Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 140 หกสุดยอดมหาราชาสวรรค์! (2)
โจวเหว่ยชิงรั้
งไหล่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ไว้ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ
อีกฝ่าย เขายิ
้
มกว้างพลางกล่าวว่า “แหะๆ ผู้อาวุโส ท่านไม่ได้มีเจตนา
ร้ายต่อเรา ดังนั
้
นจึงไม่จําเป็นต้องพยายามข่มขู่ให้เราหวาดกลัว
นอกจากนี้พวกเราทั
้
งคู่ก็ยังมีความคล้ายคลึงกันบางอย่างอีกด้วย ข้าจึง
ก็รู้ว่าพวกเราถูกเชื่อมโยงกันด้วยโชคชะตา”
“โอ้? ถ้าอย่างนั
้
น ความคล้ายคลึงกันระหว่างเราคืออะไรงั้
นรึ?”
ชายร่างอวบอ้วนมองไปที่โจวเหว่ยชิงด้วยความสนใจ มีรอยยิ้
มน้อยๆ
ประดับอยู่บนใบหน้าของเขา แน่นอนว่ารอยยิ
้
มนั
้
นทําให้ไขมันบน
ใบหน้าปิดบังดวงตาจนแทบมองไม่เห็น
โจวเหว่ยชิงกําลังจะเปิดปาก ทว่าชายร่างอ้วนกลับโบกมือให้จ้านห
ลิงเทียน “เด็กน้อย ทําตัวให้ดีๆ เจ้าคิดว่าข้าจะเป็นเหมือนหานเทียน
โหยวที่วางตัวสูงส่งแต่กลับเป็นแค่ขี้หมากองหนึ่งหรือ?”
ไม่มีร่องรอยความผันผวนพลังปรานใดๆ ไม่มีแสงของทักษะธาตุ
หรือแสงสีขาวจากพลังปราณสวรรค์บริสุทธิ์อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา
นั
้
น จ้านหลิงเทียนกลับรู้สึกถึงแรงกดดันที่น่าเหลือเชื่อจากด้านบน ราว
กับว่าเทือกเขาทั
้
งลูกกําลังทับลงมาบนร่างของเขา *พรวด* ชายหนุ่ม
ทรุดนั่
งลงนั่
งบนพื้นขณะที่ขาของเขาโก่งงอขึ
้
น และแม้แต่หอก
ศักดิ
์
สิทธิ
์
แห่งธาตุแสง ธาตุมืดก็หายวับไปในพริบตา
“ปราณไร้รูปของมหาราชาสวรรค์!” เสียงอุทานที่น่าตกใจดัง
ออกมาจากปากซ่างกวนเฟยเอ๋อร์และจ้านหลิงเทียนแทบจะพร้อมกัน
เสียงของพวกเขาฟังดูสั่
นสะท้าน ไม่เหมือนแม้กระทั่
งตอนที่ต้อง
เผชิญหน้ากับหานเทียนโหยวด้วยซ�า
ในบรรดากลุ่มของพวกเขา โจวเหว่ยชิง หลินเทียนอ้าวและคน
อื่นๆอาจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้
น แต่จ้านหลิงเทียนและซ่างกวนเฟยเอ๋อร์จะ
ไม่รู้ได้อย่างไร?
