Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 108
ถึงแม้ว่าเขาจะแสร้งทำตัวสบายๆ แต่มูคยอมก็ถึงขีดจำกัดแล้ว คนคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ปกป้องสุดชีวิตขนาดนี้
ถ้าเป็นคู่นอนคนแรก ดูเหมือนว่าประเด็นสำคัญคือในบรรดานักเตะในทีมซิตี้โซลนั้นไม่ได้มีแค่คนที่อายุน้อยๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นโค้ชหรือคนที่เขาผูกพันมานาน แต่ถ้าหากว่าไม่ใช่คุณยุนแล้วล่ะก็…
“อย่าบอกนะว่าคืออิมจองคยู” มูคยอมจับไหล่ฮาจุนเอาไว้ขณะที่เบิกตาโพลงถามออกไป
แม้แต่คนที่รู้จักกันดีมากจนมูคยอมไม่สามารถวางไว้ในรายชื่อของผู้ต้องสงสัยก็ดูน่าสงสัยเช่นกัน
ไม่มีความเป็นไปได้ที่ระหว่างสองคนนี้จะทำเรื่องพรรค์นั้นในช่วง 10 ปีที่เขาไปอยู่ในประเทศอังกฤษ เมื่อมองย้อนกลับไป ถึงแม้ว่าจองคยูจะเป็นคนจุ้นจ้านที่ลิงโลดสนใจในทุกๆ เรื่อง แต่ก็มีสัญญาณที่จองคยูนั้นได้ให้ความสนใจฮาจุนเป็นพิเศษอีกด้วย แม้ว่าตอนนี้จองคยูจะสนใจแต่ภรรยาของตนเองเท่านั้น แต่จองคยูก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะแต่งงานโดยที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักสักหน่อย ฮาจุนพลอยเบิกตาโตไปกับมูคยอมด้วยเช่นกัน
“จะ…จะบ้าเหรอ ดูยังไงว่าจองคยูเหมือนคนที่จะนอนกับผู้ชาย”
“ก่อนที่จะเจอนาย ฉันก็ไม่คิดว่าจะนอนกับผู้ชายเหมือนกัน”
“ไม่ใช่แบบนั้น! นายไปสงสัยแม้กระทั่งจองคยูได้ยังไง”
“ยิ่งปฏิเสธหนักแบบนี้ก็ยิ่งน่าสงสัยน่ะสิ อิมจองคยู ฉันไม่ปล่อยไว้แน่ กล้าดียังไงมาทำให้…”
หลังจากพูดแบบนั้น ฮาจุนที่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงกัดฟันกรอดของมูคยอมก็ปฏิเสธอีกครั้ง
“ไม่ใช่ ก็บอกว่าไม่ใช่อิมจองคยูไงเล่า”
“ไม่ต้องไปปกป้องมัน ไม่ว่าจะคิดยังไง คนที่น่าสงสัยในบรรดาคนที่ฉันกับนายรู้จักน่ะ นอกจากอิมจองคยูก็ไม่มีคนอื่นอีกแล้ว”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงละ ฟังฉันหน่อยสิ!”
ทันใดนั้น กระดูกที่โผล่ออกมาจากมือที่กำหมัดของฮาจุนก็กระทบเข้ากับหน้าผากของมูคยอมจนทำให้เกิดเสียงก้องเบาๆ มูคยอมที่โดนเขกหัวอย่างกะทันหันวางมือบนหน้าผากและขมวดคิ้ว เขาขึ้นเสียงราวกับว่ารู้สึกไม่ยุติธรรม
“นี่นายตีฉันเพราะเป็นห่วงอิมจองคยูใช่ไหม”
“ไม่ใช่อิมจองคยู อย่ากล่าวหาคนบริสุทธิ์!”
“ถ้าอย่างนั้นใครล่ะ”
อีฮาจุนถอนหายใจฟืดฟาดออกมายาวๆ แล้วเรียกชื่อเขา
“เฮ้อ… คิมมูคยอม”
“อะไร”
จากการย้อนถามนี้ ฮาจุนจึงดีดปลายนิ้วตีที่หน้าผากของมูคยอมอีกครั้งแล้วตะโกนออกมา
“ก็นายยังไงละ นาย!”
“ฉันทำไม”
“คนแรกของฉันก็คือนายไง!”
