Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง - ตอนที่ 214
กระบี่ยาวหนึ่งจ้างปรากฏ ตัวกระบี่งดงามราวกับหยก ลวดลายปรากฏเด่นชัด ทั้งยังแผ่กลิ่นอายโบราณ
แม้จะกล่าวว่ากระบี่ แต่หากเรียกว่ามีดจะเหมาะสมกว่า
การปรากฏตัวของมีดเล่มนั้น ทำให้หนิงฝานสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง
อำนาจสวรรค์แผ่ออกมาจามีดเล่มนั้น จ้าวหอคอยเหนือเหวี่ยงมันเบาๆ ริ้วแสงสีครามบางๆที่แฝงด้วยพลังมิติกวาดผ่านท้องนภา
สมบัติพิภพ!
มีเพียงสมบัติพิภพเท่านั้นที่เปล่งอานุภาพแบบนี้ได้!
หากมีดนั่นสัมผัสร่าง ต่อให้เป็นหนิงฝานก็ต้องบาดเจ็บไม่น้อย!
แม้เป็นแส้อัสนีก็ไม่อาจต่อกรกับมีดเล่มนั้นได้ เพราะแสเอัสนีอาจเป็นฝ่ายเสียหายเอง!
แต่ในชั่วพริบตานั้น หนิงฝานกลับสัมผัสพบบางสิ่ง
แม้มีดเล่มนั้นจะแฝงด้วยอำนาจสวรรค์ที่ทรงพลัง แต่หากเทียบกับสมบัติพิภพที่แท้จริงแล้ว ยังอ่อนกว่ามาก
มีดเล่มนั้นเป็นสมบัติชนิดที่เรียกว่า ‘สมบัติวิญญาณสวรรค์’ มนุษย์มีลำดับขั้นในการพัฒนาตน สมบัติหรืออาวุธก็มีเช่นกัน… ธาตุทั้ง 5 ในธรรมชาติควบรวมยกระดับเป็นปราณดั้งเดิม ปราณดั้งเดิมควบรวมยกระดับเป็นปราณสวรรค์
ยามที่มีดเล่มนั้นกรีดเฉือน มันเปล่งริ้วแสงสีครามมุ่งออกไป อานุภาพของมันสังหารผู้ที่ยังไม่บรรลุขอบเขตกระดูกหยก จากริ้วแสง มีดเล่มนั้นสมควรมีปราณสวรรค์ธาตุดิน
แต่ด้วยที่มันเปล่งอานุภาพของปราณสวรรค์ได้ไม่มากเท่าที่ควร จึงกล่าวได้ว่าบางที… มีดเล่มนั้นอาจเคยเป็นอาวุธพิภพ แต่
ในเมื่อได้รับความเศษหาย มันจึงเป็นเพียงสมบัติวิญญาณสวรรค์ไร้ค่า!
อีกเหตุผล สมบัติวิญญาณสวรรค์แท้จริง หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นก็ไม่สามารถใช้ การที่ได้จ้าวหอคอยเหนือใช้ได้ แสดงว่ามันไม่ใช่สมบัติวิญญาณสวรรค์ที่แท้จริง
“ซัวหมิง! ต่อให้เจ้ามีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่หากถูกมีดเล่มนี้กรีดเฉือน เจ้าไม่มีทางรอดแน่! ถึงเซี่ยงเหลียวก้าวพลาดเสียท่าให้เจ้า แต่ข้าจะไม่มีทางซ้ำรอยมัน!”
จ้าวหอคอยเหนือหน้าซีดขาวราวกระดาษ แม้มันจะแสดงสีหน้าเย้ยหยัน แต่จากท่าทางแค่ขยับมีดก็คงเต็มกลืน
แต่การที่มีมีดเล่มนั้นในมือก็ทำให้มันมั่นใจ ว่าต่อให้ศัตรูเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ มันก็สร้างรอยแผลให้ได้!
“น้องสาม เจ้าเอาสมบัตินี่ไปกันไม่ให้มันหนี… ยามนี้ ข้าจะทุ่มสุดตัวเพื่อฆ่ามัน หากเราสังหารมันไม่ได้ น้องสองก็จะตายอย่างไร้ค่า!”
