Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง - ตอนที่ 201
สุสานแห่งนิกายกระถางปรุงโอสถ ผืนทรายที่แห้งกร้านและชโลมไปด้วยโลหิต
สัมผัสเทพของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงแผ่ปกคลุมพื้นที่กว้าง 2 พันลี้ แต่ยามนี้ ดูราวกับมันกลายเป็นสีดำสนิท
หากผู้ใดแผ่สัมผัสเทพเข้าสำรวจ จะถูกจู่โจมด้วยสัมผัสกระบี่ หากคนผู้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้นขั้นต้น พวกมันจะถูกสังหารทันที แต่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางที่พอจะป้องกันสัมผัสกระบี่ได้ เมื่อย่างกรายเข้าไปภายในพื้นที่สุสาน พวกมันจะถูกเคลื่อนสีดำกวาดผ่านร่างและตายไป
ผู้ใดที่ย่างกรายเข้าไปภายในเขตสุสาน คนผู้นั้นจะถูกสังหารทันที
ผู้ที่เดินทางมานิกายกระถางปรุงโอสถส่วนใหญ่ มาเพื่อซื้อกระถางขัดเกลา คนเหล่านี้ล้วนไร้หัวใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับล่าง หรือกระทั่งคนธรรมดาทั่วไป พวกมันไม่เว้น
ผู้เชี่ยวชาญของนิกายกระถางปรุงโอสถที่อยู่มานานหลายปี พวกมันเคยเห็นพายุทรายมามากมาย แต่ฉากที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
สุสานนิกายกระถางปรุงโอสถ สังหารเพื่อช่วงชิง… ผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางผ่านล้วนเตรียมตัวมาเพื่อสังหาร ไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อถูกสังหาร
เมื่อข่าวเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหลายพัน และผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 11 คนถูกสังหารได้แพร่ออกมา ผู้คนก็เริ่มหวาดกลัว
อูฐจำนวนมากยืนเรียงแถวยาว เว้นระยะห่างจากสุสานไกลพอสมควร ไม่มีผู้ใดกล้าย่างกรายเข้าไป มีแต่เพียงผู้ที่รอดชีวิตออกมาเท่านั้นที่ออกจากสุสาน
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนรู้เพียงว่า มือสังหารในสุสานแห่งนี้มีนามว่าซัวหมิง แต่รายละเอียดเกี่ยวกับคนผู้นี้ไม่มีผู้ใดรู้
“ผู้อาวุโสซัวหมิง ขอให้ท่านละเว้นการเข่นฆ่าสังหารเถอะ!”
เสียงที่ดังมาแฝงด้วยแรงกดดันในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด!
เมื่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่รั้งอยู่นอกสุสานมองไปตามเสียง เห็นสตรีผู้งดงามนางหนึ่ง สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด! คาดไม่ถึงว่าจะกล้าย่างกรายเข้าไปในสุสาน นักฆ่าที่อยู่ในนั้นแข็งแกร่งขนาดสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำไปหลายพัน ซึ่งยังสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มไปหลายคน!”
“ข้าไม่เคยได้ยินนามซัวหมิงมาก่อน! ข้าว่ามันต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญจากทะเลส่วนในแน่!”
“ได้ยินว่าในทะเลส่วนในมีตระกูลซัวอยู่… หรือคนผู้นี้จะเป็นคนของตระกูลซัว!”
“ข้าก็ไม่รู้ รู้แค่ว่ามันสังหารคนไปมากมาย ป่านนี้น่าจะได้หยกสวรรค์มากกว่าร้อยล้านแล้ว!”
“ถ้าฆ่ามันได้ เราก็จะได้หยกสวรรค์มหาศาล แต่ว่า… เราคงสู้มันไม่ได้!”
ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนเฝ้ารอดูเหตุการณ์ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มยังไม่กล้าเข้าไป
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงเองก็เช่นกัน แค่เห็นสีดำทมิฬที่ปกคลุมพื้นที่ พวกมันก็หวาดกลัวจนแข้งขาอ่อน
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 11 คนก่อนหน้านี้ ย่างกรายเข้าไปสุสานด้วยความโลภ เพื่อหวังจะสังหารซัวหมิง ชิงหยกสวรรค์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือไม่มีใครรอดกลับมา
หยกสวรรค์ร้อยล้าน มีเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเท่านั้นที่มีหยกสวรรค์มากขนาดนี้… ดังนั้น หากผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณรู้ว่ามีหยกสวรรค์นับร้อยล้านรออยู่ในสุสาน พวกมันย่อมหวั่นไหวไปตามความโลภ
‘หลัวเฟย’ ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด ผู้อาวุโสใหญ่แห่งนิกายอักขระม่วง มันเองก็เริ่มเคลื่อนไหว
แม้มันจะได้ยินว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำในนิกายมันถูกสังหารที่สุสานแห่งนี้ มันไม่สนใจ
แต่สิ่งที่ทำให้มันสนใจคือหยกสวรรค์
มันไม่สนใจว่าหนิงฝานสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้ยังไงตั้ง 11 คน แต่มันรู้ว่าหนิงฝานต้องได้ผลไม้แห่งเต๋าระดับดวงจิตแรกเริ่ม!
ทั้งหยกสวรรค์นับร้อยล้าน… ทั้งผลไม้แห่งเต๋า…
ซัวหมิงผู้นั้นช่างกล้าเข่นฆ่าสังหาร ยั่วยุขุมกำลังที่ทรงพลังในทะเลส่วนนอก ดังนั้น หลัวเฟยจึงคิดว่าซัวหมิงคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
เพราะการที่ขุมกำลังในทะเลส่วนนอกไม่กล้าตำหนิ เพราะอีกฝ่ายสมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
แต่หากเกิดไม่ใช่… การที่มีหยกสวรรค์ร้อยล้านเดินทางไปทั่วทะเลส่วนนอก ก็รังแต่จะนำภัยพิบัติมาสู่ตน
“ฮึ่ม! ถึงเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญของทะเลส่วนใน แต่ข้าไม่กลัว! วิหารพิรุณมีข้อตกลงกับทะเลส่วนในว่า ห้ามคนของทะเลส่วนในออกมาทะเลส่วนนอก! หากสังหารเจ้าและช่วงชิงหยกสวรรค์มาได้ ต่อให้ตระกูลซัวตามล่าข้าก็ไม่กลัว ข้าแค่ซ่อนตัว และซื้อโอสถมาเพื่อยกระดับพลัง แบบนั้น ข้าก็จะบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณได้ไม่ยาก”
มันทะยานเข้าไปในสุสาน เมื่อสัมผัสกระบี่ของหนิงฝานสัมผัสร่าง มันรู้ทันทีว่าซัวหมิงผู้นั้นเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น แต่เหตุใดถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น!
แม้ข่าวว่าซัวหมิงแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด… แต่มันคือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดของจริง!
“หยกสวรรค์ของเจ้าต้องเป็นของข้า!”
มันพุ่งทะยานเข้าหาหนิงฝาน มือยื่นคว้าจับสัมผัสกระบี่ของหนิงฝานเพื่อทำลาย
“ซัวหมิง! เจ้ากล้าฆ่าคนของนิกายอักขระม่วง เจ้าคงรู้ว่าผลจะเป็นยังไง!”
“ผลที่ตามมาอะไรกัน? ไม่เห็นจะรู้เรื่อง”
แสงสีเทาวาบผ่าน ผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวดำปรากฏตัว!
เมื่อมันแผ่สัมผัสเทพหาหนิงฝาน มันมั่นใจว่าหนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น
เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น แต่กลับทำตัวอวดดี เข่นฆ่าผู้คนมากมาย!
หลัวเฟยฝึกฝนมา 1,400 ปี กระทั่งได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่และมีเชื่อเสียง
แม้มันเชื่อว่าสามารถสังหารหนิงฝานได้ แต่แววตาหนิงฝานกลับสงบอย่างน่าประหลาด
ไม่ว่ายังไง มันก็เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด มันย่อมไม่กลัว
“นิกายอักขระม่วง? น่าสนใจดีหนิ! ข้าฆ่าคนของพวกเจ้าไป ก็เลยส่งเจ้ามาแก้แค้น แต่ถ้าข้าฆ่าเจ้าอีกคน คงไม่มีใครกล้ามาแล้ว! ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น ก็ยังต้องหวาดกลัวข้า… ใช่หรือไม่ทหารศิลา?”
