Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง - ตอนที่ 206
ราตรีผันผ่าน สตรีทั้งสองนางหลับไหลด้วยใบหน้าที่เผยรอยยิ้มแห่งความสุข
พวกนางร่วมรักกับหนิงฝานโดยสมัครใจ การร่วมรักจึงเต็มไปด้วยความสุข
หนิงฝานสวมอาภรณ์นั่งอยู่บนเบารองข้างเตียง
พวกนางถูกหนิงฝานดูดซับพลังจนทำให้เหลือเพียงขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น เดิมทีหนิงฝานมีปราณ 93 เกราะ หลังจากได้พลังพวกนาง เพิ่มเป็น 135 เกราะ!
หนิงฝานนำผลไม้แห่งเต๋าแก่นทองคำออกมา 27 ลูก…. หากนำพวกมันไปขายสมควรได้ราคาดี แต่อย่างน้อยๆ พวกมันก็ช่วยเพิ่มปราณได้เกือบ 1 เกราะต่อผล
หากกินพวกมันไปทั้งหมด สมควรยกระดับปราณได้ถึง 20 เกราะ! ซึ่งเป็นระดับที่สามารถบรรลุดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางได้
ในหมู่สมบัติที่ได้มาจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่สังหาร ในนั้นมีโอสถผันแปรที่ 4 ‘โอสถก่อแรกเริ่ม’ หนิงฝานตาลุกวาว
เพราะโอสถชนิดนี้เพิ่มโอกาสในการทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง
หนิงฝานหลับตา โคจรปราณเพื่อดูดซับพลังจากผลไม้แห่งเต๋า และโอสถ เพื่อเตรียมทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง
หากหนิงฝานทะลวงขอบเขตได้สำเร็จ การได้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางด้วยอายุเพียง 340 ปี แม้เป็นผู้สืบทอดของเทพโบราณยังอับอาย
ภายในตันเถียนหนิงฝาน ดวงจิตแรกเริ่มกำลังอ้าปากดูดกลืนเอาปราณเข้าไปในตันเถียน ทำให้ดวงจิตแรกเริ่มที่ได้รับการหล่อเลี้ยงค่อยๆขยายขนาดขึ้น
ส่วนของศีรษะเริ่มปรากฏ แต่ยังไร้หน้าตา มือเท้าปรากฏ แต่ยังไม่อาจเยียดยืด… ยามนี้มันกำลังดูดซับปราณเข้าสู่ร่างอย่างต่อเนื่อง
กล่าวอีกนัย การยกระดับสู่ดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง คือการหล่อเลี้ยงให้ดวงจิตแรกเริ่มเติบโต
การบรรลุดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง คือการหล่อเลี้ยงให้ดวงจิตกลายเป็นรูปร่างเหมือนเด็กทารก เมื่อบรรลุสู่ดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง ดวงจิตแรกเริ่มจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เมื่อบรรลุดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด ดวงจิตแรกเริ่มจะเติบโตโดยสมบูรณ์ และเมื่อใดที่ดวงจิตแรกเริ่มยกระดับเป็นเทพ ก็จะบรรลุสู่ขอบเขตตัดวิญญาณ
หลังจากนั้นไม่กี่วันสตรีทั้งสองนางตื่น พวกนางไม่กล้ารบกวนหนิงฝาน เร่งสวมอาภรณ์แล้วไปเข้าร่วมกลุ่มของชุ่ยหลิงทันที
ผ่านไป 1 เดือน ดวงจิตแรกเริ่มของหนิงฝานเติบโตเป็นทารก ระดับพลังแตะขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง สีหน้าหนิงฝานในยามนี้ดูกระจ่างใส ผมยาวขึ้น ใบหน้ายังดูอ่อนเยาว์ราวกับเด็ก แถบไม่ต่างจากหนิงฝานคนเดิม
ทันใดนั้น หนิงฝานก็ลืมตา!
“ทะลวง!”
