God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1375
ปัง!
มือของเซี่ยปิงได้ยื่นออกไป ค่ายกลเปลวไฟได้ปรากฏขึ้นมา เปลวไฟนับไม่ถ้วนได้รวมตัวกัน จากนั้นก็ได้ควบแน่นกลายเป็นกรงเล็บสีทองซึ่งมีอักขระโบราณจำนวนมากจารึกอยู่ มีออร่าของความโกลาหล ความโบราณและความเป็นขุนนางแผ่ออกมา
กรงเล็บอีกานรกทองคำ!
ในช่วงเวลานี้เขาก็เข้าใจได้อย่างชัดเจนทันที นี่คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของสายเลือดที่ตื่นขึ้นมา กรงเล็บอีกานรกทองคำ!
ตึบ!
เซี่ยปิงได้โบกมือออกไปเบาๆ กรงเล็บนี้ได้ฉีกอากาศจนกลายเป็นลมที่รุนแรงออกไปทันที พลังงานฉีที่น่าสะพรึงกลัวได้กวาดออกไปห้าทิศทาง ภูเขาที่อยู่ในระยะที่ห่างออกไปได้ถูกฉีกกลายเป็นห้าซีกอย่างกะทันหัน
แม้แต่ที่พื้นดินก็ปรากฏเป็นรอยแยกห้ารอยเช่นกัน อีกทั้งก็ยังลุกลามออกไปไกลนับกิโลเมตร
ในเวลาเดียวกันกรงเล็บนี้ก็มีพลังอำนาจของเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวปะทุออกมา ไม่ว่าร่องรอยของกรงเล็บนี้จะผ่านไปที่ใด มันก็จะเปลี่ยนพื้นที่นั้นให้กลายเป็นทะเลเพลิง ภูเขาที่อยู่ห่างออกไปถูกรายล้อมไปด้วยเปลวไฟที่ลุกโชนทันที เปลี่ยนกลายเป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่
ภายในไม่กี่ลมหายใจ ภูเขานั้นก็ได้ละลายกลายเป็นกลุ่มลาวา ไหลออกไปรอบๆ
ปัง!
เซี่ยปิงตบกรงเล็บออกไป บนอากาศปรากฏเป็นกรงเล็บสีทองที่กระแทกเข้าไปภูเขาที่อยู่ห่างออกไปอย่างรุนแรง ทันใดนั้นก็เหมือนกับกระแทกเข้ากับเต้าหู้ก็ว่าได้ ภูเขาที่มีความสูงหนึ่งกิโลเมตรนี้ราบแบนไปอย่างกะทันหัน ถูกบดทำลายกลายเป็นผุยผง
ที่พื้นก็ปรากฏเป็นรอยกรงเล็บขนาดยักษ์ทันที เหมือนกับว่าจะเป็นการประทับตราถาวรบนพื้นดินบริเวณนี้ พื้นที่ในระยะหลายกิโลเมตรก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงพร้อมกับมีเสียงสายฟ้าฟาดที่ดังขึ้นมา
“เป็นการโจมตีที่ทรงพลังจริงๆ”
เซี่ยปิงอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เขาได้ปลุกความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของอีกานรกทองคำมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปีกอีกานรกทองคำ ดวงตาอีกานรกทองคำ หัวใจอีกานรกทองคำและกระเพาะอีกานรกทองคำ ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของสายเลือดเหล่านี้ต่างก็เป็นเพียงแค่ประเภทสนับสนุน
ทว่าครั้งนี้แตกต่างออกไป เขาได้ปลุกความสามารถศักดิ์สิทธิ์ประเภทโจมตี กรงเล็บนี้มีพลังอำนาจของการฉีกทำลาย พลังอำนาจของเปลวไฟ พลังอำนาจทำลายล้าง พลังอำนาจของอีกานรกทองคำและพลังอำนาจของขุมนรก พลังอำนาจทั้งหมดนี้ได้ทับซ้อนกันและเพิ่มอำนาจอย่างทวีคูณจนถึงจุดที่ไร้ที่สิ้นสุด
