Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 236
เมื่อเธอกำลังนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดเขาซู่ฟานเงยหน้าขึ้นมาและถามหลิงรันว่า“ หมอหลิงคุณจะเป็นคนผ่าตัดให้ฉันใช่ไหม”
หลิงรันวางมือของเขาไว้ด้วยกันในขณะที่เขาอ่านเอ็มอาร์ไอแสกนซ้ำไปซ้ำมาจนไม่สามารถนับได้ เขาพยักหน้า แต่จำได้ว่าซูฟางยังไม่เคยรู้จักเขาเลย จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า“ ฉันเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ของคุณแต่นักวิชาการจู้ตงยี่จะเป็นเตรียมแนวทางการผ่าตัดให้ ”
“ฉันขอถามหน่อยว่าหลังการผ่าตัดแผลเป็นของฉันจะหายไปหรือป่าว” ซู่ฟางลดเสียงของเธอลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า“ ฉันจะพยายามลดน้ำหนักหลังจากที่ฉันเลิกเล่นแข่งขันแล้วและฉันจะหุ่นดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนน และฉันไม่อยากได้รอยแผลเป็นหลังน่อง ”
“ ตอนนี้ฉันบอกได้แค่แผลเป็นของคุณไม่หายไปอย่างแน่นอน” หลิงรันตอบกลับอย่างแข็งทื่อ จากนั้นเขาก็พูดว่า“ อีกทั้งฉันก็ยืนยันได้ว่าคุณจะได้แผลเป็นหลังการผ่าตัดอย่างแน่นอน…”
“ ห่ะ!! ฉันไม่อยากมีแผลเป็น ที่บ้านเกิดของฉันหญิงสาวที่มีแผลเป็นนั้นจะหาคู่แต่งงานได้ยากมาก” ซู่ฟางเธอได้ตะโกนออกมาด้วยเสียที่ดังลั่น
พยาบาลที่ดูแลการผ่าตัดเองก็รู้สึกไม่พอใจเมื่อได้ยินซู่ฟางพูดเช่นนั้นออกมา “ มีอะไรผิดปกติกับรอยแผลเป็นหรือยังไง? ฉันจะไม่แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ต้องการฉันเพราะว่าฉันมีรอยแผลเป็นหรอกนะ พวกผู้ชายพวกนี้ถือว่าเป็นผู้ชายที่แย่สำหรับฉันเลย ”
“ ฉันไม่ต้องการแผลเป็น!” เขาซู่ฟางยังยืนยันคำขอเดิม
“ หลังจากการผ่าตัดฉันจะเย็บให้คุณเอง หากมีการจัดการแผลที่เยี่ยมยอดรอยแผลเป็นก็จะเห็นแบบรางๆ ” หลิงรันมองไปที่จอแสดงผลแสกนเอ็มอาร์ไอขนาดใหญ่และเขาก็หลับตาเพื่อพยายามนึกภาพในหัวของเขา จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและถามว่า“ มีปัญหาอื่นอีกไหม?”
ซู่ฟางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ เตียงผ่าตัดที่นี้ดูเล็กจัง มันไม่มีเตียงที่ใหญ่กว่านี้แล้วรึยังไง? ฉันกลัวว่าตอนที่ฉันสลบและเผลอนอนผลิกตัวจะทำให้ฉันตกเตียง อีกทั้งวันนี้ฉันใช้แรงไปค่อนข้างมากมันอาจจะทำให้ฉันกรนออกมา…”
“ อย่างงั้นก็เพิ่มยาชาให้เธอด้วย ” หลิงรันรู้สึกว่าทีมผ่าตัดของเขาได้เตรียมการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
วิสัญญีแพทย์ตอนนี้เขาพยายามตรวจสอบผู้ป่วยอีก อีกทั้งเมื่อวันก่อนเขาก็ได้พักผ่อนจนเพียงพอแล้ว เขาจึงยิ้มและเข้ามา เขาถือหน้ากากปิดปากมาและพูดว่า“ คุณช่วยบอกชื่อคุณอีกครั้งได้ไหม ”
“ ซู่ฟาง ”
“ คุณเป็นนักกีฬาขว้างจักรสินะ??”
“ ใช่ ”
“ อยากงั้นคุณตองทางบิสคัส ”
“ฮะ?”
