Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 896
GGS:บทที่ 896 สองปี
เรื่องที่เกิดการปรับปรุงกฎหมายอุตสาหกรรมยาสูบก่อนหน้านี้นั้นไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนทั่วไปเท่าไหร่นัก มีเพียงชนชั้นสูงไม่กี่ตระกูลเท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้
ในตอนนี้เรื่องดังกล่าวได้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันทั้งประเทศเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งมีการจับตามองกันอย่างใกล้ชิด แต่ถึงจะอย่างงั้นก็มีเพียงไม่กี่คนที่รับรู้ว่าซูจิ้งได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นจำนวน10%ของบริษัทยาสูบแห่งรัฐเรียบร้อยแล้ว หากเป็นคนที่มีส่วนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยาสูบเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่รู้ได้ยากแต่อย่างใด
“นี่มันอะไรกัน” ซ่งจุนยี่แทบจะจ้องมองข่าวแบบตาไม่กระพริบเลยตั้งแต่เห็นข่าวนี้
“ซูจิ้งทำได้ยังไงกัน หมอนี่ทำได้ยังไงกัน” ซ่งเกาหยุนเองก็มองข่าวนี้ราวกับเห็นผีเลยทีเดียว
ทั้งสองนั้นไม่คิดที่จะหาเรื่องซูจิ้งมาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะบ้าจี้ยอมเดินตามเกมของจ้าวซือเฟิงรายงานเรื่องของซูจิ้งไปนิดหน่อยก็ตาม
แต่ยังถือว่าโชคดีที่ซูจิ้งนั้นไม่พบเรื่องนี้เข้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ต่อให้จ้าวซือเฟิงตายต้องเป็นพวกเขาเองที่จะอยู่ไม่สุขแทนอย่างแน่นอน
ทั้งสองเข้าใจในทันทีว่าทำไมคนที่มีส่วนกับการตายของนายน้อยคนที่สองของตระกูลจ้าวถึงได้กล้ามาเดินเฉิดฉายหลังจากที่แกล้งตายไปแล้วโดยที่ตระกูลจ้าวไม่คิดจะทำอะไรแม้แต่น้อย
“เป็นไปได้ยังไงกัน” ที่เมืองจงหยุน ณ บ้านตระกูลหวัง หวังหยิงหมิงที่ได้อ่านข่าวนี้ก็รู้สึกโง่งมในทันที แน่นอนว่าเขานั้นย่อมรู้เรื่องนี้ดีกว่าใครเกี่ยวกับเรื่องหุ้นส่วน10%ของอุตสาหกรรมยาสูบแห่งรัฐ
เขาเองก็ได้มีโอกาสรับรู้เกี่ยวกับธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆที่ซูจิ้งเป็นเจ้าของ รวมถึงสายสัมพันธ์ต่างๆที่ซูจิ้งนั้นมีกับตระกูลหวังของเขา
หวังหยิงหมิงเองนั้นจะไม่แปลกใจและไม่ขัดขวางเลยสักนิดหากลูกสาวของเขานั้นตกหลุมรักและแต่งงานกับซูจิ้ง
แต่หลังจากที่เขาสังเกตพฤติกรรมทั้งคู่แล้วดูๆไปก็เหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นเขาก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรถึงแม้เขาอยากจะได้ซูจิ้งมาเป็นลูกเขยเขาแค่ไหนก็ตาม
แต่ในตอนนี้ความคิดเรื่องนี้ได้ผุดออกมาในใจเขาอีกครั้งหนึ่ง
