God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1819
ตอนที่ 1819
ณ เรือนหมื่นปีศาจ
ในช่วงเวลานี้ พวกมันก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวของเชียงในตลาดคลื่นทะเลเช่นกัน ซื้อสินค้าในทุกหนแห่ง ใช้เงินกว่าพันล้านเหรียญปีศาจ นี่มันช่างเป็นการโปรยเงินทิ้งขว้างอย่างแท้จริง ทําให้ตลาดคลื่นทะเลกลายเป็นงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ก็ว่าได้ มีความสุขกันถ้วนหน้า
“หนึ่งพันล้าน แม่เจ้า เจ้าเด็กนั่นใช้เงินหนึ่งพันล้านในการกว้านซื้อสินค้าของตลาดคลื่นทะเล โยนเงินทิ้งขว้างในทุกหนแห่ง อันที่จริงเขาได้เงินมากมายเช่นนี้จากที่ใดกัน?”
ปีศาจตัวหนึ่งที่รู้สึกอิจฉาจนดวงตาแดงก่ำ ทั้งชีวิตนี้มันไม่เคยได้สัมผัสเงินจํานวนมากมายเช่นนี้ ทว่าตอนนี้เจ้าเด็กนี่กลับโยนเงินหนึ่งพันล้านทิ้งภายในวันๆเดียว เหตุใดความแตกต่างระหว่าง บุคคลจึงมากมายเช่นนี้?!
มันรู้สึกอิจฉาจนแทบจะคลุ้มคลั่งขึ้นมา
“จะต้องเป็นเงินที่ได้มาจากการขายข้าวคริสตัลอย่างแน่นอน ข้าได้ข่าวมาก่อนหน้านี้ เขาได้ทําธุรกรรมซื้อขายกับตําหนักปีศาจจิ้งจอก อีกทั้งตําหนักปีศาจจิ้งจอกก็ได้ ครอบครองข้าวคริสตัลเป็นปริมาณมหาศาล สามารถนําไปทํากําไรได้อย่างงาม”
ปีศาจหูยาวตัวหนึ่งได้ยินข่าวของตําหนักปีศาจจิ้งจอก มันกัดฟันอย่างแน่น รู้สึกอิจฉาอย่างมาก
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ บนตัวของเขามีข้าวคริสตัลเพียงแค่หนึ่งตันเท่านั้น มีที่ไหนที่จะได้ผลตอบแทนเป็นเงินหนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจ”
ปีศาจจมูกหมูตัวหนึ่งก็รู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผล ขายข้าวคริสตัลเพียงแค่หนึ่งตันเท่านั้น เป็นได้อย่างไรที่จะขายได้เป็นเงินถึงหนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจ ถึงอย่างไรตําหนักปีศาจจิ้งจอกก็ไม่ใช่กลุ่มคนโง่เขลา จะไม่มีทางทําธุรกิจที่ตนเองขาดทุนอย่างแน่นอน
“มันไม่ใช่หนึ่งตัน ทว่าเป็นข้าวคริสตัลสิบตัน เจ้าเด็กนั้นขายข้าวคริสตัลไปถึงสิบตัน ส่งผลให้ มีเหรียญปีศาจถึงหนึ่งพันล้านเหรียญ
ปีศาจหูยาวก็แทบจะตะโกนออกมา
“ขายข้าวคริสตัลสิบตันซึ่งมีมูลค่าเป็นหนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจ? เจ้าเด็กนั่นเสียสติไปแล้ว ได้รับเงินมาหนึ่งพันล้านมา ทว่ากลับใช้จนหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว แม้แต่บรรดาทายาทที่ผลาญเงินพ่อแม่ก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยถึงขั้นนี้”
“นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไป เจ้าเด็กนั่นเห็นเงินเป็นอะไรกัน เป็นเพียงเศษกระดาษอย่างนั้นรึ?!”
