God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1603
“อะไรนะ? ไม่คาดคิดว่าจะมีลาหัวโล้นของเผ่าพันธุ์อรหันต์ที่กล้าทำร้ายลูกชายข้า นี่เจ้าเบื่อหน่ายกับชีวิตหรือ?!”
เมื่อได้ยินคำพูดของตวนมู่คัง ราชันนกเก้าเศียรก็เดือดระอุขึ้นมา ต่อให้จะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณ ทว่าก็ยังคงมีพลังอำนาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าอยู่ พลังอำนาจสะเทือนไปทั่วแผ่นดิน
ค่ายกลยับยั้งที่อยู่รอบๆวิลล่าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง คาช่า ส่งเสียงดังขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าจะเกิดรอยแตกร้าวที่มองเห็นได้ เดิมทีชั้นพลังงานที่โปร่งใส ในช่วงเวลานี้กลับกลายเป็นแก้วที่มีรอยแตกราวกับใยแมงมุม
คาดการณ์ได้ว่าหากพลังอำนาจปะทุออกมามากกว่านี้ ค่ายกลยับยั้งที่อยู่รอบๆจะต้องแตกกลายเป็นเสี่ยงๆ
“โยม”
เซี่ยปิงเริ่มพูดออกมา “ความชั่วร้ายในจิตใจของลูกชายโยมฝังลึกเกินไป หากปล่อยไปเช่นนี้ บางทีอาจจะกลายเป็นปีศาจที่แท้จริง ก่อกรรมทำชั่วโดยที่ไม่สำนึก นำพาหายนะมาสู่เผ่าพันธุ์นกเก้าเศียรของโยม อาตมาจะทำการส่งเขาไปหาพระพุทธเจ้า นี่ก็เพื่อตัวของเขาเอง กำจัดแก่นแท้ปีศาจไปจากตัวของเขา กำจัดตัวตนแห่งภัยพิบัติของเผ่าพันธุ์นกเก้าเศียร นี่เป็นการทำคุณงามความดีเพื่อโยม จะขัดขวางอาตมาทำไม?!”
“ปีศาจตูดข้าสิ เจ้าลาหัวโล้นบัดซบ ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ยังปีกกล้าขาแข็ง พูดจาบิดเบือนความจริง พูดให้ผู้อื่นสับสนระหว่างความถูกต้องและความผิด ท่านพ่ออย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระกับไอ้ลูกหมานี่เลย รีบสังหารเขาเถอะ”
ตวนมู่คังโมโหจนควันออกจมูก เจ้าพระบัดซบนี่ ความตายอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม แต่ยังต้องการที่จะพูดให้ร้ายเขา ช่างบัดซบจริงๆ
“ไม่ว่าลูกชายของข้าจะชั่วร้ายหรือไม่ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ลาหัวโล้นอย่างเจ้าจะตัดสินได้ ในเมื่อเจ้ากล้าทำร้ายลูกชายของข้า ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็สมควรตาย!” ราชันนกเก้าเศียรแสยะออกมา ออร่าจิตสังหารกำลังเดือดดาล
ทักษะลับของเผ่าพันธุ์นกเก้าเศียร—กรงเล็บทะลวงห้วงอวกาศ!
ทันใดนั้นกรงเล็บขนาดใหญ่สีดำก็ปรากฏขึ้นมา มีอักขระของนกเก้าเศียรมากมายที่จารึกไว้อยู่ ดูเหมือนจะมีนกศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากที่อาศัยภายใน มีออร่าที่ทรงพลังและมหาศาล แอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวของนกอสูรร้าย
เห็นเพียงแค่กรงเล็บขนาดใหญ่นี้ได้ทะลวงเข้ามา เหมือนกับทะลวงผ่านห้วงอวกาศ นำพาความกดดันที่น่าสะพรึงกลัวเข้ามา ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด อากาศรอบๆก็จะระเบิดออกมา เหมือนกับว่าจะทำลายทุกสิ่งที่อยู่รอบๆให้พินาศสิ้น บดทำลายทุกอย่างให้กลายเป็นผุยผง
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของราชันนกเก้าเศียร ทว่าพลังอำนาจที่แสดงออกมากลับเหนือกว่าตวนมู่คังอย่างมาก เกือบที่จะบรรลุพลังอำนาจในระดับแตกฉานขั้นสูงสุด
วิซ!