หากไม่ใช่เพราะว่ามีการคัดค้านจากตระกูลในเรื่องนี้ตอนแรกล่ะก็ แน่นอนว่าเขานั้นย่อมสามารถกลับไปยังตระกูลหวังที่อยู่เมืองหลวงได้อย่างเต็มภาคภูมิได้แน่นอน
นั่นก็เพราะว่าธุรกิจต่างๆของซูจิ้งๆนั้นล้วนแล้วแต่ทรงพลังให้กับบ้านหลักตระกูลหวังได้ทั้งสิ้น มีหรือที่พวกนั้นจะยอมให้บ้านสาขาอย่างที่เมืองจงหยุนแห่งนี้มีอำนาจมากกว่า
เอาจริงๆถ้าหากว่ามีการแต่งงานกันจริงล่ะก็ ต่อให้เขาไม่ดิ้นรนกลับไป แค่คอยรับผลประโยชน์จากธุรกิจเหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ยังไงซะทั้งหมดทั้งมวลแล้วเรื่องทั้งหลายนั้นสูญสลายไปด้วยน้ำมือของเขาเอง
ยิ่งหวังหยิงหมิงคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากจะย้อนเวลากลับไปตบกะโหลกตัวเองในอดีตสักสองสามฉาดที่ทำเรื่องโง่ๆพวกนั้นลงไปเสียได้
“ซูจิ้ง สองปีที่ผ่านมานี่นายไปทำอะไรกันแน่เนี่ย” หวังหยานที่เห็นข่าวนี้เองก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมาพลางถอนหายใจดังๆ
เธอเองในตอนนี้ยอมรับหมดใจแล้วว่าได้ตัดสินใจผิดพลาดไปแต่เธอเองก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรมากนัก เธอเพียงแค่สงสัยเฉยๆว่าซูจิ้งนั้นไปทำอะไรมาในช่วงสองปีที่ผ่านไปเท่านั้นเอง
ด้วยการที่ซูจิ้งนั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มชนบทธรรมดาการที่เขาผลักดันตัวเองจนมาถึงขนาดนี้ได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมาก ตอนนี้ต่อให้เธอพยายามนึกถึงความเป็นไปได้ทุกอย่างออกมาแล้วก็ไม่สามารถจินตนากรออกมาได้อยู่ดี
การคงอยู่ของซูจิ้งในขณะนี้สร้างความตกใจต่อทุกคนชนิดที่ว่าอยู่ๆก็รถไฟวิ่งผ่านหน้าไปทั้งๆที่ไม่มีรางรถไฟเลยสักนิด
ในตอนนี้ทั้งตระกูลซ่ง ตระกูลหวัง ตระกูลจ้าว ตระกูลถัง ตระกูลโจว และห้าตระกูลใหญ่แห่งเมืองจงหยุน ต่างก็ได้รับข่าวนี้กันไปทั่วแล้ว
ไม่ใครคิดอีกต่อไปว่าซูจิ้งนั้นเป็นเพียงคุณชายสี่ที่เป็นเพียงแค่กาฝากคอยเกาะตระกูลหวังอีกต่อไป
แน่นอนว่ารวมถึงตระกูลใหญ่ประจำจังหวัดอย่างตระกูลลู่ ตระกูลเฉิง ตระกูลเกา และตระกูลหวู่เองที่ทันทีที่ได้ข่าวต่างก็ทำหน้าโง่งมไปกันทั้งตระกูล
ตอนนี้ตระกูลลู่และตระกูลเกานั้นข่มใจตัวเองไม่ให้ไปมีเรื่องกับซูจิ้งอีกในอนาคต แม้แต่ผู้นำตระกูลเฉิงเองทันทีที่เห็นข่าวนั้นทั้งตกตะลึง ทั้งอิจฉา และด่าทอตัวเองไปพร้อมๆกันจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
“ซูจิ้งเป็นใครกันแน่เนี่ย”เฉิงเสี่ยวหยุนได้พูดออกมาลอยๆด้วยความตื่นเต้นแบบออกนอกหน้า
“เฮ้อ…ดูเหมือนว่าพวกเราจะดูถูกเขาไปหน่อยนะ”เฉิงเสี่ยวฮงเองทำได้แค่เพียงสายหน้าพลางถอนหายใจออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