‘ปราณไร้รูปของมหาราชาสวรรค์’ ตามชื่อที่เรียก มันหมายถึงยอด
ฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์ที่มีมณี11 ชุด ในระดับนั้
น พลังปราณ
สวรรค์ของพวกเขาไม่มีสีอีกต่อไป ทั
้
งยังสามารถควบคุมพลังปราณใน
ชั
้
นบรรยากาศได้อย่างไร้ร่องรอย ก่อนหน้านี้แรงกดดันที่เกิดขึ้
นกับ
จ้านหลิงเทียนก็ไม่ใช่พลังปราณสวรรค์ของชายร่างอ้วน แต่เป็นเพียง
การควบคุมพลังปราณในอากาศของเขา เมื่อมาถึงระดับมหาราชา
สวรรค์พลังปรานทั
้
งหมดในโลกก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของคนๆนั้
น
แม้กระทั่
งสวรรค์และบรรยากาศ
‘ปราณไร้รูปของมหาราชาสวรรค์’ คํานี้อาจดูเรียบง่าย แต่ก็เป็น
ตัวแทนของยอดฝีมือระดับชั
้
นนําของโลก ยอดฝีมือระดับราชาสวรรค์
อาจหายากมาก แต่ในแผ่นดินใหญ่ก็ยังมีอยู่บ้างจํานวนหนึ่ง
นอกเหนือจากนิกายปีศาจสวรรค์แล้ว มหาดินแดนศักดิ
์
สิทธิ
์
ทุกแห่ง
ล้วนมีจ้าวมณีสวรรค์ระดับราชาอยู่ด้วยทั้
งสิ
้
น แต่ก็ยังเป็นที่แน่นอนว่า
วังสวรรค์ไพศาลมีมากที่สุด โดยมีจ้าวมณีสวรรค์ระดับราชาสวรรค์
อย่างน้อย 20 คน
อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวระดับมหาราชาสวรรค์บางทีแผ่นดินใหญ่
ทั
้
งหมดอาจมีเพียง 10 คนหรือมากกว่านั
้
นเล็กน้อย แต่ละคนเป็นผู้นํา
มหาดินแดนศักดิ
์
สิทธิหรือยอดฝีมือระดับสูงซึ ์ ่งเป็นที่รู้จักกันดีใน
แผ่นดินใหญ่ กระทั่
งจ้าววังสวรรค์ไพศาลอย่างซ่างกวนเทียนหยางก็อยู่
ในระดับมหาราชาขั้
นสูงสุดแล้ว
ใครจะคิดว่าในค่ายเล็กๆของเผ่ากวางหิมะนี้พวกเขาจะได้พบกับ
ยอดฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์?
แม้หานเทียนโหยวและสมาชิกหุบเขาอเวจีสีเลือดคนอื่นๆรวมพลัง
กัน แต่เมื่อเทียบกับชายร่างอ้วนที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้คนทั
้
งหมดนั
้
นก็
ถือว่าเป็นเพียงมดปลวกตัวจ้อย ระดับราชาสวรรค์และระดับมหาราชา
สวรรค์อาจดูเหมือนจะอยู่ห่างกันเพียงระดับเดียว แต่ในความจริง มันก็
เหมือนกับความแตกต่างระหว่างสวรรค์และนรก
เมื่อรับรู้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวของบุคคลระดับมหาราชา ทั
้
งซ่าง
กวนเฟยเอ๋อร์และจ้านหลิงเทียนก็ไร้ความคิดที่จะต่อต้าน เมื่ออยู่ต่อ
หน้ายอดฝีมือระดับนี้การต่อต้านใดๆก็ย่อมไร้ผลอยู่ดี
แม้โจวเหว่ยชิงจะไม่รู้ว่า ‘ปราณไร้รูปของมหาราชาสวรรค์’
หมายถึงอะไร แต่สมองของเขาก็ยังสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
และชาญฉลาด เมื่อได้ยินทั้
งสองตะโกนคําเหล่านั้
นออกมา เด็กหนุ่มก็
เข้าใจได้ในทันทีว่ามันหมายถึงอะไร ดังนั
้
นใบหน้าของโจวเหว่ยชิงจึง
ค่อนข้างแตกตื่นเช่นกัน
“พูดมา! เรามีความคล้ายคลึงกันอย่างไร?” ชายร่างอ้วนมองไปที่
โจวเหว่ยชิงด้วยรอยยิ้
มกว้างบนใบหน้า
ไม่นานหลังจากนั
้
นโจวเหว่ยชิงก็หลุดออกจากภวังค์และหลุด
หัวเราะขณะที่เอ่ยว่า “ชื่อเล่นของข้าคืออ้วนน้อยโจว ข้าเลยคิดว่าผู้
อาวุโสน่าจะชื่ออ้วนใหญ่ พวกเราคนหนึ่งอ้วนน้อยคนหนึ่งอ้วนใหญ่ นั่
น
ไม่ใช่ความคล้ายคลึงที่น่าสนใจหรอกหรือ? ผู้อาวุโสคิดว่าอย่างไร
ขอรับ?”