ปราณรอบทิศไหลทะลักเข้าสู่ร่างหนิงฝาน แรงกดดันเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว
หลังจากกินผลไม้แห่งเต๋าแก่นทองคำและดวงจิตแรกเริ่ม ปราณของหนิงฝานเพิ่มพูนถึง 182 เกราะ เมื่อรวมกับปราณจำนวนมหาศาลที่ดูดซับเข้ามา ระดับพลังก็เพิ่มเป็น 190 เกราะ
เมื่อแรงกดดันบรรลุถึงจุดสูงสุด ตำหนักที่หนิงฝานอยู่ก็พังทะลายจากแรงกดดัน
เมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์สีแดงฉานปรากฏเหนือท้องนภา!
เมื่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญเห็น จึงรู้ว่ามีคนกำลังจะทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง
เหล่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจำนวนมากแผ่สัมผัสเทพไปตามแหล่งที่มา พบว่าเมฆนั้นอยู่ทางทะเลทรายตอนใต้ของเกาเผิงไหล ซึ่งสถานที่แห่งนั้น เป็นสถานที่ที่ปีศาจร้ายอย่างซัวหมิงเก็บตัวฝึกฝนอยู่ แม้มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ไม่รู้ แต่ไม่มีผู้ดใดกล้าไปสำรวจ
เขตทะเลทรายตอนใต้ของเกาะเผิงไหล ยามนี้ถูกขนานนามว่าเป็น ‘เดินแดนปีศาจ’ ไม่มีใครกล้าย่างกราย
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา นามซัวหมิงดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งทะเลส่วนนอก ผู้เชี่ยวชาญแห่งขุมกำลังใหญ่ทั้ง 10 ล่วงรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้จะมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนอยากไปสำรวจ แต่เมื่อรู้ว่าซัวหมิงยังเก็บตัวอยู่ที่นั่น จึงไม่มีใครกล้าไป…
การปรากฏขึ้นของเมฆทัณฑ์สวรรค์ทำให้ผู้เชี่ยวชาญในนิกายกระถางปรุงโอสถตกตะลึง… ก่อนจะบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ ผู้เชี่ยวชาญต้องเผชิญกับ ทัณฑ์สวรรค์อัสนี ทัณฑ์สวรรค์เพลิง และทัณฑ์สวรรค์วายุ เพียงแต่ ไม่เคยมีทัณฑ์สวรรค์ของผู้ใดเป็นสีแดงเช่นนี้
สีแดงหมายถึงความโกรธแค้นของสวรรค์ หมายถึงผู้ที่แหกกฏสวรรค์ เมฆาจึงกลายเป็นสีแดงฉานเหมือนโลหิต
เบื้องล่างเมฆสีแดงฉาน ผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวดำเหยียบย่างนภา ในมือถือแส้อัสนีโลหิตเฆี่ยนฟาดเข้าใส่เมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์
จนสุดท้าย เมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์ไม่อาจก่อตัวสำเร็จ เพราะถูกแส้ของหนิงฝานฉีกทำลาย
“ทัณฑ์สวรรค์แล้วยังไง… ข้ามีดาราอัสนี จ้าวแห่งอัสนี อย่าได้หยิ่งผยองต่อหน้าข้า!”
แส้เฆี่ยนฟาดอีกหลายสิบครั้ง ก่อนจะเมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์จะหายไป
ผู้เชี่ยวชาญของนิกายกระถางขัดเกลาหวาดกลัว คนเช่นใดถึงกล้าท้าทายสวรรค์! คนเช่นนี้นับเป็นปีศาจที่แท้จริง!
เหล่าสตรีของหนิงฝานจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความดีใจ
เพราะผู้ที่ฉีกกระชากเมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์คือนายของพวกนาง!
เมื่อยามอยู่ดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น ผุ้เป็นนายสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดได้ ยามนี้บรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง ย่อมทรงพลังกว่าก่อนมาก
แม้เป็นเมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์ที่เพิ่งปรากฏ ก็ถูกทำลายไปต่อหน้า
หนิงฝานกลับเข้าถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อเก็บตัว หลังจากนั้น 10 วันก็ออกมา
หนิงฝานกิน ‘โอสถเสริมดวงจิต’ ที่ช่วยให้ระดับพลังของตนเสถียร
ยามนี้ ตำหนักที่พังด้วยแรงกดดันของหนิงฝานได้รับการสร้างใหม่
นอกจากปราณที่บรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางแล้ว สัมผัสเทพยังบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด!