การพูดรัวไม่หยุดที่ใกล้เคียงกับการทะเลาะกันหยุดลงเหมือนลำโพงที่ถูกตัดเสียงอย่างกะทันหัน ห้องนั่งเล่นที่ไม่มีใครนอกจากพวกเขาสองคนนั้นเกือบจะเงียบงัน
มูคยอมลืมตาอย่างเหม่อลอยแล้วสบตากับฮาจุน ฮาจุนมองมาที่เขาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ จากนั้นก้มหน้าลงทันทีและพยายามผลักมูคยอมออกไป อย่างไรก็ตาม มูคยอมกระชับแขนของเขาและท่ามกลางความโกลาหลนี้เขาก็จะไม่ยอมปล่อยฮาจุนไปแน่
ฮาจุนที่กำลังจะลงจากตักตีมูคยอมที่ไหล่ด้วยฝ่ามือจนมีเสียงดังแปะๆ ออกมา วันนี้เขาโดนตีไปกี่รอบแล้วนะ ถึงจะใช้มือตีเขาก็รู้สึกเจ็บแสบ ไหนบอกว่าจะไม่ตีอย่างไรล่ะ โกหกทั้งเพ
“ปล่อย”
“ไม่เอา”
แขนที่แข็งแรงงจับเอวของฮาจุนแน่น
“ทิ้งระเบิดเอาไว้แล้วจะหนีไปไหน พูดมาให้ชัดเลย คนแรกของนายอะไร ฉันงั้นเหรอ”
“…”
“จะเป็นฉันไปได้ยังไง เห็นได้ชัดเลยว่าครั้งแรกของพวกเราน่ะ…”
มูคยอมนึกถึงเหตุการณ์ในความทรงจำอย่างรวดเร็ว และย้อนกลับไปในคืนแรกที่เขาใช้เวลาอยู่กับฮาจุน
จากบรรยากาศที่ชัดเจนว่าอีกฝ่ายหลบเลี่ยงเขา วันนั้นเป็นวันที่อีกฝ่ายเริ่มคุยกับเขาก่อน โดยเสนอตัวเป็นคู่ส่งบอลให้ ในครึ่งแรกของวัน เขาคิดว่าคงเป็นเพราะว่าพวกเขาจัดการอะไรๆ หลังจากที่จุนซองล้มเจ็บด้วยกัน ทำให้อีฮาจุนค่อยๆ หายน้อยใจเขาแล้ว
หลังจากที่ตากฝนรับส่งบอลให้กัน พวกเขาก็ไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้กลับบ้าน แต่ก่อนที่จะออกจากอาคาร เมื่อเขาได้เห็นท่าทางของฮาจุนที่ปลอบโยนเขาอย่างนั้นอย่างนี้ และตอนนั้นเองที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของวันนั้น
โค้ชอีฮาจุนที่ใจดีกับทุกคน ให้คำปรึกษาที่ไม่น่ารำคาญ และเป็นที่นิยมในหมู่นักเตะ เพราะอีกฝ่ายคอยเชียร์ คอยให้ขวัญกำลังใจได้อย่างดีพอสมควร มูคยอมรู้สึกอึดอัดกับท่าทางของอีกฝ่ายที่เป็นกับเขาแค่คนเดียว เมื่อต้องพูดคุยกันมันก็เป็นไปได้อย่างลำบาก อีกทั้งยังไม่ยอมสบตากันตรงๆ ราวกับว่าถูกบีบบังคับให้ทำมัน
จูบที่เขาทำไปราวกับโยนหินถามทางในตอนนั้น ท้ายที่สุดแล้วมันก็ย้อนกลับมาหาเขา หลังจากนั้น ความรู้สึกที่ไม่เคยประสบมาก่อน ความปรารถนาที่จะมีเซ็กส์กับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็แผ่ปกคลุมมูคยอม และเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะยื่นข้อเสนอแก่อีกฝ่ายว่าให้ใช้เวลาสักคืนร่วมกัน
ฮาจุนตอบรับข้อเสนอโดยไม่ได้คิดนานนัก หลังจากการสนทนากันสั้นๆ รูปลักษณ์ด้านข้างของคนที่เดินเคียงข้างเขาช่างดูเฉยเมยไร้อารมณ์ใด มูคยอมจึงถามจึงคำถามเพิ่มเติม ณ ตอนนั้น
‘นายไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ครั้งแรกใช่ไหม’