“ฮ่าๆๆๆ” ขณะพูดเช่นนั
้
น เด็กหนุ่มก็เริ่
มหัวเราะออกมาเสียงดัง
อนิจจา ไม่มีคนอื่นกล้าหัวเราะไปกับเขา การหยอกล้อรูปลักษณ์ของ
ยอดฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์เขามีชีวิตอยู่นานเกินไปจนอยากจะฆ่า
ตัวตายเล่นใช่หรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ชายร่างใหญ่ก็ยังคงมองโจวเหว่ยชิงด้วยใบหน้ายิม
้
แย้ม “อ้วนน้อยใช่ไหม? ขอบอกอย่างหนึ่งว่าในอดีตคนที่เรียกข้าว่าเจ้า
อ้วน ยกเว้นเพียงคนๆเดียว ที่เหลือล้วนตายหมด และดูเหมือนว่าครั
้
งนี้
ลิ
้
นกะล่อนของเจ้าจะไม่สามารถช่วยเจ้าเอาไว้ได้เสียแล้ว!”
โจวเหว่ยชิงยิ้
มและพูดว่า “แหะๆ แต่ตอนนี้ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่นี่นา?
ผู้อาวุโสอย่าพยายามทําให้ข้าหวาดกลัวอีกต่อไปเลย ข้าเป็นพวกขี้
ขลาดตาขาวนะขอรับ เราไม่มีความเกลียดชังใดๆระหว่างกัน ทั
้
งยังเห็น
ได้ชัดว่าท่านไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเรา ทําไมท่านถึงต้องพยายามทําให้
เราหวาดกลัวด้วยเล่า? หากท่านต้องการฆ่าพวกเราจริงๆ ด้วยพลังของ
ท่านก็ย่อมสามารถทําได้ภายในไม่กี่วินาทีแท้ๆ และพวกเราก็จะไม่
สามารถทําอะไรได้เลย ฉะนั
้
นเหตุใดท่านถึงแวะมาเล่นไร้สาระกับพวก
เราเล่า?”
ชายร่างอ้วนส่งเสียงหึในลําคอและพูดว่า “ข้าไม่เคยเห็นอันธพาล
น้อยคนไหนเจ้าเล่ห์เท่าเจ้ามาก่อน เอาล่ะ ข้าจะไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป
รีบคุกเข่าลงกราบขอร้องข้า ชายชราคนนี้ให้รับเจ้าเป็นศิษย์เสีย”
“ห๊ะ?” แม้โจวเหว่ยชิงสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าชายร่าง
ใหญ่คนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพวกเขา แต่เขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะ
เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
คนอื่นๆก็ชะงักไปด้วยความประหลาดใจเช่นกัน เกิดอะไรขึ้
น?
ชายร่างใหญ่คนนี้ต้องการรับศิษย์แต่อยากให้โจวเหว่ยชิงขอร้องเขา?
“ไม่มีทาง” สิ่
งที่ทําให้ทุกคนประหลาดใจยิ่
งกว่าคือโจวเหว่ยชิงไม่
แม้แต่จะเสียเวลาคิดเรื่องนี้และปฏิเสธข้อเสนอทันที
ดังนั
้
นจึงถึงคราวที่ชายอ้วนต้องประหลาดใจบ้างแล้ว “อะไรนะ?
ทําไมถึงไม่มีทาง? อย่าคิดว่าชายชราคนนี้คาดเดาไม่ได้ว่าเจ้าเป็นส่วน
หนึ่งของวังสวรรค์ไพศาลหรือไม่? หรือ…เป็นไปได้ไหมว่าเจ้ามีอาจารย์
อยู่แล้ว? ไม่เป็นไร ข้าจะบีบกะโหลกอาจารย์ของเจ้าเสีย แค่นั
้
นก็ช่วย
แก้ปัญหาได้แล้วใช่ไหม?”
