Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 141 ศิษย์ของมหาราชาสวรรค์! (3)
สมองของโจวเหว่ยชิงสับสนยุ่งเหยิงไปในพริบตา เด็กหนุ่มรู้สึก
เหมือนทุกสิ่
งที่เคยเรียนรู้มาจนถึงตอนนี้กลับตาลปัตรเป็นเรื่องโกหก
โลกของเขาพลันกลับหัวกลับหาง เมื่อได้ยินคําถามของหลงซื่อหยา โจว
เหว่ยชิงก็ทําได้เพียงแค่ส่ายหัวอย่างไม่รู้ตัว
หลงซื่อหยากล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าไม่มีทักษะกักเก็บอีกต่อไป
ทักษะก่อนหน้านี้ก็ล้างทิ้
งไปทั้
งหมดแล้ว”
“อะไรนะ?!” แม้โจวเหว่ยชิงจะเดาได้ว่าคําตอบต้องเป็นสิ่
งที่คาดไม่
ถึง แต่เขาก็ยังไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเหนือจินตนาการเช่นนี้
หลงซื่อหยาพูดต่ออย่างเฉยเมย “เจ้ามี6 ทักษะธาตุและความจริง
ทักษะทั
้
งหมดที่เจ้ากักเก็บไว้ก็แข็งแกร่งมาก แต่เจ้าก็ควรเรียนรู้จาก
ประสบการณ์ที่ผ่านมาว่าด้วยระดับพลังปราณของเจ้า เจ้าจะไม่
สามารถใช้มันทั้
งหมดได้ภายในครั้
งเดียว หยุด ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังคิดอะไร
อยู่ในอนาคตเมื่อระดับพลังปราณของเจ้าเพิ่
มสูงขึ
้
น แน่นอนว่าเจ้าจะ
สามารถใช้มันได้ทั้
งหมด แต่อย่าลืมว่าเมื่อระดับพลังปราณของเจ้า
เพิ่
มขึ
้
น เจ้าก็จะต้องมีทักษะจํานวนมากขึ้
นเช่นกัน มณีสวรรค์ที่เพิ่
มขึ
้
น
แต่ละดวง…เจ้าจะได้รับทักษะเพิ่
มขึ
้
นอีก 6 ทักษะ! ในกรณีนี้หากเจ้าไป
ถึงระดับเทพเจ้าจริงๆ เจ้าจะมีทักษะกี่อย่างกัน ล่ะ? 72!”
“ทักษะเหล่านี้เป็นของขวัญจากธรรมชาติแต่ละทักษะมีความลับ
ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังและไม่สามารถอธิบายได้ด้วยระบบจัดระดับดาวที่
น่าขันนั่
น ก่อนที่จะพบข้า เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่ากงจักรวายุสามารถมี
พลังระดับเทพเจ้าได้?”
โจวเหว่ยชิงส่ายหัวอย่างมึนงง
หลงซื่อหยากล่าวต่อ “แน่นอน ด้วยเหตุนี้ผลของทักษะจึงเป็น
เพียงการใช้พลังปราณสวรรค์รูปแบบหนึ่ง ทักษะใดๆ เมื่อได้รับการ
ฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดแล้ว พวกมันทั
้
งหมดก็จะสามารถสร้างพลังที่
ยิ่
งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ถ้าในอนาคตเจ้ามีทักษะ 72 ทักษะ ขอ
ถามหน่อยเถอะว่าเจ้าจะฝึกฝนไปถึงขีดจํากัดสูงสุดได้มากแค่ไหน? หึ
ข้ากลัวว่าคําตอบจะไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว เจ้าอาจคิดว่าตอนนี้สามารถ
ควบคุมทักษะของตัวเองได้ดีแล้ว แต่ข้าจะบอกอะไรให้เจ้ายังห่างไกล
