Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง - ตอนที่ 216
เป่ยเซี่ยวเหมินยืนมือไพล่หลัง หากมองจากข้างหลัง นางเหมือนเด็กสาวอายุ 14 ปี ผมดำขลับ ผิวขาวนวลราวกับหยก กลิ่นกายหอมราวกับบุบผา
แต่บุบผาก็มีหนาม…
เด็กสาวที่น่ารักอย่างนาง เป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจอย่างที่สุด
แต่หนิงฝานคิดว่า หากนางไม่เป็นเช่นนั้น นางก็เอาตัวรอดในทะเลส่วนนอกแห่งนี้ไม่ได้
ความรู้สึกหลากหลายปรากฏในจิตใจ ครั้งนี้ที่มาเยือนวิหารสาบสูญ หนิงฝานได้ทหารศิลาคู่กาย และได้เป็นจ้าวหอคอยโอสถทั้ง 3
แม้การกระทำจะก่อปัญหาตามมา แต่ก็ทำให้เขาได้ประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน
หนิงฝานสนใจในตำรับโอสถผันแปรที่ 5 โดยเฉพาะโอสถแบ่งแยกและหลอมรวม ซึ่งจะช่วยเพิ่มปราณให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้เป็นอย่างมาก
แต่ที่วิชาหารสาบสูญไม่มีตำรับโอสถ
หนิงฝานต้องหามันด้วยตนเอง
ยิ่งวันคืนผันผ่าน ประโยชน์ที่ได้จากความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ก็ยิ่งน้อยลง หากหนิงฝานบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก ทุกสิ่งหลังจากนั้นหนิงฝานต้องพึ่งพาตนเอง…
ตั้งแต่เป่ยเซี่ยวเหมินเกิดมา นางได้รับทาสรับใช้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ ได้รับวิชาต่างๆมากมาย รวมกับได้รับโอสถเพื่อช่วยยกระดับพลัง แต่ถึงอย่างนั้น ยามนี้หนิงฝานกลับไม่กลัวนางอีกต่อไปแล้ว
ต่อให้ไม่ใช่ดรรชนีคลายหยิน หนิงฝานก็มั่นใจว่าจะไม่แพ้นาง
แม้นางจะมีปราณสังหารที่น่าสะพรึงกลัว แต่นางย่อมไม่เคยผ่านสงครามที่ถึงตายมาก่อน
หอคอยโอสถใต้…
ภายในหอคอยดูยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ข้าวของ
กระจัดกระจายราวกับเป่ยเซี่ยวเหมินเพิ่งบันดาลโทสะ
“นายหญิงน้อยใจเย็นๆก่อน”
“หรือจะให้ข้าฆ่าเจ้าแทน!”
เป่ยเซี่ยวเหมินกล่าวอย่างเย็นชา
แต่ถึงนางจะกล่าวเช่นนั้น ในใจของนางกลับสวนทาง
เป่ยเซี่ยวเหมือนกล่าว “ฮึ่ม! เจ้าจะไปไหนก็ไป! หากปราณสังหารของข้าเกิดคุ้มคลั่งขึ้นมา ข้าอาจพลั้งมือฆ่าเจ้า… เศษซากพวกนั้นจนป่านนี้ยังไม่มีใครเก็บกวาด เจ้าเร่งไปทำความสะอาดได้แล้ว”
หนิงฝานจ้องมอง ยามนี้เป่ยเซี่ยวเหมินดูเหมือนนายที่กำลังตำหนิบ่าว นางไม่ได้ใช้อารมณ์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เป่ยเซี่ยวเหมินเดินเข้าสู่หอคอย ในขณะที่เดินนั้น จู่ๆนางก็ชะงักฝีเท้า หนิงฝานและศพนางสวรรค์ที่เดินตามมาก็ชะงักฝีเท้าเช่นกัน โดยที่รักษาระยะห่างไว้ที่ 10 จ้าง
เพราะ 10 จ้างคือระยะที่ปลอดภัย
หากมีอันตรายใดๆเกิดขึ้น หนิงฝานจะตอบสนองได้ทัน
เมื่อเห็นหนิงฝานรักษาระยะห่าง เป่ยเซี่ยวเหมินประหลาดใจ นางคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะระวังตัวเช่นนี้
นางหันกลับมา เดินเข้าหาหนิงฝานอีกก้าว แต่หนิงฝานก็รีบพาศพนางสวรรค์ถอยห่างอีก 1 ก้าว เว้นระยะ 10 จ้างเหมือนเดิม
“ฮึ่ม! คาดไม่ถึงว่าคนที่ดูประมาทอย่างเจ้าจะระมัดระวังตัวขนาดนี้ เจ้ากลัวข้าจะกินเจ้าหรือไง?”