ณ พื้นที่ห่างออกไป ลึกเข้าไปในค่ายกองพันไร้พ่าย ทันใดนั้
นมู่เอิน
ก็สั่
นสะท้านโดยไม่รู้ตัวขณะที่ไอเย็นเหยียบแผ่ลงไปถึงกระดูกสันหลัง
ของเขาอย่างไร้ที่มา
โจวเหว่ยชิงส่งเสียงหึในลําคอและพูดว่า “ผลไม้ที่ฝืนเด็ดจากต้น
ย่อมรสไม่หวาน ผู้อาวุโส ท่านไม่ได้กําลังบังคับข้าใช่หรือไม่? อันที่จริง
ข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว และแม้ว่าระดับพลังปราณของเขาจะต�ากว่าท่าน
มาก แต่เขาก็เป็นคนที่ข้าเคารพมากที่สุด ข้าจะไม่ทรยศอาจารย์ของ
ข้า”
ชายอ้วนชะงักไปอีกครั้
ง “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะโกรธและฆ่าพวกเจ้า
ทั
้
งหมดงั
้
นหรือ?”
โจวเหว่ยชิงส่ายหัว กล่าวอย่างดื้อรั้
นและชอบธรรม “ข้าไม่กลัว ก็
อย่างที่มีคนเคยกล่าวไว้เมื่อเจออํานาจอิทธิพลมาข่มขู่จงอย่ายอมสยบ
[1] ท่านไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนหรือ?
“หึ” ชายร่างใหญ่เอ่ยอย่างเหยียดหยาม “หากคนอื่นพูดเช่นนั้
น ข้า
ก็อาจจะยังยอมเชื่ออยู่บ้าง แต่สําหรับเจ้า…เด็กเหลือขอจอมเจ้าเล่ห์
และกลัวตายเช่นนี้การพยายามแสดงละครต่อหน้าชายชราคนนี้ย่อม
ไม่มีประโยชน์อันใด ก่อนที่หานเทียนโหยวจะจากไป เขาได้ตบไหล่เจ้า
นั่
นไม่ใช่การสัมผัสแบบธรรมดาๆ แต่เป็นการเติมพลังไฟหยิน ภายใน 3
ปีไฟหยินนั้
นจะรุกรานและกัดกินร่างกายของเจ้าจากภายในอย่าง
ต่อเนื่องจนกว่าเจ้าจะตาย ข้าไม่จําเป็นต้องทําอะไรเลย ด้วยระดับพลัง
ปราณของเจ้า เจ้าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตัวเองแน่นอน ถ้า
เจ้าไม่อยากตายก็ควรขอร้องข้ามาเสียเดี๋ยวนี้”
“ไฟหยิน?” เมื่อได้ยินคําพูดของชายอ้วนร่างยักษ์โจวเหว่ยชิงก็
กระพริบตาปริบๆ “ผู้อาวุโสอ้วนใหญ่ พวกเรามาเดิมพันกันดีไหม?”
เมื่อได้ยินโจวเหว่ยชิงขอท้าพนัน หลินเทียนอ้าว ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์
และอู่หยาก็กลอกตาพร้อมกันโดยไม่รู้ตัว อันธพาลคนนี้กําลังพยายาม
ที่จะหลอกลวงใครบางคนอีกครั้
งแล้ว ในความทรงจําของพวกเขา ทุก
ครั
้
งที่โจวเหว่ยชิงต้องการเดิมพันบางอย่าง จอมเจ้าเล่ห์คนนี้จะต้อง
มั่
นใจอยู่ก่อนแล้วว่าเขาจะชนะแน่นอน
“เดิมพัน? เดิมพันอะไร? เดิมพันว่าเจ้าจะไม่ตายใน 3 ปีงั
้
นรึ?”