“ได้!”
จ้าวหอคอยตะวันออกที่สลัดหลุดจากวิชาตรึงร่าง ทะยานเข้าขวางทางหนีของหนิงฝานไว้
เมื่อทางหนีถูกปิด จ้าวหอคอยเหนือใช้มีดแทงตนเอง! โลหิต กล้ามเนื้อ ปราณ… ทุกสิ่งถูกดูดกลืนเข้าสู่มีด จนทำให้สีหน้าของมันซีดขาวยิ่งนั้น ร่างกายหดสั้นลง ผอมราวกับหนังหุ้มกระดูก
แสงสีครามสายใหญ่ส่งลงจากท้องนภาสู่ทะเล ราวกับเชื่อมต่อพวกมันเข้าด้วยกัน
ลำแสงสีครามเปล่งแสงสว่าวเจิดจ้า อากาศรอบข้างสั่นไหวราวกับกำลังถูกกระชาก ก่อนที่ท้องนภาจะแปรเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬ
ทันใดนั้นเอง ริ้วแสงสีครามราวกับจันทรเสี้ยว ดิ่งจากท้องนภาเข้าหาหนิงฝาน สัมผัสอันตรายร้ายแรงคืบคลาน เร่งย่างก้าวพริบตาหลบหนีเต็มกำลัง แต่เมื่อตัวเขาเปลี่ยนตำแหน่ง ริ้วแสงกลับติดตามเขาไป
ดวงตาหนิงฝานเบิกกว้าง ริ้วแสงที่ติดตามมานั้นคือ ‘กระบี่วิญญาณสวรรค์’ เป็นสิ่งที่รับมือได้ยากมาก!
เมื่อไร้ซึ่งสมบัติขั้นวิญญาณสวรรค์ ก็ต้องใช้ร่างกายต้านรับ!
การจู่โจมนี้ คือการจู่โจมที่รุนแรงที่สุดที่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจะใช้ได้ ซึ่งทรงพลังเทียบเท่าการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น!
ตาขวาปรากฏดาราพิภพ หยิบยืมพลังธาตุดินจากพื้นดิน ก่อตัวเป็นโล่สีเหลืองขนาดยักษ์ พร้อมกับใช้สัมผัสกระบี่ในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด ก่อตัวเป็นดักแด้หุ้มร่าง ภายในดักแด้ ร่างกายของหนิงฝานเปล่งสีเงินเจิดจ้า รอยสักอสูรปรากฏ พร้อมกับสมบัติป้องกันนับ 10 เตรียมพร้อม
โล่ดินของหนิงฝานทรงพลังพอที่จะต้านรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด แต่เมื่อต้องเผชิญกับกระบี่วิญญาณสวรรค์ โล่ห์ถูกผ่าเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย
แต่นั่นก็ช่วยลดทอนอานุภาพของกระบี่ลง 5 ใน 10 ส่วน
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา คมกระบี่เข้าปะทะกับดักแก้สัมผัสกระบี่
*แคร้ก!*
สัมผัสกระบี่ทรงพลังขนาดต้านการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด แตกสลายราวกับเปลือกไข่ที่เปราะบาง
แม้คมกระบี่ยังเข้าไม่ถึงตัว แต่กลับทิ้งรอยแผลขนาดเล็ก ที่ทำให้ทะเลสติของเขาได้รับบาดเจ็บ
การป้องกันสองชั้นเอาไม่อยู่!
อานุภาพกระบี่ช่างน่าสะพรึงกลัว
กระบี่ยังเหลืออานุภาพอยู่ 3 ใน 10 ส่วน!
หนิงฝานกระตุ้นสมบัติป้องกันที่เตรียมไว้ แต่ละชิ้นล้วนเป็นสมบัติขั้นสูงสุด แต่ก็ถูกกระบี่ทำลายในพริบตา!