จากจุดสูงสุดมากนัก ในการฝึกฝนทักษะหนึ่งให้ชํานาญที่สุดจะต้องใช้
เวลา พลังปราณ และความพยายามอย่างไม่น่าเชื่อ เว้นแต่เจ้าจะมีชีวิต
อยู่ได้ถึงหนึ่งพันปีมิฉะนั
้
นเจ้าก็ลืมเกี่ยวกับการฝึกฝนทักษะทั้
ง 72
อย่างให้ถึงขีดจํากัดสูงสุดไปได้เลย”
“คําถามนี้รบกวนจิตใจข้ามานาน และกว่าจะคิดตกได้ก็อายุกว่า
60 ปีและในเวลานั้
น ข้าก็อยู่ในระดับราชาแล้ว ด้วยเหตุนี้ข้าจึงใช้
ปราณสวรรค์ขั้
นบรรลุวิถีของตัวเองลบล้างทักษะกักเก็บทั้
งหมดออกไป
มุ่งเน้นไปที่เส้นทางการควบคุมพลังปราณสวรรค์และธาตุเพียงอย่าง
เดียว 10 ปีต่อมาในที่สุดข้าก็เชี่ยวชาญศาสตร์การควบคุมทักษะ
นับตั
้
งแต่นั
้
นเป็นต้นมา ข้าก็ไม่ได้กักเก็บทักษะใดๆเลย แต่อาจกล่าวได้
ว่าข้ามีทักษะทั
้
งหมดของธาตุทั
้
ง 6 ของตนเองและไม่จําเป็นต้องกักเก็บ
ทักษะใดๆอีกต่อไป อันที่จริง ข้าสามารถสร้างทักษะของตัวเองได้ตามที่
ต้องการ นอกจากนี้ข้ายังสามารถใช้พวกมันทั้
งหมดในขั้
นสูงสุดของ
ระดับพลังปราณ ณ ปัจจุบัน ในเวลาเดียวกัน ข้าก็สามารถสร้างทักษะ
ผสานของตัวเองได้ตามที่ใจคิด โดยมีขีดจํากัดคือจินตนาการและ
ความคิดสร้างสรรค์ของข้าเท่านั้
น”
โจวเหว่ยชิงดูดลมหายใจเข้าลึก แม้ว่าหลงซื่อหยาจะไม่ได้อธิบาย
อะไรมากนัก แต่จากคําพูดของเขา เด็กหนุ่มก็เข้าใจทุกอย่างได้แล้ว นี่
เป็นเส้นทางใหม่ที่หลงซื่อหยาได้สลักเสลาบรรจงสร้างขึ้
นมาด้วยตัวเอง
อย่างแท้จริง แตกต่างจากการฝึกวิชาของจ้าวมณีสวรรค์ในปัจจุบันโดย
สิ
้
นเชิง นี่เป็นการกระทําที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง เพราะท้ายที่สุด
คําพูดของหลงซื่อหยาก็ได้พลิกทุกสิ่
งที่โจวเหว่ยชิงรู้เกี่ยวกับทักษะกัก
เก็บจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เมื่อมองไปยังใบหน้าที่ว่างเปล่าของโจวเหว่ยชิง หลงซื่อหยาก็
กล่าวด้วยความยินดี“วิชาควบคุมของข้านี้ก่อนไปถึงระดับมณี6 ชุด
นั
้
นถือว่าไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ บางทีอาจจะด้อยกว่าวิชาทั่
วไปด้วยซ�า
อย่างไรก็ตาม เมื่อระดับพลังปราณของเจ้าสูงขึ้
น ประโยชน์ของมันก็จะ
เด่นชัดขึ
้นเรื่อยๆ เจ้ารู้ไหมว่าศาสตร์การควบคุมทักษะของข้ามี
ประโยชน์สูงสุดอย่างไร?”
ทันใดนั้
นโจวเหว่ยชิงก็ดูเหมือนจะตื่นขึ้
นจากภวังค์และมีแสงแวบ
ขึ
้
นมาในหัวของเขา บางอย่างผุดขึ
้
นมาในอกกะทันหัน และคําพูดนั
้
นก็
ดูเหมือนจะหลุดออกจากปากของเขาโดยไม่ตั้
งใจ “ไม่มีระยะฟื้ นฟู
ทักษะ!”
