Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง - ตอนที่ 205
เสี่ยวว่านหลูตื่น…
มันได้รับรายงานว่าตระกูลเซี่ยงมาหาเรื่องนิกายของมัน มันหวาดกลัว
แต่เมื่อได้ยินว่าซัวหมิงออกหน้ารับมือกับตระกูลเซี่ยง ตัวมันที่กำลังจะผ่อนคลายกลับต้องประหลาดใจ เพราะยามนี้ ซัวหมิงพักอยู่ในนิกายของมัน
“โชคร้ายแท้ๆ…เหตุใดมันถึงไม่จากไป? หลิงกุ่ยคู่ เรื่องราวเป็นมายังไง? ”
“เอ่อ… ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ดูเหมือนซัวหมิงผู้นั้นจะรู้จักข้า”
“หืม? เจ้าว่าอะไรนะ!”
เสี่ยวว่านหลูตกตะลึง
“นี่เจ้ารู้จักซัวหมิงเหรอ?”
“ไม่ใช้แบบนั้น ข้าไม่รู้จักซัวหมิงเลย…”
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง! ถ้าไม่ใช่เพราะมันเห็นหน้าเจ้า มันจะฆ่าล้างตระกูลเซี่ยงหรือไง? ไม่รู้หล่ะ… ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ต้องชักชวนให้มันเป็นแขกคนพิเศษของนิกายเราให้ได้”
“เราเป็นพี่น้อง มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน เรื่องนี้เจ้าต้องช่วยข้า หากได้ซัวหมิงมาเป็นแขกคนพิเศษ นิกายเราย่อมเฟื่องฟู…”
ภายในถ้ำแห่งหนึ่งมีน้ำตกที่งดงาม แม้แถบนี้จะเป็นทะเลทราย แต่ภูเขาลูกนี้มีแหล่งน้ำ
ภายในถ้ำ ชุ่ยหลิงและเย่หลิงกำลังฝึกฝนกระถางขัดเกลาทั้ง 1100 คน กระถางขัดเกลาส่วนใหญ่อยู่ขอบเขตประสานวิญญาณ แต่ก็มีผู้ที่อยู่ในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงและขั้นสูงสุดอยู่หลายสิบคน
พวกนางทุกคนถูกประทับตราวิญญาณ และถอนตราประทับของนิกายกระถางปรุงโอสถทิ้ง
“จากนี้ไป ข้าและพวกเจ้าทุกคนคือ ‘องครักษ์หญิงตระกูลหนิง’ ให้พวกเจ้าทุกคนเปลี่ยนมาใช้แซ่หนิง… ข้าคือหัวหน้าพวกเจ้า นาม ‘หนิงชุ่ยหลิง’ ส่วนนางคือรองหัวหน้า นาม ‘หนิงเย่หลิง’… เข้าใจหรือเปล่า?”
“รับทราบ… แต่เหตุใดต้องแซ่หนิง? นายท่านแซ่ซัวไม่ใช่เหรอ?”
“ไว้ข้าจะเล่าให้ฟังหลังเราเข้าไปในแหวนกระถางขัดเกลา…”
“พี่ชุ่ยหลิง ข้าขอถามได้หรือเปล่าว่า… แหวนกระถางขัดเกลาคืออะไร?”
“มันคือสมบัติประเภทที่อยู่อาศัยที่นายท่านสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง! ภายในนั้นมีพื้นที่กว้างขวาง มีแม่น้ำ ภูเขา ที่ซึ่งข้าและคนอื่นๆฝึกฝนอยู่”
“อะไรนะ! นายท่านมีสมบัติที่อยู่อาศัย…” พวกนางตกตะลึงพลางเปล่งเสียงอุทาน
“อืม! เอาไว้ข้าจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง… แต่ตอนนี้พวกเราทุกคนคือกระถางขัดเกลาของนายท่าน พวกเราต้องตระหนักถึงสถานะของตนให้ดี เอาหล่ะ ข้าจะบอกกฏเกณฑ์แก่พวกเจ้า….”