ปีศาจจํานวนมากก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เกินกว่าขอบเขตความเข้าใจของพวกมัน ตามความคิดของพวกมัน หนึ่งพันล้านนั้นไม่รู้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนกว่าที่จะใช้ได้จนหมด ทว่าเจ้าเด็กนี่กลับแตกต่างออกไป โยนทิ้งขว้างภายในวันเดียว ราวกับว่านําเงินไปโปรยเล่น
“พูดได้เพียงแค่ข้าวคริสตัลสิบตันของเจ้าเด็กนั่นอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่เขามี ข้าก็ได้รับข่าวมา ว่ากันว่าเจ้าเด็กนั่นมีช่องทางบางอย่าง สามารถที่จะจัดหาข้าวคริสตัลมาขายได้อย่างต่อเนื่อง”
ปีศาจหูยาวเอ่ยขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม
อะไรนะ?!
ปีศาจจํานวนมากของเรือนหมื่นปีศาจก็รู้สึกเสียใจอย่างถึงที่สุดรู้สึกผิดกับความผิดพลาดในอดีต
หากในตอนนั้นเจ้าปีศาจหนูนั่นไม่ได้ยโสโอหังจนทําให้เสียลูกค้าขับไล่ลูกค้ารายใหญ่ออกไป จากนั้นช่องทางการขายข้าวคริสตัลนี้ก็คงจะตกมาอยู่ในมือของพวกมัน แทนที่จะเป็นตําหนักปีศาจจิ้งจอกนั่น
“เจ้าปีศาจหนูบัดซบ ทําให้เรือนหมื่นปีศาจของข้าต้องเสียลูกค้ารายสําคัญไปทําลายแหล่งรายได้ของเรือนหมื่นปีศาจ การที่รีบสังหารไปก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่คิดผิดจริงๆ ควรที่จะทรมานมันเป็นระยะเวลาสามวันสามคืนก่อน”
กลุ่มพนักงานของเรือนหมื่นปีศาจก็รู้สึกจงเกลียดจงชังอย่างมาก ทว่าก็ไม่มีทางเลือกใดๆ
“ท่านเฮยเฟิง ตอนนี้พวกเราควรจะทําอย่างไร?”
พนักงานมองไปที่ปีศาจชราเฮยเฟิงซึ่งเป็นผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจแห่งนี้
“ไม่ต้องกังวลไป ในโลกนี้มีวิธีการหาเงินมากมาย การที่สูญเสียแหล่งรายได้ไปทางเดียว ไม่ใช่สิ่งที่ต้องคํานึงถึงเพียงแค่หารายได้จากทางอื่นก็เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นการที่เจ้าเด็กนั่นสร้างคลื่นลูกยักษ์ขึ้นมาเช่นนี้ บางทีอาจจะเป็นกลายกระต่ายที่ถูกไล่ตามตูดก็เป็นได้”
ปีศาจชราเฮยเฟิงเผยสายตาที่หนาวเหนีบออกมา
เขาแอบส่งคนไปจับตาดูการเคลื่อนไหวของเซียปิงและแม้แต่เขาก็ได้เคลื่อนไหวออกไปเอง ท้ายที่สุดก็สามารถยืนยันได้ บนตัวของเจ้าเด็กนั่นมียันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลอยู่จริงๆ
เมื่อคิดได้ถึงจุดๆนี้ ปีศาจชราเฮยเฟิงก็ไม่สามารถยับยั้งตนเองได้อีกมันต้องการที่จะฆาตกร รมผู้อื่นเพื่อปล้นชิงทรัพย์สมบัติในทันที
ตราบใดที่สามารถครอบครองยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลจํานวนมากจากเจ้าเด็กนั้นได้ พลัง อํานาจของมันก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน เพียงพอที่จะกวาดล้างคู่ต่อสู้ทุกคนในเมืองมรกตแห่งนี้ มีจุดยืนที่ไร้เทียมทาน
เมื่อถึงเวลานั้น การที่จะกลายเป็นเจ้าเมืองมรกตแห่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่ธุรกิจอาหารนี้ เป็นเรื่องที่เล็กน้อยไปเลย
มันตัดสินใจที่จะเริ่มลงมือในคืนนี้ ลอบสังหารเจ้าเด็กนั้นอย่างลับๆ ปล้นชิงยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลมาทั้งหมด
