Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง - ตอนที่ 211
สุดท้ายหนิงฝานก็เลือกที่จะรับคำขอของเสี่ยวว่านหลู และได้รับหยกสวรรค์เกือบล้านมาด้วย
ด้วยสถานที่แห่งนี้คือทะเลไร้สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นนิกายย่อมมีทรัพยากรจำกัด
แต่หากนำเสี่ยวว่านหลูไปอยู่ในแคว้นจิน มันสมควรแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาแคว้นจิน
ผ่านไปอีกหลายวัน หนึ่งผู้เยาว์หนึ่งสตรี มาถึงเมืองเต่าทมิฬ
ยามนี้ เหล่าผู้คนในเมืองเป็นเหมือนมดปลวกสำหรับหนิงฝาน เพราะที่มาในครั้งนี้ เป็นการมาที่ต่างจุดประสงค์ จึงได้ความรู้สึกที่แตกต่าง
ระหว่างทางในเมือง ศพนางสวรรค์หันมองซ้ายขวา รอบๆนั้นมีแผงลอยที่ผู้เชี่ยวไร้สังกัดมาตั้งขาย สินค้ามีทั้งสมบัติและเครื่องประดับมากมาย หากเหมาซื้อมันทั้งหมด ไม่รู้ต้องเสียหยกสวรรค์ไปมากเท่าไหร่
แต่หนิงฝานไม่อาจทำอะไรได้ เขาต้องซื้อให้นางอยู่ดี
หากนางยื่นมือจะเอา หนิงฝานต้องซื้อให้
“แสง… อาภรณ์ตัวนั้น…” นางบุ้ยปากเล็กน้อย
หนิงฝานประสบสถานการณ์ยากลำบาก ยามนี้เขาเหมือนแม่ที่พาลูกสาวมาซื้อของ
“พอแล้วนะ!”
หนิงฝานลูบหัวนางเบาๆ ของใช้เหล่านี้เป็นของฟุ่มเฟือย
เมื่อครั้งอดีต หนิงฝานที่ยังไม่บรรลุแก่นทองคำ เดินทางมาเมืองแห่งนี้ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส จึงไม่ได้เดินชมภายในเมือง
แต่ยามนี้หนิงฝานเดินเที่ยวชมอย่างผ่อนคลาย ภาพบรรยากาศในเมืองยามนี้ สมกับที่สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสามเกาะใหญ่ของทะเลส่วนนอก…
หอคอยโอสถทางใต้…คนสองคนเดินตรงไปช้าๆ
เมื่อย่าหลาน…สตรีที่ทำหน้าที่ต้อนรับเห็นหนิงฝานมา สีหน้าของนางเผยความสุขทันที
“ย่าหลานคารวะท่านซัว ไม่ทราบว่าท่านซัวมีธุระอะไร?”
ก่อนหน้านี้ที่หนิงฝานมา นางได้เห็นด้วยตาว่าหนิงฝานถูกนำไปยังตำหนักของจ้าวหอคอยเพื่อทดสอบระดับการปรุงโอสถ แม้ผู้อาวุโสโม่จะไม่ได้บอกผลการทดสอบ แต่ย่าหลานรู้ว่าหนิงฝานต้องผ่านการทดสอบ
เพียงแต่นางไม่รู้ว่าที่หนิงฝานทดสอบคือนักปรุงโอสถระดับ 5!
นางได้ยินชื่อของปีศาจซัว ได้ยินเรื่องราวต่างๆ นางจึงเชื่อว่าซัวหมิงผู้เป็นนักปรุงโอสถและปีศาจซัวผู้นั้นคือคนเดียวกัน
แต่ไม่ว่าจะชื่นชมหรือสิ่งใด หนิงฝานไม่ต้องการ เพราะเขามีสาวงามและโดดเด่นข้างกายแล้ว
“รบกวนแม่นางย่าหลานไปบอกผู้อาวุโสโม่ว่าข้าต้องการพบ”
“ผู้อาวุโสโม่บอกว่า หากท่านซัวหมิงมาไม่ต้องแจ้ง ให้พาไปพบได้เลย…”
ยามนี้ผู้อาวุโสโม่กำลังทดสอบการปรุงโอสถของผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ 4 คน
ในจำนวน 4 คนนั้น มี 2 คนที่บรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ขั้นสูงสุด และยามนี้กำลังพยายามทะลวงไปยังนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3
ระหว่างการทดสอบ ทั้งหมดปรุงโอสถอย่างตั้งใจ
ในจำนวน 3 ใน 4 คนนั้น ดูท่าว่าจะปรุงโอสถล้มเหลว มี 1 คนที่ปรุงโอสถได้สำเร็จ แต่คุณภาพของโอสถน่าผิดหวังเกินไป
“พวกเจ้าไม่ผ่าน!”