หากใช้ย่างก้าวพริบตา แม้ความเร็วจะรวดเร็วกว่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด แต่ยังช้ากว่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
สัมผัสกระบี่ของหนิงฝานก็ยกระดับแต่ไม่ได้มากนัก เพราะการยกระดับสัมผัสกระบี่ของหนิงฝาน จำเป็นต้องใช้ปราณกระบี่สังหารเทพที่ทรงพลัง
แส้อัสนีโลหิต หลังจากทำลายและดูดซับอำนาจจากเมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์ มันก็ยกระดับเป็นสมบัติขั้นสูงสุดระดับสูงสุด
หากให้หนิงฝานต่อสู้กับเซี่ยงเหลียวอีกครั้ง นอกจากจะสังหารมันได้ ยังสามารถจับมันมาเป็นๆได้ เพราะย่างก้าวพริบตาของเขายามนี้ รวดเร็วจนกลายเป็นฝันร้ายของเซี่ยงเหลียว
“ยินดีด้วยนายท่าน ขอให้ท่านแข็งแกร่งเหนือผู้ใด เป็นผู้ครอบครองเกาะเผิงไหล!”
เหล่ากระถางขัดเกลาทั้งหมดกล่าวอย่างพร้อมเพรียงด้วยน้ำเสียงเคารพ
แม้ยามนี้จะมีกระถางขัดเกลาเพียงพันคน แต่ในอนาคตอาจมีเป็นหมื่น เป็นแสน กระทั่งอาจเป็นล้าน
“อืม… พวกเจ้าฝึกฝนต่อเถอะ อีก 10 วันให้หลังเราจะไปจากที่นี่!”
“นายท่าน… ประมุขนิกายกระถางปรุงโอสถ…เสี่ยวว่านหลู มาขอพบท่าน” ชุ่ยหลิงกล่าว
“ให้เข้ามา!”
หนิงฝานไม่ได้สนใจเสี่ยวว่านหลู แต่เขาพอจะเดาได้ว่า ที่มันมาเพราะอยากเทียบเชิญตนให้เป็นส่วนหนึ่งของนิกายกระถางขัดเกลา เพื่ออาศัยความแข็งแกร่งของหนิงฝาน
หนิงฝานไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขามีเรื่องอื่นให้สนใจมากกว่า
ตอนนี้หนิงฝานมีเข็มเงินที่ถอนออกมาจากในร่าง
หนิงฝานอ่านความทรงจำของคนตระกูลเซี่ยง แม้ค้นความทรงจำของเซี่ยงเหลียวก็ยังไม่พบที่มาของเข็ม รู้เพียงว่าเข็มเล่มนี้ได้มาจากลานสวรรค์โบราณส่วนนอกโดยบังเอิญ
เหตุที่หนิงฝานสนใจเข็มเล่มนี้เป็นเพราะ มันสามารถลอบจู่โจมได้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว
ในหมู่เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีสมบัติอย่างสร้อยหยินหยางเหมือนหนิงฝานคงมีเพียงหยิบมือ ดังนั้นหากใช้เข็มลอบจู่โจมผู้เชี่ยวชาญทั่วไป คนเหล่านั้นสมควรถูกสังหารได้ง่ายๆ
อีกอย่างที่หนิงฝานสนใจ คือเข็มเล่มนี้มีกลิ่นหอมของสตรีนางหนึ่ง
เมื่อขบคิดอยู่หลายครั้งจึงจำได้ว่า กลิ่นหอมนี้เป็นของศพนางสวรรค์ที่อยู่ในโลง!
