Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 878
GGS:บทที่ 878 สวนฟางหลินหลังการปรับปรุง
การปรับปรุงและบูรณะสวนฟางหลินเป็นไปด้วยความรวดเร็วและแล้วเสร็จในสามวัน ในส่วนหินประดับ ต้นไม้ และรูปปั้นนั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม พวกเขาเพียงแค่ซ่อมแซมส่วนที่เจอและเปลี่ยนแปลงพื้นทางเดินในบางส่วนก็เท่านั้นเอง แต่ถึงจะยังนั้นพวกมันก็ยังดูสดใสและสวยงามกว่าเดิมอยู่ดี
หลังงจากการปรับปรุงสวนและทำการเปิดใหม่แล้ว ในตอนเช้าตรู่ได้มีหลายๆคนที่เดินทางมายังสวนฟางหลินแห่งนี้ บางส่วนนั้นเป็นนักท่องเที่ยว และบางส่วนเองก็เป็นคนที่อาศัยอยู่ในระแวกนี้ คนที่อยู่ใกล้ๆนั้นสามารถซื้อตั๋วรายเดือนและสามารถเข้าได้ฟรีตลอดและทุกเมื่อได้
“ฉันได้ยินมาว่าสวนฟางหลินแห่งนี้ใช้เวลาปรับปรุงเพียงสองวันเองนะ ไม่รู้ว่าจะปรับปรุงอะไรบ้าง”
“ได้ยินมาว่าทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมนะ เหมือนจะแค่ซ่อมแซมเฉยๆเท่านั้นเอง ไม่น่ามีอะไรเปลี่ยนไปมากมายนัก”
หลังจากที่นักท่องเที่ยวสองสามคนเดินคุยกันไประหว่างเดินเข้าไปดูในสวนนั้นทันทีที่เห็นสวนข้างในทั้งสามคนก็ยืนนิ่งสนิท ถึงแม้ทุกๆอย่างยังคงดูเหมือนเดิม แต่ทุกคนต่างก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมมันดูสวยนิดหน่อย แต่ตอนนี้นอกจากความสวยงามที่ดูสวยมากกว่าเดิมแล้ว มันยังดูงามสง่า หรูหรา และสบายตาเมื่อได้เห็น
“พระเจ้า มันสวยมากเลย เพียงไม่กี่วันสามารถทำได้ขนาดนี้เลยหรอ”
“นายลองดูดีๆสิ มันแทบไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนะ แต่ทำไมมันดูต่างจากเดิมมากมายขนาดนี้”
“ใช่ นอกจากนั้นมันช่วยทำให้รู้สึกสบายอารมณ์น่าพักผ่อนมากกว่าเดิมอีก”
ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมานั้นต่างก็ประหลาดใจไม่ต่างกัน พวกเขาใช้เวลาอยู่ในสวนนี้นานอย่างไม่คาดคิดก็ว่าได้ จากเดิมนั้นนักท่องเที่ยวที่มาเพียงแค่เดินๆมองๆก็ผ่านไปเท่านั้น แต่มาตอนนี้สวนฟางหลินเป็นสวนที่ดูดีมีชีวิตชีวาดูสดชื่นหัวใจ
“โอ้… ตรงนี้มีรูปปั้นด้วยแหะ ช่างสวยจริงๆ”
“มันดูเหมือนของดีเลยนะ…อืม…ผลงานที่ดีนำพาบรรยากาศดีๆสินะ”
บางคนก็ได้สังเกตุว่าตรงกลางน้ำพุที่อยู่กลางสวนนั้นได้มีรูปปั้นหินอ่อนที่รายล้อมไปด้วยหินประดับตกแต่ง เป็นรูปปั้นหญิงสาวในชุดกระโปรงยาว ดูสวยงาม งามสง่า สวยและงามจนทำให้รู้สึกถึงความหรูหราราวกับของชั้นสูงเลยทีเดียว
ใบหน้าของเธอนั้นบิดเอียงเล็กน้อย มีใบหน้าเรียวยาวและผมที่ยาวสลวย ผมของเธอนั้นโดนน้ำที่รินออกมาจากหินประดับอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าเธอกำลังทำความสะอาดผมของตน ด้วยการยื่นคอออกไปจนทำให้ได้เห็นคอที่งามประดุจหงษ์ของเธอ มันช่างดูเย้ายวน ทรงเสน่ น่าหลงใหล และน่าจับตามอง
