God of illusions ตอนที่ 50 มุ่งหน้าสู่เทือกเขาไร้ขอบเขต
คําพูดของปายเสี่ยวเฟยปลุกทุกคนจากห้วงภวังค์
“เต็นท์ มีที่แห่งเดียวใกล้ๆ สถาบันที่ต้องการเต็นท์ เทือกเขาไร้ขอบเขต!”
เมื่อพวกเขาคิดได้เช่นนั้น เหงื่อเย็นเยียบผุดขึ้นมาบนหน้าผากทุกคนทันที
“อย่าบอกนะว่าพวกเราจะไปที่นั่น? แถมยังต้องนอนข้างนอก!??
การรอครานี้ประดุจรอถูกตัดสินโทษ ถึงแม้พวกเขาจะคาดเดาได้ว่าโทษครั้งนี้คือสิ่งใด ไม่นานนักเสวี่ยอิ่งก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า จากอิริยาบถแล้วแผนของนางคงเป็นไปได้ด้วยดี
“ไปเถอะ” เสวี่ยอิ่งกล่าวง่ายๆ สองคําก่อนจะเดินนําทาง ทิศที่นางมุ่งหน้าคือประตูหลักของสถาบัน
“พี่หญิงเสวี่ย พวกเรากําลังไปที่ไหน?” เฉินฮุยมีสีหน้าเคร่งขรึมพลางกลืนน้ำลายอีกใหญ่คําพูดของปายเสี่ยวเฟยยังคงตราตรึงอยู่ในใจ
“พวกเจ้าคงคาดเดาได้แล้วนี่? เหตุใดต้องถามอีก?” เสวี่ยอิ่งยิ้มเยาะไม่ตอบคําถาม นางก้าวขายาวๆ ไปทางประตูหลัก หัวใจของทุกคนดิ่งวูบทันที
“เป็นเช่นนั้นจริงๆ”
“อาจารย์ ท่าน…?”
เมื่อพวกเขามาถึงประตู กลุ่มศิษย์ปีหนึ่งเดินมาขวางทางไว้ เสวี่ยอิ่งไม่รีรอหยิบยื่นกระดาษส่งให้พวกเขาดูรายละเอียดข้างในไม่ คัญเท่าใดนัก แต่คําว่า “เล่ยซาน” ตรงข้างล่างซ้ายที่มีกระแสปราณกําเนิดธาตุสายฟ้าพวยพุ่งออกมาก็เพียงพอให้พวกเขาเข้าใจ
ลายเซ็นเช่นนี้ไม่อาจปลอมแปลงได้ พูดอีกอย่างก็คือเสวี่ยอิ่งได้รับอนุญาตจากเล่ยซานแล้ว!
“เชิญ” ศิษย์พี่ที่รักษาการณ์เปิดทางให้พวกเขาผ่านพลางจ้องมองกลุ่มป๋ายเสี่ยวเฟยด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกตะลึงเมื่อเห็นชุดศิษย์ใหม่ที่พวกเขาสวมใส่
“คนพวกนี้กําลังเอาชีวิตไปทิ้ง!?”
ภายใต้สีหน้าแปลกประหลาดของศิษย์พี่ กลุ่มนักเรียนจากห้องคนเถื่อนรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ พวกเขากําลังจะได้กลายเป็นคนเถื่อนสมชื่อ…
หลังจากเดินออกจากประตู เสวี่ยอิ่งกวาดตามองรอบๆ พลางก้าวเดินต่อไปข้างหน้า เดินไปสองชั่วโมงก่อนจะหยุด เมื่อหันหลังกลับไปดูพวกเขามองไม่เห็นสถาบันชิงหลัวอีกแล้ว
“ตรงนี้” เสวี่ยอิ่งถอนหายใจอย่างพึงพอใจพลางสํารวจบริเวณรอบด้านก่อนจะเอาเต็นท์ออกจากแหวนมิติ ยี่สิบเต็นท์กองเรียงอยู่บนพื้นเป็นภูเขาขนาดย่อม
“พวกเจ้ามีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการติดตั้งเต็นท์พวกนี้เพราะเรายังต้องทําอย่างอื่นอีก แน่นอนว่าถ้าพวกเจ้าทําช้า พวกเจ้าทุกคนจะต้องนอนดูดาวขณะหลับ สําหรับเรื่องสถาบันพวกเจ้ามิอาจกลับไป เพราะข้าได้แจ้งท่านเจ้าสถาบันแล้วว่าคาบเรียนทั้งหมดในอีกหนึ่งเดือนให้หลังจะเป็นคาบเรียนนอกสถานที่
เสวี่ยอิ่งตัดทางหนีทีไล่ผลักทุกคนลงหลุมอย่างความปราณี พวกเขาไร้ทางเลือกนอกจากเชื่อฟังนาง
อย่างที่นางเอ่ย เมื่อพวกเขาตามนางมาฝึกแล้วไฉนเลยจะล้มเลิกกลางคันได้! เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องนอนในที่โล่งแจ้ง ทั้งหมดรีบติดตั้งกางเต็นท์ทันทีถึงแม้ว่าแขนขาทั้งสี่จะอ่อนปวกเปียกมากก็ตาม. หลังจากพยายามอย่างหนักหนึ่งชั่วโมง เต็นท์ทั้งยี่สิบถูกติดตั้ง พวกเขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อเห็นเช่นนี้