ถึงคราวที่หลงซื่อหยาต้องประหลาดใจบ้างแล้ว “ถูกต้อง แล้วเจ้า
คิดยังไงกับเรื่องนั้
น?”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “เนื่องจากอาจารย์สามารถควบคุมพลัง
ปราณสวรรค์เพื่อสร้างทักษะนั้
นๆขึ
้นมาซ�าได้ดังนั
้
นทักษะพวกนี้จึง
เป็นทักษะที่ถูกคัดลอกหรือจําลองขึ้นมาจากของที่มีอยู่แต่เดิม ด้วยเหตุ
นี้จึงไม่ควรมีระยะฟื้ นตัวสําหรับพวกมันใช่หรือไม่? ยิ่
งไปกว่านั้
น เมื่อ
สักครู่ข้ายังได้เห็นอาจารย์ใช้ทักษะโซ่ตรวนวายุกับทั
้
งถั่
วแดงน้อย
และเฟยเอ๋อร์”
หลงซื่อหยากล่าวด้วยรอยยิ้
มพอใจ “ถูกต้อง ดีมาก สามารถคาด
เดาได้ด้วยคําใบ้เพียงเล็กน้อย เจ้าช่างเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ สิ่
งที่
เจ้าพูดมาเป็นความจริงอย่างแน่นอน ประโยชน์ที่ยิ่
งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่ง
ของศาสตร์การควบคุมทักษะของข้าคือสามารถใช้ทักษะเหล่านั้
น
ติดต่อกันได้โดยไม่ต้องรอระยะฟื้ นตัว ในเวลาเดียวกัน เจ้าก็สามารถ
ปรับใช้ทักษะที่ว่าได้ในระดับพลังที่ต้องการ ทําให้สามารถใช้พลัง
ปราณสวรรค์ได้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ฉะนั
้
นตราบใดที่เจ้ามีพลัง
ปราณสวรรค์เพียงพอ เจ้าก็จะสามารถใช้ทักษะเหล่านี้ต่อไปได้เรื่อยๆ
เท่าที่ต้องการ”
โจวเหว่ยชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “กล่าวคือระดับมณี4 ชุด
ของข้าในปัจจุบัน ถ้าข้าสามารถเรียนรู้ศาสตร์การควบคุมทักษะนี้ได้
ข้าก็จะสามารถใช้ทักษะใดก็ได้จากทั้
ง 6 ธาตุของข้าในระดับสูงสุดที่
มณี4 ชุด?”
หลงซื่อหยาพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง หากเจ้าสามารถเรียนรู้
เกี่ยวกับการผสานธาตุและหลอมรวมทักษะบางอย่างเข้าด้วยกัน
เพิ่
มเติม พลังก็จะยิ่
งแข็งแกร่งมากขึ้
น”
การเปิดเผยนี้ทําให้โจวเหว่ยชิงชะงัก เด็กหนุ่มกล่าวว่า “ข้าเข้าใจ
แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านบอกว่ามันอาจจะส่งผลเสียต่อพลังใน
ปัจจุบันของข้าหากใช้ศาสตร์การควบคุมทักษะนี้เนื่องจากพลังที่
แท้จริงของทักษะอาจลดลง อย่างไรก็ตาม สิ่
งที่จะเกิดในอนาคตก็จะ
ยิ่
งใหญ่กว่านี้หากข้าเดินไปตามเส้นทางที่ว่า ถึงอย่างไรเราก็จะได้รับ
ประโยชน์จากการมีทักษะธาตุมากมาย และเพียงแค่ความสามารถใน
การผสานทักษะด้วยความเป็นไปได้ที่หลากหลายเช่นนี้ก็เป็นประโยชน์
มหาศาลแล้ว ยิงเรามีธาตุมากขึ ่ ้
น ความเป็นไปได้ในการผสานทักษะก็
ยิ่
งมากขึ