ทุกคนในห้องผ่าตัด และในห้องสาธิตดูการทำงานของวิสัญญีแพทย์อย่างเงียบ ๆ
“ ฉันคิดถึงเรื่องนี้ตลอดทั้งคืน ” วิสัญญีแพทย์ดีใจมากจน เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นและตะโกนด้วยความฮึกเฮิมออกมา
เจียนเทียนยู และ จู้ตงยี่ มองหน้ากัน พวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่วิสัญญีแพทย์กำลังจะสื่อสารออกมามันคืออะไร
หลิงรันมองการกระทำนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะขอปากกา เขาลากเส้นจากข้อเท้าของซู่ฟางไปที่น่องของเธอ เส้นนั้นมีความยาวเจ็ดนิ้ว
พยาบาลผู้ช่วยนั้นไม่ได้พูดอะไรได้ แต่เธอก็ตะโกนด้วยความฮึกเฮิมเหมือนกับวิสัญญีแพทย์ออกมาก่อนที่เธอจะก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว
เจียนเทียนยู ขมวดคิ้วและถามว่า“ การผ่าตัดนี้จะใช้เวลานานเท่าไรกัน?”
“ ขอบของเอ็นร้อยหวายของเธอนั้นไม่เรียบเท่าไหร่ มันจะปลอดภัยกว่าถ้าจะตัดเล็กๆออกนิดหน่อย” หลิงรันกล่าวตามข้อมูลในผลของเอ็มอาร์ไอแสกน
“ ถึงเวลาที่คุณต้องตัดสินใจแล้วว่าจะผ่าตัดรึไหม ” เจียนเทียนยูหยุดพูดพักหนึ่งก่อนที่เขาจะพูดต่อไปว่า“มันจะมีแผลเป็นยาว แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว การรักษาชีวิตของเธอสำคัญมากกว่าเรื่องแผลเป็น”
หลิงรันไม่ได้ตอบโต้ใดๆกลับไป เขาเองก็เป็นหมอที่ไม่ชอบสนามผ่าตัดที่แคบและเล็ก โดยความคิดเหล่านี้เริ่มต้นมาจาก เมื่อเขาเรียนอยู่เขามีโอกาสได้เห็นและได้ยินหลายเคสที่เกิดอุบัติเหตุเพราะการเปิดสนามผ่าตัดที่แคบเกินไป ตอนนี้เขามีความรู้มากขึ้นเขากลัวอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัด
เนื่องจากขอบของเอ็นร้อยหวายในผลแสกนเอ็มอาร์ไอนั้นไม่ชัดเจนจึงอาจเกิดปัจจัยแทรกซ้อนได้อย่างมากมาย หากเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอาจส่งผลถึงการเกิดเนื้องอกขึ้นมาได้ แต่ถ้ารุนแรงน้อยกว่านั้นอย่างน้อยที่สุดอาจทำให้เอ็นร้อยหวายของผู้ป่วยนั้นเสียหายได้ ในฐานะหัวหน้าศัลยแพทย์เนื่องจากหลิงรันเป็นคนหนึ่งที่เปิดสนามผ่าตัดเขาจึงลองมองดูและสังเกตมันด้วยตัวเอง
“ เอ็นร้อยหวายไม่ได้ตัดขาดกันอย่างสมบูรณ์ ” ในขณะที่มีดรูปตัว S ตัดเข้าสู่ผิวของเธอแพทย์ในห้องผ่าในตอนนั้นก็โล่งใจ แพทย์ในห้องสาธิตก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเอ็นร้อยหวายที่ฉีกขาดอย่างสมบูรณ์กับเอ็นร้อยหวายที่ฉีกขาดบางส่วนนั้นไม่สามารถยืนยันว่าเคสในรุนแรงกว่ากันได้ เพราะปัจจัยความรุนแรงขึ้นอยู่กับแรงยึดของเอ็นร้อยหวายที่หายไประหว่างการฉีดขาดซึ่งปัจจัยนี้จะช่วยยืนยันความรุนแรงของอาการบาดเจ็บได้ชัดเจนกว่า
อีกปัญหาหนึ่งสำหรับผู้ป่วยที่มีบาดเจ็บจากเอ็นร้อยหวายฉีกนั้นคือ การที่เอ็นร้อยหวายจะมีอาการหดตัวลงหลังจากที่แพทย์ผ่าเปิดบริเวณขาซึ่งอาจจะหดตัวได้มากถึง 23 ถึง 27 นิ้วซึ่งจะเป็นการลำบากในผ่าตัด