‘อื้อ’
แน่นอนว่าฮาจุนตอบคำถามของเขาไปเช่นนั้น ที่บอกว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่นอนกับผู้ชาย และแม้กระทั่งที่เคยบอกว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่วันไนต์แสตนด์อีกด้วย
เขาจำได้ถึงขนาดที่ว่าตนเองคิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้มีประสบการณ์มาก่อน จึงขอให้สอน แถมอีกฝ่ายก็ยังยิ้มพลางตอบตกลงว่า “ได้สิ” มูคยอมขมวดคิดเล็กน้อย
“งั้นนายก็โกหกฉันเหรอ”
ฮาจุนไม่มีคำตอบสำหรับคำถามของมูคยอม มีเพียงใบหน้าที่เขินอายและก้มศีรษะลงราวกับพยายามหลีกเลี่ยงการสบสายตา
ขณะที่ถามคำถาม เขาก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
เขาพาฮาจุนกลับมาที่บ้านและมีอะไรกันบนโซฟาตัวนี้ เห็นได้ชัดว่าการมีอะไรกับผู้ชายนั้นซับซ้อนกว่าการมีอะไรกับผู้หญิง ดังนั้นเมื่อเขาถามว่าจะต้องทำอย่างไร คำตอบของฮาจุนก็แสนจะเรียบง่ายอย่างคาดไม่ถึง
บอกว่าแค่ทำๆ ไป บอกว่าก็แค่ใส่เข้าไป…
“นายนี่มันจริงๆ เลย ทำไมถึงทำอย่างนั้นล่ะ”
น้ำเสียงของมูคยอมเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากของฮาจุนที่รับรู้ได้ถึงวิกฤติขยับขึ้นแต่กลับไม่มีคำพูดใดๆ ที่เอื้อนเอ่ยออกมา
ในตอนนั้น มูคยอมยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับผู้ชาย หรือการมีเพศสัมพันธ์จากทางด้านหลัง แม้จะไม่รู้ แต่คำพูดของฮาจุนมันฟังดูแปลก อีกฝ่ายเคยทำเรื่องแบบนี้บ่อยแค่ไหน ถึงขั้นที่บอกให้กระแทกเข้าไปเฉยๆ โดยไม่คิดอะไร เขาจึงกระเดาะลิ้นพลางเอาเจลออกมาจากกระเป๋า
ความตื่นเต้นที่ไม่เคยประสบมาก่อน ถ้าเกิดตอนนั้นเขาไม่มีความคิดที่จะใช้เจลหล่อลื่น ไม่รู้ว่าสภาพหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ในเซ็กซ์ครั้งต่อมา ฮาจุนจึงใช้มือของตนเองแยงเข้าไปในรูพลางบอกว่าต้องคลายด้านหลังก่อน
“เพราะตอนที่ทำครั้งแรกมันเจ็บ นายเลยทำอย่างนั้นสินะ” มูคยอมบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เพราะคิดว่านั่นเป็นบริการจากอีกฝ่าย
“หา”
บอกว่าเจ็บจนจะเป็นลมอย่างนั้นเหรอ
ทำไมถึงจะไม่ใช่ล่ะ มูคยอมแค่ทาเจลลงไปเฉยๆ โดยที่ไม่ได้ใช้มือช่วยเลยแม้แต่ครั้งเดียว จากนั้นก็เสียบลำกายเข้าไปเลย!
มูคยอมหัวร้อนขึ้นมาโดยทันที ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ถ้าในตอนนี้เขาทำกับฮาจุนที่เป็นคู่นอนกันโดยวิธีนั้น อีกฝ่ายคงต้องเจ็บแน่ๆ แค่ขบตรงผิวแรงๆ หน่อยก็แสร้งร้องบอกว่า ‘เจ็บ มันเจ็บ’ แล้วทำไมตอนนั้นถึงได้ทำแบบนั้นกัน
“เวรเอ๊ย ไอ้นั่นสมควรแล้วที่ขาจะหัก นายก็แค่ไล่ให้มันไปตายสิ!”
“คิมมูคยอม ได้โปรด! บอกว่าอย่าพูดแบบนั้นไง!”