สมบัติป้องกันที่หนิงฝานได้มาจากผู้เชี่ยวชาญที่สังหาร ถูกนำออกมาใช้แทบทั้งหมด เพื่อให้หนิงฝานได้ถอยห่างจากคมกระบี่
แต่ด้วยอานุภาพที่ยังน่าสะพรึงกลัว คมกระบี่เคลื่อนเข้าหาเหนือศีรษะหนิงฝานอย่างรวดเร็ว!
กระบี่รวดเร็วจนแทบไม่ทันตั้งตัว จึงเหลือเพียงปราการสุดท้ายให้ป้องกัน!
หนิงฝานชกหมัดเข้าต้านคมกระบี่ เมื่อหมัดสัมผัสคมกระบี่ หมัดของเขาถูกผ่า คมกระบี่กวาดผ่านร่างอย่างรวดเร็ว
ควันสีปะทุทั่วร่างหนิงฝาน ก่อนที่ร่างของเขาจะระเบิด!
กระบี่วิญญาณสวรรค์สิ้นฤทธิ์!
แม้จะสังหารหนิงฝานได้ แต่อานุภาพกระบี่ก็ถูกลดทอนจนหมดสิ้น!
“ซัวหมิงช่างแข็งแกร่ง… ถึงปราณกระบี่เมื่อครู่จะทรงพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าอาวุธวิญญาณสวรรค์ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณยังได้รับบาดเจ็บ การที่มันสลายอำนาจกระบี่ได้อย่างหมดจด แสดงว่าพลังของมันใกล้เคียงกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณมาก!”
จ้าวหอคอยเหนือแสดงสีหน้าเย้ยหยัน
กระบี่เมื่อครู่ดูดกลืนแก่นโลหิตของมันไปเกือบหมด มันเองก็ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงไม่น้อย ต่อให้ได้โอสถดีขนาดไหน อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 100 ปีในการรักษา แต่ถึงอย่างนั้น ปราณของมันก็อาจฟื้นฟูกลับได้แค่เพียง 5 พันเกราะ
แม้มันจะสังหารหนิงฝานได้ แต่ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อย ถึงอย่างนั้น มันก็จะได้เพลิงชีพจรพิภพถึง 2 ชนิดไปมอบให้ท่านหยานของมัน
และมันก็จะได้โอสถผันแปรที่ 5 เป็นการตอบแทน และนั่น ก็จะช่วยให้มันบรลุขอบเขตตัดวิญญาณได้
“ฮ่าฮ่า! น้องสาม เจ้ารีบไปยังที่ที่มันตาย แล้วหาเพลิงชีพจรพิภพดู ข้าจะขอพักสักเดี๋ยว”
“แต่… เพลิงชีพจรพิภพจะไม่ถูกทำลายแล้วเหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้! กระบี่จิตวิญญาณสวรรค์ทำลายเฉพาะร่างกายและดวงจิตแรกเริ่ม ส่วนเพลิงชีพจรพิภพเป็นสิ่งลึกลับ ไม่น่าจะถูกทำลายไปด้วย… แต่กระบี่เมื่อครู่ก็แฝงด้วยพลังมิติ หรือว่าเพลิงจะถูกพลังมิติบดขยี้ไปแล้ว? แบบนั้นแย่แน่”
แต่ในขณะที่จ้าวหอคอยเหนือกำลังนั่งขัดสมาธิเพื่อดูดซับโอสถอยู่นั้น มันกลับเสียวสันหลังวาบ
สัมผัสกระบี่สีดำทมิฬจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้นด้านหลังของมัน ก่อนแปรสภาพเป็นเงาร่างของผู้เยาว์ในอาภรณ์ดำ!
สีหน้าของผู้เยาว์คนนั้นซีดขาว แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ตาย!
“เจ้าจู่โจมได้น่าประทับใจมาก… กระบี่วารีผันแปร!”
สีหน้าจ้าวหอคอยเหนือแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
มันร้องขอให้จ้าวหอคอยตะวันออกช่วยไม่ทัน
เพราะเสียงของผู้ที่อยู่ด้านหลังของมันช่างคุ้นหู… ไม่ผิดแน่… ต้องเป็นมัน!
“ซัวหมิง! เจ้ายังไม่ตาย! เป็นไปได้ยังไง!”
กระบี่สีดำเล่มใหญ่ปรากฏ จ้าวหอคอยเหนือร้องลั่น!
แขนขวาที่ถือมีดของมันถูกตัดขาด
กระบี่สีดำแทรกผ่านเข้าไปในร่างของมัน ทำลายเส้นลมปราณ ทำลายตันเถียน และเข้าจู่โจมดวงจิตแรกเริ่ม!
ร่างของมันถูกกระบี่สีดำฟาดฟันเป็นชิ้น แต่ก่อนที่ดวงจิตแรกเริ่มของมันจะถูกทำลาย ดวงจิตแรกเริ่มเปล่งแสงสีทอง และพุ่งออกจากร่างอย่างรวดเร็ว!
มันไม่เชื่อว่าหนิงฝานยังไม่ตาย สถานะการณ์ยามนี้กลับตาลปัตร
เป็นไปได้ยังไง กระบี่วิญญาณสวรรค์สมควรปลิดชีพมันแล้ว เหตุใดยังมีชีวิตอยู่!
ในช่วงเวลาคับขัน หนิงฝานใช้วิชากระบี่วารีผันแปร สลายร่างของตนเป็นสัมผัสกระบี่นับไม่ถ้วน แล้วก่อตัวขึ้นใหม่
ส่วนจ้าวหอคอยเหนือก็อาศัยช่วงคับขันหลบหนีออกมาได้เช่นกัน
“เป็นไปไม่ได้!” จ้าวหอคอยเหนือแผดเสียงคำรามลั่น
“ก่อนที่เจ้าจะตาย ข้ามีสิ่งที่อยากจะกล่าวกับเจ้า… ที่เจ้าทุ่มเททุกสิ่งเพื่อท่านหยานแห่งวิหารพิรุณ เป็นเพราะมันเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5…. เจ้าไม่รู้เหรอว่าข้าก็เป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 เหมือนกัน? เจ้าคิดผิดแล้วที่ยั่วยุข้า…”
“อะไรนะ! เจ้าเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5!” จ้าวหอคอยเหนือตกตะลึง หากมันรู้ก่อนว่าหนิงฝานคือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ผลที่ได้คงไม่เป็นแบบนี้
น่าเศร้า…ช่างน่าเศร้าอย่างที่สุด!
ซัวหมิงผู้นี้เก่งกาจ จัดการไม่ได้ง่ายๆ ตอนนี้มันต้องรีบหนีให้พ้นก่อน ต้องกลับไปวิหารพิรุณ ไปขอให้ท่านหยานช่วย!
“คิดจะหนีเหรอ?”
หนิงฝานชี้นิ้วไปหาพวกมันทั้งสองคน พวกมันรู้สึกราวกับถูกน้ำแข็งที่เย็นเฉียบปกคลุมร่าง จนยากจะเคลื่อนไหว
หนิงฝานกินแขนของจ้าวหอคอยเหนือเข้าไป กุมมีดของมันไว้ในมือ และสัมผัสได้ถึงอำนาจสวรรค์ที่ไหลเข้าสู่ร่าง
กระบี่ตัดวิญญาณสวรรค์… หนิงฝานประมาทมันเกินไป คาดไม่ถึงว่ามันจะสำแดงอานุภาพได้มากขนาดนั้น
ยามนี้หนิงฝานมีปราณไม่มาก จึงยังไม่อาจใช้งานสมบัติวิญญาณสวรรค์ได้
จ้าวหอคอยทั้งสองพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากการตรึงร่าง แต่เมื่อมันหลุด หนิงฝานก็ตรึงร่างพวกมันอีกครั้ง
หนิงฝานแผ่กลิ่นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด วิชาตรึงร่างที่ใช้ พวกมันสลัดหลุดไม่ได้ง่ายๆ
“สหายเต๋าซัวหมิง หากเจ้ายอมปล่อยพวกข้าไป เมื่อกลับไปถึงวิหารพิรุณ ข้าจะไม่รายงานเรื่องใดๆทั้งนั้น?”
“งั้นเหรอ? อย่าใจร้อนไป ข้ากำลังหาวิชาใช้มีดเล่มนี้อยู่…”
“เจ้ายังใช้มันไม่ได้หรอก อย่างน้อยต้องบรรลุตัดวิญญาณ…”
“หุบปาก!”
เสียงของหนิงฝานราวกับอัสนีฟาดผ่า จนทำให้จิตใจของพวกมันสั่นสะท้าน
ยามนี้ บรรยากาศรอบข้างหนิงฝานเริ่มเปลี่ยนไปช้าๆ
เขายื่นมือราวกับคว้าจับบางสิ่ง
“ถอนวิญญาณ…”
จิตวิญญาณของพิภพที่อยู่ลึกลงไปใต้มหาสมุทร ราวกับผสานเป็นหนึ่งเดียวกับหนิงฝาน ทำให้ปราณของเขาเพิ่มขึ้น!
300 เกราะ… 500 เกราะ… 1000 เกราะ…
2000 เกราะ…. 5000 เกราะ… 10,000 เกราะ!
ปราณบรรลุในจุดที่เทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แม้จะทำให้หนิงฝานได้รับบาดเจ็บเพิ่ม แต่ปราณจำนวนี้ก็มากพอให้ใช้มีดได้เต็มอานุภาพ
“ถอนวิญญาณ… เข้าใจแล้ว! เจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มแต่ใช้วิชาระดับนี้ได้ ข้านับถือๆ… ช่างโชคดีที่ได้ตายด้วยมือของเจ้า แต่หากเจ้ายอมปล่อยข้าไป ข้าจะ…”
“หุบปาก!”
มีดสั้นเปล่งอานุภาพเต็มกำลัง หนิงฝานตะวัดมีดเป็นแนวนอน ริ้วแรงสีครามทรงจันเสี้ยวกวาดผ่านผืนนภา ราวกับสะบั้นทุกสิ่งที่กีดขวาง
สีหน้าจ้าววิหารทั้งสองแปรเปลี่ยนหวาดกลัวสุดขีด
ทั้งร่างกาย ทั้งจิตวิญญาณ ทั้งดวงจิตแรกเริ่ม ไม่อาจรอดพ้นจากคมกระบี่ได้
จ้าวหอคอยทั้งสองร้องลั่น พลังมิติปะทุ บดขยี้ร่างและดวงจิตแรกเริ่มของพวกมันจนสลาย เสียงระเบิดสนั่นกึกก้อง
สายลมโชย คลื่นทะเลซัดสาด… บริเวณนั้น เหลือผู้เยาว์คนเดียวที่ยืนอยู่กลางนภา พลางก้มมองมีดในมือ
“สมบัติวิญญาณสวรรค์ทรงพลังมาก… ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ ก็ไม่อาจประมาทมันได้ กระบี่แยกสวรรค์ของข้ายังไม่อาจเทียบเคียง”…
ภายในเมืองเต่าทมิฬ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมารุมล้อมหอคอยโอสถใต้ ที่นั่น ลูู่ชิง เป่ยเซี่ยวเหมิน และผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของวิหารสาบสูญมารวมตัวกัน เฝ้ามองเหรียญชีวิตของจ้าวหอคอยทั้ง 3 เงียบๆ
เหรียญชีวิตของจ้าวหอคอยตะวันตกแตกก่อน ไม่นาน อีกสองเหรียญก็แตกตาม นั่นหมายความว่า จ้างหอคอยทั้งสามถูกสังหาร!
คอหอโอสถใต้เงียบสงัด
ไม่นาน ข่าวการตายของจ้าวหอคอยทั้ง 3 ก็แพร่ไปทั่วทะเลส่วนนอกอย่างรวดเร็ว
ซัวหมิงสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด 3 คนได้เพียงลำพัง
ที่สำคัญ 3 คนนั้นยังเป็นตัวตนระดับสูงของวิหารพิรุณ
ยามนี้ ซัวหมิงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด!…