“แน่นอน… เจ้าเป็นคนแรกที่แอบดูข้าร่วมรัก ซ้ำยังพาข้าเข้ามาในที่ที่อบอวนไปด้วยกลิ่นกายที่หอมหวนของเจ้า หากข้าไม่รักษาระยะห่าง ข้ากลัวว่าจะอดใจไม่อยู่”
“ไร้สาระ!” นางกำหมัดแน่น นางเร่งถอยห่างจากหนิงฝาน
ในโลกของผู้เชี่ยวชาญนั้น หากตนมีพลังมากกว่า ก็จะรับมือศัตรูได้อย่างง่ายดาย แต่หากเป็นผู้ที่มีพลังใกล้เคียงกัน ฝ่ายใดประมาทกว่า ฝ่ายนั้นย่อมเสียเปรียบ
เมื่อครู่หนิงฝานสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แผ่ออกมาจากตัวนาง เป็นสิ่งที่อันตราย เขาจึงเว้นระยะห่าง
ที่นิ้วมือของนางนั้น มีแหวนเล็กๆอยู่วงหนึ่ง ซึ่งมันกำลังเปล่งแสงจางๆ
นางเป็นถึงผู้ครอบครองปราณสังหารที่ทรงพลัง มีพลังในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด หากจะลงมือกับหนิงฝานตรงๆคงเป็นเรื่องยาก
แต่ถึงอย่างนั้น นางก็ยังมีวิธี
นางมองหนิงฝานแล้วยิ้มพลางกล่าว “ซัวหมิง! ข้าว่าเจ้าคงอยากได้เพลิงคราม… แต่ข้าไม่ให้!”
“นายหญิงน้อยเป่ย… ไม่คิดสังหารข้าแล้วเหรอ?”
แววตาหนิงฝานเผยเจตนาสังหาร นางรู้สึกสั่นสะท้านพลางผงะถอยโดยไม่รู้สึกตัว สีหน้าแตกตื่น
ซัวหมิงผู้นี้ทรงพลัง… สมคำร่ำลือ
แต่เขารู้ได้ยังไงว่านางคิดจะจัดการเขา?
แล้วทำไมนางต้องสังหารเขา
เขาเป็นถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ท่านแม่บอกว่าต้องดีกับคนเช่นนี้ให้มาก ที่สำคัญ หนิงฝานยังครอบครองเส้นลมปราณโบราณ แม้จะไม่รู้ว่าเป็นชนิดใด แต่ด้วยความเร็วในการยกระดับพลัง และความแข็งแกร่ง ก็ทำให้เขาควรค่าที่จะได้เป็นตัวแทนของวิหารสาบสูญ
“เขาคู่ควรแก่ตำแหน่งตัวแทน… เหตุใดข้าต้องคิดสังหารเขา”
หรือคิดจะสังหารก็เพื่อยกระดับพลัง?
หรือเพราะหนิงฝานทำให้จิตใจของนางมัวหมอง
เหตุใดเมื่อทราบข่าวว่าหนิงฝานต้องสู้กับจ้าวหอคอยทั้ง 3 นางจึงต้องรีบออกมาดู
เหตุผลเพราะอะไรนั้นนางเองก็ไม่เข้าใจ นางรู้แค่ว่านางเกลียดหนิงฝานมาก
นางขบฟันแน่นด้วยความโกรธแค้น แต่ถึงนางจะไม่เข้าใจ แต่หนิงฝานเข้าใจ
นั่นคือนางชอบเขา…
แต่หากจะกล่าวว่าชอบก็ไม่ถูกเสียทีเดียว ต้องกล่าวว่าการสังหารของหนิงฝานถึงจะถูก
“น่าสนใจ…”
แววหนิงฝานแปรเปลี่ยน คืนสู่ความสงบ พลางจ้องมองนาง
เขามองสำรวจเรือนร่างของนางตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เจ้า… เจ้ามองอะไร! ตัวข้าไม่มีอะไรน่าสนใจสักหน่อย!”