ชายชราพับแพนเสื้อ โบกมือดับเพลิงที่คนทั้ง 4 ใช้ปรุงโอสถ
10 ปีผ่านไปนับจากวันนั้น ชายชราบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ขั้นสูงสุด อีกเพียงก้าวเดียวจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4
ชายชราเสียเวลากับ 4 คนนี้มาก สู้เอาเวลาไปยกระดับการปรุงโอสถยังดีเสียกว่า
แม้ชายชราจะหยาบคายโดยการดับเพลิงที่ใช้ปรุงโอสถไป แต่นักปรุงโอสถทั้ง 4 คนนั้นไม่กล้าเอ่ยคำ พวกมันเพียงป้องมือคารวะแล้วจากไป ในขณะที่เดินกลับ พวกมันล้วนมีสีหน้ามัวหมอง แต่เมื่อเห็นย่าหลานนำหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีตรงไปยังผู้อาวุโสโม่ พวกมันตกตะลึง
สีหน้าของย่าหลานเปี่ยมด้วยความเคารพนับถือ แตกต่างจากปกติวิสัยของนางโดยสิ้นเชิง
ทั้ง 4 คนนั้นเป็นพี่น้องกัน หนึ่งในนั้นมีผู้ที่เติบโตมาพร้อมกับย่าหลาน นามยู่เว่ย อายุกระดูก 100 ปี เป็นนักปรุงโอสถ และเป็นบุตรชายของผู้อาวุโสแห่งหอคอยโอสถเหนือ มันชอบพอย่าหลานมาก แต่นางไม่ชายตามองมันแม้แต่น้อย แต่วันนี้ แววตาของนางกลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อมันเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เยาว์ มันจ้องมองด้วยสายตาอาฆาต
แม้ว่ามันไม่ทราบว่าหนิงฝานเป็นใคร แต่มันก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับหนิงฝานแล้ว
แต่ต่อให้มันรู้ ด้วยที่ย่าหลานมีใจให้หนิงฝาน ยังไงมันก็โกรธแค้นอยู่ดี
แต่เมื่อมันเหลือไปเห็นสตรีที่เดินตามหลังหนิงฝาน แววตาที่เคียดแค้นแปรเปลี่ยนตกตะลึง
ในโลกของผู้ฝึกตน สตรีส่วนใหญ่จะงดงามราวกับเทพธิดา แต่สตรีที่งดงามเช่นนั้น กลับหาได้ยากอย่างที่สุด
เอวคอดกิ่ว เรือนร่างงดงามเย้ายวน ยิ่งใบหน้าซีดขาว ริมฝีปากไร้เลือดฝาด ยิ่งทำให้ผู้ที่เห็นสงสาร… อาภรณ์ที่นางสวนใส่ขับส่งให้นางดูบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์
ตัณหาปรากฏในแววตาของมัน!
ความสนใจของมันยามนี้พุ่งเป้าไปที่ศพนางสวรรค์
ยามนี้ หนิงฝานและศพนางสวรรค์ไม่ได้แผ่นกลิ่นอายใดๆ จึงทำให้ดูเหมือนคนทั่วไปเท่านั้น
การที่ย่าหลานเคารพโดยที่ไร้ซึ่งพลัง แสดงว่าคนผู้นั้นมีที่มาไม่ธรรมดา
แต่มีที่มาแล้วอย่างไร? ในทะเลส่วนนอกแห่งนี้ มีใครบ้างที่สนใจเรื่องนั้น หากไม่แข็งแกร่งจริงก็ตาย!
เป็นเพียงผู้เยาว์เปิดเส้นชีพจร แต่กลับมีสาวงามระดับนั้นเป็นผู้ติดตาม ดังนั้นมันจึงเกิดความคิดจะสังหารหนิงฝาน เพื่อช่วงชิงผู้ติดตาม
ต้องช่วงชิงมาให้ได้… ก้นของนางโค้งมนได้รูปน่าสัมผัส ฮ่าฮ่า…
เมื่อศพนางสวรรค์เดินมาใกล้ ยู่เว่ยคืนสีหน้าปกติ แต่เมื่อนางเดินผ่านไป มันจึงยกมือตีเข้าที่ก้นของนาง
มันเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ การสัมผัสเรือนร่างของสตรีในขอบเขตเปิดเส้นชีพจร ย่อมหลบหนีได้ทันโดยที่นางไม่รู้ตัว
มันเคยกระทำกริยาเช่นนี้มาหลายครั้ง
แต่มือของมันยังไม่ทันได้สัมผัสกายศพนางสวรรค์ มือของผู้เยาว์คนหนึ่งกลับจับแขนของมันไว้
ยู่เว่ยไม่อาจขยับ แขนข้างที่ถูกจับถูกบดกระดูกจนแตก!