บางที… เข็มเล่มนี้นางอาจเคยใช้มาก่อนตาย
ที่สำคัญ ศพนางสวรรค์และมู่เหว่ยเหลียงสมควรเกี่ยวพันกัน
ตอนนี้หนิงฝานยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับศพนางสวรรค์ได้ หากทำได้ หนิงฝานจะอ่านความทรงจำนาง แต่ด้วยนางไม่มีดวงจิตในร่าง จึงไร้ซึ่งทะเลสติให้อ่านความทรงจำ
เดี๋ยวก่อน… ศพนางสวรรค์ไม่มีจิตวิญญาณ
“หรือเหว่ยเหลียงคือนางสวรรค์… เป็น 1 ใน 3 จิตวิญญาณเซียน 7 จิตวิญญาณมนุษย์” ด้วยเหตุผลนี้ทำให้อธิบายได้ว่า เหตุใดมู่เหว่ยเหลียงถึงได้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนศพนางสวรรค์ แต่เหตุที่พวกนางมีกลิ่นอายต่างกัน เพราะมู่เหว่ยเหลียงเป็นดวงจิต 1 ส่วนของทั้งหมด
ดังนั้น ดวงจิตของนางจึงยังสมควรวนเวียนอยู่ในลานสวรรค์โบราณ
การที่จิตวิญญาณของนางปรากฏในป่าแห่งภูติพราย อธิบายได้ว่าป่าแห่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของลานสวรรค์โบราณ!
แต่เหตุใดจิตวิญญาณของหนิงหงหงถึงได้อยู่ในป่าแห่งภูติพรายเช่นกัน เป็นไปได้ว่า ช่วงเวลานั้นนางไปหาสมบัติในลานสวรรค์โบราณและตกตายที่นั่น จึงถูกนำจิตวิญญาณมายังป่าแห่งภูติพราย
การที่ป่าแห่งนั้นตั้งอยู่บนแคว้นเยว่ ก็อาจเป็นไปได้ว่า บนแคว้นเยว่มีเส้นทางที่จะนำไปสู่ลานสวรรค์โบราณ!
“ลานสวรรค์โบราณ…”
หนิงฝานนึกถึงหานหยวนจี๋
อีก 90 ปีทางเข้าลานสวรรค์โบราณจะเปิดออก ซึ่งเป็นวันที่เทพกษัตริย์เนี่ยจะมาเยือน
หากเทพกษัตริย์สามารถเดินทางเข้าสู่ลานสวรรค์โบราณได้ แสดงว่าโลกปีศาจก็มีทางเข้าลานสวรรค์โบราณ นั่นหมายความว่า มันก็สามารถเดินทางมาแคว้นเยว่ได้เช่นกัน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็หวนถึงวิหคทมิฬ… เหตุใดวิหคทมิฬถึงได้สิ้นใจในนิกายกุ่ยเชว่ หรืออาจเป็นเพราะเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงในลานสวรรค์โบราณ วิหคทมิฬจึงตกลงมายังแคว้นเยว่!
แต่เหตุใดอีกร่างของแม่ชีพรหมจรรย์จึงอยู่ใรแคว้นเยว่ เหตุใดหานหยวนจี๋จึงอยู่ในแคว้นเยว่… ยามนี้สิ่งที่หนิงฝานสนใจที่สุดคือการหาวิธีรักษาเหม่ยน้อย…คนรักของหานหยวนจี๋ ยามนี้เขายังไร้ความหวัง บางทีอาจมีโอสถบางชนิดอยู่ในลานสวรรค์โบราณ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น แคว้นเยว่สมควรเป็นสถานที่ไม่ธรรมดา
ไม่แปลกที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำอย่างหนานหยางสื่อจะได้พบกับศพนางสวรรค์จากลานสวรรค์โบราณ…
ชิ้นส่วนต่างๆของเรื่องราว ทำให้หนิงฝานสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้าง
อย่างเรื่องที่กุ่ยเชว่สื่อสร้างนิกายกุ่ยเชว่เพื่อปกป้องหุบเหขาวิหคทมิฬ