ถึงจะเป็นเพียงงานแกะสลักหินแต่กลับทำให้หลายๆคนสามารถจับจ้องจนตาไม่กระพริบได้อยู่นาน ยิ่งเวลานานไปเท่าไหร่ คนที่มาหยุดอยู่ส่วนนี้ก็ยิ่งล้อมรอบมามากขึ้นและไม่มีท่าทีจะจากไปไหน และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เพียงผู้ชาย เอาจริงๆส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ
“เป็นนางฟ้าที่ดูสวยงามซะเหลือเกิน”
“เห็นด้วย เป็นเพียงงานแกะสลักแต่ก็ทำให้หัวใจของฉันสั่นระรัวได้เลย”
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่างานแกะสลักนี้มันดูสวยยิ่งกว่างานปั้นวีนัสไร้แขนนั่นอีกนะ”
“อย่าพูดโง่ๆน่า นี่เป็นเพียงงานตกแต่งสวนเองนะ มันจะนำไปเทียบกับงานวีนัสไร้แขนนั่นได้ยังไงกัน”
“แต่ว่ามันงามจริงๆนะ มันงามเกินกว่าที่จะมาเป็นงานประดับสวนแบบนี้ได้”
“ฉันก็ไม่รู้หรอกในว่าใครปั้น ฉันไม่รู้ว่ามันมาอยู่นี่ได้ยังไง ฉันรู้แต่ว่างานแกะสลักหินนี้สวยจริงๆ”
“ฉันเองก็ไม่เคยเห็นรูปปั้นนี้เหมือนกันแหะ”
ในตอนนี้เหล่าคนที่เข้ามาดูนานจนเริ่มหายตกตะลึงแล้วก็ได้เดินจากไป มีเพียงบางคนที่ยังคงอยู่ จำนวนผู้ที่เข้าชมสวนฟางหลินมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่านัก
และส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็จะวนเวียนอยู่กับน้ำพุหินประดับที่อยู่ตรงกลางสวนนี้นับสิบครั้งได้ ต่อให้คนจะมากมายขนาดไหน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมาและในที่สุดก็ได้มีคนถ่ายรูปงานแกะสลักหินนี้ส่งขึ้นไปบนโลกอินเตอร์เนตจนได้ และนี่เองก็ทำให้เหล่าชาวเน็ตนั้นได้รับความพิศวงไปตามๆกัน
“แอนนา ฉันรู้สึกว่าสวนสไตล์จีนนี่มันให้ความรู้สึกดีจริงๆ มันดูคลาสสิกพร้อมกับทำให้รู้สึกหรูหรายังไงก็ไม่รู้”
ชายชาวต่างประเทศวัยกลางคนตัวสูงคนหนึ่ง ได้พูดความรู้สึกออกมาระหว่างดื่มด่ำกับธรรมชาติภายในสวนฟางหลินแห่งนี้
“มันสวยจริงๆอย่างที่ว่ามันนั่นแหล่ะ ช่างเป็นสวนที่ผ่อนคลายสายตาได้จริงๆ” หญิงชาวต่างชาติวัยกลางคนเองก็ได้ตอบรับมาด้วยรอยยิ้มหวาน
“ทำไมตรงนั้นถึงได้มีคนอยู่เยอะขนาดนั้นกันล่ะ” ชายชาวต่างชาติได้ชี้ไปที่ทางฝั่งน้ำพุ
“ไม่รู้เหมือนกันแหะ เราไปดูกันดีกว่า” หญิงต่างชาติพูดตอบ
คู่ชายหญิงต่างชาติได้รีบเดินไปยังจุดที่มีคนออกันอยู่ด้วยความรวดเร็ว ชายคนนั้นสูง 1.9 เมตร ส่วนผู้หญิงสูง 1.7 เมตร พวกเขานั้นใส่รองเท้ากีฬาที่มีส้นสูงอยู่แล้วทำให้ดูเด่นกว่าคนจีนทั่วไปมากนัก
พวกเขาสามารถมองผ่านทุกคนจนได้เห็นกับงานแกะสลักหินที่อยู่ท่ามกลางน้ำพุโดยมีหินประดับโดยรอบ นั่นทำให้ทั้งสองตกตะลึงทันที
“เพราะเจ้า งานสลักหินนั่นสวยจริงๆ” แอนนาพูดออกมาด้วยท่าทีตกตะลึง
แต่กับชายหนุ่มตัวสูง เขามีชื่อวว่าอลัน เขาในตอนนี้ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