้น…ไม่น่าแปลกใจที่ท่านยอมรับข้าเป็นลูกศิษย์…”
หลงซื่อหยาไม่ได้ปกปิดความชื่นชอบที่เขามีต่อศิษย์ใหม่ ชายชรา
วางมือบนไหล่ของโจวเหว่ยชิงในขณะที่กล่าวว่า “ดีมาก นี่ช่วยให้ข้า
ประหยัดเวลาและความพยายามในการสอนสิงต่างๆให้เจ้าได้มาก ่
ทีเดียว หากเจ้าเข้าใจ เช่นนั
้
นก็ยอดเยี่ยมมาก”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “อาจารย์ข้าควรเดินตามรอยท่านและลบ
ทักษะทั
้
งหมดของตัวเองก่อนเรียนรู้ศาสตร์การควบคุมทักษะดี
หรือไม่?” ถ้าจะบอกว่าเขาไม่ได้ถูกหลอกล่อด้วยข้อเสนอที่ว่าก็คงจะ
เป็นเรื่องโกหก เพียงแค่ประโยชน์ของการไม่มีระยะฟื้ นตัวก็เป็นพลังที่
สามารถโค่นล้มสวรรค์ได้แล้ว นับประสาอะไรกับประโยชน์อื่นๆของ
ศาสตร์การควบคุมทักษะ นี่เป็นสิ่
งที่จะทําให้ไม่มีใครในระดับเดียวกัน
สามารถเทียบเคียงเขาได้เพราะถึงอย่างไรพลังของทักษะผสานก็
ชัดเจนมากสําหรับโจวเหว่ยชิง สายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดของเขาเองก็เป็น
เช่นนั
้
น แค่ทักษะผสาน 3 ธาตุอย่างเพียงอย่างเดียวก็ทําให้เขาสามารถ
เอาชนะปีศาจน้อยเซินซึ่งอยู่ในระดับพลังปราณที่สูงกว่าเขาในเวลานั้
น
ได้ถึง 3 ระดับ ถ้าสามารถปลดปล่อยทักษะผสานทั
้
ง 6 ธาตุได้ในอนาคต
มันจะมีพลังแบบไหนกันนะ?
หลงซื่อหยาส่ายหัวพลางกล่าวว่า “ไม่จําเป็นต้องลบทิ้
งทั
้
งหมด ไม่
มีประโยชน์ที่จะทิ้
งความสามารถในการต่อสู้ในปัจจุบันของเจ้าเพียง
เพื่อเรียนรู้ศาสตร์การควบคุมทักษะของข้า แต่ในขณะเดียวกัน เจ้าก็ไม่
จําเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การฝึกใช้ทักษะเหล่านั้
นอีกต่อไป นอกเหนือจาก
การฝึกปราณของเจ้าแล้ว สิ่
งที่ต้องสนใจควรเป็นศาสตร์การควบคุม
ทักษะของข้า เมื่อเจ้าฝึกจนเชี่ยวชาญแล้ว ทักษะใดๆในมือของเจ้าก็จะ
สามารถใช้ในระดับสูงสุดได้ทั้
งหมด”
ในขณะที่พูดถึงจุดนี้เขาก็หยุดเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยต่อ “ไม่ใช่ว่า
เจ้าไม่จําเป็นต้องกักเก็บทักษะอีกต่อไป…หากมีทักษะระดับเทพเจ้าก็
อย่าได้ปล่อยผ่าน แม้ว่าสุดท้ายศาสตร์การควบคุมทักษะของเราจะช่วย
ให้สามารถปลดปล่อยทักษะระดับเทพเจ้าออกมาได้แต่ก็มีผลบางอย่าง
ที่เราไม่สามารถทําซ�าได้ตัวอย่างเช่นทักษะผนึกมังกรเงียบ ทักษะย้อน
เวลา ฯลฯ…”
โจวเหว่ยชิงแย้มยิ้
มและพูดว่า “อาจารย์ท่านไม่ได้บอกหรือว่า
ตัวเองไม่มีทักษะกักเก็บเหลือแล้ว? หมายความว่าท่านไม่ได้กักเก็บ
ทักษะระดับเทพเจ้าเลยจริงๆหรือ?”
