Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - ตอนที่ 38 อสูรสวรรค์ธาตุมิติระดับราชา (3)
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าด้วยสีหน้าซื่อตรงและกล่าวว่า “ใช่ขอรับผู้อาวุโส! แล้วทักษะธาตุอื่นๆ มีอสูรสวรรค์ระดับราชาด้วยหรือไม่?”
ชายวัยกลางคนเอ่ยตอบอย่างเหยียดหยาม “เจ้าจะเอาอสูรสวรรค์ระดับราชาไปทำอะไร? ข้าขอบอกเจ้าว่าที่นี่มีเพียงตัวเดียวและมีไว้สำหรับพวกเราจ้าวมณีสวรรค์ธาตุมิติเท่านั้น! แน่นอนว่ามันคืออสูรสวรรค์ระดับราชาเพียงหนึ่งเดียวในวังกักเก็บทักษะแห่งนี้ ข้าจะบอกอะไรให้ เมื่อ 3 เดือนที่แล้วหัวหน้าวังกักเก็บทักษะของเราและผู้อาวุโส 12 คนต้องร่วมมือกันเพื่อจับมัน พวกเราต้องสูญเสียผู้อาวุโสไปถึง 4 คนกว่าจะจับมันได้!”
โจวเหว่ยชิงร้องออกมาด้วยความดีใจ “ผู้อาวุโส ถ้าข้าต้องการกักเก็บทักษะของอสูรสวรรค์ระดับราชา ข้าจะต้องจ่ายเท่าไหร่หรือ?”
เมื่อฟังคำพูดของเขาจบ ชายวัยกลางคนทั้ง 2 ก็มีท่าทางแปลกๆ ไม่นานชายทางขวาก็พึมพำออกมาว่า “นี่คือคนที่ 7…”
ชายทางซ้ายจึงเอ่ยว่า “100,000 เหรียญทองสำหรับการทดลองหนึ่งครั้ง เจ้าสามารถเข้าไปได้ทันทีที่จ่ายเงิน”
“อะไรนะ? 100,000!?” โจวเหว่ยชิงจ้องมองชายวัยกลางคนทั้ง 2 ที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างตกตะลึง แม้ว่าเขาจะมีเงินติดตัว แต่นั่นก็เป็นเพียง 10,000 เหรียญทองที่มารดาของเขามอบให้ก่อนที่เขาจะออกจากเมืองหลวงเกาทัณฑ์สวรรค์ ส่วนแบ่งของเขาจากหน่วยเกาทัณฑ์สวรรค์ก็ถูกใช้ไปกับแหวนมิติสำหรับหมี 2 ตัวนั้นไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจะมี 100,000 เหรียญทองได้อย่างไร!
ชายวัยกลางคนทางด้านซ้ายแค่นเสียงเอ่ยว่า “หากเจ้าต้องการสัมผัสกับพลังของอสูรสวรรค์ระดับราชา เจ้าก็ต้องจ่ายตามนั้น หากเจ้ามีเงินไม่พอ ก็จงเก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้กับตัวเองต่อไป”
โจวเหว่ยชิงลังเลสักพักก่อนจะกัดฟันคิดกับตัวเอง ได้! 100,000 เหรียญทองงั้นหรือ? ช่างมันก็แล้วกัน! “ผู้อาวุโส เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร ตอนนี้ข้าไม่มีเหรียญทองติดตัวมากขนาดนั้น ข้าจะใช้ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์เป็นของแลกเปลี่ยนแทนได้หรือไม่?” เขาถามอย่างไม่แน่ใจ
เมื่อได้ยินคำว่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ ใบหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปทันที สายตาดูถูกเหยียดหยามที่มองไปยังโจวเหว่ยชิงก็พลอยลดน้อยลงไปด้วย
ชายทางด้านขวาถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “หนุ่มน้อย เจ้าเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์งั้นหรือ?” หากโจว เหว่ยชิงอยู่ที่ห้องโถงทักษะธาตุอื่นๆ ผู้คุมก็อาจจะไม่ถามคำถามนี้ แต่นี่คือห้องโถงทักษะธาตุมิติ และจ้าวมณีที่มีทักษะธาตุมิติก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ ในขณะที่เขาถามคำถามนั้นออกมา มุมมองที่พวกเขาที่มีต่อโจวเหว่ยชิงก็ดีขึ้นมากเช่นกัน
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่แล้วขอรับ! ข้าเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐาน ดังนั้นข้าจึงมีเพียงม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐาน นั่นพอใช้ได้หรือไม่?”
