Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 139-2 พลิกฝ่ามือควบคุมเมฆ หมุนฝ่ามือบังคับฝน! (2)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 139-2 พลิกฝ่ามือควบคุมเมฆ หมุนฝ่ามือบังคับฝน! (2)
ในช่วงเวลาต่อมา จ้านหลิงเทียนก็ไปปรากฏตัวต่อหน้าโจวเหว่ยชิง
ตรงที่ที่เขายืนอยู่เมื่อสักครู่มีรอยฝ่ามือสีแดงขนาดใหญ่ที่ดูน่ากลัว
ประทับอยู่บนพื้น ลึกลงไปเกือบเมตร
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าช่วยข้า” แม้กระทั่
งในเวลาเช่นนี้ความเป็น
ศัตรูที่จ้านหลิงเทียนมีต่อโจวเหว่ยชิงก็ยังคงอยู่ในระดับสูง เหตุผลที่
ชายหนุ่มรอดมาได้เป็นเพราะโจวเหว่ยชิงฟื้ นพลังปราณสวรรค์กลับมา
ได้มากพอจะใช้ทักษะสัมผัสมืดและลากเขากลับมา
โจวเหว่ยชิงหัวเราะอย่างเต็มที่และกล่าวว่า “เป็นสุนัขที่มีชีวิตอยู่
ย่อมดีกว่าสิงโตที่ตายไปแล้ว การได้มีชีวิตอยู่เพิ่
มวินาทีหนึ่งก็ยังดีกว่า
ไม่มีอะไรเลย ผู้อาวุโสหานเทียนโหยว ท่านได้ยินประโยคเมื่อครู่หรือ
เปล่า?”
ตอนนี้หานเทียนโหยวไม่อยากรีบร้อนฆ่าพวกเขาอีกต่อไปเพราะ
ต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามลิ้
มรสชาติความตายอย่างช้าๆ ขณะจ้องมองไป
ที่โจวเหว่ยชิงอย่างเย็นชา หานเทียนโหยวก็พูดว่า “เจ้ามีอะไรจะพูดอีก
หรือไม่? ถึงอย่างไรมันก็เปลี่ยนชะตากรรมของพวกเจ้าไม่ได้อยู่ดี”
โจวเหว่ยชิงยิ้
มน้อยๆและพูดว่า “แต่สิงที่ข้าพูดเมื่อสักครู่เกี่ยวกับ ่
ท่านนะขอรับ อันที่จริงท่านตอบสนองเร็วมากตอนที่ตัดแขนตัวเองและ
หยุดการแพร่กระจายของพิษไตรธาตุสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดของข้า
เอาไว้อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่ข้าต้องเตือนท่าน พิษของข้ามี
ลักษณะเฉพาะอย่างยิ่
ง…แม้ว่าระดับระดับพลังปราณของท่านจะสูง
มาก แต่เมื่อมันได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว มันก็จะแพร่กระจายไปทั่
วทันที
แม้ว่าแหล่งที่มาของพิษจะถูกตัดออก มันก็จะยังเหลือเมล็ดต้นตออยู่
ภายใน ไม่นานเมื่อมันกําเริบขึ้
นมาอีกครั
้
ง แม้แต่ท่านเทพอมตะก็ไม่
สามารถช่วยท่านให้รอดได้”
หานเทียนโหยวชะงักไปชั่
วขณะ จากนั
้
นก็แค่นเสียงในลําคอและ
พูดว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ นี่เจ้ากําลังขู่ข้าให้กลัวงั้
นรึ? เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อ
เจ้า?”