มันจะยากมากที่จะเย็บเอ็นร้อยหวายที่ติดอยู่กับกล้ามเนื้อตายเช่นนี้ได้ ศัลยแพทย์อาจไม่สามารถดึงเอ็นกล้ามเนื้อทั้งสองด้านเข้าด้วยกันได้ มันทำให้พวกเขาสามารถทำการปลูกถ่ายเอ็นร้อยหวายได้เท่านั้นซึ่งจะนำเส้นเอ็นจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมาเพื่อปลูกถ่ายความยาวที่หายไปได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่าความแข็งแรงของเอ็นที่ได้จากการปลูกถ่ายเอ็นร้อยหวายนั้นไม่เพียงพอสำหรับพวกนักกีฬาที่จะต้องทำการฝึกฝนอยู่เป็นประจำแต่อาจเพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเท่านั้นผู้ป่วยก็ต้องระวังให้มาก เพราะมันเป็นไปได้ที่พวกเขาจะแยกแยะในกีฬาไม่ออกระหว่างกีฬาประเภทออกแรงเบาๆ กับกีฬาที่ต้องออกแรงมากในการเล่น
ซึ่งผลเหล่านั้นสามารถดูผ่านผลแสกนเอ็มอาร์ไอของซู่ฟางว่าเอ็นร้อยหวายของเธอไม่ได้ฉีกอย่างสมบูรณ์ แต่เมื่อเปิดแผลอย่างสมบูรณ์พวกเขาจะสามารถยืนยันรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงว่าเอ็นของเธอฉีกมากเพียงใดได้
จากสิ่งที่พวกเขาเห็นในขณะนี้ไม่มีสัญญาณของการบาดเจ็บรุนแรงมาก มันมีแค่ปลายของเอ็นไม่เท่ากันแค่นั้น อาการบาดเจ็บนั้นเบากว่าอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายอื่น ๆ ที่ หลิงรันเคยผ่าตัดเสียอีก
แม้ว่าเขาจะใช้แผนการผ่าตัดมาตรฐานสำหรับคนปกติเพื่อเย็บเอ็นร้อยหวายของเธอเขาก็สามารถทำให้เธอกับมาปกติได้ถึงร้อยละแปดสิบได้ง่ายๆ นั่นคือระดับที่ซู่ฟางอาจกลับไปซ้อมกีฬาได้และเวลาในการผ่าตัดทั้งหมดก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
นักกีฬาหลายคนยอมรับว่าการผ่าตัดที่คล้ายกันและหลังการผ่าตัดพวกเขาจะต้องใช้ความพยายามของตนเองในการมีวินัยในการรักษาฟื้นฟูบาดแผล จากนั้นพวกเขาจะสามารถกับไปแข่งขันบนสนามได้อีกครั้ง
ด้วยแผนการผ่าตัดของจู้ตงยี้มันทำให้ความมั่นใจของหลิงรันเพิ่มมากขึ้นไปอีกขั้น แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าเขาสร้างผลลัพธ์เดียวกันเหมือนการฟื้นตัวของหลิวเหว่ยได้ แต่อัตราความสำเร็จจะเพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับเอ็นร้อยหวายที่ไม่ได้ฉีกอย่างสมบูรณ์
“ ดึงเส้นเอ็นออกมา ออกมาก่อน อืม…ฉันจะทำการเย็บมันด้วยตัวเอง ” หลิงรันไม่ยอมให้เจีบยเทียนยู และหมอลู่เย็บในครั้งนี้ เพราะเขาเลือกที่จะจัดการมันด้วยตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความสำเร็จในการผ่าตัดในครั้งนี้
จู้ตงยี่ขมวดคิ้วและถามว่า“ หลิงรัน, คุณหมายความว่าคุณจะเย็บมันเองหรอ”
“ ฉันจดจำตำแหน่งของหลอดเลือดก่อนหน้านี้และฉันก็พร้อมที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นเลือดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อนำเอ็นร้อยหวายออกมา “หลิงรันก้มหัวของเขาลงและพูดว่า” หลังจากฉันนำมันออกไปฉันจะทำตามขั้นตอนเดียวกันในการผ่าตัดของ หลิวเหว่ย ”