กรงเล็บที่ตะปบออกไป สามารถที่จะเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้ในทันที แม้แต่กระดูกก็ไม่มีเหลือ
เรียกได้ว่านี่เป็นหนึ่งในความสามารถศักดิ์สิทธิ์ประเภทโจมตีที่ทรงอำนาจ เป็นไพ่ตายที่แท้จริง
ตำนานกล่าวไว้ว่ากรงเล็บอีกาทองคำสามารถที่จะฉีกร่างมังกรที่แท้จริงได้ในทันที เห็นได้ชัดว่ากรงเล็บนี้ร้ายกาจเพียงใด ไม่ได้มีพลังอำนาจที่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“พลังอำนาจของสายเลือดก็พัฒนาขึ้นมามาก”
เซี่ยปิงสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของสายเลือดอีกานรกทองคำภายในร่างกายของตนเอง หลังจากที่ได้ปลุกเซลล์ขึ้นมาถึงหนึ่งแสนเซลล์นั้น เขารู้สึกว่าพลังอำนาจสายเลือดของเขาอุดมสมบูรณ์อย่างถึงที่สุด สายเลือดอีกานรกทองคำก็เข้มข้นขึ้นมาอย่างมาก
เลือดภายในเส้นเลือดแต่ละเส้นภายในร่างกายไหลเวียนเหมือนกับลาวา มีคลื่นความร้อนที่แผ่ออกมา เป็นเหมือนกับลาวาที่ร้อนระอุก็ว่าได้ เพียงแค่เลือดหยดเดียวที่หยดลงไป ก็สามารถที่จะเปลี่ยนพื้นที่ในระยะ50กิโลเมตรให้กลายเป็นทะเลเพลิง
ในเวลาเดียวกันพลังอำนาจของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก การที่ได้รับสืบทอดพลังอำนาจที่มหาศาลของอีกานรกทองคำมา กล้ามเนื้อ กระดูก ผิวผนังและส่วนอื่นๆต่างก็ได้รับการเสริมสร้าง พัฒนาขึ้นมาจนอยู่ในจุดที่เหนือมนุษย์
“เพียงแค่การปลุกเซลล์อีกานรกทองคำขึ้นมาหนึ่งแสนเซลล์ก็น่าสะพรึงกลัวถึงขั้นนี้ หากปลุกขึ้นมาได้หนึ่งล้านเซลล์ล่ะก็ มันจะน่าสะพรึงกลัวแค่ไหนกัน?” เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา รู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่มหาศาลในร่างกาย
ต่อให้ตอนนี้เขาจะไม่ใช่พลังเวทมนตร์และพึ่งพาเพียงแค่ความแข็งแกร่งของร่างกายนั้น เขาก็สามารถที่จะประเคนหมัดออกไปและทำลายภูเขาจนแตกเป็นเสี่ยงๆได้ เรียกได้ว่าเป็นหมัดของเทพเจ้า มีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ขอบเขต
“หืมม?!”
ในตอนนี้เซี่ยปิงรู้สึกว่าหัวใจของตนเองสั่นระรัว จากนั้นก็เงยหน้ามองขึ้นไป ไม่รู้ว่าพื้นที่ในระยะพันกิโลเมตรมีก้อนเมฆที่มืดครึ้มปกคลุมเมื่อไหร่ การลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดกำลังหมักหมม ดูเหมือนกับว่าฝนกำลังจะตกหนัก
ก้อมเมฆในระยะพันกิโลเมตรกำลังม้วนตัว กระแสพลังฉีสีดำปกคลุมไปทั่วอากาศ ภาพมังกรน้ำได้ปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งคราว มีจิตสังหารที่ไร้ที่สิ้นสุดแผ่ออกมา เหมือนกับว่าจะต้องการพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
ปัง!
