สามชั่วโมงต่อมา หมอลายเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องประชุมเขายิ้มเมื่อเห็นว่าห้องประชุมว่างเขาดูพอใจกับตัวเอง

“หลิงรันยังไม่มาอีกเหรอ?”ผู้อํานวยการแผนกหยวนเดินเข้ามาด้านหลังหมอลายเขาถือถ้วยชาใบใหญ่และพยายามทําให้ดีที่สุดเพื่อให้ดูสง่างาม

ศัลยแพทย์เป็นสัตว์เดรัจฉานและแพทย์ของแผนกโรคหัวใจชอบแสดงท่าทางสง่างามเพื่อแสดงพลังไปยังแผนกศัลยกรรมอื่นๆ และแยกตัวออกจากแผนกดังกล่าว

หมอลายเคยชินกับความสง่างามของผู้อํานวยการแผนกหยวน เขาหัวเราะในขณะที่เขาหันมาและกระซิบ“บางทีเขาอาจจะไม่มาด้วยซ้ํา”
“โอ้ เกิดอะไรขึ้น”

“ฉันล้อเล่นนิดหน่อย”หมอลายไม่สนใจที่จะซ่อนสิ่งที่เขาทํา“ฉันได้ยินมาว่าหลังรันไม่ได้นอนเป็นเวลาหนึ่งวันและหนึ่งคืน ขณะที่เขารีบตรงไปที่แผนกของเราหลังจากการช่วยเหลือในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินฉันยืนยันที่จะมีการประชุมในขณะนี้ฉันคิดว่าหลิงรันเข้านอนแล้วตั้งแต่ออกจากแผนกของเราตอนนี้ซึ่งหมายความว่าเขาจะนอนน้อยกว่าสองชั่วโมงถ้าเขาเข้าร่วมการประชุมนั่นเป็นตัวเลขมหัศจรรย์ที่ทําให้คนเหนื่อยมากที่สุด ดังนั้นเขาอาจจะไม่สามารถตื่นมาประชุมได้”
แพทย์ทุกคนรู้ว่าการอดนอนเป็นอย่างไร

รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิมที่ในที่สุดก็มีโอกาสได้นอนแต่สุดท้ายกลับถูกปลุกให้ตื่น

หมอลายหัวเราะและพูดว่า “หลิงรันยังเป็นเด็กอยู่เลยเขาอาจจะลืมเรื่องทั้งหมดไปหลังจากที่เขาถูกกักตัวไว้ชั่วขณะหนึ่ง”

ผู้อํานวยการแผนกหยวนเพียงแค่ยิ้มเขาดูราวกับว่าเขาเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่กําลังมองดูแมวของเขาที่น่าหนูมาให้เขาสีหน้าของเขาสดใสแต่เขาไม่ได้คาดหวังอะไรเลย

ผู้อําานวยการแผนก หยวน ไม่มีเจตนาที่จะเปิดเผยข้อเท็จจริงที่ว่าหมอลายไม่มีอํานาจเพียงพอที่จะยืนกรานให้มีการประชุมตามเวลาที่กําหนด

หากคนในแผนกโรคหัวใจมีพลังมากพอที่จะ “ยืนยัน” ในเรื่องดังกล่าว ในฐานะผู้อํานวยการแผนกเขาจะไม่ต้องมาที่ห้องประชุมและเข้าร่วมในการปรึกษาหารือก่อนการผ่าตัดเป็นเหตุผลเดียวกันที่ว่าทําไมใครๆก็ใช้“รถปอร์เช่ของเพื่อนของเขา”เป็นรูปโปรไฟล์เมื่อใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่

“หลิงรันจะตื่นอยู่นานกว่าสามสิบชั่วโมงเสมอ”แพทย์คนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่มุมห้องกระซิบ

ผู้อํานวยการแผนกหยวนไม่เต็มใจที่จะแจ้งข่าวให้หมอลาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแพทย์

ที่เข้ารับการรักษาที่เหลือมีเจตนาแบบเดียวกัน

หมอลายอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “หลิงรันจะอยู่ได้เพียงสามสิบชั่วโมงเมื่อเขามีงานต้องทํา ทุกคนต้องการนอนมากขึ้นเมื่อไม่มีอะไรทํานอกจากนี้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาหลิงรันได้ทําอะไร มากกว่าที่มีอยู่เขาอาจจะยุ่งมากในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน”

“คุณพูดถูก. คนหนุ่มสาวควรตระหนักว่าพลังงานของพวกเขาคือทรัพยากรอันล้ำค่าและพวกเขาไม่ควรนอนดึกเพียงเพราะว่าพวกเขายังเด็กเช่นเดียวกันกับคุณคุณอายุมากกว่าสามสิบแล้วดังนั้นพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อดําเนินการกับผู้ป่วยในระหว่างวันอย่าทําตัวเป็นนกฮูกอีกต่อ ไป…”ผู้อํานวยการแผนกหยวนใช้โอกาสนี้เพื่อให้ค่าแนะนําแก่หมอลายและเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เขาเคยพูดกับลูกสาวของเขา

อย่างไรก็ตามหมอลายเชื่อฟังมากกว่าลูกสาวของเขามาก เขาพยักหน้าทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ฉันไม่ค่อยได้เผาน้ำมันเที่ยงคืนอีกต่อไป…”

แพทย์ที่เข้าร่วมประชุมนั่งอยู่ตรงมุมปากของเขาบิดเบี้ยว เขาก้มศีรษะลงและไม่พูดอะไรแพทย์ในแผนกโรคหัวใจมีงานยุ่งมากเพราะภาระงานสูงและถ้าหมอลายซึ่งเป็นแพทย์ที่รับการรักษาต้องผ่าตัดผู้ป่วยให้น้อยลงในช่วงกลางดึกแพทย์ที่เหลือก็จะต้องทํามากกว่านี้ .

แน่นอน โดยรวมแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แพทย์ของแผนกโรคหัวใจจะไม่ทําเมื่อต้องเข้ากะกลางคืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนที่ไม่มีใครเสียชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาจะนอนหลับตลอดทั้งคืนดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยคอยดูหรือทะเลาะกันว่าใครเป็นกะกลางคืนและใครไม่อยู่หลังจากที่ผู้อํานวยการแผนกหยวนให้คําแนะนําแก่หมอลายเขาก็กล่าวต่อ “เกี่ยวกับหลิงรันฉันรู้สึกเสมอว่าเขาเป็นคนที่ทํางานจนสุดกระดูกแต่อย่างที่ฉันบอกพวกคุณเสมอว่ามนุษย์ไม่ได้มีอํานาจทุกอย่างแม้ว่าเขาจะไม่เคยหลับใหลเขาสามารถทําศัลยกรรมได้กี่ครั้ง?เขาทําการผ่าตัดฉุกเฉินการผ่าตัดตับ การผ่าตัดมือและการผ่าตัดซ่อมแซมเอ็นร้อยหวายอยู่แล้วฉันได้ยินมาว่าเขาทําการผ่านตัดแบบการส่องกล้องด้วยเหรอ?”

“เขาทําได้ดีทีเดียว” หมอลายยิ้มและพูดว่า “เขายังใช้เวลารักษาผู้ป่วยวีไอพีด้วย”

“เขามีพรสวรรค์และความชํานาญอย่างแท้จริงแต่เขาไม่สามารถท่าศัลยกรรมทั้งหมดในโลกนี้ได้ใช่ไหมตอนนี้เขาทําศัลยกรรมหัวใจและหลอดเลือดด้วยมันไม่ง่ายนักสําหรับเขาที่จะทํา ศัลยกรรมหัวใจด้วย”ผู้อํานวยการฝ่ายหยวนยิ้ม

“ฉันรู้ใช่ไหม”

“นั่นสมเหตุสมผลมาก”

แพทย์ในห้องประชุมพยักหน้าพร้อมกัน

“ดังนั้น สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการป้องกันไม่ให้เขาตั้งค่าระบบ”ผู้อํานวยการฝ่ายหยวนเปลี่ยนหัวข้อ“พาผู้ชายคนนั้นมาจากแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนหมอจางใช่ไหม?ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์”

“จางอันหมินคุณถูก.เขาได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้เป็นรองหัวหน้าแพทย์”แพทย์ส่วนใหญ่ในห้องประชุมกําลังไปพบแพทย์ และพวกเขาค่อนข้างอิจฉาจางอันหมิน

ผู้อําานวยการแผนก Yuan พยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า“หมอ Zhang เป็นลูกน้องของ Ling Ran แต่เขากลายเป็นรองหัวหน้าแพทย์ของแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนแทนแผนกฉุกเฉิน
ดังนั้นทุกคนในแผนกโรคหัวใจต้องระวัง”

เขาจ้องมองที่แพทย์ที่เข้าร่วมทั้งหมดของเขาทีละคน แม้ว่าจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่การจ้องมองของเขาก็เป็นสิ่งที่อันตราย

ความท้าทายแรกในชีวิตของแพทย์คือการได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้เป็นรองหัวหน้าแพทย์จากแพทย์ที่เข้ารับการรักษา แพทย์ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ซึ่งทํางานตามปกติโดยไม่ทําให้ใครขุ่น

เคืองจะกลายเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์ในที่สุด อย่างไรก็ตามอายุที่พวกเขาได้เป็นรองหัวหน้าแพทย์นั้นสร้างความแตกต่างให้จางอันหมินเป็นตัวอย่างเขาเป็นคนประเภทที่ต้องทํางานหนัก

ในฐานะแพทย์ที่เข้ารับการรักษามาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เป็นรองหัวหน้าแพทย์ก่อนที่เขาได้พบกับหลิงรักผู้อํานวยการแผนกหยวน ระมัดระวังตัวในขณะที่เขากังวลว่าลูกน้องคนหนึ่งของเขาจะใช้การ

ปรากฏตัวของหลิงรันเป็นทางลัดในการเลื่อนตําแหน่ง

บรรยากาศในห้องประชุมค่อนข้างตึงเครียด

*ก๊อกก๊อก*

มีคนมาเคาะประตูห้องประชุมไม่นานหลังจากนั้นพยาบาลสาวผู้น่ารักก็เข้ามาที่ห้องประชุมโดยประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่อกเธอกล่าวว่า “ผู้อํานวยการแผนกคุณอยู่ที่นี่…”

“หลิงรันอยู่ที่นี่หรือเปล่า”หมอลายจ้องเขม็งไปที่นางพยาบาลสาว ‘ทําไมสาวสมัยนี้ถึงสนใจเรื่องหน้าตากันจัง?พวกเขาเป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่สนใจแต่บ้านรถยนต์และตําแหน่งที่ผู้ชายถืออยู่เท่านั้นไม่ใช่หรือ?”

นางพยาบาลหนุ่มไม่กลัวเขาเพราะเธอไม่ใช่ลูกน้องของเขาอยู่ดี เธอหันกลับมามองเขา “ถ้าหมอหลิงอยู่ที่นี่ผู้คนคงเริ่มเชียร์กันแล้ว ได้ยินเสียงเชียร์ไหม?”

ผู้อํานวยการแผนก Yuan เคลียร์คอของเขา “ใครอยู่นี่?”

“ผู้หญิงที่สวยมากฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นประธานของบริษัทยายูริน” นางพยาบาลสาวพูดเบาๆ“ประธาน?”ผู้อําานวยการแผนกหยวนและลูกน้องของเขามองกันและกันไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขาจะไม่สนใจตัวแทนขายยาจากบริษัทขายยา แต่เมื่อประธานบริษัทขายยาอยู่ที่นี่ สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไป

ก่อนที่ผู้อํานวยการแผนกหยวนจะถามคําถามที่มีรายละเอียดมากกว่านี้ ผู้หญิงร่างสูงและผอมเพรียวก็เข้ามาในห้องประชุม

เนื่องจากออร่าอันทรงพลังที่ผู้หญิงเปล่งออกมาผู้อํานวยการแผนกหยวนจึงยืนขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวเขากําลังจะทักทายเธอเมื่อมีผู้หญิงร่างสูงและผอมเพรียวอีกคนเข้ามาในห้องประชุม“คุณเป็นผู้อํานวยการแผนกหยวนจากแผนกโรคหัวใจใช่ไหม”ผู้หญิงคนที่สองที่เข้ามานั้นดูสง่างามและเธอก็พูดอย่างสง่างาม

ผู้อําานวยการแผนกหยวนฮัมเพลงเพื่อรับทราบ “ฉันขอทราบได้ไหมว่ากําลังพูดอยู่กับใคร”“ฉันชื่อจินหมินเทียนจากบริษัทยาหยูรินและยังเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทยาหยูรินในเมืองหยุนหัวด้วย” จินหมินเทียนนั้นดูมีอายุประมาณสี่สิบปี เธอค่อนข้างผอมและดูเหมือนผู้หญิงที่ฉลาด

“โอ้ คุณคือผู้จัดการจิน ยินดีที่ได้รู้จัก.” ทันทีที่ผู้อํานวยการแผนกหยวนได้ยินชื่อของเขา เขาก็นึกถึงเธอได้ประมาณหนึ่งหรือสองอย่างบริษัทยาหยูรินทําได้ดีมากในจังหวัดฉางซีและจังหวัดอื่นๆ รอบ ๆ นั้นในช่วงสองปีที่ผ่านมาและเขามักจะได้ยินเกี่ยวกับพวกเขาในการประชุมทางการแพทย์และกิจกรรมการขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ดังนั้นเขาจึงเคยได้ยินชื่อของจินหมิน
เทียนมาบ้างแล้ว

เช่นกันเมื่อผู้อํานวยการแผนกหยวนรู้สึกรําคาญเล็กน้อยกับพยาบาลสาวในตอนนี้ ‘เธอไม่สมควรได้รับใบหน้าที่น่ารักเช่นนี้เลย เป็นแค่ผู้จัดการทั่วไปทําไมเธอถึงบอกว่าประธานหญิงอยู่ที่
นี่…?’

“ยินดีที่ได้รู้จัก ผู้อํานวยการฝ่ายหยวนกรุณารอสักครู่เราแค่มากับประธานของเราที่นี่” จินหมินเทียนยิ้มจากนั้นเธอก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วดึงเก้าอี้ออกมา

นี่คือช่วงเวลาที่ผู้หญิงสองคนสวมกระโปรงสั้นทางการกับชี+เติร์ตและมีไหล่กว้างและใบหน้าเหลี่ยมปรากฏขึ้นจากนั้นพวกเขามองไปรอบๆอย่างระมัดระวังก่อนที่จะเปิดประตูคนหนึ่งก้าวออกไปข้างนอกอีกคนเข้าไปในห้องประชุมโดยไม่พูดอะไร

นี่คือตอนที่ผู้อําานวยการแผนกหยวนและแพทย์คนอื่นๆ ยืนตัวตรงโดยไม่รู้ตัว

หมอลายกระซิบ“ประธานบริษัทแพทย์หยุนลี่?เหตุใดจึงเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้”ก่อนที่ใครจะพูดอะไรหญิงสาวสวมรองเท้ากีฬาก็ปรากฏตัวขึ้น

“ฉันขอโทษ. วันนี้ฉันยุ่งนิดหน่อย ฉันเพิ่งกลับมาจากประเทศอื่น” เทียนฉีสวมชุดลําลองที่เหมาะสมเธอดูไม่เป็นทางการเลย แต่เมื่อเทียบกับลูกน้องของเธอที่ล้อมรอบเธอเทียนฉีผสมผสานเข้ากับการประชุมที่ไม่เป็นทางการในวันนี้ได้เป็นอย่างดี

“นางสาวเทียนฉีใส่ใจอย่างมากเกี่ยวกับการปรับปรุงสถานพยาบาลในโรงพยาบาลหยุนฮัวดังนั้นเธอจึงยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้แม้ว่าเธอจะยุ่งมากก็ตาม”จินหมินเทียน กล่าวเสริม

“ผมจะพยายามไม่รบกวนพวกคุณ พวกคุณพูดคุยกันเองและบริษัทยาหยูรินจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ความร่วมมือ”เทียนฉียิ้มอย่างเป็นมิตรและนั่งบนเก้าอี้ที่ด้านหลังห้องประชุม

ผู้อําานวยการแผนกหยวนและผู้ใต้บังคับบัญชามองกันและกัน พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ใดแต่ทุกคนรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนนี่คือช่วงเวลาที่เสียงเชียร์ปะทุขึ้นนอกประตู

ขณะที่เสียงของหญิงสาวค่อนข้างจะแหลมเสียงเชียร์ก็ได้ยินชัดเจนยิ่งขึ้น