เรื่องที่วิหคทมิฬตายและให้กำเนิดสมุนไพรปีศาจ เรื่องที่ศิษย์นิกายกุ่ยเชว่ต้องเข้าไปสังหารภูติผีในป่าแห่งภูติพราย เรื่องที่ภูติผีบางตนเคยอยู่ในลานสวรรค์โบราณ เมื่อถูกกักอยู่ในป่าแห่งภูติพราย พวกมันก็ทรงพลังขึ้น
ป่าแห่งภูติพรายสมควรมี 9 ชั้น แต่ในโลกพิรุณกลับมีเพียง 7 ชั้น ดังนั้น อีก 2 ชั้นสมควรอยู่ในลานสวรรค์โบราณ
หากทางเข้าลานสวรรค์เปิดออก ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมหาศาลจะกรูกันเข้าไปภายใน
ในอีก 90 ปีข้างหน้า นอกจากหนิงฝานจะต้องสังหารเทพกษัตริย์เนี่ย เขายังต้องหาทางรักษาคนรักของหานหยวนจี๋ด้วย
“น่าปวดหัวจริงๆ…”
หนิงฝานสลัดความความคิดต่างๆ แคว้นเยว่เป็นสถานที่ลึกลับ เขาต้องกลับไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง
เมื่อสมองผ่อนคลาย หนิงฝานก็ขบคิด ว่าจะกลับไปแคว้นหวู่เพื่อตามหาศพของหนิงหงหง
แต่ตอนนี้ สิ่งที่ต้องทำคือยกระดับพลังของตนเสียก่อน
เรื่องที่จะอ่านความทรงจำของศพนางสวรรค์ หนิงฝานต้องแข็งแกร่งพอจึงจะทำได้ ยามนี้… วิธีที่จะยกระดับพลังได้เร็วที่สุดคือการดูดซับพลังจากอสูร 2 นางที่หนิงฝานจับตัวมา และต้องสลักรอยสักปีศาจโลหิตเพื่อยกระดับร่างกาย… ก่อนหน้านี้หนิงฝานสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มไป 12 คน สมควรช่วยให้เขายกระดับถึงขอบเขตกระดูกเงินที่ 2 ได้ แต่ยามนี้สังหารเพิ่มไปเป็น 17 คน สมควรช่วยให้เขายกระดับถึงขอบเขตกระดูกเงินที่ 3 ได้ไม่ยาก
สิ่งที่ต้องทำ อย่างแรกคือยกระดับร่างกาย อย่างที่สองคือดูดซับพลังจากอสูร 2 นาง และสุดท้าย… จัดการกับศพนางสวรรค์!
หนิงฝานเรียกทหารศิลาพลางนำศพในกระเป๋าออกมา
“ทหารศิลา ข้าเตรียมโลหิตมาครบพร้อมแล้ว เจ้าช่วยข้าสลักรอยสักปีศาจโลหิตได้หรือเปล่า?”
“เจ้ายังไม่ได้ช่วยเหลือนายหญิงน้อยเลย ข้าไม่ทำให้หรอก!” ทหารศิลาปฏิเสธ
“ข้าไปแน่ไม่ต้องห่วง!” หนิงฝานขมวดคิ้ว
ทหารศิลาเงียบอยู่นานก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างไร้หนทาง
“หวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูด! เอาเป็นว่าข้าจะช่วย แต่บอกไม่ก่อนว่ามันเจ็บมาก!”
“ยิ่งเจ็บยิ่งดี ข้าชอบ…”
หนิงฝานพับแขนเสื้อพลางนำโอสถจักรพรรดิหยกออกมา
แต่เมื่อทหารศิลาเห็นโอสถจักรพรรดิหยก แววตามันเปล่งประกายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“นี่… โอสถจักรพรรดิหยก เจ้ามีได้ยังไง? เจ้าเป็นใคร?”
“ไม่ต้องรู้หรอก สลักรอยสักปีศาจโลหิตให้ข้าได้แล้ว”
“เจ้าต้องเป็นตัวแทนของโลกทั้ง 9 เพื่อช่วยนายหญิงน้อย… ถึงระดับพลังจะไม่บรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก แต่ก็มีโอกาสไปเยือนแดนสวรรค์…” ทหารศิลากล่าว
“น่าสนใจดี!” หนิงฝานสนใจในสิ่งที่ทหารศิลากล่าว เขาเองก็อยากรู้เรื่องราวของสวรรค์เช่นกัน…