“แล้วทำไมนายถึงพูดแบบนั้นล่ะ”
รู้สึกเหมือนเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นมาทั้งๆ ที่มันผ่านมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่ามันไร้ประโยชน์ที่มาถามเอาจนป่านนี้ แต่เขาก็ยังถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“พูดไปแบบนั้น แล้วถ้าเกิดว่าฉันทำให้นายเจ็บตัวจะว่ายังไง ฉันรู้ว่านายดื้อตอนที่กำลังรีบร้อน แต่นี่มันเกินไปนะ! ฉันก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นครั้งแรก แล้วฉันดูเหมือนเป็นคนที่ไม่สนใจคำขอคนอื่นแบบนั้นเหรอ เพราะงั้นนายถึงทำแบบนั้นเหรอ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้โกหก”
“ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วอย่างไรล่ะ”
“ก็ถ้าบอกว่านี่เป็นครั้งแรก…”
เมื่อเอ่ยไปเช่นนั้น ฮาจุนก็กลืนน้ำลายแห้งและพูดต่อไปอย่างเศร้าหมองราวกับสารภาพความผิดของตนเอง
“ฉันคิดว่า…นายคงจะไม่ทำมันน่ะสิ”
ในครั้งนี้ มูคยอมอ้าปากเล็กน้อย และจับจ้องไปที่ใบหน้าของฮาจุนที่เต็มไปด้วยความลำบากอย่างโง่เขลา เขาต้องการที่จะแย้งทันทีว่ามันเป็นไปได้ด้วยเหรอ แต่เป็นเพราะคำพูดของอีกฝ่ายเขาจึงเกิดการย้อนถามกับตนเอง
สิ่งที่เขาต้องการในตอนนั้น คือต้องการที่จะทำให้มันดูสวยงาม แต่ในที่สุดมันกลับไม่มีความกดดัน และเป็นวันไนต์แสตนด์ที่แปลกใหม่ ไม่มากและไม่น้อยไปกว่านั้น เขาคงจะหมดความตื่นเต้นไปแล้ว ถ้าหากฮาจุนบอกว่าคืนนั้นเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของตนเอง
แต่ถึงจะอย่างนั้น คำโกหกเหล่านี้ก็ยัง… จะพูดว่าอย่างไรดีนะ มันเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดจนไร้เดียงสาหรือเปล่านะ
มูคยอมที่มองดูใบหน้าของฮาจุนอย่างตั้งอกตั้งใจเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงที่จริงใจเล็กน้อย
“อีฮาจุน”
“อื้อ”
“นอกจากฉันแล้ว…นายเคยคบกับคนอื่นไหม”
เขามองเห็นลูกกระเดือกของฮาจุนขยับ
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้ แต่บรรยากาศตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนการสอบปากคำ มูคยอมโน้มหลังของอีกฝ่ายลงมาเพื่อจูบแก้ม และทันทีที่เลื่อนไปจูบที่ริมฝีปาก ริมฝีปากของฮาจุนก็เปิดออก
“ไม่…”
มูคยอมออกแรงดึงร่างที่อยู่บนขาของตนเองเข้ามากอด
“ฉันเป็นคนแรกที่มีอะไรกับนาย…แล้วจูบล่ะ”
“…อันนั้นก็ด้วย…”
“ออกเดตด้วยเหรอ”
“อือ…”
มูคยอมพ่นลมหายใจออกจากปากราวกับว่าพูดไม่ออก
บอกว่า 10 ปี หมายถึงอีกฝ่ายชอบเขามาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เขาได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้ว และถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายถือว่าเขาสำคัญขนาดไหน แต่จนถึงเมื่อปีที่แล้วเขาก็ไม่ได้รู้จักคนที่ชื่อว่าอีฮาจุนเลย
มันเป็นความรู้สึกที่อีกฝ่ายเก็บซ่อนไว้แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม เพราะเขาคิดว่าอีกฝ่ายก็ต้องใช้ชีวิตของตนเอง แน่นอนว่าจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้
แต่เป็นเพราะว่าฮาจุนมีใจให้กับมูคยอม อีกฝ่ายจึงไม่ได้มีความคิดเลื่อนความสัมพันธ์อื่นๆ เลยในตลอดระยะเวลาที่ยาวนานนั้น แต่สำหรับคนอย่างเขาแล้ว จนกระทั่งถึงตอนนี้ร่างกายกับใจไม่ตรงกันและไม่จำเป็นต้องตรงกันด้วย
