Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 167
ในครั้งนี้เสียงโห่เยาะเย้ยดังก้องสนามแทนที่เสียงร้องเชียร์ บรรดานักเตะเองก็หยุดวิ่ง
กองหลังฝ่ายตรงข้ามที่ไม่สามารถสกัดกั้นมูคยอมด้วยการป้องกันแบบตามปกติได้อีกต่อไปนั้นได้ทำการจู่โจมเข้าแย่งลูกบอลโดยเจตนา มูคยอมที่ถูกโจมตีจากการเล่นผิดกฎกติกาจับเข่าและข้อเท้าแล้วล้มลงบนสนามหญ้า เมื่อเห็นใบหน้าอันเจ็บปวดของอีกฝ่ายจากที่ไกลๆ ฮาจุนจึงลุกขึ้นจากม้านั่ง
“ใบแดง! ใบแดง!”
“ออกจากสนาม!”
ขณะที่เสียงโห่ร้องทำให้สนามสั่นสะเทือนราวกับฟ้าร้อง กรรมการตัดสินก็เข้ามาใกล้มูคยอมที่ทรุดตัวลงและนักเตะที่สกัดกั้นมูคยอม นักเตะที่เข้าปะทะยักไหล่สองสามครั้งแล้วประสานมือเอาไว้ ดูเหมือนจะพยายามหาข้อแก้ตัวอะไรบางอย่าง
มูคยอมลุกขึ้นนั่ง แต่ยังคงจับข้อเท้าและขมวดคิ้วราวกับว่าเจ็บขาอยู่
ทีมแพทย์วิ่งเข้ามาฉีดสเปรย์บรรเทาอาการที่ขาของมูคยอม
กรรมการตัดสินบันทึกอะไรบางอย่างและประกาศการเตะฟรีคิกของกรีนฟอร์ด แม้ว่าจะเป็นการชดเชยในการฟาวล์ แต่เสียงโห่ร้องด้วยความไม่พอใจในคำตัดสินของผู้ชมก็ไม่ได้สงบลงเลย แม้แต่ตรงม้านั่งเองก็มีเสียงบ่นออกมา
“ให้แค่ใบแดงก็ไม่พอหรอก นี่ไม่ให้เลยเหรอ”
“คงคิดว่ามูมูทำล่ะมั้ง”
ดวงตาที่เบิกกว้างของฮาจุนหรี่ลงและคิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่น
“ทำไมไม่ให้ใบเตือน”
ขณะที่ฮาจุนพูดกับตัวเองเป็นภาษาเกาหลีอย่างเหม่อลอย สต๊าฟบางคนก็หันมามองเขา ในขณะนั้น กรรมการตัดสินก็กลับไปนั่งที่ของตนเองที่อยู่ใกล้ม้านั่ง ฮาจุนก้าวเข้ามาหากรรมการและขึ้นเสียง
“นักเตะเกือบได้รับบาดเจ็บหนักเลยนะครับ ทำไมถึงไม่ให้คาดโทษตามความเหมาะสมเลยล่ะครับ”
“จุน นั่งลง”
แฮร์รี่ผวาปรามเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ ฮาจุนไม่สนใจการเตือนจากอีกฝ่าย กรรมการตัดสินเตือนฮาจุนด้วยสายตาและโบกมือห้ามไม่ให้เข้ามาใกล้ในขณะที่ฮาจุนเดินไปหา
“ต้องปกป้องนักเตะอย่างที่ควรจะทำสิครับ ถ้าตัดสินแบบนี้จะให้วางใจแล้วเล่นต่อไปได้อย่างไรครับ”
“กลับไปยังที่นั่งของคุณเถอะครับ”
“ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นี้ คุณจะรับผิดชอบไหม!”