“แน่นอน!” ชายที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือกล่าวอย่างกระตือรือร้น ตอนนี้มุมมองที่เขามีต่อโจวเหว่ยชิงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขามองโจวเหว่ยชิงด้วยสายตาแสดงความเคารพนับถือ “อย่างไรก็ตาม หากเป็นม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐาน พวกมันจะต้องอยู่ครบทั้งชุด ที่วังกักเก็บทักษะพวกเราจะรับซื้อชุดละ 50,000 เหรียญทอง หากเจ้ามี 2 ชุด เจ้าก็สามารถเข้าชมอสูรสวรรค์ระดับราชาได้เลย”
“50,000 เหรียญทอง?” โจวเหว่ยชิงผงะ ก่อนหน้านี้ฮูเหยียนเอ้าป๋อเคยบอกเขาว่าราคาของม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 30,000 เหรียญทองเท่านั้น!
ชาย 2 คนคิดว่าโจวเหว่ยชิงไม่เห็นด้วยกับราคาที่พวกเขาให้ต่ำเกินไป ชายทางซ้ายจึงรีบพูดว่า “เจ้าหนุ่ม แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้จำนวนม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ที่วางขายจะลดลงและทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น แต่อย่างที่เจ้ารู้ ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานนั้นไม่ได้รับประกันความสำเร็จที่แน่นอน ราคา 50,000 เหรียญทองของเราจึงถือว่าเป็นราคาที่ยุติธรรมแล้ว แม้ว่าเจ้าจะนำไปขายที่หอประมูล แต่ก็มีแนวโน้มที่จะขายได้ราคามากกว่านี้เล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งหลังจากหักค่าธรรมเนียมการประมูลแล้ว ราคาที่ขายได้ก็อาจจะลดลงเหลือเท่ากัน”
โจวเหว่ยชิงฟื้นคืนสติและพูดว่า “นั่นหมายความว่าวังกักเก็บทักษะรับซื้อม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานหรือขอรับ?”
“แน่นอน วังกักเก็บทักษะของเรารับซื้อม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ทุกระดับ!” ชายสองคนจ้องมองเขาอย่างทำอะไรไม่ถูก จากคำถามของโจวเหว่ยชิง พวกเขาจึงเดาได้ว่าแม้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาจะเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐาน แต่เขาก็ยังคงเป็นมือใหม่อย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้ว่าจะขายม้วนคัมภีร์ได้ที่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงสุภาพกับเหว่ยชิงมากเนื่องจากไม่มีใครต้องการเป็นศัตรูกับอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์อย่างไร้เหตุผล
“เอาล่ะ ข้ามีคัมภีร์มาขายส่วนหนึ่ง” ก่อนเข้าเมืองใหญ่โจวเหว่ยชิงไม่เคยคิดเกี่ยวกับความสำคัญของเงินมาก่อน ทว่าแค่เพียงกักเก็บทักษะจากอสูรสวรรค์ธาตุมิติระดับราชาครั้งหนึ่ง เขายังต้องใช้เงินถึง 100,000 เหรียญทอง! ตอนนี้โจวเหว่ยชิงจึงรู้ซึ้งถึงความสำคัญของมันและต้องการเงินอย่างมาก เขายกมือซ้ายขึ้นวางบนสร้อยมิติของเขา จากนั้นก็หมุนเวียนพลังปราณสวรรค์เพื่อหยิบกล่องไม้ออกมากล่องแล้วกล่องเล่า
ความเคลือบเเคลงใจของพวกเขาก็ถูกปัดทิ้งไปทันทีที่เห็นโจวเหว่ยชิงมีสร้อยมิติไว้ในครอบครอง โจวเหว่ยชิงหยิบม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ 10 กล่องออกมาและวางไว้บนโต๊ะต่อหน้าพวกเขา
ทั้งคู่ไม่ลังเลอีกต่อไปทั้ง พวกเขารีบตรวจสอบม้วนคัมภีร์ในกล่องอย่างรวดเร็วและพบว่าพวกมันทั้งหมดล้วนแต่เป็นม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานที่บรรจุอยู่ในกล่อง กล่องละ 1,000 ใบ
“เจ้าเป็นคนสร้างพวกมันขึ้นมาเองทั้งหมดเลยรึ?” ชายทางซ้ายถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
โจวเหว่ยชิงตอบด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาบนใบหน้าของเขา “ใช่! ผู้อาวุโส ถ้าข้าขายทั้ง 10 กล่องทีเดียวจะสามารถขอเงินเพิ่มอีกหน่อยได้หรือไม่? ท่านก็รู้ว่าการกักเก็บทักษะนั้นค่อนข้างแพง…”
ชายวัยกลางคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ข้าจะต้องไปถามหัวหน้าก่อน บอกตามตรงนะเจ้าหนุ่ม เจ้าไม่ควรเสียเงินไปลองเสี่ยงกักเก็บทักษะจากอสูรสวรรค์ระดับราชาโดยเปล่าประโยชน์ เจ้าไม่มีโอกาสที่เจ้าจะทำสำเร็จหรอก 100,000 เหรียญทองไม่ใช่เงินจำนวนน้อย แม้ว่าเจ้าจะเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ เจ้าก็ไม่ควรผลาญเงินที่หามาอย่างยากลำบากเช่นนั้น”
โจวเหว่ยชิงหัวเราะและพูดว่า “ก็อย่างที่ท่านพูด มีเพียงที่ห้องโถงทักษะธาตุมิติของท่านเท่านั้นที่มีทักษะจากอสูรสวรรค์ระดับราชาเช่นนี้ บางทีนี่เป็นโอกาสเดียวที่ข้าจะได้เห็นมันสักครั้งหนึ่งในชีวิต ถึงแม้ว่าเงิน 100,000 เหรียญทองจะเป็นราคาที่แพงมาก แต่ข้าก็ยังอยากลองดูด้วยตัวเองสักครั้งเพื่อสัมผัสว่ามันเป็นอย่างไร สำหรับการกักเก็บทักษะนั้น แน่นอนข้ารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
เมื่อเห็นว่าคำชักชวนของเขาไม่เป็นประโยชน์ ชายวัยกลางคนจึงพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นเจ้าก็เข้าไปข้างในก่อนเถิด ข้าจะนำม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ของเจ้าไปให้หัวหน้าของข้าตรวจสอบดู เมื่อเจ้าออกมาแล้ว พวกเราจะมอบเหรียญทองที่เหลือให้”
โจวเหว่ยชิงพูดอย่างเหนียมอายว่า “ผู้อาวุโส ท่านคงจะไม่เล่นตุกติกกับคัมภีร์ของข้าหลังจากข้าออกมาใช่ไหม?”
เส้นสีดำปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของชายวัยกลางคนทั้ง 2 ทันที จากนั้นคนที่อยู่ทางซ้ายก็พูดขึ้นด้วยความโกรธ “เจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ไหนอย่างนั้นหรือ? ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของวังกักเก็บทักษะของอาณาจักรเฟยหลี่ ไม่ใช่ร้านค้า ธรรมดาๆ ทั่วไป หากเจ้าไม่ได้เป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ล่ะก็ เพียงแค่คำพูดที่เจ้าเพิ่งพูดออกมาก็อาจทำให้สักนักของเราขึ้นบัญชีดำกับเจ้าตลอดไปแล้ว”
“เอ่อ…ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว…ข้าจะไปตอนนี้ขอรับ” แม้ภายในใจโจวเหว่ยชิงกำลังหัวเราะกับตัวเองอย่างบ้าคลั่ง แต่อย่างไรเขาก็ยังคงแสดงสีหน้าหวาดกลัวขณะรีบหันหลังกลับและเดินเข้าไปในทางเข้าที่มีป้ายติดไว้ว่า ‘ราชา’
ขณะที่ชาย 2 คนเฝ้าดูร่างที่หายลับเข้าไปในทางเดินนั้น ชายทางซ้ายก็เอ่ยขึ้นมาว่า “มีคนจำนวนมากที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับอสูรสวรรค์ระดับราชาและเต็มใจที่จะจ่าย แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่กักเก็บทักษะสำเร็จ เฮ้อ ราวกับถือเงินมาให้พวกเราเฉยๆ เสียอย่างนั้น ผ่านมาแค่ 3 เดือน แต่พวกเรากลับทำเงินจากอสูรตัวนี้กว่า 700,000 เหรียญทองแล้ว ถึงกระนั้นข้าก็ยังคาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กน้อยนั่นจะเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์”
คนทางขวาส่งสัญญาณให้เขาเงียบ “พูดให้เบาลงหน่อย มันคงจะไม่ดีหากเขาได้ยินเข้า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องล่วงเกินอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สามารถกลายเป็นอาจารย์คัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นจ้าวมณีสวรรค์ด้วยเช่นกัน เอาล่ะ ข้าจะไปรายงานหัวหน้าของเราเกี่ยวกับม้วนคัมภีร์พวกนี้ก่อน”
หลังจากเข้าสู่ประตูทางเข้านั้นมาได้ สีหน้าของโจวเหว่ยชิงก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความตื่นเต้นกำลังพลุ่งพล่านไปทั่วร่างของเขา เขาออกแรงกำหมัดแน่นด้วยพลังทั้งหมดที่มี อสูรสวรรค์ระดับราชางั้นหรือ…จะมีทักษะที่แข็งแกร่งขนาดไหนกันนะ? บางทีระดับของมันอาจจะสูงกว่าระดับ 9 ดาวด้วยซ้ำ! ฮิๆ 100,000 เหรียญทองอาจมีราคาแพง แต่ถ้าเขาได้รับทักษะที่แข็งแกร่ง นั่นก็ย่อมคุ้มค่าอย่างยิ่ง!