หนิงฝานที่เฝ้าดูชุ่ยหลิงเอาประกาศกฏเกณฑ์อย่างเอาจริงเอาจัง แอบหัวเราะ ตอนนี้เขามีรังทาสสวาทเป็นของตนแล้ว
หนิงฝานถอนสัมผัสเทพกลับจากการเฝ้ามองชุ่ยหลิงและเหล่าสตรีคนอื่นๆ ยามนี้เขาอยู่ในสถานที่หรูหราโอ่โถงแห่งหนึ่ง ในนั้นมีเตียงนอน ไม่ไกลมีสตรีสองนาง เขาจ้องมองพวกนางพลางยิ้มให้
สตรีทั้งสองนาง หนึ่งสวมอาภรณ์เหลือง อีกหนึ่งสวมอาภรณ์คราม ใบหน้างดงาม และเป็นถึงกระถางขัดเกลาในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม
พวกนางจ้องมองหนิงฝานด้วยความนับถือและหวาดหวั่น
ในฐานะที่เป็นกระถางขัดเกลา พวกนางรู้ชะตากรรมของตนเป็นอย่างดี ผู้ใดซื้อไป พวกนางก็ต้องปรนบัติคนผู้นั้น
แม้ผู้ที่ซื้อไปจะดูดซับพลังพวกนางจนหมด…พวกนางก็ยอม แม้จะถูกกระทำราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง…พวกนางก็ยอม แม้ผู้เป็นนายเรียกสหายมาร่วมเสพสม…พวกนางก็ยอม แม้จะถูกสังหารหลังจากดูดซับพลังพวกนางจนหมด…พวกนางก็ยอม นั่นคือชะตากรรมของพวกนาง
การที่ได้หนิงฝานเป็นนาย…พวกนางก็มีความสุขแล้ว
นอกจากหนิงฝานจะรูปงาม แต่ยังแข็งแกร่งทรงพลังจนน่าหวาดกลัว การได้เป็นกระถางขัดเกลาของคนเช่นนี้ ทำให้พวกนางภาพภูมิใจ
พวกนางรู้ว่าการเป็นกระถางขัดเกลาไม่ใช่เรื่องผิด พวกนางเห็นชุ่ยหลิงและเย่หลิงมีชีวิตอย่างอิสระ แม้เป็นกระถางขัดเกลา แต่ยังออดอ้อนผู้เป็นนายได้ ยิ้มได้ หัวเราะได้… ชีวิตของกระถางขัดเกลาเช่นนี้ทำให้พวกนางอิจฉา
การได้ยืนต่อหน้าหนิงฝานเช่นนี้ ทำให้พวกนางเกรง
เพราะยามนี้ กลิ่นอายโลหิตยังไม่สลายไปจากร่างหนิงฝาน
การที่พวกนางถูกเรียกตัวมา เจตนาย่อมีเพียงสิ่งเดียว…คือร่วมรัก แม้พวกนางจะถูกฝึกให้รับมือกับสถานะการณ์เช่นนี้ แต่พวกนายังเลี่ยงกังวลไม่ได้
“นายท่าน… พวกข้า…” พวกนางกล่าวด้วยสีหน้าเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำ ขาทั้งสองข้างสั่นเทา
“อืม… ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาเพราะอยากดูดซับพลังพวกเจ้า ระดับพลังในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มของพวกเจ้าจะหายไป แต่ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า และจะคงระดับพลังของพวกเจ้าไว้ที่แก่นทองคำขั้นต้น… พวกเจ้านับเป็นผู้มีพรสวรรค์ หากตั้งใจฝึกฝนตามวิชาที่ข้าให้เสริมกับการใช้โอสถ พวกเจ้าจะฟื้นฟูกลับมายังดวงจิตแรกเริ่มได้ไม่ยาก”
“รับทราบ ขอบคุณนายท่านไม่สังหารพวกข้า!”