ฮาจุนแผดเสียงขึ้นมาราวกับยั่วยุ แต่แทนที่จะตอบ กรรมการตัดสินส่ายหน้าสองสามครั้งแล้วเลื่อนมือไปยังกระเป๋าเสื้อด้านหน้า
บรรดานักเตะและผู้ชมที่สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติบนม้านั่งต่างก็ส่งเสียงอึกทึกและมองไปในทิศทางเดียวกัน กล้องเองก็ฉายไปทางนั้นเช่นเดียวกัน
นักเตะและผู้ช่วยกรรมการตัดสินที่กำลังเตรียมเตะฟรีคิกหยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำและมองไปที่ม้านั่งของกรีนฟอร์ด EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq 1 EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq มันเป็นภาพที่ยากที่จะเห็นอีกครั้งในสนามฟุตบอลในลอนดอน แม้จะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม
“นี่มันเรื่องอะไรกัน จุนต้องออกจากสนามเหรอ”
บรรดานักเตะกระซิบกระซาบกัน EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq กลืนน้ำลายแห้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจากสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง
มีนักเตะคนหนึ่งเดินเข้ามาถามมูคยอม
“มูมู นายเตะฟรีคิกไหวไหม”
“อ๋อ…ได้สิ”
“แล้วขานายล่ะ”
“ไม่เป็นไร ฉันเตะไหว”
มูคยอมยืนจับที่จับทาง ถอยกลับไปสองสามก้าวเพื่อกลั้นหายใจ แล้ววิ่งไปเตะลูกบอลอย่างแรงเพื่อปิดการป้องกัน มันเป็นการเตะออกไปด้านหน้าที่วาดเส้นโค้งยาวอย่างประณีตราวกับภาพวาด
ลูกบอลลอยข้ามแนวตั้งรับ มันพลาดออกจากมือของผู้รักษาประตูและเข้าไปในตาข่าย หลังจากเหตุการณ์เล็กๆ ที่ทำให้สนามกีฬาวุ่นวายสักพัก
เสียงเชียร์ของผู้คนก็ได้กระหึ่มเต็มสนาม การแข่งขันดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
มูคยอมไม่เดินโซเซหรือแสดงสีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวดอีกต่อไป
จบด้วยคะแนน 2 ประตูต่อ 1 กรีนฟอร์ดชนะ มูคยอมผู้ทำประตูแรกออกจากสนามด้วยรอยยิ้มในขณะที่ได้รับเสียงเชียร์ว่าเป็นฮีโร่ของวันนี้ อย่างไรก็ตาม
เมื่อเข้าใกล้ห้องแต่งตัวมากขึ้นเรื่อยเท่าไร ใบหน้าก็ค่อยๆ เคร่งเครียดขึ้นเท่านั้น
ฮาจุนที่รอบรรดานักเตะอยู่หน้าประตูสบตากับมูคยอม มูคยอมขมวดคิ้วอย่างรวดเร็วเล็กน้อยและแสดงท่าทีเจ็บปวด มูคยอมแก้ตัวหลังจากที่พิจารณาความรู้สึกของฮาจุนที่จับจ้องมาที่ตนเอง
“โค้ชครับ เมื่อกี้เจ็บจริงๆ นะ”
“แล้วใครว่าอะไรนายหรือยัง”
“ก็แค่จะบอกว่าเจ็บจริงๆ นะ ไม่ได้เล่นละครเลยด้วย”
“อย่าพูดเหมือนมันเป็นเรื่องตลกสิ อันนั้นมันจะเล่นละครได้ไง นายล้มเพราะไอ้หมอนั่นมันทำผิดกติกานะ ตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหม”
“อื้อ โอเคแล้ว”