อ้วนใหญ่มองไปที่โจวเหว่ยชิงด้วยความสนใจอีกครั้
ง
โจวเหว่ยชิงยิ้
มและกล่าวว่า “ไม่หรอก 3 ปีนานเกินไป ด้วยระดับ
พลังปราณของผู้อาวุโส ให้ท่านตรวจสอบโดยตรงว่าไฟหยินนั้
นจะทํา
ร้ายข้าได้จริงหรือไม่อาจง่ายกว่า เราจะพนันกันว่าข้าจะสามารถจัดการ
ไฟหยินนี้ด้วยตัวเองได้หรือไม่ ถ้าข้าไม่สามารถจัดการมันได้ข้าก็จะ
ขอร้องให้ท่านรับข้าเป็นศิษย์อย่างไรก็ตาม ถ้าข้าสามารถจัดการไฟห
ยินนี้ได้ด้วยตัวเอง … หึๆ งั
้
นก็ถึงคราวที่ท่านต้องขอร้องข้า”
ทันใดนั้
น อ้วนใหญ่ก็หลุดหัวเราะออกมาพลางกล่าวว่า “เจ้าเด็ก
เหลือขอ เจ้านี่ช่างเหลี่ยมจัดจริงๆ เอาล่ะ ข้าจะไม่เล่นลิ้
นกับเจ้าอีก
ต่อไปแล้ว” ในขณะที่พูดอย่างนั้
น ชายร่างอ้วนก็ขยับตัวทันทีแต่กลับ
ไม่มีใครเห็นว่าเขาเคลื่อนไหวได้อย่างไร
ทันใดนั้
น จู่ๆอีกฝ่ายก็มาปรากฏตัวต่อหน้าซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มือ
หนึ่งกดเข้าที่หน้าผากของเธอ
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ไม่ได้ดิ้
นรนขัดขืนแม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะเธอไม่
อยากจะทํา แต่เป็นเพราะหญิงสาวไม่สามารถขยับตัวได้เลย เป็นอีก
ครั
้
งที่ทักษะโซ่ตรวนวายุได้สําแดงฤทธิ์
เดชของมันออกมา และเธอก็ถูก
ทิ
้
งไว้ให้หมดหนทางสู้ในเวลาเดียวกัน จักรพรรดิสีเงินถั่
วแดงน้อยก็
ยังคงติดอยู่ท่ามกลางพลังแช่แข็งของทักษะโซ่ตรวนวายุแม้ว่าเวลาจะ
ผ่านไปสักพักหนึ่งแล้ว มันก็ยังคงขยับตัวไม่ได้
“รีบคุกเข่าขอร้องชายชราคนนี้เสีย ไม่เช่นนั้
นข้าจะฆ่าคนรักของ
เจ้าทิ้
ง ควรรู้ว่าความอดทนของข้ามีขีดจํากัด”
เดิมทีโจวเหว่ยชิงต้องการจะพลิกเป็นฝ่ายได้เปรียบด้วยการเดิม
พัน แต่ใครจะรู้ว่าอ้วนใหญ่คนนี้จะเจ้าเล่ห์กว่าที่เขาคิดและไม่ยอมติด
กับดักของเขาแม้แต่น้อย กลับกัน ชายผู้นี้กลับสามารถยึดจุดอ่อนของ
โจวเหว่ยชิงได้อย่างง่ายดาย
“ท่านรู้ได้อย่างไรว่านางคือคนรักของข้า” โจวเหว่ยชิงถามอย่าง
สงสัย ขณะที่จ้านหลิงเทียนอยู่กับพวกเขา ทั
้
งโจวเหว่ยชิงและซ่างกวน
เฟยเอ๋อร์ต่างระมัดระวังอย่างยิ่
งที่จะไม่แสดงความสนิทสนมใดๆ
“วิธีที่เจ้ามองกันและกัน จังหวะหายใจและการเต้นของหัวใจ”
อ้วนใหญ่ยิ้
มกว้างและพูดว่า “หึทุกครั
้
งที่เจ้ามองหน้ากัน ทั
้
งการเต้น
ของหัวใจและจังหวะหายใจของเจ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ยังมีวิธีที่เจ้าใช้มองกันและกัน นั่
นไม่สามารถหลอกข้าคนนี้
ได้หรอก เจ้าสองคนอยู่ในขั้
นนี้แล้ว จะเป็นอะไรได้อีกนอกจากคู่รัก?