พวกนางกลัวว่าหนิงฝานจะดูดซับพลังของพวกนางจนหมด
แต่เมื่อได้ยินว่าจะคงไว้ขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น พวกนางก็ทรุดเข่าและกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา
“ลุกขึ้นเถอะ… มานั่งข้างๆข้า”
หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย เป็นเชิงบอกใบ้พวกนางเตรียมตัว
การขัดเกลาผสานนั้นต้องทำให้สตรีบรรลุถึงจุดสูงสุดจึงจะได้ผลดี
ตามวิชาแปลงหยินหยางแล้ว ก่อนจะเริ่มดูดซับพลัง ฝ่ายบุรุษต้องทำให้ร่างกายและจิตใจของสตรีผ่อนคลายให้ถึงที่สุด
สถานที่หนิงฝานอยู่คือภูเขาที่เงียบสงบ ทิวทัศน์งดงาม มีตำหนักที่ก่อสร้างอย่างโอ่อ่า ขับรับกับทิวทัศน์ที่เงียบสงบ
หนิงฝานเอื้อมมือลูบสัมผัสใบหน้าของสตรีอาภรณ์เหลืองเบาๆ จ้องมองนัยตาอย่างอ่อนโยน ทำให้ใบหน้าของนางเห่อร้อน
มืออีกข้างรวบกอดสตรีอีกนางอย่างเบามือ เมื่อร่างกายของทั้งสองสัมผัสกัน อุณหภูมิที่แล่นผ่านจากแผ่นอกหนิงฝานเข้าสู่ร่างของนาง ทำให้นางสั่นไหว
ยามนี้พวกนางตระหนกอย่างที่สุด
“พวกเจ้ามีชื่อว่าอะไร?” หนิงฝานกอดพวกนางเบาๆ พลางโคจรวิชาเย้ายวนยามกล่าวถาม
“มะ… ไม่มี ข้าหมายเลข 947 ส่วนนางหมายเลข 38… แต่หากนายท่านจะมอบชื่อให้ พวกข้าก็ยินดี”
พวกนางรู้ว่าหนิงฝานแอบโคจรวิชาเย้ายวน แต่พวกนางก็ไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ… ลมหายใจพวกนางเริ่มถี่กระชั้น หน้าอกสะท้อนขึ้นลงเบาๆ ความกังวลและหวาดกลัวค่อยๆเลือนหายไป
“เช่นนั้นข้าจะตั้งชื่อให้… เจ้าสวมอาภรณ์เหลืองดูคล้ายส้ม ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่า ‘หนิงเทียนเอ๋อร์’… ส่วนเจ้าชอบอาภรณ์ครามดูคล้ายแหน… ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่า ‘หนิงปิงเอ๋อร์’ พวกเจ้าชอบหรือเปล่า?”
หนิงฝานลูบสัมผัสหัวไหล่พวกนาง เคลื่อนลงมายังเอวคอดกิ่ว พลางโคจรวิชาดรรชนีคลายหยิน สัมผัสบริเวณหน้าท้องของพวกนางเบาๆ
“ขอบคุณนายท่าน~~”
น้ำเสียงพวกนางเริ่มสั่นไหว แววตาเริ่มพร่ามัว
ร่างกายหนิงเทียนเอ๋อร์เริ่มไร้เรี่ยวแรงอย่างช้าๆ ด้วยการสัมผัสจากหนิงฝาน นางดูราวกับงูที่เอนกายแนบชิด สองมือคล้องแขน เงยหน้าขบกัดที่ลำคอหนิงฝานเบาๆ ลิ้นเลียซุกไซร้ใบหู
หนิงปิงเอ๋อร์ก็เช่นกัน ร่างกายนางไร้เรี่ยวแรง หน้าอกคู่งามถูกคว้าจับ จนทำให้ร่างกายของนางกระตุกด้วยความตกใจพลางเปล่งเสียงที่เย้ายวน
น้ำเสียงของนางดูราวกับนางผ่อนคลายอย่างที่สุด ราวกับได้ปลดปล่อยความตึงเครียดออกมาอย่างเต็มที่
นางปลดอาภรณ์ของตนอย่างช้าๆ เหลือไว้เพียงผ้าบางที่ขวางกั้นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของนาง นางแสดงท่าทียั่วยวน เชื้อเชิญให้หนิงฝานเป็นผู้ปลดมันออก
“นายท่าน… ได้โปรด… เบามือกับข้าด้วย”
“วางใจเถอะ… เจ้าเป็นกระถางขัดเกลาของข้า ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดี”
ผ้าบางถูกปลด สองขาขาวนวลราวกับหยกเปิดอ้า เผยให้เห็นสิ่งที่วิจิตงดงามราวกับหยกสลัก ขับเน้นให้เย้ายวนด้วยราตรีมืดสลัว
หนิงฝานโคจรวิชาเย้ายวน ลูบสัมผัสกายพวกนางอย่างถนุถนอม
เสียงครางกระเส่าดังขึ้นเป็นระยะ
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุด หนิงฝานเคลื่อนสอดของตน เข้าไปในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของหนิงปิงเอ๋อร์อย่างอ่อนโยน
“ข้าเจ็บ… อืม… อื้ม~~”
“เบาๆ… เบาอีก… อื้ม~ แบบนั้นแหละ…”
“นายท่านเก่งจริงๆ… ปิงเอ๋อร์ต้องการท่าน…”