เขาหันหน้าไปยังชายแก่ตัวสูงที่กำลังทำหน้าแข็งๆอยู่ในตอนนี้ว่า “พ่อ พ่อยังคิดว่าเสี่ยวหนานคัดสินใจผิดอยู่อีกรึเปล่า”
ตอนนี้ผู้นำตระกูลเฉิงนั้นทำได้เพียงแค่กะพริบตาปริบๆเท่านั้น เขารู้สึกกระดากใจขึ้นมาในทันทีเมื่อได้ยินคำถามจากลูกชายของเขา แน่นอนว่าเขาเองก็รู้สึกไม่มีความสุขแบบสุดๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบ่ายเบี่ยงคำถามนี้เพื่อรักษาหน้าตัวเองยังไงดี
แถมเมื่อไม่นานมานี้เฉิงหนานนั้นยังถูกรับเข้าไปเป็นลูกสาวบุญธรรมของผู้ว่าการหู่ซะอีก เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไงกัน ต่อให้แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าเรื่องการรับเป็นลูกบุญธรรมตอบแทนความดีอะไรนั่นเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ
ไหนจะเรื่องที่ซูจิ้งนั้นร่วมมือกับเตียนจงยี่ในการพัฒนาผลิตผลและผลิตภัณฑ์ทางด้านการเกษตรนั่นอีก
แน่นอนว่าทั้งสองนั้นได้แรงสนับสนุนจากผู้ว่าการหู่ในการแข็งขันกับซุนหยูเฮงอย่างเต็มที่ เนื่องด้วยเฉิงหนานได้กลายเป็นลูกสาวบุญธรรมของผู้ว่าการหู่ไปแล้ว
ที่สำคัญที่สุดก็คือข่าวการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยาสูบอีก เขานั้นรู้ได้โดยไม่ต้องหาข้อมูลใดๆเลยว่าซูจิ้งนั้นอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้ทั้งหมดอย่างแน่นอน
หากเรื่องนี้ซูจิ้งทำได้ด้วยตัวเองล่ะก็ กับอีแค่เรื่องที่ว่าผู้ว่าการรับเฉิงหนานเป็นลูกสาวบุญธรรมนั้นง่ายยิ่งกว่าแช่แป้งซะอีก
ที่ผ่านมานั้นเขานั้นเพียงคิดว่าซูจิ้งต้องการอาศัยบุญบารมีของตระกูลหวังแห่งเมืองหลวงเท่านั้นเอง ใครจะไปคิดว่าเขานั้นคิดผิด คิดผิดแบบเต็มประตูเลยทีเดียว ซูจิ้งนั้นมีอำนาจมากพอชนิดที่ว่าผู้นำตระกูลหวังเองก็ยังเทียบไม่ได้
นึกถึงตอนที่ว่าเขานั้นคอยทับถมเฉิงหนานทุกครั้งที่ไม่ยอมฟังเขาในการแต่งงานกับจ้าวหยวน ยังดีกว่าไปเป็นผู้จัดการต๋อกต๋อยให้บริษัทง่อยๆพรรนั้น
แต่ตอนนี้ด้วยตำแหน่งของเฉิงหนานที่เป็นผู้จัดการของซูจิ้งนั้น เพียงแค่นี้ตระกูลจ้าวก็ยากจะหาเรื่องได้แล้ว
“พ่อ นี่พ่อจะโกรธไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย ผมก็รู้ว่าพ่อโกรธเสี่ยวหนานมากแต่ว่านี่จะโกรธนานไปแล้วรึเปล่า แถมตอนนี้เรื่องทั้งหมดก็ออกมาเป็นแบบนี้แล้วแสดงให้เห็นว่าเสี่ยวหนานนั้นคิดไม่ผิด
เสี่ยวหนานเองก็เป็นลูกสาวของพ่อนะ ยอมให้เสี่ยวหนานกลับมาซะทีได้ไหมเนี่ย”เฉิงเสี่ยวฮงพูดออกมา
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว พี่สาวสมควรมีอิสรภาพที่จะแต่งงานนะ ตลอดมาพอนั้นคอยพูดจาถากถางพี่มาตลอดแต่สุดท้ายแล้วพี่เขาก็ไม่ได้ตัดสินใจผิดอะไรเลยสักนิด และนี่พ่อใจเอาอะไรไปโทษพี่อีกล่ะ”เฉิงเสี่ยวหยุนเองก็สบโอกาสพูดสำทับออกมาในทันที