ความเจ็บปวดที่ยากจะทนทานแล่นไปทั่วร่าง มันเงยหน้ามองเจ้าของมือ ก่อนพบกับแววตาที่เย็นชา
แววตาเช่นนั้นทำให้มันเสียวสันหลัง!
มันรู้สึกราวกับชีวิตกำลังจะจบสิ้นด้วยสายตาคู่นั้น!
นี่มันจิตสังหารระดับใด!
แค่จ้องมอง มันรู้สึกราวกับเส้นลมปราณของมันกำลังจะฉีกเป็นชิ้นๆ
กลับกลายเป็นว่าผู้เยาว์เบื้องหน้ามันคือผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ… หรือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ!
แต่คำกล่าวของมันกลับไร้ความหมาย บรรยากาศรอบข้างสั่นสะเทือน ร่างของยู่เว่ยระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต
วิธีสังหารเช่นนี้ อีก 3 คนที่เหลือไม่เคยเห็นมาก่อน แต่พวกมันตระหนักได้ทันทีว่า ผู้เยาว์เบื้องหน้าต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ เพราะมีเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำเท่านั้นที่สังหารผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณได้อย่างง่ายดาย
“เจ้ากล้าสังหารพี่ยู่เว่ย ตอ่ให้เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ข้าก็ขอสู้ตาย! ท่านยู่หลงแห่งหอคอยโอสถที่ 3 ไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้แน่!”
“อืม… ข้าชื่อซัวหมิง เจ้าไปบอกมันมาหาข้า!”
“ได้! ข้าจะไปบอกว่าเจ้าชื่อซัวหมิง!”
พวกมันทั้งสามคนเร่งจากไป เพื่อแจ้งเรื่องต่อยู่หลง
ย่าหลานยืนมือปิดปากด้วยความตกตะลึง
นางคิดว่าหนิงฝานมีความสามารถสูงส่ง ไม่น่าจะเป็นคนเลือดเย็นแบบนี้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ เขาจะเป็นคนโหดเหี้ยมเหมือนข่าวลือ
ซัวหมิงผู้นี้คือซัวหมิงคนเดียวกันที่ทำให้ทะเลส่วนนอกปั่นป่วน…ปีศาจซัวหมิง
ไม่! ซัวหมิงผู้นั้นสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดได้
แต่ซัวหมิงตรงหน้า แม้จะแข็งแกร่ง แต่มีอายุกระดูกเพียงแค่ 340 ปี เหตุใดจะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้
ย่าหลานเริ่มเป็นกังวล
“ท่านซัว ท่านนำปัญหามาสู่ตนแล้ว… ท่านไม่ควรสังหารยู่เว่ย แม่ว่าข้าจะไม่ชอบมันก็เถอะ…”
“ไม่สมควรสังหาร? มันคิดสัมผัสสตรีของข้า แบบนั้นยังไม่สมควรอีกเหรอ?” หนิงฝานยิ้มให้ย่าหลานเล็กน้อย แม้เขาจะไม่ได้แผ่เจตนาสังหารของมัน แต่รอยยิ้มของเขากลับทำให้นางสั่นสะท้าน ราวกับมีปีศาจร้ายซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มนั้น
“ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น… ท่านยู่หลงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง ที่ท่านสังหารบุตรชายของมันไป เรื่องคงไม่จบง่ายๆ ข้าว่าท่านรีบไปจากที่นี่เถอะ…”
“ไม่จำเป็น วันนี้ข้าตั้งใจมาหาผู้อาวุโสโม่ เพราะจะรับคำเทียบเชิญเป็นนักปรุงโอสถกิตติมศักดิ์ของวิหารสาบสูญ… ต่อให้เป็นยู่หลง มันก็ไม่กล้ามาก่อเรื่องกับข้าหรอก!”
ไม่กล้าก่อเรื่องกับข้า!
แม้จะเป็นคำกล่าวที่อวดดี
แต่คำกล่าวของหนิงฝานกลับทำให้ย่าหลานเชื่ออย่างบอกไม่ถูก
หนิงฝานลงมือสังหารเพื่อผู้ติดตาม ทั้งผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มยังไม่กล้าหาเรื่อง
หรือซัวหมิงผู้นี้จะเป็นซัวหมิงในข่าวลือจริงๆ!
“เอาหล่ะย่าหลาน…. พาข้าไปพบผู้อาวุโสมู่ได้แล้ว!”