ท่าทีที่สุขุมในฐานะโค้ชที่ตรวจสอบสภาพร่างกายของมูคยอมอย่างใกล้ชิดยังคงเหมือนเดิม แต่สีหน้าของฮาจุนกลับเคร่งเครียดเล็กน้อย คงเป็นเพราะผลพวงจากการถูกไล่ออกจากสนามอันน่าตกใจ
ควรจะเดินกะโผลกกะเผลกอีกหน่อยไหม มูคยอมรู้สึกผิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ พูดได้เลยว่ามันเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดมาก
การทำฟาวล์ที่เห็นได้ชัดตำตา ถึงแม้จะไม่ได้ใบแดง แต่ก็ควรที่จะได้ใบเหลืองสิ กรรมการเฮงซวยเอ๊ย มูคยอมที่มองย้อนกลับไปยังการสังหารที่ทิ้งไว้เพียงแค่ความสูญเสียโดยไร้ผลสำเร็จเดาะลิ้นก่อนเข้าไปในห้องอาบน้ำ
รถบัสที่กลับมายังสนามซ้อมหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวด้วยเสียงของบรรดานักเตะที่ซึมซับความสุข
แห่งชัยชนะ
* * *
“แบบนี้สงสัยว่าจุนคงมีสัญชาตญาณความเป็นดาราอยู่นะเนี่ย”
“อย่ามาล้อกันนะ แฮร์รี่”
“ได้ยินว่าตอนที่อยู่เกาหลีเองก็ดังพอควรนี่ ฉันว่าฉันรู้เหตุผลแล้วละ
หล่อเหลา บึกบึน”
ในห้องล็อกเกอร์ของสต๊าฟ ฮาจุนหน้าแดงและปิดปากเงียบเมื่อการล้อเลียนจากเพื่อนร่วมงานยังคงดำเนินต่อไป ห้ามไปก็ไร้ประโยชน์
ราคาของการที่ไม่สามารถเอาชนะได้ในตอนนั้นและขึ้นเสียงใส่กรรมการตัดสินมีมากกว่าที่เขาคาดไว้ การได้รับใบแดงและโดนไล่ออกจากสนามทันทียังไม่เท่าไร
แต่กล้องถ่ายทอดสดที่ไม่พลาดฉากอันน่าทึ่งที่โค้ชหนุ่มผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมทีมและกำลังเรียนรู้การทำงาน ไม่ใช่ทั้งผู้จัดการทีมหรือหัวหน้าโค้ชถูกไล่ออกจากที่นั่ง แน่นอนว่ารูปถ่ายใบหน้าโกรธของฮาจุนที่ออกอากาศไปนั้น ถูกตีพิมพ์ไปตามหนังสือพิมพ์กีฬาและถูกพูดถึงในกระดานสนทนาทางอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ
หัวข้อสนทนานั้นหนีไม่พ้นความจริงที่ว่าอีฮาจุนเป็นอดีตแบ็กซ้ายที่เล่นให้กับทีมชาติเกาหลี และพวกเขาได้เจอกันที่นั่นเมื่อคิมมูคยอมย้ายถิ่นฐานเป็นเวลาหนึ่งปีด้วยสัญญายืมตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และตอนนี้มาทำงานร่วมกันที่กรีนฟอร์ด ความจริงที่ว่าทั้งสองอาศัยอยู่ด้วยกันถูกสร้างเป็นบทความด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
ฮาจุนจ้องไปที่รูปหนังสือพิมพ์กีฬาที่ถูกตัดและติดไว้บนผนังเพื่อล้อเลียนตัวเขา EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ฮาจุนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ผมยังห่างชั้นอีกไกลสินะครับ”
“เพราะยังหนุ่มอยู่น่ะสิ ไฟแรงน่ะมันก็ดีอยู่หรอก”
“การแข่งขันครั้งต่อไปคงต้องไปดูบนอัฒจันทร์สินะครับ”
“คิดว่ามันเป็นวันหยุดพักผ่อนแล้วกัน”