ความคิดที่ปรากฏในหัวของหลิงรันหลังจากที่เขากลับไปที่โรงแรมและวิเคราะห์กระบวนการผ่าตัดเมื่อเขาใช้แผนผ่าตัดกับหลิวเหว่ย
จากมุมมองของหลิงรันหลอดเลือดหลายอย่างที่เขาต้องตัดมันในครั้งสุดท้าย มันสามารถหลีกเลี่ยงกสนตัดนั้นได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาสามารถลดความซับซ้อนของการสร้างแขนงหลอดเลือดโดยหลีกเลี่ยงหลอดเลือดขนาดเล็กหรือเขาอาจสร้างแขนงหลอดเลือดที่มีความซับซ้อนในทำนองเดียวกัน
อย่างไรก็ตามการผ่าตัดดังกล่าวก็ยิ่งยากขึ้น ความเข้าใจของศัลยแพทย์ต่อการสแกนเอ็มอาร์ไอ นั้นค่อนข้างสูงมิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถพิสูจน์ผมการวินิจฉัยและทำการผ่าตัดออกมาได้
เจียนเทียนยูก็คิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะเข้าใจความหมายของ หลิงรันเขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “ คุณจำตำแหน่งทั้งหมดของเส้นเลือดไม่ได้ใช่ไหม”
“ จะเป็นไปได้อย่างไร” หลิงรันหัวเราะ
“ แล้วสิ่งที่คุณพูดคืออะไรกันแน่…”
“ ฉันเพิ่งนึกถึงอวัยวะรอบ ๆ เอ็นร้อยหวาย” หลิงรันยิ้ม
เจียนเทียนยู หัวเราะเบา ๆ อย่างเชื่องช้าเหมือนไม่มีแรงที่จะคุยกับหลิงรันอีกต่อไป
จู้ตงยี่เขาเริ่มไอเพื่อพยายามควบคุมบรรยากาศในห้องสาธิต “ หัวหน้าแพทย์จี หลิงรันอาจจะยังเด็กอยู่ แต่คะแนนของเขาติดหยึ่งในสามอันดับแรกของมหาวิทยาลัยหยุนหัว เขาคงทำไม่ได้คะแนนระดับนั้นไม่ได้หรอกถ้าเขามีความจำที่แย่จริงไหม?”
เพราะแพทย์นั้นแตกต่างจากอาชีพอื่น ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะออกจากโรงเรียนแพทย์มาหลายปีแล้ว แต่วุฒิการศึกษาของพวกเขายังคงมีคุณค่าอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ไม่เพียงทำให้พวกเขามองหางานได้ง่ายขึ้น แต่ยังทำให้พวกเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งได้ง่ายขึ้นอีกด้วย อีกทั้งถ้าเป็นแพทย์ที่ได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศหรือ เรียนจบจากมหาลัยแพทย์ปักกิ่งแล้วนั้น พวกเขาก็จะยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น
แน่นอนในเวลานั้นวุฒิการศึกษาของพวกเขาอาจไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้โรงพยาบาลอื่น ๆ ให้ความสนใจในตัวพวกเขามันรวมถึงความเชียวชาญของเขาอีกด้วย
จู้ตงยี่เพิ่งดูโปรไฟล์ของหลิงรันซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ เขาจดจำส่วนประกอบต่างๆในการผ่าตัดได้ชัดเจนขนาดนั้น
แต่เจียนเทียนยูก็ถูกขัดจังหวะไว้ก่อน แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่ใส่ใจกับปัญหานี้อีกต่อไป เขาจ้องมองไปที่การผ่าตัดของหลิงรัน และครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ
หลิงรันได้ทำแผลอย่างช้าๆ การเคลื่อนไหวของเขาช้ามาก แต่แผลก็ถูกกีดอย่างแม่นยำมาก เขาทำให้แน่ใจว่าใบมีดถูกีดไปรอบ ๆ ขอบของหลอดเลือดและเขาก็ค่อย ๆ ลอกส่วนเอ็นที่ฉีกออกมา