เน้นย้ำหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่า ผู้คนสามารถดูได้เท่าที่รู้
มูคยอมขมวดคิ้วบางๆ ตาและสันจมูกที่ร้อนอยู่จนถึงเมื่อครู่นั้น ตอนนี้มันกลับเจ็บตื้อๆ
“ฉันถามว่าทำไมนายถึงทำตัวเหมือนเด็กโง่ล่ะ”
“คิมมูคยอม”
“นายไม่เสียดายเลยเหรอ”
ตัวเขาเองก็คิดว่าคิมมูคยอมเป็นคนที่พอใช้ได้นะเนี่ย ทั้งหล่อ ทั้งรูปร่างดี หาเงินก็เก่งอีกต่างหาก บางครั้งที่ไม่สามารถเอาชนะอารมณ์ของตัวเองได้เลยสบถคำหยาบ แต่บางครั้งทำเรื่องดีๆ บ้างประปราย และเขาก็ยังมีความคิดแบบมืออาชีพในฟุตบอลอาชีพของเขา เขามีทั้งความซื่อสัตย์ ทั้งความสามารถอันโดดเด่นและเลือดนักสู้
แค่นั้นแหละ ในความสัมพันธ์ที่ใช้ร่างกายพัวพันกันอย่างใกล้ชิดนั้น เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองมีค่าพอที่จะได้ครอบครองช่วงเวลาพิเศษครั้งแรกของใครบางคน เขาไม่เคยถือว่าคู่นอนนั้นพิเศษ ดังนั้น เขาจึงได้มอบตำแหน่งสิ่งของที่ใช้แล้วทิ้งสำหรับคู่นอนของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับมูคยอมแล้ว หัวใจของฮาจุนนั้นเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่เขาไม่รู้จักจนไม่กล้าที่จะได้รับหรือทำให้หล่นหายไป แค่ช่วงนั้นมันก็ไม่เพียงพอที่จะเป็นคู่นอนคนแรกที่มีค่าและพิเศษของอีกฝ่าย
ดังนั้น ถ้าหากว่าเขารู้ความจริงเข้า มันอาจจะกลายเป็นเหมือนที่ฮาจุนเคยกังวล สมกับที่เป็นโค้ชอีฮาจุนที่เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขามาเป็นเวลากว่า 10 ปี อีกฝ่ายช่างรู้จักเขาดีจริงๆ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถโกรธและตำหนิอีกฝ่ายที่ทำในสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตนเองได้ ลูกธนูแห่งความโกรธพุ่งมาที่เขา ที่เป็นได้แค่ไอ้ลูกหมาที่ถูกสาปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
“ตีสิ”
“หา”
“ตีอีก เขกหัวฉันอีกไหม นายอยากเตะอยากต่อยก็ทำตามใจนายเลย ตีให้เท่ากับที่นายเจ็บ หรืออย่างน้อยก็เขกหัวฉันไปเลยสักร้อยที”
“อย่าพูดจาเหลวไหลไปหน่อยเลย เป็นเพราะว่าฉันไม่พูดออกไปตรงๆ แล้วนายคิดว่าฉันควรจะทำแบบนั้นกับนายเหรอ…”
เมื่อมองดูฮาจุนที่เอ่ยท้ายประโยคนั้นนอย่างแผ่วเบา มูคยอมก็โน้มแก้มของอีกฝ่ายเข้ามาแล้วก็ประกบริมฝีปากลงไป ริมฝีปากที่สารภาพผิดนั้นร้อนอย่างคาดไม่ถึง และริมฝีปากของอีกฝ่ายที่คงเปียกชื้นเพราะความร้อนเมื่อครู่นั้นซีดและแห้งผาก
มูคยอมเลียริมฝีปากอย่างรวดเร็วราวกับพยายามทำให้เปียกอีกครั้ง จากนั้นจึงแหย่ลิ้นของตนเองเข้าไปข้างใน ฮาจุนจูบตอบด้วยความผ่อนคลาย เพราะโล่งใจที่รอดพ้นจากคำถามที่ยุ่งยากไปได้
“ฮู่ อื้อ…”
เขาโน้มตัวไปด้านข้างแล้ววางฮาจุนลงบนโซฟาช้าๆ โดยที่ไม่ผละริมฝีปากออกไป เมื่อท่าทางที่เปลี่ยนไปโดยไม่บอกล่วงหน้า ฮาจุนจึงจ้องมองที่มูคยอมด้วยสีหน้าที่สับสนเล็กน้อย
มูคยอมมองย้อนกลับไปในความทรงจำที่ไหลเวียนในหัวของเขา สถานการณ์ในตอนนั้นก็เหมือนกับตอนนี้ เขาวางอีกฝ่ายลงบนตักแล้วก็ประกบจูบลงไป จากนั้นก็จับฮาจุนเอนลงบนโซฟาแล้วก็ดูดยอดถันของอีกฝ่ายเล็กน้อย
“อื้อ อ้าา!”