ก่อนหน้านี้เมื่อเจ้าเผชิญหน้ากับหานเทียนโหยว แม้จะตกอยู่ใน
อันตราย แต่เจ้าก็ยังให้ความสนใจกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้มาก เอา
ล่ะ พูดไร้สาระมามากพอแล้ว รีบคุกเข่าขอร้องให้ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ซะ
มิฉะนั
้
น ทุกๆนาทีต่อจากนี้ตาแก่เช่นข้าจะสร้างรอยแผลเป็นที่ไม่มีวัน
รักษาได้บนใบหน้าที่งดงามของนาง อันธพาลน้อย เจ้าอาจไม่เคยได้ยิน
ชื่อของข้า แต่เด็กหญิงตัวน้อยจากวังสวรรค์ไพศาลคนนี้น่าจะเคยได้ยิน
ชื่อข้ามาก่อนแน่นอน ทุกคนอาจเกรงกลัววังสวรรค์ไพศาล แต่เมื่อไหร่
กันที่ข้า หกสุดยอดมหาราชาสวรรค์หวาดกลัวผู้อื่น? นอกจากนี้ข้ายัง
เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความโหดเหี้ยม…หึๆ”
เมื่อได้ยินคําว่า ‘6 สุดยอดมหาราชาสวรรค์’ สีหน้าของจ้านหลิง
เทียนและซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็เปลี่ยนไปอีกครั้
ง เห็นได้ชัดว่าชื่อนี้มีผล
ต่อคนทั
้
งคู่
“งั
้
น…ผู้อาวุโสอ้วนใหญ่ ข้าขอร้องเป็นครั้
งสุดท้าย” โจวเหว่ยชิง
กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ขออะไร?” อ้วนใหญ่ส่งเสียงหึในลําคอ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างร้อน
ใจเต็มที
ทันใดนั้
นใบหน้าของโจวเหว่ยชิงก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจังพร้อมกับ
ความเศร้าโศกขณะที่เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าจะยอมรับท่านเป็น
อาจารย์ของข้า แต่ท่านห้ามทําร้ายอาจารย์เดิมของข้า เขาจะยังคงเป็น
อาจารย์ของข้าเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้
น แค่คิดว่าหากทุกครั
้
งที่มีผู้
แข็งแกร่งกว่าต้องการรับข้าไปเป็นศิษย์และก็ต้องทรยศอาจารย์เก่า
ของตัวเอง ข้าจะไม่กลายเป็นคนที่ทรยศท่านในอนาคตด้วยหรอกหรือ?
หากท่านไม่เห็นด้วยกับคําพูดนี้แม้ว่าท่านจะฆ่าพวกเราทุกคน ข้าก็จะ
ไม่ตกลง”
อ้วนใหญ่มองไปที่โจวเหว่ยชิงด้วยสายตาทิ่
มแทง ทว่าก็ค่อยๆอ่อน
ลง เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจพลางกล่าวว่า “นั่
นเป็นเรื่องที่
สมเหตุสมผล ตกลง ข้ายอมรับตามนั
้
น บัดซบจริงๆ การหาผู้สืบทอดนี่
ยากเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเด็กเหลือขออย่างเจ้ามี
ทักษะธาตุ6 อย่าง เจ้าคิดว่าข้าจะเสียเวลากับเจ้ามากขนาดนี้เชียว
หรือ?”
ในขณะนั้
นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ
้นขณะที่โจวเหว่ยชิงคุกเข่าลงบนพื้น
อันธพาลน้อยคนนี้เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วราวกับพลิกหน้ากระดาษ
เขาหันหน้าไปทางอ้วนใหญ่และกล่าวว่า “ผู้อาวุโสอ้วนใหญ่โปรดรับ
ข้าเป็นศิษย์ของท่านด้วยเถิดขอรับ!” การแสดงออกนั
้
นทั
้
งจริงใจและ
มุ่งมั่
นจริงจัง ในด้านทักษะการแสดงละคร โจวเหว่ยชิงไม่เป็นสองรอง
ใครแน่นอน
เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเช่นนี้นับประสาอะไรกับ
คนอื่นๆ แม้แต่อ้วนใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมุมปากกระตุก
……………………………………………
[1] มาจาก 富貴不能淫,貧賤不能移,威武不能屈。มี
ยศถาบรรดาศักดิ
์
และความร�ารวยไม่ควรทําตัวเหลวไหล ตกอับยากจน
แค่ไหนอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน เจอกับอํานาจอิทธิพลมาข่มขู่ไม่ยอม
สยบ