เขากังวลว่าจะโดนตำหนิ เพราะสร้างเรื่องตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นโค้ชอย่างทางการ แต่ผู้จัดการทีมก็ได้ตักเตือนเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธีเท่านั้น โล่งอกไปที
ที่ดูเหมือนว่าทีมจะสนุกกับเหตุการณ์นี้ ที่จริงแล้ว โค้ชฝึกหัดแค่คนเดียวที่ไม่สามารถนั่งบนม้านั่งได้นั้น ไม่ได้มีผลอะไรต่อการแข่งขันเท่าไร
ฮาจุนออกไปที่สนามฝึกซ้อมกับสต๊าฟคนอื่นๆ มูคยอมปรากฏเข้ามาในสายตาของฮาจุนอย่างเคย ไม่จำเป็นต้องตั้งใจมอง เขาก็หาอีกฝ่ายเจอราวกับเครื่องจักรอัตโนมัติ
มูคยอมนั่งลงบนสนามหญ้าและยืดเส้นยืดสายพลางพูดคุยกับบรรดาเพื่อนร่วมงาน ในวันนี้ กองหน้าเอซของกรีนฟอร์ด ความหวังของฟุตบอลเกาหลี และดาวฟุตบอลเอเชียก็ยังแข็งแรงและมีพลังเหมือนเดิม
ฮาจุนหัวเราะออกมาเพราะเขาพูดไม่ออก กี่ครั้งแล้วที่ถูกหลอกโดยการ
เสแสร้งของคิมมูคยอม เขาบอกว่าถ้าจะหลอกศัตรู ต้องหลอกพันธมิตรให้ได้ก่อน และมันเป็นแบบนั้นเป๊ะ แต่ในครั้งนี้ดันมีเพียงพันธมิตรเท่านั้นที่ถูกหลอก
‘มีทั้งจินตนาการมากมาย ทักษะการแสดงที่ดี และแม้กระทั่งหน้าตาอันหล่อเหลา คงเป็นนักแสดงได้หลังจากที่ปลดเกษียณแล้ว’
ก่อนจะเริ่มฝึกซ้อม ฮาจุนเปิดสมุดบันทึกและตรวจสอบตารางของวันนี้
ขณะเดียวกันโทรศัพท์ก็สั่นเบาๆ เมื่อเช็กดูโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็พบว่าเขาได้รับข้อความจากเพื่อนที่แทบจะไม่ได้ติดต่อกันเลย
ฮาจุนอมยิ้มเล็กน้อย เวลาแห่งการฝึกซ้อมจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ฮาจุนจึงตอบกลับข้อความอย่างสั้นๆ และเดินขึ้นไปบนสนามหญ้า
ระหว่างการฝึกส่วนตัวหลังจากการวิ่งรวม ฮาจุนก็ตรวจสอบการฝึกร่างกายของมูคยอม มูคยอมที่กำลังพักสั้นๆ หลังจากออกกำลังกายดื่มน้ำและโอบไหล่ของฮาจุนทันที
“โค้ชอี ฉันขอโทษนะ”
“เรื่องอะไร”
“เป็นเพราะฉันแท้ๆ นายถึงเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งต่อไปไม่ได้ ทั้งๆ ที่นายตั้งใจทำงานหนักขนาดนี้”
“มันก็ต้องมีช่วงเวลาแบบนี้อยู่แล้ว ทำไมนายเอาแต่ขอโทษอยู่เรื่อยเลย
ฉันผิดเองที่ทนไม่ไหวแล้วก็โกรธ โล่งอกไปทีที่นายไม่ได้รับบาดเจ็บ”
“เพราะคนเดียวที่ฉันห่วงใยคือเจ้าลูกกวางที่น่ารักนี่นา”
ตอนแรกมูคยอมมองมาที่เขาด้วยความลังเลเพื่อเช็กดูว่าเรื่องที่เสแสร้งมันกวนใจฮาจุนอยู่หรือเปล่า แต่หลังจากที่รู้ว่าฮาจุนไม่ได้โกรธ มูคยอมก็ไม่ได้ปิดซ่อนความสุขของตนเองเอาไว้อีก มูคยอมรู้สึกดีและภูมิใจที่ฮาจุนโกรธเพราะคิดว่าเขาบาดเจ็บ