ในขณะที่เขาเดินไปตามทาง เขาก็สังเกตเห็นว่าก้อนหินรอบๆ ทางเดินพวกนี้ดูใหม่มาก นี่คงจะเป็นเส้นทางที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอน ในขณะที่เขาเดินลงไปตามทางลาดสู่เบื้องล่าง โจวเหว่ยชิงก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกที่น่ากลัว ราวกับว่ามีแรงกดดันที่มองไม่เห็นลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ ส่งความกระแสไอเย็บวาบแล่นไปตามแนวกระดูกสันหลังของเขา
ทว่าโจวเหว่ยชิงก็พยายามเพิกเฉยต่อแรงกดดันเหล่านั้นและเดินไปตามเส้นทางต่อ อย่างไรเขาก็ใช้เงินไปกว่า 100,000 เหรียญทองแล้ว เขาไม่ยอมถอยง่ายๆ หรอก!
หลังจากมุ่งหน้าลงไปประมาณ 500 เมตร ในที่สุดเส้นทางข้างหน้าก็กว้างขึ้นกลายเป็นเป็นห้องโถงหินแห่งหนึ่ง
เมื่อเข้ามาในห้อง โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกได้ว่าแรงกดดันที่บีบคั้นเขาอยู่ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนเขาต้องหมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ออกมาเพื่อต่อต้าน กลิ่นอายที่คุ้นเคยพลันถูกส่งต่อเข้ามาในความรู้สึกของเขา
“ทักษะธาตุมืด?” ทั้งห้องเรียงรายไปด้วยหินสีดำที่มีอักขระแปลกๆ จารึกอยู่บนนั้น ภายในนั้นยังมีคบไฟเรียงรายอยู่เพื่อให้แสงสว่าง
แท้จริงแล้วสัมผัสคุ้นเคยที่โจวเหว่ยชิงรู้สึกได้นั้นคือทักษะธาตุมืด แน่นอนว่าในบรรดาทักษะธาตุทั้งหมด ทักษะธาตุมืดนั้นมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการปิดผนึก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในก้อนหินพวกนั้นมีทักษะธาตุมืดที่แข็ง แกร่งมากมายคอยปิดผนึกกำลังของอสูรสวรรค์ระดับราชาเอาไว้อยู่
หลังจากจมอยู่กับสัมผัสของทักษะธาตุมืดไปชั่วขณะหนึ่ง ในที่สุดการสายตาของโจวเหว่ยชิงก็หยุดอยู่ที่ร่างของอสูรสวรรค์ระดับราชา แต่ทว่าในพริบตานั้นเขาก็อดจะตื่นตะลึงไม่ได้
ที่มุมห้องมีนกน้อยขนสีเงินนอนอยู่ มันมีขนาดเล็กมาก ร่างกายมีความยาวน้อยกว่า 1 ฉื่อและก็ยังมีขนาดตัวเล็กกว่าเจ้าแมวอ้วนอีกด้วย นี่เป็นสาเหตุที่โจวเหว่ยชิงไม่เห็นมันทันทีที่เข้าไปในห้อง
ร่างของเจ้านกตัวน้อยปกคลุมไปด้วยขนสีเงินแซมขาว มันกำลังนอนอยู่บนพื้นในท่าที่ศีรษะของมันห้อยลงต่ำ ขนของมันไร้เงาแวววาว อีกทั้งดวงตาก็ปิดสนิท มีอักขระสีดำแปะอยู่บนหน้าผากของมัน ปีกและกรงเล็บแต่ละข้างต่างก็ถูกโซ่สีดำเล็กๆ ล่ามเอาไว้