ภายในหอคอยโอสถเหนือ… ยู่หลงกำลังปรุงโอสถผันแปรที่ 4
ยามนี้มันเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ขั้นสูงสุดแล้ว เหลืออีกเพียงก้าวเดียวจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4
หากมันปรุงโอสถผันแปรที่ 4 นี้สำเร็จ ก็จะนับว่าความสามารถมันถึงระดับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4
“อีกเพียงนิดเดียว… ฮ่าฮ่า หากปรุงโอสถรวมเพลิงได้สำเร็จ ข้าก็จะบรรลุสิ่งที่หวัง!”
มันเผยสีหน้าตื่นเต้น ทักษะปรุงโอสถของมันกำลังก้าวหน้าอย่างช้าๆ
แต่ในชั่วพริบตานั้นเอง คน 3 คนกลับผลักประตูห้องเข้ามาอย่างเร่งร้อน
“ท่านผู้นำตระกูล! เกิดเรื่องร้ายแล้ว!”
ในช่วงคับขันสำคัญของการปรุงโอสถ ยู่หลงเสียสมาธิ ทำให้ปรุงโอสถล้มเหลว!
โอสถผันแปรที่ 4… นักปรุงโอสถผันแปรที่ 4… เหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!
ยู่หลงบันดาลโทสะ โคจรปราณไว้ที่ฝ่ามือแล้วตบเข้าที่คนทั้ง 3 ที่เข้ามา ร่างของพวกมันปลิวกระแทกเข้ากับผนังห้อง กระอักโลหิตอย่างรุนแรง และตายคาที่ 2 คน!
ยู่หลงไม่ใช่ผู้ที่จะยอมใคร!
กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้ มันต้องผ่านสมรภูมิและการสังหารมาแล้วมากมาย!
ต่อให้เป็นคนในตระกูลมันก็สังหารได้
โอกาสที่ 10 ปีจะมีครั้ง สุดท้ายกลับล้มเหลว ต่อให้เป็นคนในตระกูลก็สังหารได้ เหตุผลที่มันจงใจให้เหลือรอด 1 คน เพราะต้องการทราบข่าวเรื่องสำคัญ
“บอกเรื่องร้ายมา ข้าให้เวลา 3 ลมหายใจ! แต่ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระ ตาย!”
ที่มันมาเพราะจะรายงานเรื่องที่บุตรชายของมันถูกสังหาร ในเมื่ออีกฝ่ายให้เวลา 3 ลมหายใจ มันจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด
“ยู่เว่ยตาย… ตายที่หอคอยโอสถใต้…” มันกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“อะไรนะ! พวกเจ้าไปทดสอบการปรุงโอสถที่นั่นไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงตายได้? ใครเป็นคนทำ! มันผุ้นั้นต้องไม่รู้จักข้า หากเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำย่อมไม่กล้าลงมือ! มันเป็นใคร!”
“ซัว…” ด้วยแรงกดดันของยู่หลง ทำให้มันหายใจได้ยาก
“ซัว? ซัวอะไร? ดี…ในเมื่อพูดไม่ได้ก็ตายซะ! ข้าจะไปหาตัวมันที่หอคอยใต้เอง!”
ยู่หลงโกรธแค้น การที่อีกฝ่ายสังหารเพียงบุตรชายของมัน แต่คนอื่นๆกลับหนีมาได้ แสดงว่าอีกฝ่ายไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก อาจเป็นเพียงผู้เชี่ยวแก่นทองคำขั้นต้น ไม่งั้นคงไม่ปล่อยให้ 3 คนนั้นหนีมา
มันแผดเสียงคำรามด้วยความโกรธ ทะยานออกจากหอคอยเหนือ มุ่งไปยังหอคอยใต้!
“เจ้าแซ่ซัว! เจ้าฆ่าบุตรชายข้า ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่!”
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำและดวงจิตแรกเริ่มมากมายภายในเมืองแหงนหน้ามอง
“นั่นปีศาจเฒ่ายู่หลง! บุตรชายของมันถูกสังหาร? คงมีอะไรสนุกๆให้ดูแล้ว…”
ยู่หลงที่ทะยานด้วยความเร็วสูงตกเป็นที่สนใจของผู้คนมากมาย
ยามนี้มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นโลหิตของบุตรชาย จากผู้ที่ลงมือสังหาร ซึ่งยามนี้ อยู่ในหอคอยใต้!
“เจ้าคนแซ่ซัว ข้าให้เวลาเจ้า 3 ลมหายใจ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
ทันทีที่สิ้นเสียง สีหน้าโกรธแค้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ยามนี้มันจะเสียใจก็สายไปแล้ว!…