หลงซื่อหยาแค่นเสียงและพูดว่า “แค่ทางทฤษฎี! เจ้าไม่รู้หรือว่า
ทางทฤษฎีหมายความว่าอย่างไร? ความหมายของข้าคือเมื่อเจ้า
เชี่ยวชาญศาสตร์การควบคุมทักษะในทางทฤษฎีแล้ว เจ้าไม่จําเป็นต้อง
ใช้ทักษะกักเก็บอีกต่อไป”
โจวเหว่ยชิงกล่าว “ข้าเข้าใจแล้วๆ อาจารย์ท่านได้เปิดหูเปิดตาข้า
อย่างแท้จริง เช่นนั
้
นเมื่อข้ากลับมาจากสวรรค์หมื่นอสูร ข้าจะเริ่
มเรียน
ศาสตร์นี้ทันที”
หลงซื่อหยาถามอย่างสงสัย “ทําไมเจ้าถึงต้องไปที่สวรรค์หมื่น
อสูร?”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “ข้าจะไปจับอสูรสวรรค์จํานวนหนึ่ง เอ่อ…
เรื่องมันยาว แต่ทั
้
งหมดก็เป็นเช่นนี้…” โจวเหว่ยชิงกล่าวต่อไปถึงภูมิ
หลังของเขาและการล่มสลายของอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์เด็กหนุ่ม
หนีมาที่อาณาจักรจ้งเทียนเพื่อแสวงหาโอกาส กอบกู้อาณาจักรของเขา
อย่างไร เรื่องทุกอย่างจนถึงตอนนี้โดยละเอียด
ตอนแรกโจวเหว่ยชิงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลงซื่อหยานอกจากเขา
เป็นยอดฝีมือระดับมหาราชาและเรื่องที่ไม่เต็มใจที่จะเป็นศิษย์ของอีก
ฝ่าย อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนนี้ได้รับรู้เรื่องศาสตร์การควบคุมทักษะทั้
ง 6
แล้ว เขาจึงเชื่อมั่
นอย่างเต็มที่ หากสามารถย้อนกลับไปในอดีตได้เขา
จะขอเป็นศิษย์ของหลงซื่อหยาอย่างจริงใจโดยไม่ลังเลและจะไม่ทํา
เหมือนก่อนหน้านี้แน่นอน นอกจากนี้หลงซื่อหยายังมีทักษะธาตุมืด
เช่นกัน…ด้วยระดับพลังปราณของเขา มันคงไม่ยากเกินไปที่จะช่วย
ปลดปล่อยพ่อของโจวเหว่ยชิงจากผนึกมืดแช่แข็งชะตานั้
น หาก
อาจารย์คนใหม่ของเขาเต็มใจที่จะช่วย ความหวังของอาณาจักร
เกาทัณฑ์สวรรค์ก็เรืองรองขึ้นมาเป็นอย่างยิ่
ง
เมื่อหลงซื่อหยาได้ยินคําพูดของโจวเหว่ยชิง ใบหน้าของเขาก็
จริงจังขึ
้
น “อ้วนน้อย เจ้ารู้ไหมว่าทําไมข้าถึงไม่ลงมือตลอดเวลาที่เจ้า
เผชิญหน้ากับหานเทียนโหยว กระทั่
งเขาจากไป ข้าถึงค่อยแสดงตัวให้
เจ้าเห็น”
โจวเหว่ยชิงกระพริบตาและพูดว่า “เป็นเพราะท่านพยายามจะ
ทดสอบข้าหรือเปล่า?”