“อืม… ผู้ที่สังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ สังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นไปจนถึงขั้นสูง กระทั่งยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณบาดเจ็บได้… หากไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ ก็ไม่มีใครกล้ายั่วยุเขาหรอก…”
เสียงสายหนึ่งกล่าวตอบ ดังออกมาจากร่างหนิงฝาน
เมื่อหลัวเฟยแผ่สัมผัสเทพไปยังหนิงฝาน มันสัมผัสได้ว่ามีบางคนแฝงตัวอยู่ในร่างหนิงฝาน
ความหวาดกลัวผุดขึ้นในใจของมันทันที!
ผู้ที่สามารถปกปิดตัวตนจากสัมผัสของมันได้ มีเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเท่านั้น!
ซัวหมิงผู้นี้มีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณข้างกาย! มิน่าถึงสังหารผู้คนไปมากมาย
มีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณข้างกายเช่นนี้ อย่าว่าแต่สังหารเพื่อชิงสมบัติที่นี่ ต่อให้เป็นทะเลส่วนทั้งหมดก็สามารถทำได้
“ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 12 คนน่าจะพอ… ทหารศิลา ฆ่ามัน! ดึงเอาดวงจิตแรกเริ่มของมันมา แล้วคงร่างของมันไว้อย่างสมบูรณ์…” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย
“ขอรับ!”
ทหารศิลาที่มีร่างกายใหญ่โตปรากฏข้างกายหนิงฝาน ร่างใหญ่โตราวกับขุนเขา ใบหน้าข้างซ้ายมีรูปจันทราสีดำประทับอยู่
ทันใดนั้นเอง เสียงร้องอย่างน่าเวทนาของหลัวเฟยก็ดังขึ้น จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่รอบนอกสุสานสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง!
“เกิดอะไรขึ้น! เสียงร้องนั่น… ต้องเป็นเสียงของผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายอักขระม่วงไม่ผิดแน่! หรือมันจะถูกสังหารไปแล้ว!”
“หลัวเฟยเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด! มันตายได้ยังไงกัน!”
“ใครก็ได้ลองไปดูที…”
แต่ใครจะโง่ไปดู?
แม้พวกมันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรม แต่พวกมันล้วนหวาดกลัวและรักชีวิต จึงไม่มีใครกล้าเข้าไป
แม้พวกมันจะต้องการกระถางขัดเกลาเพื่อทะลวงจุดตีบตัน แต่ก็ทำได้เพียงถอนหายใจจากไป
พวกมันจะไม่มาเข้าร่วมงานประมูลนิกายกระถางปรุงโอสถอีก
สุสานและนิกายกระถางปรุงโอสถอยู่ห่างกัน 2 พันลี้!