หลิงรันใช้เวลาถึงสามสิบนาทีเพื่อทำขั้นตอนนี้ให้เสร็จ
อย่างไรก็ตามเมื่อเสร็จสิ้นทุกคนก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที่
ในขั้นตอนไปที่หลิงรันจะทำคือสิ่งที่ในทีมผ่าตัดเคยทำมาก่อนแล้วมันจึงทำให้การผ่าตัดนั้นง่ายขึ้นเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่หลิงรันทำไปก่อนหน้านั้นในแผน A ซึ่งตอนนี้มันดูผ่อนคลายมากขึ้น
หลิงรันเหวี่ยงแขนเป็นวงกลมก่อนที่จะเริ่มเย็บด้วยความเร็วสูง
เขาได้เย็บเอ็นร้อยหวายอย่างน้อยแปดสิบหรือเก้าสิบครั้งในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหากแต่ก็ยังไม่ถึงหนึ่งร้อย ดังนั้นด้วยการที่เขามีเทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายระดับสมบูรณ์ร่วมกับประสบการณ์ในการรักษาช่วงสามวันที่เขาเคยรักษามาจึงทำให้หลิงรันได้รับข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับเอ็นร้อยหวาย
หลิงรันนั้นสนใจเพียงความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อเยื่อรอบ ๆ เอ็นร้อยหวายมากกว่าจุดอื่นและด้วยเหตุนี้เขาจึงคุ้นเคยกับเนื้อเยื่อของมันในแง่ของความเหนียวและความแข็งของมันมากว่าจุดอื่นๆรอบๆ
ประสบการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อวิธีที่แพทย์เริ่มเย็บเอ็นร้อยหวาย ประสบการณ์ที่แตกต่างนำไปสู่การเย็บที่แตกต่าง มันเหมือนกับว่างานเขียนจะแสดงสไตล์ที่แตกต่างลงบนเนื้อความที่เขียนลงไป
หลิงรันคุ้นเคยกับส่วนประกอบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ สนามผ่าตัดและส่วนที่เหลือของการผ่าตัดกลายเป็นเพียงเรื่องเล่นๆและเข้าใจง่ายสำหรับการผ่าตัดของหลิวเหว่ย
แต่นี้มันก็ยังคงเป็นเชื่อมหลอดเลือดประเภทเดียวกันอยู่ดีถึงแม้ว่าการผ่าตัดของหลิวเหว่ยจะเข้าใจได้ง่ายขนาดไหนในตอนนี้ก็ตาม
หลิงรันเองก็แสดงท่าทางที่ผิดปกติออกมาเหมือนกับตอนที่เขารักษาเอ็นร้อยหวายของหลิวเหว่ย
อย่างไรก็ตามหลิงรันไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษไปมากกว่านั้น เขาเพียงทำตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
เมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัดลงแพทย์หลายคนในห้องสาธิตต้องนั้งกุ้มขมับด้วยความจริงที่ว่าการผ่าตัดของหลิงรันเสร็จสิ้นแล้วจริงๆหรอ?
“เสร็จแล้ว” . หลิงรันวางอุปกรณ์ของเขาไว้และเดินออกจากตำแหน่งนั้น
“ หมอหลิงคุณคิดว่ายังไงกับการผ่าตัดนี้” จู้ตงยี่รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา การผ่าตัดสองเคสติดต่อกันด้วยแผนการผ่าตัดของเขาจะช่วยเพิ่มเชื่อเสียงและมูลค่าของสถาบันของเขาให้สูงขึ้นอย่างแน่นอน
หลิงรันตอบคำถามของจู้ตงยี่ เมื่อเขาถามเกี่ยวกับกระบวนการของการผ่าตัด หลังจากหลิงรันคิดคร่าวๆเกี่ยวกับเรื่องนี้เขากล่าวว่า“ เธอควรจะฟื้นตัวได้ดีกว่าหลิวเหว่ย ”
“ เยี่ยมมาก ” หมอลู่และนางพยาบาลทั้งคู่ต่างก็กำหมัดและชูมือขึ้นเพื่อฉลองความสำเร็จในครั้งนี้