หลงซื่อหยาส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ใช่ ความสามารถของเจ้าทําให้
ข้าสนใจอย่างมาก อีกทั
้
งเผ่ากวางหิมะก็มีความเกี่ยวพันกับข้าด้วย หาก
มีชายชราคนนี้อยู่ที่นี่ หากหานเทียนโหยวกล้าฆ่าล้างบางชนเผ่ากวาง
หิมะ…โดยปกติด้วยนิสัยของข้า เขาก็คงไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อเดินออกไป
จากที่นี่แน่ แต่เหตุผลที่ข้าปล่อยเขาไปก็เพราะเจ้า”
“เหตุผลหลักที่ข้าไม่ฆ่าหานเทียนโหยวเป็นเพราะมันเป็นโอกาส
ขัดเกลาประสบการณ์อย่างหาได้ยากยิงสําหรับเจ้า ่ การพัฒนาขึ
้
นของ
จ้าวมณีเป็นกระบวนการที่ยาวนานและซับซ้อน อย่างไรก็ตาม สิ่
งหนึ่งที่
แน่นอนก็คือ…ยิงเผชิญความกดดันและความเครียดมากเท่าไหร่ ่ การ
ฝึกปราณก็จะเร็วขึ้
นเท่านั
้
น หรือก็คือการต้องเลือกระหว่างความเป็น
ความตาย แบบทดสอบเช่นนั
้
นมีค่าอย่างยิ่
งสําหรับเจ้า นั่
นคือเหตุผลที่
แท้จริงว่าทําไมข้าถึงไม่ฆ่าหรือจับตัวเขา นั่
นก็เพื่อทิ้
งเจ้าไว้ให้
เผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง หากปราศจากความกดดัน แรงจูงใจของ
เจ้าจะมาจากที่ใด? ด้วยเหตุนี้ข้าจะให้ความช่วยเหลือทั้
งหมดกับเจ้าใน
แง่ของการฝึกฝน แนะนําเจ้า ฝึกเจ้าและทําให้แน่ใจว่าเจ้าจะก้าวเดินไป
ในทิศทางที่ถูกต้อง แต่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเจ้า เจ้าจะต้องจัดการ
ด้วยตัวเอง มิฉะนั
้
นหากข้าช่วยเจ้าแก้ไขทุกอย่าง เจ้าจะมีแรงจูงใจ
ทุ่มเททํางานหนักและฝึกปราณได้อย่างไร? ดังนั
้
นอย่าคิดว่าข้าจะช่วย
ครอบครัวของเจ้าหรือกอบกู้อาณาจักรของเจ้าโดยตรง เรื่องนี้เป็นไป
ไม่ได้แน่นอน และเจ้าก็ต้องระลึกไว้ให้ดี”
โจวเหว่ยชิงมองอีกฝ่ายอย่างเศร้าๆและพูดว่า “อาจารย์ท่านคง
ไม่โหดเหี้ยมกับข้าขนาดนี้หรอกใช่ไหม…”
หลงซื่อหยาแค่นเสียงและกล่าวว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ นี่ก็เพื่อ
ประโยชน์ของตัวเจ้าเอง เอาล่ะ พูดเรื่องไร้สาระมากพอแล้ว ใครขอให้
เจ้าไปที่สถานที่ขยะๆเช่นสวรรค์หมื่นอสูรนั่
น? เจ้าแค่อยู่ที่นี่ เรียนรู้และ
ฝึกปราณกับชายชราคนนี้เสีย สําหรับแก่นพลังสวรรค์ที่เจ้าต้องการ มา
เลือกเอาไปจากนี่ ของพวกนี้ก็เป็นเหมือนหินธรรมดาๆสําหรับข้า”
ขณะที่กล่าวเช่นนั้
น หลงซื่อหยาก็โยนถุงผ้าใส่โจวเหว่ยชิง
โจวเหว่ยชิงคว้ามันได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อใช้พลังปราณสวรรค์
ตรวจสอบภายใน เขาก็ตกใจจนแทบจะเผลอโยนทิ้
ง
เด็กหนุ่มไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อนว่ามีอุปกรณ์มิติที่น่ากลัว
เช่นนี้ในถุงผ้านี้มีขนาดพื้นที่มากกว่า 10,000 ตารางเมตร! เป็นขนาดที่
แทบไม่เคยได้ยินมาก่อน! ที่สําคัญกว่านั้
นคือทั
้
งถุงมิตินี้ยังเต็มไปด้วย
กองสิงของต่างๆมากมาย ่ ส่วนใหญ่เป็นแก่นพลังสวรรค์ซึ่งเรียงซ้อนกัน
เหมือนเมล็ดพืชในยุ้งฉางกองพะเนิน มองแวบหนึ่งเขาก็ยังไม่สามารถ
นับได้ว่ามีเท่าไหร่
รอยยิ
้
มน้อยๆผุดขึ
้
นบนริมฝีปากของโจวเหว่ยชิง อาจารย์อ้วนใหญ่
ของเขาคนนี้อาจบอกว่าจะไม่ช่วยเหลือ แต่เขาจะไม่ช่วยจริงๆน่ะหรือ?
………………………………………….