งานประมูลแต่ละครั้งจะจัดขึ้นทุกๆ 10 ปี มีผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมกว่าหมื่นคน
แต่ยามนี้ ผู้เชี่ยวชาญกว่าครึ่งได้ถูกหนิงฝานสังหาร หนีไปอีก 3 ใน 10 ส่วน เหลือเพียง 2 ส่วนเท่านั้น
หนิงฝานถอนสัมผัสกระบี่ สลายหมอกสีดำ ทหารศิลาเองก็เปลี่ยนตนเองเป็นรูปศิลาปประทับลงบนมือหนิงฝาน
“ดวงจิตแรกเริ่ม 12 คนน่าจะพอ… น่าจะช่วยให้ข้าบรรลุขอบเขตกระดูกเงินที่ 2… ‘รอยสักปีศาจโลหิต’ ได้ ส่วนศพของพวกแก่นทองคำ ก็เป็นแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงวิชาศพอสูร… การสังหารครั้งนี้ได้ทั้งหยกสวรรค์และทรัพยากรยกระดับร่างกาย… แต่การกระทำเช่นนี้ใช่ว่าจะทำได้ทุกที่ หากเข่นฆ่าผู้คนในแคว้นต่างบนโลก คงถูกผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกของวิหารพิรุณตามฆ่า”
หนิงฝานเก็บซากศพจำนวนมากเข้าสู่แหวน
จากนั้นกลับไปยังอูฐของตนที่มีสตรีทั้งสองนางรออยู่ แล้วมุ่งหน้าสู่นิกายกระถางปรุงโอสถ
ทหารศิลาบอกว่ามีวิชาลับที่จะยกระดับร่างกายให้แข็งแกร่งได้
แต่การจะฝึกวิชานั้น จำเป็นต้องใช้โลหิตจำนวนมาก เพื่อสร้างเป็นรอยสักปีศาจ และโลหิตที่ต้องการนั้น ต้องเป็นโลหิตของแก่นทองคำ ดวงจิตแรกเริ่ม หรือตัดวิญญาณเท่านั้น
หนิงฝานไม่รู้ว่าจะไปหาโลหิตและศพของแก่นทองหรือดวงจิตแรกเริ่มจากไหนได้มากขนาดนั้น แต่โชคดีที่ก่อนจะถึงนิกายกระถางปรุงโอสถมีสุสาน ที่สามารถเข่นฆ่ากันได้ตามปรารถนา
แก่นทองคำ 3,711 คน ดวงจิตแรกเริ่ม 12 คน หยกสวรรค์ร้อยล้าน จนทำให้หนิงฝานมีหยกสวรรค์กว่า 130 ล้าน นอกจากนี้ยังมีสมบัติ สมุนไพร ผลไม้แห่งเต๋าแก่นทองคำ 27 ผล และวิชาอีกมากมายนับไม่ถ้วน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผลไม้แห่งเต๋าดวงจิตแรกเริ่ม
เพียงวันเดียว จำนวนคนที่หนิงฝานสังหาร แทบจะเทียบเท่าจำนวนผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของแคว้นระดับกลางเกือบทั้งหมดของแคว้น
หากราชาแคว้นจินรู้เรื่องนี้เข้า… ไม่รู้มันจะหวาดกลัวขนาดไหน!
เรื่องที่สร้างความแค้นเคืองให้กับขุมกำลังในทะเลส่วนนอก…เหตุใดต้องกลัว ตอนนี้มีขุมกำลังใดบ้างที่ทำอันตรายหนิงฝานได้ แม้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณมาเอง หนิงฝานก็ยินดีต้อนรับ
“ทหารศิลา เจ้าทำได้ดีมาก…” หนิงฝานกล่าวชม
“ฮึ่ม! อย่าลืมเรื่องที่เจ้าให้สัญญาข้าไว้หล่ะ!” เสียงกล่าวดังออกมาจากรูปศิลาบนมือหนิงฝาน
“แล้วเรื่องรอยสักปีศาจโลหิต… ข้าต้องสลักรอยสักไหนลงไป?”
“ข้ามีรอยสักอยู่ 3 แบบ ‘รอยสักปีศาจโบราณ’ ‘รอยสักขุนพลอสูร’ และ ‘รอยสักปีศาจน้ำแข็ง’… รอยสักที่ดีที่สุดคือรอยสักระดับขุนพลอสูร แต่ด้วยเจ้าฝึกฝนวิชาศพปีศาจ ทำให้ร่างกายของเจ้าเป็นธาตุดิน ฉะนั้นจึงสลักได้แค่รอยสักระดับทหารเหมือนข้า…”
“รอยสักระดับขุนพลอสูร?” หนิงฝานนึกถึงขุนพลอสูรลี่เป่ย
“ปีศาจและอสูรนั้นแตกต่างจากมนุษย์ พวกผู้เชี่ยวชาญทั่วไปจะทำหน้าที่ยกระดับเผ่า ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเปรียบดั่ง ‘ทหาร’ ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเปรียบดั่ง ‘ขุนพล’ ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงเปรียบดั่ง ‘จอมทัพ’ และผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเปรียบดั่ง ‘กษัตริย์’… ข้าไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวรอยสักระดับต่างๆมากนัก และข้าก็รู้ว่าข้าอาจปกป้องนายหญิงน้อยไม่ได้…”
“อืม… ข้าคงต้องหวังเพิ่งเจ้าเรื่องสลักรอยสักแล้ว”
“ฮึ่ม! ถ้าเจ้าทำตามที่รับปาก…ข้าจะช่วย แต่จำไว้ว่าการาสลักรอยสักนั้นเจ็บมาก”
“เจ็บมาก? ข้าชอบ!”