“จริงเหมือนเจ้าว่า แต่แหวนที่อยู่นิ้วเจ้าสมควรเป็นสมบัติชั้นเลิศ มันน่าจะเป็น ‘แหวนหยวนเหยา’”
“เจ้ารู้ได้ยังไง!”
จิตใจนางเริ่มปั่นป่วนสับสน จนเผลอแสดงออกทางสีหน้า
เดิมทีนางคิดจะใช้แหวนวงนี้จัดการหนิงฝาน แต่ดูเหมือนหนิงฝานจะมองออก จนทำให้นางอับอาย
นางยกมือขึ้น แหวนเปล่งแสง ส่งพลังสายหนึ่งตรงเข้าหาหนิงฝานและศพนางสวรรค์
หนิงฝานแอบกระตุ้นสร้อยหยินหยาง เพื่อหวังใช้มันต้านสมบัติของนาง เมื่ออำนาจสองสายเข้าปะทะ พวกมันก็หักล้างกันไป
“เป็นไปได้ยังไง?”
นางโบกมือ ส่งพลังจากแหวนเข้าใส่หนิงฝานอีกครั้ง แต่ก็ยังทำอะไรหนิงฝานไม่ได้อยู่ดี
ผิดกับศพนางสวรรค์ที่ได้รับผลกระทบไม่น้อย หากไม่ได้หนิงฝานกุมมือไว้ นางคงตกที่นั่งลำบาก
ยามนี้ นางรู้สึกถึงภัยจากหนิงฝานมากขึ้น
“ข้ารู้ว่าเจ้าก็มีสมบัติคุ้มหายเหมือนกัน! คาดไม่ถึงว่ามนุษย์จะมีสมบัติระดับนี้ แต่ข้ายังมีอีกชิ้น!”
แต่ทันใดนั้นเอง ร่างของนางกลับไหวเอนราวกับจะล้ม แต่ก็กลับมายืนได้อย่างมั่นคง
ใบหน้าของนางซีดขาว กลิ่นโลหิตลอยคละคุ้ง
โลหิต!
หนิงฝานมองนางแปลกๆ
“ช่างน่าสนใจจริงๆ คาดไม่ถึงว่าเจ้าที่เป็นผู้ฝึกตนจะมี…”
“หุบปาก! ห้ามมอง! สารเลว ไร้ยางอาย! ตอนนี้…”
นางดูไร้เรี่ยวแรง โลหิตเปื้อนพื้น กระโปรงของนางเปรอะโลหิต
ถึงแหวนหยวนเหยาจะจัดการหนิงฝานไม่ได้ แต่หากนางใช้ปราณสังหาร สมควรจัดการหนิงฝานได้ง่าย
แต่คาดไม่ถึงว่ามันจะ… มาได้เวลาพอดี
แย่แล้ว! ยิ่งรอยยิ้มของมันยิ่งทำให้ข้าแย่! รอยยิ้มน่ารังเกียจนั่น ทำให้ข้าอยากจะสังหารมันให้สิ้นซาก!
“วิชาขั้นสูงสุดแห่งปราณสังหารสวรรค์… สังหารเจ็ดกระบวนท่า! แต่ก็ทำให้ข้าต้องขายหน้า!”