แน่นอนว่าความคิดเหล่านี้มันจะไม่พูดออกไป ข่าวของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลจะต้องเก็บเป็นความลับ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะมีปีศาจจํานวนมากแค่ไหนที่ถาโถมเข้ามา
เมื่อถึงเวลานั้น เกรงว่ามันจะไม่มีโอกาส แน่นอนว่าปีศาจชราเฮยเฟิงผู้นี้จะไม่ทําตัวโง่เขลาเช่นนั้น
ณ ตําหนักปีศาจจิ้งจอก
ปีศาจจิ้งจอกจํานวนมากกําลังรวมตัวกัน ทว่าจ้าวตําหนักสู่ชานเหนียงก็กําลังนั่งอยู่ในที่ประจําของเธอเช่นกัน
“ท่านจ้าวตําหนัก เจ้าปีศาจตู้ไทโต่วเหมือนจะใช้เงินจนหมดเกลี้ยง ใช้เงินหนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจที่ได้จากพวกเราไปจนหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ ไม่เคยเห็นทายาทของตระกูลร่ํารวยใดๆที่ใช้เงินทิ้งขว้างได้เช่นนี้”
“ใช่ หนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจ สามารถที่จะซื้อสิ่งต่างๆได้มากมาย ทว่าเจ้านี่บอกว่าจะโยนทิ้งก็โยนทิ้งไป ซื้อสิ่งของที่ไม่จําเป็นมากมาย ไม่รู้ว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่”
“การที่มีลูกล้างผลาญเงินเช่นนี้อยู่ในครอบครัวนั้น ไม่ว่าตระกูลจะมีเงินทองทรัพย์สินมากเพียงใด ก็ไม่เพียงพอให้เขาใช้ทิ้งขว้างในทุกวัน”
“ท่านจ้าวตําหนักอย่าร่วมมือกับเจ้านี่เลย ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าพวกเราจะถูกเขาฉ้อโกงหรือไม่ เจ้านี่ดูไม่น่าไว้วางใจเท่าไร่นัก”
ปีศาจจิ้งจอกจํานวนมากต่างก็พูดด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม ตกใจกับการกระทําของเชียปิงอย่างแท้จริง
“ไม่ พวกเจ้ายังเด็ก ยังมองคนที่พื้นผิวภายนอก ยังไม่ได้มองแก่นแท้ภายใน”
ฮู่ซานเหนียงกวักมือพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย “คนยากคนจนที่ครอบครองความมั่งคั่งอย่างกะทันหันนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เงินจนหมดเกลี้ยงภายในวันเดียวการนึกเผื่อถึงความยากลําบากและอันตรายในช่วงระยะเวลายามสงบ นั่นก็คือบุคลิกนิสัยของคนยากคนจน”
“ทว่าเจ้าเด็กนี่กลับแตกต่างออกไป มีความกล้าอย่างยิ่ง ใช้เงินหนึ่งพันล้านจนหมดเกลี้ยงภายในวันเดียวเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าภูมิหลังครอบครัวของเขาไม่ธรรมดาเลย เงินหนึ่งพันล้านสําหรับเขาเป็นเพียงแค่ตัวเลขน้อยๆ ดังนั้นจึงได้ใช้เงินหนึ่งพันล้านไปอย่างไม่แยแสเช่นนี้คิดว่าจะหามาเมื่อไหร่ก็ได้”
จากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เธอสามารถมองเห็นได้ว่าภูมิหลังของเจ้าอู๋ไท่โต่วนี้ไม่ได้ธรรมดาจริงๆ จะต้องมาจากตระกูลที่สามารถใช้เงินหนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจได้อย่างไม่สนใจ ซึ่งต่อให้เป็น โลกปีศาจที่กว้างใหญ่แห่งนี้ มันก็ยังมีน้อยมาก
“หากรู้ว่าภูมิหลังของเขาไม่ธรรมดา แล้วมันอย่างไรกัน?ตัวตนที่ล้างผลาญตระกูลเช่นนี้ ไม่ว่าจะมีเงินเท่าไหร่เขาก็จะต้องใช้ไปจนหมดไม่ใช่รึ?”