แต่เขานั้นกลับแหวกฝูงชนเข้าไปเพื่อไปอยู่ให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขานั้นจ้องไปยังรูปแกะสลักที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เป็นประกาย
“เฮ้ยมาก่อนถึงก่อนสิ นี่แกไม่รู้รึไงกัน” ชายวัยกลางคนบ่นอุบออกมาพร้อมพูดด่าทอกับความไร้มารยาทของชายต่างชาติ
“เราชาวจีนต่างก็ถูกบ่นมาเสมอว่าเป็นพวกไม่มีมารยาท ลองดูนี่สิว่าใครกันที่ไม่มีมารยาท เหอะ” ชายวัยกลางคนอีกคนพูดออกมา
“ต้องขอโทษจริงๆค่ะ” แอนนารีบทำการขอโทษเป็นระวิง ด้วยภาษาจีนแย่ๆ อลันที่พึ่งจะรู้สึกตัวเมื่อได้เห็นดังนั้นเขาก็รีบไปขอโทษด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อทุกคนเห็นดังนั้นก็พอจะเลาๆได้ว่าสองคนนี้คงแค่ตกตะลึงมากเกินไปจนทำให้ไม่สนใจเท่านั้นจึงได้เลิกลากันไป
“งานแกะสลักชิ้นนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ” อลันได้หันกลับมาและทำการจ้องมองงานชิ้นนี้ด้วยความตกตะลึง
“ใช่แล้ว ฉันก็คิดว่างานชิ้นนี้ช่างสวยงามและดูมีอารมณ์ศิลป์มากๆเลย” แอนนาพยักหน้ารับ
“มันส่วนกว่าและดูมีความเป็นศิลปะมากกว่างานแกะสลักทั้งหลายที่ฉันเคยเห็นมาเลยนะ ดีไม่ดีมันสวยกว่างานวีนัสไร้แขนนั่นซะอีก ช่างเป็นงานศิลป์ชั้นเลิศและประเมินค่าไม่ได้จริงๆ” อลันพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
แอนนาเองเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน เธอนั้นเป็นนักเรียนศิลปะการวาดภาพและมีเซ้นส์ทางด้านศิลปะดีพอสมควร
การได้มาพบงานแกะสลักหินที่สวยงามแบบนี้เธอจะรู้คุณค่าของมันได้ยังไง เพียงแต่กับอลันนั้นเขานั้นทำงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์ และมีความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับงานปั้นแกะสลักหินแบบนี้
หากว่าเป็นเขาที่ได้พูดคำนี้ออกมาล่ะก็ แน่นอนว่าต้องไม่ผิดตามที่เธอคิดไว้อย่างแน่นอน
“ว่าแต่ ทำงานศิลป์ระดับนี้ถึงได้มาอยู่ในสวนแบบนี้ได้กัน” แอนนาได้พูดออกมาอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน จะบอกว่ามีศิลปินในจีนที่สามารถแกะสลักงานแบบนี้ได้ด้วยงั้นรึ” อลันได้พยายามนึกถึงอะไรบางอย่าง ถึงแม้ชาวจีนที่อยู่รอบๆนั้นจะไม่เข้าใจว่าทั้งสองจะพูดอะไรกัน แต่เมื่อดูท่าทางและน้ำเสียงก็พอจะบอกได้ว่า ทั้งสองคงจะปลาบปลื้มในผลงานชิ้นนี้ นั่นทำให้คนที่อยู่รอบๆรูสึกภูมิใจขึ้นมา และต่างก็คิดไปว่าศิลปินในจีนนี่ไม่ใช่แค่เล่นๆเลย
“ไม่มีทาง งานศิลปะชั้นสูงแบบนี้ไม่ควรจะมาจมจ่อมอยู่ที่นี่ มันอยู่ที่นี่ก็จะมีค่าแค่เพียงของประดับสวนที่ไม่มีใครรู้คุณค่าเท่านั้นเอง ฉันต้องนำมันกลับไปยังพิพิธภัณฑ์ที่อเมริกาให้ได้”
คิดได้ดังนั้น อลันได้เข้าไปพูดที่ข้างหูของแอนนาด้วยน้ำเสียงเบาๆ เขานั้นพยายามควบคุมอารมณ์แล้วแต่ทำไม่ไหวจริงๆ เขาได้บอกแอนนาด้วยใบหน้าที่แดงชานด้วยความตื่นเต้นว่าเขานั้นจะนำงานศิลป์ชิ้นนี้กลับไปยังอเมริกา