ส่วนลึกของก้อนเมฆที่มืดครึ้มเหล่านี้ เสียงสายฟ้าฟาดดังขึ้นมา เป็นเหมือนเสียงที่รุนแรงของดินถล่มและสึนามิที่ซัดเข้ามา อากาศสั่นสะเทือนนับแสนครั้ง มีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว คลื่นเสียงนี้ที่สามารถฉีกผ่านทุกสิ่งทุกอย่างนี้ได้กวาดออกมา
ทว่าค่ายกลลวงตาที่เซี่ยปิงได้ติดตั้งไว้รอบๆนั้น ในช่วงเวลานี้ก็ถูกฉีกทำลายในทันที พังพินาศไปอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถที่จะซ่อนตัวได้อีกต่อไป พื้นดินก็มีรอยแตกร้าวนับสิบปรากฏขึ้นมาโดยคลื่นเสียงนี้
“การลงทัณฑ์สายฟ้าฟาด36ขั้น!”
เซี่ยปิงมีสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมาทันที ครั้งนี้การลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดนั้นน่าสะพรึงกลัวกว่าครั้งที่แล้วถึงหลายสิบเท่า ไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งที่เรียบง่ายอย่างการเพิ่มขึ้นมาเก้าขั้นเท่านั้น ทว่าพลังอำนาจของสายฟ้าแต่ละเส้นนั้นก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมากเช่นกัน
สายฟ้าที่ผ่าลงมา หากระเบิดใส่พื้นดินนั้น ก็เพียงพอที่จะบดทำลายภูเขานับสิบในพื้นที่ระยะร้อยกิโลเมตรให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้ พื้นที่บริเวณนั้นจะต้องราบเป็นหน้ากลอง
แม้แต่เสียงของสายฟ้าที่ระเบิดออกมา ก็ส่งผลให้เกิดการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียง ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติธรรมดาทั่วไปนั้น หากประมาทแม้เพียงชั่วครู่เดียว ก็จะอาจจะช็อกด้วยคลื่นเสียงนี้จนเลือดไหลออกมาจากทุกๆอวัยวะ
ทว่าหากถูกสายฟ้าเหล่านี้ผ่าลงไปโดยตรง ร่างกายจะต้องแตกออกกลายเป็นชิ้นๆและเปลี่ยนกลายเป็นชิ้นเนื้อที่ไหม้เกรียม
“แม่เจ้า ทำไมสายฟ้าถึงต้องการผ่าเจ้านายกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการลงทัณฑ์สายฟ้า36ขั้น ไม่ใช่ว่าเขาเป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติหรือ?” กระทิงสีครามวิญญาณสิ่งประดิษฐ์ของลูกปัดพิภพได้สังเกตเห็นสถานการณ์นี้อย่างกะทันหัน หวาดกลัวจนอ้าปากค้าง มันไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดนั้น จะเกิดขึ้นกับยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าเท่านั้น เป็นช่วงเวลาที่สวรรค์อิจฉาเพราะว่าใกล้ที่จะก้าวเข้าไปในระดับเซนต์ เป็นการกระตุ้นจิตสังหารของโลกและสวรรค์ จึงได้ส่งการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดลงมา
ทว่ามันก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติจะสามารถกระตุ้นจิตสังหารของสวรรค์และโลกได้ เผชิญกับการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดเช่นนี้
เพราะว่าถึงอย่างไรแล้วโลกนั้นก็เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน สูงส่งและหาที่เปรียบไม่ได้ ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้นเป็นเพียงแค่มดปลวกก็ว่าได้เมื่อเทียบกับโลก มีคุณสมบัติอะไรที่จะกระตุ้นจิตสังหารของสวรรค์และโลก นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?!
“เจ้าบ้านนอก ไม่เคยเห็นใครถูกฟ้าผ่าหรือ?! ช่างไร้ความรู้และประสบการณ์จริงๆ ทั้งวันเอาแต่กินหญ้าจนไม่มีสารไปหล่อเลี้ยงสมอง”
แมวนักปราชญ์ก็มองไปที่กระทิงสีครามด้วยสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามทันที มันพบโอกาสที่จะต่อว่ากระทิงสีครามได้
“อะไรนะ?!”