ปีศาจจิ้งจอกตัวหนึ่งปฏิเสธที่จะยอมรับ
“การรู้ว่าภูมิหลังของเขาไม่ธรรมดาก็เพียงพอแล้ว เพราะมันพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีช่องทางสําหรับการจัดหาข้าวคริสตัลจริงๆ ไม่ได้กุเรื่องสร้างภาพหลอกลวง เป็นโอกาสใหญ่ที่พวกเราจะร่วมมือกับเขาในอนาคต”
ฮู่ซานเหนียงยิ้มออกมา “ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาจะล้างผลาญครอบครัวก็ปล่อยให้เขาล้างผลาญไป นั่นเป็นเรื่องของเขา มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตําหนักปีศาจจิ้งจอกของพวกเรากัน ตราบใดที่สามารถครอบครองกระแสของข้าวคริสตัลที่ต่อเนื่องและมั่นคงจากเขาได้ นี่ก็ถือว่าเป็นผลประโยชน์สูงสุดของตําหนักปีศาจจิ้งจอก ทําไมจะต้องปฏิเสธกัน?”
ปีศาจจิ้งจอกจํานวนมากก็เข้าใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน ที่กล่าวมาก็ถูกต้องเหมือนกัน
ถึงอย่างไรพวกเธอก็ต้องการข้าวคริสตัลจากเจ้าอู๋ไท่โต่วเช่นกัน พวกเธอได้ในสิ่งที่ต้องการโดย แลกกับเงินแน่นอนว่าเจ้าอู๋ไทโต่วจะใช้จ่ายเงินอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของพวกเธอทําไมจะต้องให้ความสนใจ
“ท่านจ้าวตําหนัก แต่ข้าเกรงว่าเจ้าอู๋ไท่โต่วอาจจะไม่ได้มีชีวิตเห็นแสงตะวันของวันพรุ่งนี้”
ปีศาจจิ้งจอกบางตัวที่รีบรายงานทันที “ก่อนหน้านี้ข้าได้รับข่าวมา เรือนหมื่นปีศาจได้ส่งคนไปจับตาดูการเคลื่อนไหวเจ้าอู๋ไท่โต่วอยู่ตลอดเวลา แอบสืบสวนเรื่องของเขา แม้ แต่เจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงนั้นก็เคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง ร่างกายของมันซ่อนเร้นจิตสังหารไว้”
“พวกเราก็รู้ว่าเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงเป็นบุคคลเช่นไร แสวงหาการล้างแค้นให้กับเรื่องที่เล็กน้อยที่สุด ตอนนี้การที่เจ้าอู๋ไท่โต่วฉีกหน้ามันครั้งใหญ่นั้น บางทีอาจจะเผชิญกับการล้าง แค้นของเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงได้ ท่านจ้าวตําหนัก เรื่องนี้พวกเราต้องยื่นมือเข้าไปช่วยหรือไม่?”
มันมองไปที่ฮู่ชานเหนียง
“ไม่ต้องกังวลไป”
ฮู่ชานเหนียงกวักมือ “นี่เป็นโอกาสที่ดี สามารถที่จะลองทดสอบความสามารถของเจ้า ไทโต่วได้ หากสามารถหลบเลี่ยงการไล่ล่าของเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงได้ นั่นก็แสดง ให้เห็นเขาว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถจริงๆ”
“อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถหลบเลี่ยงการไล่ล่าของเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงได้นั้น นั่นก็แสดง ให้เห็นว่าเขาไม่มีค่าพอที่จะร่วมมือกับพวกเราตําหนักปีศาจจิ้งจอกอีกต่อไป”
ดวงตาของเธอเผยแสงประกายออกมา มีแผนการมากมายที่ผุดขึ้นในความคิดของเธอ
“รับทราบ ท่านจ้าวตําหนัก”
ปีศาจจิ้งจอกจํานวนมากก็พยักหน้า พวกเธอก็คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการทดสอบความสามารถของตู้ไท่โต่ว