นางเร่งเอามือปิดกุมบริเวณพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของนาง พร้อมกันนั้น โลหิตที่หลั่งออกมาเปล่งแสง แล้วผสานกลับเข้าไปในร่างกาย นางเคลื่อนไหว เงาร่างแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงเข้าประชิด พร้อมเตะเข้าที่ใบหน้าหนิงฝาน
ร่างกายของในขอบเขตกระดูกเงินขั้น 3 เมื่อผสานกับวิชาของนาง ทำให้ร่างกายของนางแข็งแกร่งขนาดที่ทำลายสมบัติขั้นสูงสุดระดับสูงสุดได้
ยามนี้ร่างกายของนางแผ่แรงกดดันที่รุนแรง แต่ด้วยในหอคอยมีข่ายอาคม แรงกดดันจึงไม่เล็กลอดออกไปภายนอก เหตุที่นางเลือกลงมือที่นี่ ก็เพราะกลัวว่าลู่ชิงจะขัดขวาง
แม้ลูกเตะของนางจะทรงพลังจนน่าสะพรึงกลัว แต่หนิงฝานยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง มือข้างที่เปล่งแสงสีเงินเหยียดยื่น รับลูกเตะของนางอย่างผ่อนคลาย
นางตกตะลึงใหญ่หลวง เพราะร่างกายของหนิงฝานแข็งแกร่ง กึ่งขอบเขตกระดูกหยก
นอกจากนี้ หนิงฝานยังควบคุมพลังได้เป็นอย่างดี เพราะหากเขาออกแรงเกินไป เท้าของนางจะหักเอาได้
“เป็นไปได้ยังไง… ทำไมมนุษย์เช่นเจ้าถึงได้มีร่างกายที่ทรงพลังกว่าข้า! ทั้งยังมีหน้ามาออมมือให้ บัดซบ สารเลว ย้าห์~”
ปราณสังหารสวรรค์ของนางสูญเสียการควบคุม
ซัวหมิงผู้นี้แข็งแกร่ง ไม่ตว่าต้องทำยังไง ก็ต้องสังหารมันให้ได้
นางไม่ได้โกรธแค้นที่หนิงฝานรับการจู่โจมนางได้ แต่ที่นางโกรธเป็นเพราะหนิงฝานออมมือให้
ยิ่งได้เห็นใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มของหนิงฝาน ในฐานะที่นางเป็นนายหญิงน้อยของขุมกำลังใหญ่ในแดนสวรรค์ นางก็ยิ่งไม่พอใจ
นางขบฟันแน่น ระดมลูกเตะใส่หนิงฝานอย่างหนักหน่วง แต่ในชั่วลมหายใจนั้น หนิงฝานเปลี่ยนจากฝ่ามือต้านรับ คว้าจับเข้าไปที่เท้าของนาง แล้วรวบตัวนางมากอดไว้
นายหญิงน้อยแห่งแดนสวรรค์ ผู้ที่ไม่ว่าผู้ดใดก็หวาดกลัว กลับถูกหนิงฝานกอด
แม้นางพยายามดิ้น แต่กลับไร้เรี่ยวแรง ยิ่งดิ้น หนิงฝานยิ่งกอดนางแน่นขึ้น… หากเขาไม่คว้าตัวนางไว้ เมื่อครู่นางอาจปลิวจากแรงสะท้อนของฝ่ามือที่ต้านรับลูกเตะ
แต่บางที ปล่อยให้นางปลิวไปยังจะดีเสียกว่า
“จะ… เจ้าจะทำอะไรข้า!”
เลือดลมของนางปั่นป่วนอย่างที่สุด
แม้นางจะมีรูปลักษณืเหมือนเด็กสาว แต่นางก็ผ่านชีวิตมาพอสมควร
“ที่แท้เจ้าคิดจะล่วงเกินข้า… ในที่สุดฝันร้ายของข้าก็เป็นจริง…”
นางเค้นพลังเฮือกสุดท้าย อ้าปากงับเข้าที่ไหล่หนิงฝาน แต่ด้วยนางไม่ค่อยมีแรง จึงไม่เป็นอันตรายอะไร
“คิดว่าข้าจะดูดซับพลังเจ้าเหรอ? เป่ยเซี่ยวเหมิน เจ้าอย่าสำคัญตัวผิด… ถึงเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด แต่หากข้าดูดซับ อย่างมากก็ได้ปราณแค่ 30 เกราะ ที่ข้ามาที่นี่ ก็เพราะจะเติมเต็มคำสัญญากับคนผู้หนึ่ง แต่คาดไม่ถึงว่า… สตรีที่ฝึกตนส่วนใหญ่จะหมดประจำเดือนเมื่อบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ แต่เจ้ากลับยังเป็นประจำเดือน… แต่จะว่าไป ข้าก็อยากเห็นประจำเดือนของสตรีเหมือนกัน”