ไม่น่าเชื่อ แต่มันก็น่ารักดีที่อีกฝ่ายมีความสุข และเอาแต่จูบแก้มเขาอยู่เรื่อย ดังนั้นฮาจุนจึงตัดสินใจที่จะปล่อยผ่านโดยไม่บ่นอะไรอีก การเข้ามาสกัดแบบนั้นมันอันตราย โชคดีแค่ไหนที่อีกฝ่ายไม่บาดเจ็บ ไม่ว่านักเตะจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก็ตาม ฮาจุนคิดว่ากรรมการตัดสินจะต้องให้บทลงโทษที่เหมาะสมอยู่ดี
มันเป็นความผิดของเขาเองที่ขึ้นเสียงโดยไม่ควบคุมอารมณ์ในสนาม และมูคยอมก็ตอบสนองต่อการฟาล์วที่คุกคามตนเองด้วยการเล่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในฐานะนักเตะ ฮาจุนจัดการเรื่องในครั้งนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ฮาจุนที่ช่วยมูคยอมผ่อนคลายร่างกายเอ่ยออกมาเพราะมีความคิดบ้าๆ อยู่เต็มหัว
“ฉันว่าจะไปเจออู่เฉินแหละ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน”
“อู่เฉินเหรอ”
“นายลืมแล้วเหรอ ก็เพื่อนที่เจอกันเมื่อตอนที่เรียนสถาบันสอนภาษายังไงละ”
มูคยอมกระตุกคิ้วเบาๆ
“อ๋อ ไอ้คนที่ไม่หล่อคนนั้นน่ะเหรอ ทำไม”
“ต้องขอบคุณนายเลย ฉันถึงได้ออกโทรทัศน์และได้ลงหนังสือพิมพ์ เขาถึงได้ทักมาถามสารทุกข์สุกดิบ อย่างไรเสีย การแข่งขันครั้งหน้าฉันก็ต้องไปดูบนอัฒจันทร์อยู่แล้ว เลยว่าจะไปดูด้วยกัน”
“เป็นฝ่ายติดต่อมาก่อนแท้ๆ…แต่ชวนให้ไปดูด้วยกันเนี่ยนะ”
ฮาจุนหรี่ตาลงกับปฏิกิริยาตอบกลับอันละเอียดอ่อนที่ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไร เขาใช้ปลายสมุดบันทึกจิ้มตรงกลางหน้าอกของมูคยอมพร้อมกับขู่ไว้ล่วงหน้า
“อย่าคิดอะไรบ้าๆ ฉันไม่สามารถคบค้าสมาคมแค่เฉพาะกับเพื่อนร่วมงานได้ตลอดนี่นา แค่ดูการแข่งขันฟุตบอลกับเพื่อนแล้วมันทำไม”
“แต่ถึงอย่างนั้นก็จะไปดูการแข่งขันแค่สองคนงั้นเหรอ นั่นมัน…เหมือนไปเดตเลยนี่นา”
“พูดอะไรของนายเนี่ย ผู้ชายสองคนที่มาสนามแข่งขัน EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ไหนนายบอกว่าไม่สนใจอู่เฉินไงละ แล้วเขาก็เป็นแฟนคลับนายนะ”
มูคยอมยักไหล่ด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ
“ฉันมีแฟนคลับแค่คนสองคนหรือไง”
“ยังไงก็ตาม ในการแข่งขันครั้งหน้าฉันจะไปดูกับอู่เฉิน แค่มาบอกนายให้รู้ไว้เฉยๆ ถ้าไม่บอกไว้ล่วงหน้าเดี๋ยวก็งอนอีก”
“ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ”
“ไม่เอาด้วยไม่ได้หรอก ฉันตกปากรับคำไปแล้ว”
ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับหน้าปกนิตยสารด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลายเมื่อไม่กี่วันก่อนนั้น EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq แต่ถึงอย่างนั้นฮาจุนก็ยังไม่ลดละ เขารู้ว่าความหึงหวงของมูคยอมมีเยอะกว่าใครคนอื่นมาก แต่เขาไม่สามารถใช้ชีวิตโดยรับมือกับมันได้ตลอดชีวิต