หนิงฝานนั่งปรับลมหายใจและฟื้นฟูปราณ การเข่นฆ่าสังหารไปมากมายแบบนี้ ทำให้เขาเหนื่อยอ่อน
หนิงฝานรู้ว่าหากตนเองไม่แข็งแกร่งพอ ก็อาจเป็นคนที่ถูกสังหารในสุสาน
การเข่นฆ่าถือเป็นการคัดคน หากผู้ใดไม่ไร้ซึ่งความกล้า ก็ไม่ต้องเข้านิกายกระถางปรุงโอสถ…
ถ้ำภายในนิกายกระถางปรุงโอสถ
เซียวว่านโหลวขมวดคิ้วแน่น
มันผู้เป็นเจ้าของถิ่น กลับถูกผู้อื่นเข่นฆ่าและปล้นชิงในเขตของมัน
ยามนี้ผู้เชี่ยวชาญยกให้หนิงฝานเป็นตัวอันตราย
ผู้คนเชื่อว่าหนิงฝานคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เซียวว่านโหลวสนใจ
ยามนี้ มันกำลังโศกเศร้ากับการที่ไม่ค่อนมีคนมางานประมูล
“จบแล้ว… จบสิ้นแล้ว นิกายของข้ามาถึงคราวหายนะแล้ว”
ซัวหมิงเข่นฆ่า สังหาร และช่วงชิงในเขตของนิกายกระถางปรุงโอสถ
หากผู้ที่ตายเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้สังกัดก็ไม่เป็นไร แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญมีสังกัด ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังเล็กหรือใหญ่ นิกายกระถางปรุงโอสถก็ไม่กล้ายั่วยุ
“เจ้ามีอะไรก็รีบๆไปทำ!”
เซียวว่านโหลวก้มหน้า รับฟังคำของบรรพบุรุษนิกาย
แต่ในยามนั้นเอง ผู้ช่วยประมุขนิกาย ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นกลับรีบวิ่งมา
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มตายด้วย!”
“ว่าไงนะ! ซัวหมิงผู้นั้นชักจะมากเกินไปแล้ว พลังของมันอยู่ระดับไหน?”
“เอ่อ… คือ…” ผู้ช่วยประมุขนิกายเผยสีหน้าหวาดกลัว
“เลิกอ้อมค้อมได้แล้ว! หรือมันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง!” เซียวว่านโหลวคาดเดา
“ไม่ใช่.. คือ… นิกายอักขระม่วง…”
“นิกายอักขระม่วง! หนึ่งในสิบนิกายใหญ่ในทะเลส่วนนอก สมควรส่งผู้อาวุโสในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงมา!” เซียวว่านโหลวกล่าว
สังหารผู้คนในถิ่นมัน ซ้ำยังสังหารผู้เชี่ยวชาญของนิกายอักขระม่วง
“ไม่ใช่…” ผู้ช่วยประมุขส่ายหน้า
“แล้วตกลงมันคืออะไรกันแน่!”
“หนึ่งในผู้ที่ถูกสังหารไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง… แต่เป็นสูงสุด”
“อะไรนะ! ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดก็ถูกสังหาร!” เซียวว่านโหลวรู้สึกราวกับถูกอัสนีฟาดผ่า
จบ… จบสิ้นแล้ว
ป่านนี้เรื่องราวของซัวหมิงคงแพร่ไปทั่วทุกที่ บางทีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณอาจไม่กลั่วยั่วยุ
แม้พวกมันจะโกรธแค้นไม่พอใจ แต่ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องซัวหมิง…