หนิงฝานยิ้ม
เดิมทีหนิงฝานก็คิดจะดูดซับพลังของนาง แต่ในเมื่อนางเป็นประจำเดือน เขาก็ต้องล้มเลิกความคิดไป
ประจำเดือนถือเป็นเรื่องทั่วไปของมนุษย์ แต่ในผู้ฝึกตนกลับหาได้ยากมาก
สตรีที่ฝึกตนทั่วไปจะไม่มีประจำเดือน แต่การที่นางมีประจเดือนเป็นเพราะเส้นลมปราณของนาง ยิ่งเมื่อนางบรรลุขอบเขตใหญ่ ประจำเดือนของนางก็จะยิ่งมาเยอะ
แม้หนิงฝานจะชนะนาง แม้นางจะเป็นกระถางขัดเกลาชั้นเลิศ แต่เขากลับหมดอารมณ์
หากหนิงฝานดูดซับพลังของนาง คงยากจะปกปิดเรื่องนี้ แดนสวรรค์คงโกรธแค้น และส่งเซียนมาเพื่อสังหารเขา
“ปล่อยข้า…” หนิงฝานกอดนางแนบแผ่นอก ร่างกายของนางที่สัมผัสกับเขา ทำให้นางอับอาย ที่สำคัญ โลหิตของนางยังคงไหลไม่หยุด
แม้หนิงฝานจะไม่ค่อยพอใจนาง แต่เขาก็อยากช่วยให้โลหิตของนางหยุดไหล
การทำให้ประจำเดือนของนางหยุดไหลนั้นไม่ยาก ต้องใช้บางสิ่งสัมผัสบริเวณท้องน้อยของนาง
“เหว่ยเหลียง เจ้าออกไปรอข้างนอก อย่าให้ใครเข้ามาเด็ดขาด”
“อืม…” ศพนางสวรรค์เดินไปหน้าประตูและเฝ้าไว้
หนิงฝานอุ้มเป่ยเซี่ยวเหมินไปยังที่นอน แล้วโยนลงไป
อย่างน้อยๆนางก็ดีใจที่หนิงฝานไม่ได้ดูดซับพลัง
เพียงแต่สิ่งที่นางอาย คือหนิงฝานล้วงมือเข้ามาใต้กระโปรง แล้วพยายามจะปลดกระโปรงนางออก แต่ดูเหมือนวิธีการจะยุ่งยากเกินไป หนิงฝานจึงกระชากอาภรณ์ของนางจนขาด
เรือนร่างเปลือยเปล่าเผยสู่สายตาหนิงฝาน
แววตานางแปรเปลี่ยนหวาดกลัว นางพยายามเอามือปิดหน้าอกของตนไว้ แต่ก็ทำไม่ได้
ถึงอย่างนั้น หนิงฝานก็ไม่ได้มองสำรวจเรือนร่างนาง เขาเอื้อมมือคว้าขาของนางไว้
“เจ้า… สารเลว… ห้ามมองนะ… หากเจ้ากล้าดูดซับพลังข้า ข้าจะ…”
“ข้าบอกแล้วว่าไม่ได้คิดจะดูดซับพลังเจ้า แต่ข้าจะช่วยทำให้โลหิตหยุดไหล… ถ้าปล่อยให้มันไหลไปเรื่อยๆแบบนี้ เจ้าได้ตายแน่”
สีหน้าหนิงฝานเรียบเฉย เขาไม่ได้สนใจเรือนร่างของนางแม้แต่น้อย
“ซัวหมิง เจ้าคนชั่ว!”
“ก็บอกแล้วไงว่าจะช่วยทำให้โลหิตหยุดไหล”
หนิงฝานสัมผัสบริเวณท้องน้อยของนาง โคจรปราณ จากนั้นจึงเลือนลงมายังส่วนลับ
เมื่อพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ถูกสัมผัส นางก็ร้องไห้ทันที
“อย่าจับ…!”
“อยู่นิ่งๆ ถ้าเจ้ายังขัดขืน ข้าจะชิงเพลิงครามและป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไป”
“เจ้ากล้าเหรอ!”
“ไม่ว่าใครก็ถามแบบนี้… เป่ยเซี่ยวเหมิน ที่ข้ายอมช่วยเจ้าก็นับว่าดีแล้ว”
หนิงฝานไม่สนใจนาง และเริ่มงานของตน
“ถ้าเจ้ายอมเชื่อฟังข้า วันหนึ่งทหารศิลาจะกลับมาหาเจ้า” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย
“อะไรนะ! ท่านปู่ทหารศิลาอยู่กับเจ้า! เป็นไปได้ยังไง?”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้… แต่หากยอมเป็นกระถางขัดเกลาของข้า แล้วข้าจะบอก”
“ไม่…” นางกล่าวคำได้อย่างยากลำบาก
มือหนิงฝานที่สัมผัส ทำให้ลมหายใจของนางเริ่มถี่กระชั้น
เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้…