“เออๆๆ พวกแกอยากทำอะไรก็ทำไป” หัวหน้าตระกูลเฉิงนั้นโบกมือให้เป็นสัญญาณเชิงว่าจะทำอะไรก็ทำไปซะน่ารำคาญ ทั้งเฉิงเสี่ยวฮงและเฉิงเสี่ยวหยุนก็ถึงกับตาเป็นประกายในทันที
ต่อให้พ่อของพวกเขานั้นไม่ได้พูดออกมาเต็มปากก็ตาม แต่ตอนนี้ทั้งสองพี่น้องก็รู้ดีว่าตัวเองนั้นผิดพลาดตั้งแต่ต้น แต่ยังหาทางลงไม่ได้เฉยๆ
ความจริงแล้วผู้นำตระกูลเฉิงนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องที่ว่ายอมให้ลูกสาวของเขากับเข้าตระกูลสักที แต่เขาในตอนนี้นั้นกลัวว่าลูกสาวของเขานั้นจะไม่ยอมกลับมามากกว่า
ต่อให้ยอมกลับมาจริงแต่จะทำให้คนกว่าค่อนตระกูลนั้นกระดากใจอย่างหนักแน่นอนเพราะทุกอย่างที่พวกเขาทำไปกับเธอนั้นล้วนแล้วแต่เลวร้ายทั้งสิ้น
นอกจากเหล่าตระกูลใหญ่ทั้งหลายแล้ว คนที่คอยติดตามข่าวสารเองก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลและตกตะลึงกับเรื่องการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยาสูบนี้เช่นเดียวกัน และทุกคนต่างก็พูดคุยกันในทันทีในเรื่องที่ว่าซูจิ้งนั้นทำได้ยังไง
ในตอนนี้มีแต่คนสนใจว่าซูจิ้งนั้นพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดจากเด็กมหาวิทยาลัยบ้านนอกจนกลายมาเป็นสุดยอดขวัญใจมหาชนแบบตอนนี้ได้อย่างไร และพยายามขุดเรื่องราวต่างๆออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าทีเป็นไปได้
บางคนก็ว่าซูจิ้งนั้นล่องเรือฝ่าอุปสรรคมาอย่างยากลำบากจนก็ทั่งโชคดีที่ลมได้เปลี่ยนทิศ
บางคนก็ว่าซูจิ้งนั้นมีสุดยอดเทคโนโลยีที่สามารถหามหาสมบัติบนโลกได้อย่างง่ายดาย
บางคนก็ว่าซูจิ้งนั้นได้รับการช่วยเหลือจากเทพเซียนบางคน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะคาดเดาไปแบบไหนก็ไม่เรื่องไหนเลยที่ฟังดูแล้วมันน่าจะเป็นเรื่องจริง และยิ่งนานวันไปเรื่องต่างๆของซูจิ้งก็ยิ่งแพร่หลายออกไปจนทั่วโลกอินเตอร์เน็ต
จนกระทั่งมีใครบางคนยอมตัดใจรวบรวมเรื่องราวของซูจิ้งทั้งหมดบนโลกอินเตอร์เน็ตมาจัดทำเป็นไทม์ไลน์สรุปประวัติของเขาแต่ละช่วงเวลาแบบละเอียดยิบ
และส่งไปให้คนทั่วโลกอินเตอร์เน็ตได้ศึกษากันเพราะรำคาญที่มีการถกเถียงกันเรื่องความถูกต้องของข้อมูลของซูจิ้ง
ถึงแม้ข้อมูลดังกล่าวจะเยอะมากจนทำให้ยังไม่มีใครอ่านได้หมดแม้แต่คนรวบรวมเองก็ตาม
แต่ตอนนี้นั้นทุกคนบนโลกอินเตอร์เน็ตต่างก็ตกตะลึงในวีรกรรมต่างๆที่ซูจิ้งก่อไว้ในช่วงสองปีที่ล้วนแล้วแต่น่ามหัศจรรย์พันลึก
นี่ขนาดเป็นข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ตเท่านั้นแต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่าซูจิ้งนั้นจริงๆแล้วทรงพลังขนาดไหน