นี่คืออสูรสวรรค์ระดับราชา? ดูตัวจ้อยไปหน่อยไหม? หากไม่นับสีขนของมันแล้ว ที่เหลือก็แทบจะดูไม่ต่างจากนกทั่วไปเลยแม้แต่น้อย
โจวเหว่ยชิงคิดกับตัวเองขณะที่เขาเดินไปข้างหน้า ขณะนั้นในห้องโถงหินแทบไม่มีแสงสว่างเพียงพอเลย เมื่อเข้าไปใกล้เขาจึงมองเห็นแค่เพียงแผ่นหินที่ตั้งอยู่ข้างๆ เจ้านกตัวจ้อยเท่านั้น บนแผ่นโลหะนั้นมีอักษรจารึกไว้ แน่นอนว่า โจวเหว่ยชิงเคยไปที่วังกักเก็บทักษะมาก่อน เขาจึงรู้ดีว่านี่คือป้ายบันทึกความสามารถของอสูรสวรรค์
ด้านบนของแผ่นโลหะมีอักษรเขียนไว้ต่อไปนี้ จักรพรรดิสีเงิน อสูรสวรรค์ธาตุลมและธาตุมิติ ระดับราชา
แม้ว่าอสูรสวรรค์ตนนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็รวดเร็วและอันตรายมาก โดยปกติแล้วไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เจ้าแห่งท้องนภา ชำนาญทักษะธาตุมิติเป็นอย่างดี ทักษะกระชากมิติ สามารถตอบโต้ทักษะธาตุมิติส่วนใหญ่ได้และมีความสามารถในการทำลายล้างที่น่าอัศจรรย์
มันมีพละกำลังมาก อาหารที่กินคือสมองของอสูรสวรรค์หรือสมองของมนุษย์ทั่วไป
มีความก้าวร้าวและพลังทำลายล้างสูงตามธรรมชาติ ขึ้นชื่อในเรื่องนำหายนะและความตายไปด้วยทุกที่ๆ มันย่างกรายไป ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกอีกอย่างว่านกแห่งภัยพิบัติ หนึ่งในอสูรสวรรค์ระดับราชาที่ร้ายกาจที่สุด
ทักษะของจักรพรรดิสีเงิน
ธาตุมิติ ทักษะกระชากมิติ
ธาตุลม ทักษะภาพลวงตาทวีคูณ ทักษะสะบัดปีกเฉือน ทักษะทะลวงสายฟ้า
โจวเหว่ยชิงพึมพำกับตัวเอง “อสูรสวรรค์ระดับราชาตนนี้ไม่ได้มีทักษะมากมาย ทั้งหมดมีแค่ 4 ทักษะและมีเพียง 1 ทักษะเท่านั้นที่เป็นทักษะธาตุมิติ” ขณะที่เอ่ยเช่นนั้น เขาก็อ่านคำอธิบายทักษะด้านล่างต่อ
ทักษะกระชากมิติ ทักษะที่มีชื่อเสียงที่สุดของจักรพรรดิสีเงิน สามารถนำพลังปราณธาตุมิติไปใช้ได้อย่างน่าประทับใจ สามารถผ่าแยกมิติออกจากกันได้ในทันทีและบิดเบือนมิติได้ ภายในระยะใกล้ๆ สามารถทำลายทักษะล่องหนหรือทักษะซ่อนเร้น รวมไปถึงทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาได้ ในขณะเดียวกันก็มีพลังการฉีกกระชากที่แข็งแกร่งมาก เมื่อใช้ทักษะกระชากมิติ มันจะบิดเบือนพื้นที่ซึ่งอาจทำให้การโจมตีระยะไกลของศัตรูพลาดเป้าหมายได้ การใช้งานของทักษะกระชากมิติ รัศมีการใช้งานรวมทั้งระยะเวลาที่ใช้ได้ขึ้นอยู่กับระดับพลังปราณสวรรค์ของผู้ใช้
…………………………
Related