เป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วที่มาอยู่ที่ลอนดอน ในตอนแรก ฮาจุนไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ นอกจากมูคยอมกับเพื่อนสนิทไม่กี่คนในสโมสร และในระหว่างนั้นเขาก็มีเพื่อนแค่ไม่กี่คน และในอนาคตเขาวางแผนที่จะเรียนกับสถาบันการศึกษาเหมือนตอนที่อยู่ที่โซล คิมมูคยอมมีความจำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับความสัมพันธ์ส่วนตัวอื่นๆ ของอีฮาจุน
อย่างที่มูคยอมพูดมาเสมอว่า ต่อให้เป็นคนที่ซ่อนความใจดำเอาไว้แล้วเข้าหาฮาจุน ฮาจุนก็ไม่คิดจะเอาเปรียบคนพวกนั้น แต่เขากับอู่เฉินนั้นเป็นเพื่อนที่จริงใจต่อกันจริงๆ ถึงจะเป็นเรื่องที่รู้สึกเสียใจกับอู่เฉิน แต่มูคยอมก็เคยด่าออกมาจากปากของตนเองจริงๆ ว่า ‘ฉันไม่สนใจหรอก เพราะเขาหน้าตาไม่ดี’
แม้แต่รูปลักษณ์ของแชฮุน อีกฝ่ายก็พูดจาหยาบคายบอกว่าเหมือนกังฉินและตอนนี้ก็พูดแบบเดียวกันกับอู่เฉิน ถึงมันยากที่จะเรียกอู่เฉินว่าคนหล่อ แต่ถ้าบอกว่าเป็นคนเพรียบพร้อมก็ยังพอไหว ช่างมีอะไรหลายอย่างให้น่าหมั่นไส้จริงๆ
ในกรณีของแชฮุน มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้มูคยอมเกิดความเคลือบแคลงใจ แต่ถ้าบอกว่าไม่อยากให้เขาคบค้าสมาคมกับคนที่ไม่น่าสงสัยเท่านั้น แสดงว่าเขาก็ต้องทำทุกอย่างในชีวิตกับมูคยอมเพียงคนเดียวอย่างนั้นเหรอ เขาเข้าใจว่าการต้องการครอบครองเพียงแค่คนเดียวมันต่างไปจากปกติ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยในชีวิตจริง
“ถ้างั้นฉันขอเวลาสักวันในวันหยุดพักผ่อนนะ”
มูคยอมที่นิ่งเงียบพูดอย่างโผงผาง มันเป็นการเจรจาประนีประนอมให้ตัวเอง การขอเวลาหนึ่งวันเหมือนกับตอนที่อยู่โซลหลังจากฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดจบลง นั่นหมายถึงขอมัดมือชกให้ทำตามใจอีกฝ่าย
หลังจากกลับมาถึงลอนดอน ก็ได้ใช้วันแบบนี้สักสองครั้งเห็นจะได้ บอกตามตรง ฮาจุนไม่ได้ไม่ชอบวันเวลาเหล่านั้น แม้จะมีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาต้องอดกลั้นความเขินอายอยู่บ้าง EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ถือว่าเป็นความรู้สึกที่มีค่าซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้อีก มันหอมหวานมากเสียจนเขากังวลว่า
ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้อีกต่อไปมันจะเป็นการเอาใจเขาจนเสียคนหรือเปล่า
การเจรจาต่อรองที่ดีเป็นที่พอใจซึ่งกันและกัน ฮาจุนแย้มรอยยิ้ม
“เอาสิ”
มูคยอมหัวเราะขึ้นจมูกราวกับว่าอารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ทั้งสองคนแปะมือกันเบาๆ และฝึกซ้อมที่ตามตารางที่เหลือต่อ