
นดวงตาที่เยือกเย็นของชายชราก็จับจ้องไปที่โจวเหว่ยชิง
ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้ากล้าทําร้ายข้า ทําลายแขนของข้า…ถ้าข้าไม่ทําให้
เจ้าต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ข้าจะก็ไม่ยอมปล่อยให้เจ้า
ตายง่ายๆ! เมื่อข้าฆ่าคนอื่นแล้ว เจ้าเด็กเหลือขอ ข้าจะพาเจ้าไปด้วยทุก
ที่และให้เจ้ากรีดร้องเป็นเวลา 10 ปีก่อนถึงจะตายได้”
ในขณะที่เอ่ยเช่นนั้
น เขาก็ยกฝ่ามือขึ้นและฟาดลงไปที่จ้านหลิง
เทียน หานเทียนโหยวกําลังคันมืออยากจะฆ่าใครสักคนในตอนนี้เพื่อ
ระงับความโกรธ
จ้านหลิงเทียนหลับตาลง ชายหนุ่มรู้ว่าเวลาของตนมาถึงแล้ว
ความเกลียดชังในใจของเขาก็มีไม่น้อยไปกว่าหานเทียนโหยว ในฐานะ
ที่เป็นสาวกอันดับหนึ่งในบรรดากลุ่มคนรุ่นเยาว์ในวังสวรรค์ไพศาล
อนาคตของเขาจึงสดใสและแทบจะไม่มีใครเทียบได้แน่นอนว่าชาย
หนุ่มจะต้องสามารถก้าวไปสู่ระดับราชาได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็
เมื่อเขาอายุมากขึ้
น แต่ตอนนี้จ้านหลิงเทียนกําลังจะตายด้วยน�ามือของ
จ้าวนรกที่ยังมีชีวิต สิ่
งที่เลวร้ายที่สุดคือพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะส่ง
ข่าวกลับไป เขาจะต้องตายอย่างอดสูและไม่มีใครมาตามแก้แค้นให้
ภายหลัง หานเทียนโหยว แม้ว่าข้าจะต้องกลายเป็นผีข้าก็จะไม่ปล่อย
เจ้าไปแน่!
ในขณะที่จ้านหลิงเทียนคิดว่าตัวเองกําลังจะตาย ทันใดนั้
นเขาก็
รู้สึกว่ามีบางอย่างรัดรอบเอวของตนเอง จากนั
้
นทั
้
งร่างของจ้านหลิง
เทียนก็ถลาขึ้นไปบนท้องฟ้าในแนวโค้งและดวงตาของเขาก็เบิกโพลง
ทันที
การแปลสํานวนจีนตามตัวอักษร ( gutter capsize ) โดยทั่
วไป
หมายถึงการล้มเหลวอย่างไม่คาดคิดอย่างน่าสังเวชในงานง่ายๆ
…………………………………
[1] 翻手为云 覆手为雨 พลิกฝ่ามือควบคุมเมฆ หมุนฝ่ามือบังคับ
ฝน หมายถึง คนที่มีอํานาจมาก จะสั่
งอะไรก็ได้เปรียบเปรยว่าแค่พลิก
มือก็ควบคุมเมฆได้หมุนมือก็บังคับฝนให้ตกได้
[2] ล่มเรือในคลองแคบ 阴沟中翻船 ทําผิดพลาดในเรื่องง่ายๆ