ฮาจุนครวญครางในขณะที่เขาละเลงลิ้นเหนือตุ่มบวมที่ถูกกัดและดูดในห้องน้ำไปแล้ว ยอดถันบวมแล้ว ถ้าหากเขาลูบไล้แรงไปก็อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บได้ พอเลียซ้ำไปซ้ำมาราวกับปลอบขวัญหลายๆ ครั้ง เสียงครวญครางก็พรั่งพรูออกมาอย่างหนักหน่วง
ลำกายที่ค่อยๆ หดลงไประหว่างที่คุยกันกลับมามีชีวิตอีกครั้งและชูชันอย่างมั่นคงด้วยการลูบไล้สั้นๆ มูคยอมมองลงไปยังร่างกายของอีกฝ่ายนิ่งๆ และวางมือลงบนรอยเปื้อนที่ใกล้กับกระดูกเชิงกรานของอีกฝ่าย ในตอนนั้นฮาจุนใส่เสื้อยืด อีกฝ่ายดึงชายเสื้อลงมาพลางเอ่ย
‘ไม่อยากเห็นใช่ไหม ขอโทษนะ ถ้าไม่ถอดออกหมดนายก็คงไม่เห็น’
เขาได้ตอบไปว่าเขาไม่สนใจมันหรอก ตราบใดที่มันไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมีอะไรกันหรือเปล่านะ
เขาจำไม่ได้ว่าตนเองตอบว่าอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พูดในสิ่งที่เขาควรจะพูด
“คิมมูคยอม…”
ทันทีที่เขาไม่ขยับ ฮาจุนจึงเรียกชื่อเขาราวกับแปลกใจ
จุ๊บ มูคยอมประทับรอยจูบลงบนรอยแผลนั้น เขาประทับริมฝีปากลงไปหลายๆ ครั้งแล้วจึงถอนจูบออกมา ฮาจุนมองลงมาที่เขาด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร มูคยอมจึงเงยหน้าขึ้นและสบตาอีกฝ่าย
“ในตอนครั้งแรกนายพยายามที่จะไม่ให้ฉันเห็นตรงนี้ใช่ไหม”
“…มันดูน่าเกลียดนี่นา”
“ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดว่ามันน่าเกลียดเลยนะ”
ในตอนนั้นเขาควรจะพูดออกไปแบบนี้แท้ๆ บอกว่าไม่ใช่ว่าไม่อยากมอง เขาแค่ค่อนข้างตกใจเล็กน้อย
ลิ้นค่อยๆ เลื่อนไปตามรอยเปื้อนสีเข้มที่ไร้นูนคลื่น ที่ๆ อีกฝ่ายบอกว่าประสาทสัมผัสตาย ไม่รู้สึกถึงอะไรเลย แต่ทว่าฮาจุนกลับตัวสั่นราวกับตกใจในการใช้ลิ้นลูบไล้เบาๆ นี้ เสียงของมูคยอมกระจัดกระจายราวกับสายลมที่พัดผ่านผืนดินเล็กๆ อันแห้งแล้ง
“ตอนนี้…ฉันคิดว่าตรงนี้ก็สวยเหมือนกัน”
“…”
“นายไม่ชอบที่ฉันพูดแบบนี้เหรอ”
ฮาจุนส่ายหน้าอย่างรีบร้อน
มูคยอมดึงร่างของฮาจุนขึ้นมาอีกครั้ง และเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของอีกฝ่ายราวกับซ้อนทับกัน ริมฝีปากของพวกเขาประสานกัน ในขณะเดียวกับที่แหย่ลิ้นเข้าไปข้างในริมฝีปากนั้นนั้น เขาก็สอดนิ้วเข้าไประหว่างบั้นท้ายของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน
กล้ามหน้าท้องกระตุกอย่างสั้นๆ หลังจากที่ถูกสัมผัสมาเป็นเวลานาน ช่องทางด้านหลังก็ไม่มีอะไรให้คลายอีกแล้ว ร่างกายที่ทั้งนุ่มนวลและที่เคยโหมกระหน่ำก่อนที่จะเกิดการหลั่งก็ยังคงไม่ได้ปลดปล่อยความร้อนออกไป มันจึงทั้งเหนียวหนึบและอุ่นร้อน เมื่อขยับนิ้วไปตามผนังด้านใน เขาก็จะได้ยินเสียงหวานครางออกมาดังๆ จากริมฝีปากที่ประกบจูบกันอยู่