ต้องขอบคุณต้าหมิงและเสี่ยวหมิง ด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบทั้งสองเชี่ยวชาญเรื่องการติดตั้งเต็นท์เป็นอย่างมาก เต็นท์ถูกแบ่งออกเป็นสองด้านอย่างชัดเจน หนึ่งคือเต็นท์ของนักเรียนชายสองคือเต็นท์ของศิษย์หญิงและเต็นท์สําหรับส่วนผสมยา มีเต็นท์สองหลังที่ว่างเปล่า ศิษย์ทั้งหมดไม่รู้ว่าเสวี่ยอิ่งต้องการให้พวกเขาทําเช่นใด
“ต่อไปคือส่วนที่มีประโยชน์ พวกเจ้าทั้งหมดต้องชอบแน่” เสวี่ยอิ่งกล่าวพลางเอาถังน้ำยี่สิบถังออกมาจากแหวนมิติ
“วางหกอันไว้ที่ปาด้านซ้าย สิบอันที่ปาด้านขวา ที่เหลืออีกสี่วางไว้ตรงกลางฐาน ทุกคนไปตักน้ำมาเติมถังน้ำพวกนี้ให้เต็ม เมื่อเสร็จแล้วขนพวกมันมาที่ตรงกลางค่ายพัก โม่ข่าเจ้ารออยู่ที่นี่” เสวี่ยอิ่งสั่งการหลายอย่างรวดเดียว ศิษย์ทุกคนมองยังไงก็ไม่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาตรงไหน
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทําตามคําสั่ง โม่ข่าเต็มไปด้วยความกังวล หากเขาเลือกได้เขายอมเป็นทาสแรงงานเช่นพวกป๋ายเสี่ยวเฟยดีกว่าอยู่กับเสวี่ยอิ่งสองต่อสอง
“ข้าได้ยินว่าเจ้าอยากเป็นนักปรุงโอสถ” เมื่อเผชิญหน้ากับคําถามง่ายๆ โม่ข่าอดไม่ได้ที่จะเหม่อมองเล็กน้อยเพราะเขาเตรียมใจทํางานหนักไว้แล้ว
“ท่านกล่าวมิผิด…” สุ่มเสียงของเขาไร้ความมั่นใจราวกับเกรงกลัวว่าตนพูดอันใดผิดไป
“เช่นนั้นหุ่นเชิดตัวแรกของเจ้าก็คือกระถางยาใช่หรือไม่? เอาออกมาให้ข้าดู” เสวี่ยอิ่งแย้มยิ้มพลางสั่งการง่ายๆ
โม่ข่ายังคงไม่แน่ใจว่านางต้องการอันใด เขาหยิบกระถางยาขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากกระเป๋า เมื่อเขาส่งผ่านปราณกําเนิดเข้าไป กระถางยามีแสงสีเหลืองห่อหุ้มขณะที่มันขยายขนาดจนเท่าโม่ข่า
การปรับขนาดคือหนึ่งในความสามารถพื้นฐานของหุ่นเชิดกระถางยา หุ่นเชิดสีเหลืองตนนี้ถือได้ว่าหายากสําหรับมือใหม่อย่างโม่ข่า เขาซื้อมาด้วยเงินที่เก็บสะสมตั้งแต่เด็ก
“ขยายขนาดได้มากสุดเท่าใด?” เสวี่ยอิ่งเผยสีหน้ายินดีเมื่อเห็นหุ่นเชิดกระถางยาระดับเหลือง ในขณะที่โม่ข่ามีสีหน้าประหลาดเมื่อได้ยิน
เขายังไม่รู้ว่านางต้องการอันใด จึงทําได้เพียงตอบแบบพื้นฐาน “หากใหญ่เกินไปจะทําให้ควบคุมความร้อนได้ยาก…”
“ข้ารู้ แค่ทําให้มันใหญ่ก็พอ” เสวี่ยอิ่งเร่งโม่ข่า ใบหน้ามีร่องรอยความคาดหวัง โม่ข่าส่งผ่านปราณกําเนิดระดับรอบรู้ของเขาเข้าไปในชั่วพริบตากระถางยาสูงใหญ่เทียบเท่าสิ่งก่อสร้างสองชั้น
“ข้าทําได้ใหญ่สุดเท่านี้ มากกว่านี้จะคงสภาพมันได้ยาก” เหงื่อหลายหยดผุดขึ้นมาบนหน้าผาก โม่ขาพยายามที่สุดแล้ว
“หึม เล็กกว่านี้ก็ได้ ยังไงก็พออยู่ดี” นางยิ้มแย้มอย่างพึงพอใจ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผน!
โม่ข่าอยากถามเสี่ยอิ่งเหลือเกินว่านางต้องการทําสิ่งใด แต่ท้ายที่สุดเขาก็กลืนคําพูดพวกนั้นลงไปเพราะเขาไม่ได้กล้าหาญเฉกเช่นป๋ายเสี่ยวเฟย ไม่ช้าเขาก็รับรู้ว่าเหตุใดเขาจึงไม่ต้องไปตักน้ำเป็นเพราะเขามีงานที่ยากลําบากยิ่งกว่ารออยู่!
ศิษย์ที่เหลือทั้งสิบห้าทําตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายสําเร็จมือถือถังน้ำ ดวงตาทั้งสองเหม่อลอยเมื่อกระถางยาขนาดยักษ์ปรากฎเข้าสู่ครรลองสายตา
“นี่มันเรื่องอันใด?”
“เอาล่ะ เทถังน้ำสิบหกถังเข้าไปในกระถางยา ที่เหลืออีกสี่วางทิ้งไว้” โม่ข่ามีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันใด
MANGA DISCUSSION