ร่างของเซี่ยปิงได้กระพริบหายไป เปลี่ยนกลายเป็นอสูรหยานเป่ย หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถล็อกพลังฉีภายในร่างกายของเขาได้ เหมือนกับหลบหนีเข้าไปในห้วงมิติก็ว่าได้ หลบหลีกกรงเล็บนี้ออกไปอย่างกะทันหัน
ตึบ!
กรงเล็บนี้ฉีกทำลายค่ายกลยับยั้งของวิลล่าแห่งนี้อย่างกะทันหัน ทำให้พลังงานโปร่งใสแตกกระจายออกไป ปรากฏเป็นรอยแตกร้าวขึ้นทุกหนแห่ง ทั่วทั้งวิลล่าถูกบดทำลายกลายเป็นเศษซากปรักหักพัง
ที่พื้นก็ถูกกรงเล็บนี้ทะลวงเข้าไป ปรากฏเป็นหลุมลึกขนาดหลายกิโลเมตรอย่างกะทันหัน หลุมนี้มีความลึกถึงหลายร้อยเมตร ดินนับไม่ถ้วนกระจุยกระจายออกมา ส่วนลึกในพื้นดินก็มีก้อนหินจำนวนมากก็ถูกทำลายจนกลายเป็นผุยผง
รอบๆหลุมยักษ์นี้เต็มไปด้วยออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของนกดุร้าย ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่น
ทว่าการสั่นสะเทือนเช่นนี้ก็ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆที่อยู่รอบๆเช่นกัน แต่ละคนต่างก็กวาดสายตามองมา ผู้คนจำนวนมากต่างก็ช็อกไปตามๆกัน ไม่คาดคิดว่าจะมีบางคนที่กล้าต่อสู้ในดาวไม้มังกรแห่งนี้ ไม่เกรงกลัวว่าจะกลายเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์จำนวนมากในทางตะวันตกของจักรวาลหรือ?
“ไม่คาดคิดว่าจะหลบหลีกกรงเล็บของราชันผู้นี้ไปได้? ก็ถือว่ามีฝีมืออยู่เล็กน้อย ทว่าเจ้าจะสามารถหลบหลีกไปได้สักกี่ครั้งเชียว?” ราชันนกเก้าเศียรเห็นเซี่ยปิงที่หลบหลีกกรงเล็บของตนเองได้ ร่างของฝ่ายตรงข้ามเหมือนกับเป็นภาพลวงตา ไม่สามารถจับได้ เหมือนกับหลบหนีเข้าไปในอีกห้วงมิติหนึ่งก็ว่าได้ นี่ก็ทำให้เขาตกตะลึงกับทักษะการเคลื่อนที่ของพระผู้นี้ ทำการคาดเดาอย่างต่อเนื่องว่ามันคือทักษะอะไร
ทว่าในพูดของเขานั้นก็แอบแฝงไปด้วยความหมายของการทำลายความมั่นใจของเซี่ยปิง พยายามที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ซึ้งถึงภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เจ้าเด็กนี่หวาดกลัว จากนั้นก็จะเปิดเผยช่องโหว่ของตนเองออกมา
“สมกับที่เป็นราชันนกเก้าเศียรจริงๆ ทว่าท้ายที่สุดก็เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณ อาตมาผู้นี้ก็เป็นพระ ย่อมที่จะไม่พูดปด หากบอกว่าจะส่งลูกชายของโยมไปหาพระพุทธเจ้า ก็จะต้องส่งเขาไปหาพระพุทธเจ้าให้ได้”
หลังจากที่พูดจบ เซี่ยปิงก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากอีกทิศทางหนึ่งอย่างกะทันหัน มาถึงข้างหลังของตวนมู่คัง จากนั้นก็ประเคนหมัดออกไป กลุ่มของดวงดาวกำลังหวั่นไหว เป็นเหมือนกับช้างศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏออกมาจากความโกลาหล เปิดจักรวาลออกมา
“หยุดเดี๋ยวนี้ หากเจ้ากล้าสังหารลูกชายข้าจริงๆ เผ่าพันธุ์นกเก้าเศียรของข้าและเผ่าพันธุ์อรหันต์ของเจ้าจะมีความอาฆาตแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด เจ้ารู้หรือไม่ว่าความอาฆาตแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุดคืออะไร?” ราชันนกเก้าเศียรไม่สามารถยับยั้งอารมณ์โมโหของตนเองได้ ความโมโหของเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เมื่อสัมผัสได้ถึงวิกฤติที่ร้ายแรง เขาก็คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง พยายามที่จะขัดขวางเซี่ยปิง
ทว่ามันก็สายเกินไป
เซี่ยปิงประเคนหมัดออกไป เป็นเหมือนกับภูเขาไท่ซานที่ตกลงมา เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทาน ไม่สามารถขัดขวางได้
“ม่ายยย!”
ตวนมู่คังกรีดร้องออกมา เขารู้สึกได้ถึงหมัดนี้ที่อัดเข้ามาที่หน้าอกของตนเอง ตึบ ทั่วทั้งร่างกายของเขาระเบิดออกมา ศีรษะที่หลงเหลืออยู่อีกหกศีรษะได้ถูกทำลายไปทั้งหมด เปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อบด
ในช่วงเวลานี้ศีรษะทั้งเจ็ดของเขาได้ระเบิดออกมาทั้งหมดแล้ว แม้ว่าพลังชีวิตของนกเก้าเศียรจะทรหดอดทนอย่างมาก ทว่าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ
“ลูกชายของข้า!”
ราชันนกเก้าเศียรกรีดร้องออกมา เสียงคำรามของเขาเป็นเพียงพอที่จะเจาะทะลวงเหล็กและบดทำลายก้อนหิน ตึกอาคารขนาดใหญ่รอบๆต่างก็ปรากฏเป็นรอยแตกร้าวขึ้นมา คาช่า คาช่า แก้วรอบๆแตกกลายเป็นเสี่ยงๆ
“เจ้าบัดซบ บังอาจสังหารลูกชายของข้า ข้าและเจ้าจะไม่จบลงเพียงเท่านี้ จะไม่จบลงเพียงเท่านี้อย่างแน่นอน!” ราชันนกเก้าเศียรเดือดระอุขึ้นมา เขาไม่คาดคิดว่าจะเจ้าลาหัวโล้นนี่จะเลือดร้อนถึงเพียงนี้ กล้าสังหารลูกชายของเขาต่อหน้าต่อตาเขา
“อาตมาไม่มีเวลามาเสียกับโยม ในอนาคตหากโชคชะตาฟ้าลิขิต เราคงจะได้พบกันใหม่”
เซี่ยปิงโบกมือออกไป ทันใดนั้นก็ได้เก็บแหวนห้วงมิติของตวนมู่คังและคนอื่นๆมา ยึดครองมาเป็นของตนเอง จากนั้นก็หลบหนีออกไปสู่ระยะที่ห่างออกไป มีความเร็วที่รวดเร็วอย่างสุดขีด
เพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีออร่าที่ทรงอำนาจมากมายกำลังตรงเข้ามาที่นี่ บินเข้ามาจากทุกทิศทาง หากเขาล่าช้าอยู่ที่นี่ต่อไป บางทีอาจจะตกอยู่ท่ามกลางการห้อมล้อมได้ ซึ่งจะทำให้ตัวเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
“อย่าหลบหนี การที่สังหารลูกชายข้าและหลบหนีออกไปเช่นนี้ บนโลกนี้มีเรื่องที่สะดวกเช่นนี้ด้วยหรือ?!” ราชันนกเก้าเศียรเดือดระอุขึ้นมา กรงเล็บตบออกไป เกือบที่จะกระตุ้นพลังอำนาจทั้งหมดของเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนี้ นำพาแรงกดดันที่มหาศาลมา พุ่งโจมตีออกไปสู่เซี่ยปิง
พื้นที่รอบๆมีค่ายกลปรากฏขึ้นมามากมาย ทุกๆที่มีค่ายกลห้วงมิติเป็นจำนวนมาก พวกมันต่างก็ทับซ้อนกัน ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลสังหารระดับสุดยอด แอบแฝงไปด้วยแสงหนาวเหน็บที่น่าสะพรึงกลัว ฉีกผ่านทุกอย่าง ส่งเสียงหวิวแหลมดังขึ้นมา
“อาตมาไว้หน้าโยมแล้ว แต่ดูเหมือนว่าโยมจะต้องการทำให้ตนเองขายหน้า คิดจริงๆหรือว่าอาตมาจะเกรงกลัวโยม!”
เซี่ยปิงหันหน้าออกไป ไหลเวียนทักษะลมหายใจของช้างศักดิ์สิทธิ์ กระตุ้นพลังอำนาจของสายเลือดทั่วทั้งร่างกาย หัวใจเต้นรัวเหมือนกับกลองสงคราม ดูเหมือนกับเป็นดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุก็ว่าได้ ถ่ายทอดพลังอำนาจทั่วทั้งร่างกายออกไป หมัดได้พุ่งทะลวงออกไปโดยเล็งเป้าหมายไปที่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของราชันนกเก้าเศียร
ปัง!
หมัดนี้กำเนิดขึ้นมาจากพลังอำนาจของช้างศักดิ์สิทธิ์ ทะลวงจนท้องฟ้าแยกเปิด ราวกับว่าช้างศักดิ์สิทธิ์ได้เปิดเผยตนเองออกมา ฐานค่ายกลนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น เหมือนกับว่าจะมีเดม่อนนับไม่ถ้วนที่ต้องการออกมาจากรอยเปิดนี้ ส่งเสียงคำรามออกมา
ส่วนลึกของความว่างเปล่า มีรอยสีดำปรากฏขึ้นมา เหมือนกับว่าเป็นร่องรอยของเต๋า เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เหมือนกับว่าจะเจาะทะลวงห้วงอวกาศ เชื่อมต่อกับขุมนรก
ภายใต้หมัดนี้ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ ไม่ว่ามวลสารใดๆก็ต้องถูกบดทำลาย นี่คือพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เป็นการโจมตีที่เหนือจินตนาการ
ปัง!
เห็นเพียงแค่ว่ากรงเล็บขนาดใหญ่ถูกบดทำลายกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างกะทันหัน ทว่าเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของราชันนกเก้าเศียรก็ถูกโจมตีไปเช่นกัน ถูกอัดจนกระเด็นปลิวออกไปและระเบิดออกมากลางอากาศ เปลี่ยนกลายเป็นความว่างเปล่า ถูกอัดจนระเบิดหายไป
ก่อนที่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของราชันนกเก้าเศียรจะหายไปนั้น เขาเผยสีหน้าที่ตกตะลึงขึ้นมา ไม่กล้าเชื่อว่าเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของตนเองจะถูกทำลายไปโดยลาหัวโล้นที่อยู่ในระดับแกนทองเพียงเท่านั้น ช่างเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการจริงๆ
“ราชันนกเก้าเศียร ในอนาคตไม่ว่าอย่างไรก็อย่าก่อกรรมทำชั่วขึ้นมาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นในอนาคตอาตมาผู้นี้จะส่งโยมไปหาลูกชายเช่นกัน ไปพบปะกันใหม่ต่อหน้าพระพุทธเจ้า” เซี่ยปิงก็ทิ้งท้ายคำเหล่านี้ก่อนที่ราชันนกเก้าเศียรจะหายไป จากนั้นก็หลบหนีออกไปอย่างกะทันหัน
ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ไหลเวียนพลังอำนาจของหน้ากากไร้ตัวตน เปลี่ยนกลายเป็นนกตัวหนึ่ง ปกปิดออร่าของตนเองและบินหายไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!!!
ทันใดนั้นตัวตนที่ทรงอำนาจจำนวนนับไม่ถ้วนของดาวไม้มังกรก็มาถึงที่วิลล่าแห่งนี้ จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ได้สำรวจออกไปรอบๆ สำรวจตามซอกมุมต่างๆ ทว่าไม่ว่าพวกเขาจะพยายามเพียงใด ก็ไม่สามารถหาร่องรอยของเซี่ยปิงได้ เหมือนกับหายไปจากโลกนี้ก็ว่าได้