โจวเหว่ยชิงพูดอย่างใจเย็นและไม่รีบร้อน “มันก็ขึ้
นอยู่กับท่านแล้ว
ว่าอยากจะเชื่อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่แน่ใจว่าแม่นางเซินได้บอก
ท่านเกี่ยวกับพิษไตรธาตุของข้าก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะแม้แต่ผู้อาวุโส
ซ่างกวนหลงหยินก็ไม่สามารถช่วยแก้ไขอะไรได้หากจะกล่าวให้ชัดเจน
กว่านั
้
นก็คือในโลกใบนี้มีเพียงข้าเท่านั้
นที่สามารถกําจัดพิษที่ว่า หาก
ท่านต้องการเดิมพันด้วยชีวิตของตัวเองก็โปรดลงมือฆ่าพวกเราทั้
งหมด
เสียเถิด การที่ข้าสามารถลากจ้าวมณีสวรรค์ระดับราชาไปตายกับพวก
เราได้เช่นนี้ข้าก็รู้สึกพึงพอใจมากแล้ว”
ในขณะที่กล่าว เขาก็หลับตาลง ใบหน้าของโจวเหว่ยชิงยังคง
ประดับไปด้วยรอยยิ้
ม ราวกับทหารพลีชีพที่เต็มใจเผชิญหน้ากับความ
ตายด้วยท่าทางผ่อนคลาย
หานเทียนโหยวไม่ได้ขยับเขยื้อน เขาตรวจสอบโจวเหว่ยชิงอย่าง
รอบคอบทุกรายละเอียดบนใบหน้าของเขา ไม่ยอมปล่อยไปแม้แต่จุด
เดียว อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าชายชราก็รู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถสัมผัสถึง
ความอ่อนแอหรือพิรุธใดๆ ในสีหน้าแสดงท่าทางยอมแพ้นั้
นได้
ไม่มีใครอยากจะล้อเล่นกับชีวิตของตัวเอง และแม้ว่าก่อนหน้านี้
หานเทียนโหยวจะสามารถสละแขนของตัวเองได้อย่างไร้ความปรานี
แต่ถ้าเปลี่ยนแขนเป็นคอของเขา ชายชราย่อมไม่ยอมทําเช่นนั้
นแน่
ใครเล่าไม่หวงแหนชีวิตของตัวเอง? โดยเฉพาะจ้าวมณีสวรรค์ระดับ
ราชาเช่นตัวเขา ภายใต้สถานการณ์ปกติการมีชีวิตอยู่ถึง 200 ปีย่อม
ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อยู่แล้ว ในสายตาของหานเทียนโหยว ชีวิตของทุกคน
ที่นี่รวมกันแล้วก็ยังไม่มีค่าเทียบเท่าชีวิตของเขาเอง! เมื่อเป็นเช่นนี้ชาย
ชราจึงไม่กล้าวางเดิมพันใดๆ
สหายร่วมกลุ่มที่เหลือของโจวเหว่ยชิงเริ่
มลุกขึ
้
นมายืน หลินเทียน
อ้าวมีโล่ประสานศาสตรามณียุทธ์ระดับมณี6 ชุดและความสามารถใน
การป้องกันของเขาก็น่าทึ่งมาก จากคนทั
้
งหมดในกลุ่ม เขาเป็นผู้ที่ได้รับ
บาดเจ็บน้อยที่สุด ถัดไปก็คือผู้ที่มีระดับพลังปราณสูงสุดอย่างซ่างกวน
เฟยเอ๋อร์เธอก็ไม่มีปัญหาหนักหน่วงเช่นกัน สําหรับอู่หยาและหม่าฉุน
แม้ว่าระดับพลังปราณของพวกเขาจะต�ากว่าคนอื่นมาก แต่ร่างกายของ
ทั
้
งคู่ก็จัดเป็นความแข็งแกร่งระดับสูงสุด เกือบจะเหนือกว่ามนุษย์
ทั่
วๆไปด้วยซ�า และแม้ว่าบาดแผลของพวกเขาจะสาหัส แต่ก็ยังไม่ถึง
จุดที่พวกเขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
ถึงเวลานี้ทั
้
งหมดต่างก็มายืนรวมตัวกันข้างหลังโจวเหว่ยชิง จาก
คําพูดของเขา อาจกล่าวได้ว่าทุกคนก็ไม่รู้เช่นกัน เนื่องจากมันฟังดูน่า
สงสัยแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความจริงหลายส่วน ไม่มีใครบอกได้ว่าโจว
เหว่ยชิงโกหกหรือพูดความจริง และแม้กระทั่
งสหายร่วมกลุ่มของเขาก็
ยังตกใจกับคําพูดนั้
น
แน่นอนว่าอย่างน้อยพวกเขาก็ฉลาดพอที่จะเงียบ เพราะถึง
อย่างไรนี่ก็อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของทุกคนแล้ว
มีพิษหลงเหลืออยู่ในร่างกายของหานเทียนโหยวหรือไม่? คําตอบก็
คือไม่…สายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดอาจมีพลังมหาศาล แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่ง
มากกระทั่
งทําให้จ้าวมณีสวรรค์ระดับราชาได้รับพิษทั้
งหมดในทันที
ดังนั
้
นเหตุผลที่โจวเหว่ยชิงพูดเกินจริงและสร้างคําพูดที่น่าตกตะลึง
ขึ
้นมาก็เพื่อปลุกปั่นความกลัวแก่ฝ่ายตรงข้ามนั่
นเอง
สิ่
งที่โจวเหว่ยชิงรู้ดีก็คือหานเทียนโหยวไม่เต็มใจที่จะเดิมพันทุก
อย่างด้วยชีวิตของเขา ด้วยสภาพเช่นนี้พวกเขาล้วนหมดประโยชน์ที่
จะต่อสู้แล้ว และนี่ก็คือความหวังสุดท้ายของโจวเหว่ยชิงอย่างแท้จริง
สิ่
งที่เขาต้องบรรลุในตอนนี้คือทําให้หานเทียนโหยวเชื่อเขา โดยใช้
ข้ออ้างว่าจะช่วยอีกฝ่ายดึงพิษออกมาและใช้ทักษะกลืนกิน นอกจากนี้
ยังหวังว่าจะสามารถควบคุมเขาได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเพื่อคุกคาม
สมาชิกหุบเขาอเวจีสีเลือดคนอื่นๆ
ความจริงโจวเหว่ยชิงรู้ชัดเจนว่าโอกาสที่แผนนี้จะประสบ
ความสําเร็จนั้
นแทบจะเป็นศูนย์แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่คิดว่ามันจะสําเร็จ
ด้วยซ�า แต่ถึงกระนั
้
น อย่างน้อยหากลองดูก็ยังพอมีโอกาส แต่ถ้าไม่ลอง
เลยสักครั
้
ง ทุกคนก็จะต้องตายไปแบบนั้
น นั่
นก็เหมือนกับที่เขาบอก
จ้านหลิงเทียน การมีชีวิตรอดไม่กี่วินาทีย่อมเป็นสิ่
งที่มีค่ามาก และเขาก็
จะคว้าเส้นด้ายบางๆนั
้
นไว้ให้แน่น ไม่ว่ามันจะบางแค่ไหนก็ตาม
ดวงตาแดงก�าของหานเทียนโหยวหันไปที่ปีศาจน้อยเซินและถาม
ว่า “ปีศาจน้อย สิ่
งที่เขาพูดเป็นความจริงหรือ?”
เมื่อมองไปยังดวงตาที่น่ากลัวของเขา ปีศาจน้อยเซินก็อดไม่ได้ที่
จะตัวสั่
น แม้เธอจะรู้ดีว่าหากพวกเขาไม่จัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้
น
วันนี้ให้สําเร็จลุล่วง มันก็จะนํามาซึ่งความบาดหมางระหว่างวังสวรรค์
ไพศาลและหุบเขาอเวจีสีเลือด อนิจจา สิ่
งต่างๆได้พัฒนามาถึงจุดนี้แล้ว
…ด้วยอารมณ์บ้าคลั่
งของหานเทียนโหยวในเวลานี้หลังจากที่สูญเสีย
แขนของตัวเองไป การพยายามหยุดยั
้
งเขาจึงดูไร้ประโยชน์เสียแล้ว
ตอนนี้สิงเดียวที่พวกเขาทําได้จึงเป็นการช่วยอีกฝ่ายปกปิดสิ ่ งต่างๆให้ ่
แนบเนียนที่สุด
ด้วยเหตุนี้เธอจึงพยักหน้าและกล่าวว่า “ในเวลานั้
นซ่างกวนหลงห
ยินกล่าวว่าไม่มีใครสามารถกําจัดพิษไตรธาตุของเขาได้และแม้แต่วัง
สวรรค์ไพศาลก็ไม่สามารถทําอะไรได้ในตอนนั้
น ซ่างกวนหลงหยินเป็น
คนที่พาข้าไปหาโจวเหว่ยชิงด้วยตัวเองเพื่อขอให้เขาขับพิษออกให้”
ขณะที่กล่าวเช่นนั้
น เธอก็มองไปที่โจวเหว่ยชิงซึ่งลืมตาขึ
้
นมาสบกันโดย
บังเอิญ เมื่อมองไปยังดวงตาที่กําลังฉายแววเย้ยหยันเล็กน้อยคู่นั้
น หญิง
สาวก็อดไม่ได้ที่จะชะงักเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าโจวเหว่ยชิงตกลงที่จะช่วย
เธอเพราะคําสัญญาของซ่างกวนหลงหยิน
สายตาของหานเทียนโหยวเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขามองกลับไปที่
โจวเหว่ยชิงและตะคอกว่า “ดีเจ้า มาที่นี่และช่วยข้าขับพิษ หากกล้า
เล่นตลกกับข้าล่ะก็ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั
้
งหมดทันที”
โจวเหว่ยชิงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง ราวกับว่าเขาเจอ
เรื่องตลกที่ตลกที่สุดในโลก
“เจ้าหัวเราะอะไร?” หานเทียนโหยวก้าวไปข้างหน้าด้วยแรงกดดัน
ที่น่าหวาดกลัว มากจนยากที่ทั้
งหมดจะหายใจออกมาได้
โจวเหว่ยชิงแสยะยิ้
มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสหานเทียน
โหยว จ้าวนรกที่ยังมีชีวิต…ข้าขอถามได้ไหมว่าทําไมข้าต้องช่วยท่านขับ
พิษ? หากทําเช่นนั
้
น ท่านจะปล่อยเราเป็นอิสระหรือ? ข้ากลัวว่าคําตอบ
จะไม่ใช่ ดังนั
้
นเราก็มาตายด้วยกันเถิด เอาสิฆ่าพวกเขาทั
้
งหมดแล้วให้
ข้าดูว่าวิธีการทรมานของท่านเป็นอย่างไร ถ้าข้า โจวเหว่ยชิง กรีดร้อง
เพราะความทรมาน ข้าก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายที่แท้จริงแล้ว”
“เจ้าอยากตายสินะ!” หานเทียนโหยวยกมือขึ
้
นเตรียมจะฟาดเขา
แต่โจวเหว่ยชิงกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัว เขายืนมือไพล่หลัง ก้าวไป
ข้างหน้าพร้อมกับใบหน้าแน่วแน่
ในที่สุดฝ่ามือสีแดงเลือดของหานเทียนโหยวก็หยุดนิงอยู่กลาง ่
อากาศและเขาก็ไม่ได้ตบลงไป แม้จะเกลียดโจวเหว่ยชิงมาก แต่เขาก็ยัง
ไม่ต้องการเดิมพันสิ่
งนี้ด้วยชีวิตของตัวเอง
ชายชราไม่รู้ว่าขณะนั้
นเสื้อผ้าของโจวเหว่ยชิงเปียกชุ่มไปด้วย
เหงื่อ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากฝ่ามือของหานเทียนโหยวฟาดลงมาจริงๆ
โจวเหว่ยชิงย่อมต้องเสียชีวิตคาที่ทันที
“เด็กน้อย กับสถานการณ์ในตอนนี้เจ้าคิดว่ามีความเป็นไปได้หรือ
ที่ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป? นอกจากนี้มันยังเกี่ยวข้องกับอนาคตหุบเขา
อเวจีสีเลือดของเราอีกด้วย ดังนั
้
นการตายของพวกเจ้าจึงต้องเกิดขึ
้
น
อย่างแน่นอน หากเจ้าเต็มใจที่จะขับพิษให้ข้า ข้าก็จะปล่อยให้พวกเจ้า
ทุกคนตายอย่างไม่เจ็บปวด” หานเทียนโหยวกล่าวอย่างเย็นชา
แม้ว่าน�าเสียงของเขายังคงเยือกเย็นและเต็มไปด้วยจิตสังหาร แต่
คําพูดของเขาก็แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายเริมเชื่อจริงๆแล้ว ่
โจวเหว่ยชิงกระดิกนิ้
วให้หานเทียนโหยวและพูดว่า “ไม่ๆ อาวุโส
หาน ข้ากลัวว่าจะมีบางอย่างที่ท่านยังไม่เข้าใจกระจ่างนัก ความจริงไม่
ว่าเราจะมีชีวิตอยู่หรือตายในวันนี้ทุกสิ่
งที่เกิดขึ้นที่นี่ก็จะเป็นที่รับรู้ของ
วังสวรรค์ไพศาลแน่นอน”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” ปีศาจน้อยเซินไม่สามารถรักษาความสงบ
ของเธอไว้ได้และร้องอุทานออกมา “เจ้ากําลังพูดพล่ามอะไร! ถ้าพวก
เจ้าตายที่นี่ วังสวรรค์ไพศาลจะรู้ได้อย่างไร?”
โจวเหว่ยชิงมองหญิงสาวอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “เจ้า
เคยเข้าร่วมงานประลองมณีสวรรค์ด้วยนี่? น่าจะคุ้นเคยกับมณีสะท้อน
แสนอัศจรรย์ที่วังสวรรค์ไพศาลมีใช่หรือไม่? เอาเถอะ ถึงอย่างไรเจ้าก็
เป็นเพียงสมาชิกหุบเขาอเวจีสีเลือด จะรู้ได้อย่างไรว่าอัญมณีเหล่านั้
น
น่าอัศจรรย์เพียงใด? ไม่ว่าจะเป็นพี่จ้านหรือเฟยเอ๋อร์พวกเขาล้วนมี
ความสําคัญสูงสุดต่อวังสวรรค์ไพศาล อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้สืบทอด
หลักของวังสวรรค์ไพศาลด้วยซ�า เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา วัง
สวรรค์ไพศาลจะไม่มีการป้องกันบางอย่างได้อย่างไร? ความจริงเรื่อง
ทั
้
งหมดที่เกิดขึ้นที่นี่ถูกส่งกลับไปแล้ว ดังนั
้
นหากท่านไม่ฆ่าเราก็ยังมี
ความหวังที่จะเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ถ้าพวกเราทุกคนตาย หึๆ ถ้าวัง
สวรรค์ไพศาลไม่กวาดล้างหุบเขาอเวจีสีเลือดให้สิ้
นซาก บิดาผู้นี้จะยอม
ใช้นามสกุลของเจ้าเลย”
โจวเหว่ยชิงยืนอยู่ที่นั่
นและพูดอย่างสงบ ดูเหมือนว่าทุกอย่างอยู่
ในการควบคุมของเขาแล้ว เด็กหนุ่มไม่เพียง แต่ทําให้สมาชิกหุบเขา
อเวจีสีเลือดรู้สึกหวาดกลัวเท่านั
้
น แม้แต่สหายของเขาก็ยังรู้สึกว่าหัวใจ
ของตนเองกําลังเต้นแรง
แน่นอนว่าคนที่หัวใจเต้นแรงที่สุดคือจ้านหลิงเทียนและซ่างกวน
เฟยเอ๋อร์ป้องกันอะไร? ส่งข่าวอะไร? ทั
้
งหมดนั
้
นเป็นเรื่องพล่อยๆที่
โจวเหว่ยชิงคิดขึ
้
นมาเองและไม่มีอะไรที่เป็นจริงทั้
งนั
้
น อย่างไรก็ตาม
เพียงแค่ได้เห็นอีกฝ่ายกล่าวอย่างมั่
นใจ นับประสาอะไรกับศัตรูของ
พวกเขา แม้แต่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์และจ้านหลิงเทียนก็รู้สึกว่าสิงที่เขาพูด ่
นั
้
นสมเหตุสมผลและดูเหมือนจริงมาก
ทักษะการแสดงของโจวเหว่ยชิงได้ระเบิดขึ้
นในช่วงเวลาแห่งความ
เป็นความตาย และตอนนี้เขาก็วางเดิมพันไว้กับมัน หากไม่สามารถ
หลอกสมาชิกของหุบเขาอเวจีสีเลือดได้พวกเขาทั
้
งหมดก็จะต้องตาย
ที่นี่ตอนนี้ถ้าเขาทําได้พวกเขาก็จะมีโอกาสรอด ในสถานการณ์เช่นนี้
เขาจึงต้องโกหกด้วยไหวพริบทั้
งหมด ค้นหาทุกโอกาสที่เป็นไปได้
เมื่อได้ยินคําพูดของโจวเหว่ยชิง การแสดงออกของหานเทียน
โหยวก็ดูน่าเกลียดขึ้
นมาในทันทีหากสิงที่เด็กหนุ่มพูดเป็นความจริง ่
แม้ว่าตนจะสังหารพวกเขาทั
้
งหมดในวันนี้ไม่นานกลุ่มยอดฝีมือจํานวน
มากจากวังสวรรค์ไพศาลก็จะต้องมุ่งมาที่หุบเขาอเวจีสีเลือดแน่นอน
หานเทียนโหยวอาจจะเป็นจ้าวมณีสวรรค์ระดับราชา มีตําแหน่งและ
สถานะในหุบเขาอเวจีสีเลือด แต่ถึงอย่างนั
้
น เขาก็ไม่สามารถแบกรับผล
ที่จะตามมาได้
โจวเหว่ยชิงยิ้
มน้อยๆและกล่าวต่อ “ผู้อาวุโสหาน ข้ารู้ว่าท่านอาจ
ไม่เชื่อในสิ่
งที่ข้าพูด แต่ข้าขอเตือนท่านอีกสิ่
งหนึ่ง นี่เป็นสิ่
งที่ท่าน
สามารถเชื่อถือได้อย่างแน่นอน ข้าเชื่อว่าอาการบาดเจ็บของผู้อาวุโส
หานไม่ได้เล็กน้อย และถึงแม้ว่าท่านจะสามารถใช้พลังปราณสวรรค์
เพื่อปราบพวกเราทั้
งหมดได้แต่ข้าก็มั่
นใจว่ามันจะส่งผลต่อความ
แข็งแกร่งในปัจจุบันของท่านไม่น้อยแน่ อย่างที่ผู้อาวุโสเห็น ข้ามี
จักรพรรดิสีเงินอยู่ที่นี่ ดังนั
้
นข้าขอถามผู้อาวุโสว่าด้วยสภาพอาการ
บาดเจ็บในปัจจุบันของท่านและคนอื่นๆที่นี่ใครจะหยุดจักรพรรดิสีเงิน
ของข้าได้หากมันใช้ความเร็วเต็มที่กับทักษะสายฟ้าทะลวงจักรพรรดิสี
เงิน? หากถูกบังคับจนต้องหันหลังชนกําแพง เราก็จะทําลายชีวิตของ
ตัวเองเพื่อหยุดพวกท่านทั้
งหมดในเสี้ยววินาทีและข้าก็เชื่อว่าพวกเรา
ทําได้แน่นอน อีกทั
้
งจักรพรรดิสีเงินของข้าย่อมสามารถส่งข่าวกลับไปที่
วังสวรรค์ไพศาลได้ด้วย เพราะฉะนั
้
นข้าจึงไม่จําเป็นต้องโกหกพวกท่าน
ทุกคน…ตอนนี้วังสวรรค์ไพศาลรู้ข่าวว่าพวกเราได้พบกับศัตรูทรงพลัง
ที่นี่แล้ว”
……………………………………………..