กระทิงสีครามก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา โมโหจนเจียนตาย ต้องการที่จะกระโจนเข้าไปหาแมวนักปราชญ์ ทว่ามันก็ยับยั้งอารมณ์ของตนเองไว้ เพราะเป็นกังวลกับสถานการณ์ของเซี่ยปิงในตอนนี้ “ช่างมันเถอะ ข้าไม่ต้องการที่จะทะเลาะกับเจ้าในตอนนี้ การที่เจ้านายกำลังจะเผชิญกับการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดนั้น มันจะไม่เป็นปัญหาหรือ?”
“เหอะ เจ้าเด็กนั่นเรียกได้ว่าเป็นปีศาจ เพียงแค่การลงทัณฑ์สายฟ้าฟาด36ขั้นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง ก่อนหน้านี้เขาก็เคยถูกฟ้าผ่ามาก่อนเช่นกัน” แมวนักปราชญ์บ่งบอกว่านี่เป็นเพียงแค่เรื่องธรรมดา เพราะว่าเซี่ยปิงได้คุ้นชินกับเรื่องเช่นนี้แล้ว
“นี่มัน!”
กระทิงสีครามก็มีสีหน้าที่พูดอะไรไม่ออก เคยถูกฟ้าผ่ามาก่อน ตอนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก? คำถามก็คือทำไมเจ้านายถึงกระตุ้นจิตสังหารของโลกได้จนเกิดฟ้าผ่าเช่นนี้ หรือมันเป็นเพราะว่าสายเลือดที่มีความโบราณ ศักดิ์สิทธิ์และน่าสะพรึงกลัวในตัวของเจ้านาย?!
การที่มันและเซี่ยปิงได้อยู่ร่วมกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วนั้น แน่นอนต้องรู้ว่าภายในร่างกายของเซี่ยปิงนั้นมีพลังอำนาจของสายเลือดที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ เป็นสายเลือดโบราณที่ลึกลับ แม้แต่มันเองก็ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าคือสายเลือดอะไร
“เวรเอ๊ย พี่ใหญ่กำลังจะถูกฟ้าผ่า”
เฟิงเหอตังที่อยู่ภายในยานดาราจักรก็เห็นสถานการณ์ข้างนอกเช่นกัน เห็นว่าเซี่ยปิงกำลังยืนตระหง่านอยู่บนอากาศ เหนือศีรษะเหมือนกับมีกลุ่มก้อนเมฆที่เกรี้ยวกราด กำลังหมักหมมสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งจะผ่าลงมาได้ทุกเมื่อ
“แน่นอนว่าบุคคลที่ชั่วร้าย ก่อกรรมทำชั่วมากเกินไป สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับการลงทัณฑ์ของสวรรค์”
ยวีชีชีดูมีความสุขกับความทุกข์ของผู้อื่น
“นี่มันจะไม่มีปัญหาอะไรหรือ?”
เจียงยารุก็พูดออกมาอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย
“คงจะไม่มีปัญหา จากสีหน้าท่าทางของเจ้าอันธพาลนี่ที่ไม่ได้เป็นกังวลแม้แต่น้อยนั้น ก็คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร” ซู่จีที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่สงบนิ่งของเซี่ยปิง ดูไม่เหมือนกับบุคคลที่กำลังจะเผชิญกับหายนะ
“การลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดได้ผ่าลงมาแล้ว”
ฉู่หลงตะโกนเสียงดังออกมา
พวกเขาทั้งหมดก็มองดู เมื่อก้อนเมฆที่มืดครึ้มเหล่านี้ได้ควบแน่นจนถึงจุดๆหนึ่ง พลังอำนาจของการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดที่หมักหมมอยู่ก็เหมือนจะไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าฟาดนับไม่ถ้วนที่ผ่าลงมาจากบนอากาศ ระเบิดใส่ร่างกายของเซี่ยปิง
ทว่าเสียงเหล่านี้ก็ได้ดังออกไปไกลนับหมื่นกิโลเมตร ดึงดูดความสนใจของผู้บ่มเพาะที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆทันที