Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 859
GGS:บทที่ 859 ดอกไม้ไฟสุดแสนจะน่าตกตะลึง (2)
“ปัง”
ดอกไม้ไฟโดยรอบซูจิ้งดังขึ้นมาแทบจะพร้อมกันไป หลังจากนั้นอยู่ๆก็ได้มีประกายแสงอยู่รอบๆตัวซูจิ้ง ประกายแสงนั้นมีอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน
และพวกมันค่อยๆขยายใหญ่จนสามารถมองให้เห็นได้ว่าพวกมันมีรูปร่างเป็นผีเสื้อ
ผีเสื้อจำนวนนับไม่ถ้วนได้บินร่องรอยสะเปะสะปะไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางเสียงฮือฮาของเหล่านักเรียน ศิษย์เก่า และคณาจารย์โดยรอบ
ในตอนนี้พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยแสงสว่างจากดอกไม้ไฟผีเสื้ออันสวยงาม ที่บินไปมาเริงร่าราวกับมีชีวิตอยู่จริง ในตอนนี้ดินแดนแห่งเทพนิยายได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคนเรียบร้อยแล้ว
“ไม่จริงน่า”
ทุกคนที่เห็นฉากนี้ไม่ว่าจะเป็นจากต่อหน้า หรือผ่านการสตรีมอยู่ก็ตาม ทุกคนอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
“พระเจ้า ฉันต้องฝันอยู่แน่ๆ”
“ช่างสวยงามจริงๆ งามจนทำให้ตาของฉันลายไปหมดแล้ว”
ใครกันที่เป็นคนเริ่มแนวคิดที่ว่าดอกไม้ไฟที่ใหญ่สะดุดตาถึงจะดึงดูดใจคนกัน แม้แต่ดอกไม้ไฟขนาดเล็กเองก็สามารถดึงดูดใจคนได้ไม่แพ้ดอกไม้ไฟชุดใหญ่เช่นเดียวกัน ตราบใดที่เข้าใจถึงแก่นแท้แห่งดอกไม้ไฟจริงๆ
ฉือชิง ลู่ชิงหยา ซูเซิ่นเชวี่ย เย่ฉิง ครูหลิว เจียเจิ้งหนิง หยางตง หลิวหยง และทุกคนที่ได้เห็นฉากนี้ทั้งในสตรีมและเห็นตาหน้าต่างก็ทำหน้าโง่งมกันไปหมด
ซูหยาและถังเสี่ยวหยูนั้นค่อนข้างที่จะจ้องมองด้วยความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่กับคนอื่นแล้ว ดอกไม้ไฟที่กลายร่างเป็นผีเสื้อแบบนี้พวกเขาไม่เคยเห็นที่ที่ไหนมาก่อน
ตอนนั้นทั้งสองได้เห็นในตอนช่วงโพล้เพล้ทำให้ไม่ได้เห็นผีเสื้อนั้นชัดสักเท่าไหร่แถมยังมีตัวเดียวอีก แต่คราวนี้ไม่เหมือนในวันนั้นที่นอกจากเป็นเวลากลางคืนแล้ว ผีเสื้อยังมีมากมายหลายตัวจนแทบไม่หวาดไม่ไหวแบบนี้
ตอนแรกที่ทั้งคู่เห็นผีเสื้อเหล่านี้โผล่ออกมาต่างก็กอดกันแล้วกระโดดดีใจก่อนใครเพื่อน นี่แค่ทั้งสองเห็นเพียงผีเสื้อเท่านั้น ไม่รู้ว่าเมื่อเห็นดอกไม้ไฟรูปแบบอื่นของซูจิ้งแล้วจะแสดงท่าทางออกมาเป็นยังไงบ้าง
“เป็นไปได้ยังไงกัน” เผิงเหวินซู่ที่กำลังดูการสตรีมอยู่ในตอนนี้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบที่จะต่อยเข้าไปในจอคอมพิวเตอร์ด้วยความตกใจตั้งแต่แวบแรกที่เห็นดอกไม้ไฟผีเสื้อลอยออกมา
“พระเจ้า เกิดขึ้นได้ยังไงกันน่ะ” เหล่าคนที่อยู่รอบๆเผิงเหวินซู่เองก็จ้องมองจนตาแทบจะไม่กระพริบ
ด้วยการที่ทุกคนในที่นี้เป็นคนที่อยู่ในวงการดอกไม้ไฟหมดทุกคน ทำให้ภาพที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นน่าตกตะลึงมากกว่าคนทั่วไปจนออกไปในเชิงตกใจเสียมากกว่า
ถึงแม้จะรู้ดีว่านี่เป็นการสตรีมสดแต่พวกเขาก็ยากที่จะเชื่อได้ ในใจของทุกคนในตอนนี้พยายามหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาบอกว่าฉากที่เห็นอยู่นี่คือของปลอมแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา หรือหาเหตุผลมาอธิบายได้
เพราะทุกคนต่างก็เห็นกันอยู่ว่าเหล่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์แบบจะๆกับตาก็ตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน
ก่อนที่จะมีใครรู้สึกตัวว่ากำลังลืมหายใจและได้มีโอกาสสูดหายใจเข้าไปฟอดใหญ่นั้น ซูจิ้งได้หยิบดอกไม้ไฟรูปปราสาทออกมาอันหนึ่งและทำการจุดชนวนดอกไม้ไฟก่อนที่จะวางไว้ที่พื้น เมื่อชนวนได้ไล่ไปถึงที่ฐานของปราสาทและได้ปรากฎตัวเลขบางอย่างออกมาที่ฐานของปราสาท
หลังจากนั้นปราสาทได้ลอยขึ้นไปและบินอยู่นิ่งๆอยู่บนท้องฟ้า แทบจะเรียกได้ว่าสูงกว่าดอกไม้ไฟทั่วไปก็ว่าได้
เมื่อมันขึ้นไปถึงสุดฟ้ามันก็ได้ระเบิดจนเกิดประกายแสงไปทั่วท้องฟ้าโดยพุ่งออกไปเป็นวงกลมสมบูรณ์และค่อยร่วงลงมาเป็นสายพร้อมกันๆราวกับน้ำตกก็ว่าได้
และเมื่อต้นแสงล่วงลงมียังพื้น มันก็ได้เด้งขึ้นและกระดอนออกไปราวกับเป็นร่มขนาดใหญ่คลุมอยู่บนพื้น
ทุกคนที่เห็นในตอนนี้ได้แต่มองอยู่นิ่งๆเพราะกลัวเสียบรรยากาศ
“โอ้ พระ คุณ เจ้า….”
“ช่างสวยงามเหลือเกิน ราวกับดาวตกแน่ะ”
“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเทคโนโลยีการทำดอกไม้ไฟจะมาถึงขั้นนี้แล้ว”
“ดอกไม้ไฟที่ฉันเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ถือได้ว่าไม่ได้เรื่องอะไรเลยแม้แต่น้อยจริง ของพวกนั้นก็แค่พุ่งขึ้นไปแล้วก็ระเบิดจนเป็นประกายแสงเท่านั้นเอง”
“ฉันผิดเองที่ไปบอกก่อนหน้านี้ว่าก็อีแค่งานแสดงดอกไม้ไฟจะไปทำให้ใครสนใจได้ ฉันรู้แล้วล่ะว่าต้องเป็นงานดอกไม้ไฟนี่เท่านั้นถึงจะสะกดใจผู้คนได้”
“คุณพระคุณเจ้า นี่คือดอกไม้ไฟจริงๆอย่างนั้นหรอ เดี๋ยวนะ งั้นวีดิโอวันนั้นก็ของจริงน่ะสิ” เผิงเหวินซู่ในตอนนี้ตกใจจนเกือบตกเก้าอีกไปแล้ว
วีดิโอดอกไม้ไฟที่ถูกปล่อยมาในอินเตอร์เน็ตเมื่อไม่กี่วันก่อนเองก็มีลักษณะแบบนี้ เขานั้นได้ยืนยันนั่งยันนอนยันกับทุกคนแบบจริงจังไปแล้วว่ามันคือของปลอม แต่วันนี้เขากลับเห็นมันด้วยตาตัวเองนี่ช่าง…
ทุกๆคนที่อยู่โดยรอบเผิงเหวินซู่ในตอนนี้ต่างก็รำพึงรำพันออกมาว่าเป็นไปไม่ได้ราวกับพวกเขานั้นได้เตรียมตัวก่อนจะตกลงสู่ขุมนรกก็ไม่ปาน
“ดึ่ง ดึ่ง ดึ่งดึ้ง ดึ่ง ดึ่ง ดึ้งดึ่ง…” ในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งย่านชานเมือง โทรศัพท์ของชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีเสียงดังขึ้น เมื่อเขาได้เห็นว่าใครโทรศัพท์มาหาเขาก็ได้รับสาย มีเสียงที่เขาคุ้นเคยได้พูดออกมาจากอีกฝั่งว่า “เปิดQQดูซะ ฉันส่งลิ้งวีดิโอไปให้นาย”
“วีดิโออะไรล่ะ” ชายหนุ่มคนนั้นถามออกมาแต่สายตาก็เปล่งประกายด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ฉันหาข้อพิสูจน์ให้นายได้แล้วว่านายพูดจริง มันเป็นวีดิโอดอกไม้ไฟ”
เมื่อชายหนุ่มได้เห็นดังนั้นเขาจึงได้เข้าQQดู เมื่อเขากดเข้าไปดูลิ้งวีดิโอดังกล่าว เขาได้จ้องมองไปสักพักก่อนที่จะได้ถามกลับไปในQQว่า “ไปได้วีดิโอนี้มาจากไหน เท่าที่ดูแล้วนี่ไม่ใช่วีดิโอที่ฉันถ่ายไว้ มันชัดกว่าเยอะโคตรๆราวกับเห็นตรงหน้าเลย”
“มันเป็นวีดิโอส่วนหนึ่งในการแสดงสุดยอดงานแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้ง เขานั้นได้จุดดอกไม้ไฟพวกนี้ที่โรงเรียนมัธยมต้นที่หนึ่งของเมืองจงหยุน ตอนนี้ยังถ่ายทอดสดอยู่แลย”
“แหม่เอ๊ย เห็นไหมล่ะบอกแล้วว่าฉันนั้นไม่ได้ตาฝาดหรือฟันกลางวันทั้งนั้นแหล่ะ ฉันก็แค่ถ่ายวีดิโอไปก็เท่านั้น แถมยังใช้เทคนิคพิเศษไม่เป็นอีก
ที่นี้เชื่อกันรึยัง ไอ้คนที่โง่เรื่องเทคโนโลยีอย่างฉันแค่ใช้โทรศัพท์สมัยนี้เป็นก็บุญหัวแล้ว ไอ้เวรตะไลนั่นนอกจากจะไม่เชื่อแล้วยังมากล่าวหาฉันเสียอีก ว่าแต่ช่วยส่งลิ้งสตรีมให้ฉันหน่อยสิ”
ชายคนนี้ได้ส่งลิ้งวีดิโอที่ซูจิ้งกำลังจัดการแสดงดอกไม้ไฟอยู่นี้ไปยังไมโครบลอกของเผิงเหวินซู่พร้อมพิมเอาไว้ว่า
“เฮ้พี่ชาย ตอนนี้พวกแกก็สมควรจะเชื่อฉันได้แล้วนะว่าวีดิโอของฉันเป็นของจริง หากพวกแกยังไม่เชื่อก็จงไปดูสตรีมของซูจิ้งที่กำลังทำการเปิดการแสดงดอกไม้ไฟอยู่ในตอนนี้ซะ
ฉันเองก็ได้เห็นแล้วว่าช่วงสองสามวันมานี้แถวบริเวณโรงงานดอกไม้ไฟที่ปิดไปแล้วมีความเคลื่อนไหวอยู่ ฉันขอเดาว่าวันนั้นซูจิ้งน่าจะกำลังทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ และเป็นฉันเองที่โชคดีได้เห็น”
คนอื่นๆเองที่เห็นข้อความนี้ก็ได้คลิ๊กเข้าไปดูลิ้งดังกล่าว และได้แห่กันไปถล่มไมโครบลอคของเผิงเหวินซู่ให้ออกมาพูดอะไรบ้าง
ตอนนี้ไมโครบลอคของเผิงเหวินซู่ดูดีมีชีวิตชีวาแบบสุดๆ
“ผู้เชี่ยวชาญห่….าอะไรวะ ดอกไม้ไฟนี่เป็นของจริงโว้ย”
“มันเป็นของที่พวกแกไม่มีปัญญาผลิตออกมาได้เลยบอกว่าของคนอื่นเป็นของปลอมสินะ”
“ไม่ใช่ของจริงหรอกน่า นี่ทุกคนเชื่อกันไปได้ยังไงเนี่ย”
“เฮ้เฮ้ โปรดเบิกตาอันมีดบอดของนายให้กว้างๆดูว่าข้างบนมีลิ้งที่กำลังแสดงการสตรีมการจุดดอกไม้ไฟแบบในวีดิโอนี้อยู่ เข้าไปดูก่อนแล้วค่อยมาพูดก็ไม่สายนะ”
“จริงๆนะ แถมยังเป็นดอกไม้ไฟสุดอลังการแบบเดียวกันอีก ที่สำคัญที่สุดการแสดงยังไม่จบด้วย เข้าไปดูกัน”
“ฉันโง่เอง นั่นมันของจริงนี่หว่า”
“เลิกคุยได้แล้ว ไปดูการสตรีมดีกว่า เดี๋ยวเสร็จแล้วค่อยไปถล่มเผิงเหวินซู่”
เมื่อเห็นข้อความนี้แล้ว เหล่าชาวเน็ตที่ติดตามเรื่องนี้ก็เข้าไปดูการสตรีมของซูจิ้งที่อยู่ห่างๆในทันที บรรยากาศในการแสดงดอกไม้ไฟตอนนี้ยังคงดำเนินต่อไป
ในช่วงเวลาถัดมาซูจิ้งได้ทำการจุดดอกไม้ไฟชุดที่สาม คราวนี้ดอกไม้ไฟนี้มีเพียงอันเดียว
ลักษณะของดอกไม้ไฟก่อนจุดนี้ลักษณะภายนอกของมันขนาดใหญ่มาก ใหญ่จนขนาดพอๆกับไหล่ของซูจิ้งได้ ความกว้างก็พอๆกับขนาดลำตัว และทั่วทั้งอันมีสีแดง
ที่สองข้างของมันมีบางอย่างยื่นออกมาราวกับเป็นปีก และดูเหมือนจะมีหัวรูปทรงมังกรอยู่ ใช่แล้ว มันคือรูปร่างของมังกรตามความเชื่อฝั่งตะวันตก และเห็นได้ทั่วไปในรูปแบบของเล่นต่างๆ
หลังจากได้จุดไฟไปแล้ว มังกรตัวนี้ได้พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า โบยบินขึ้นไปสูงกว่ายี่สิบเมตรหรือมากกว่านั้น และทันใดนั้นมะก็ได้ระเบิดออก
ไม่เหมือนกับดอกไม้ไฟทั่วไป ประกายแสงที่ออกมานั้นกลับกลายเป็นมังกรไฟสีแดงฉานและกางปีกออกมา
ด้วยขนาดปีกที่กว้างกว่า 4-5 เมตร มันดูราวกับมังกรไฟที่มีชีวิตอยู่จริง
หลังจากมันสยายปีกออกมากลางอากาศแล้ว มันได้บินวนไปรอบๆ ก่อนที่จะกดหัวของตัวเองและทำให้ระดับความสูงของมันลดระดับลงมาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันเพิ่งจะเห็นทุกคนและพยายามโฉบลงมาหมายจะงับหัวเล่น
ฉากนี้ทุกคนต่างก็ก้มหลบ บางคนก็ร้องกรี๊ดกร๊าด หลายๆคนถึงกับพยายามวิ่งหนีออกไปข้างนอกสนาม แต่มังกรตัวนี้ก็ไม่ได้ทำอันตรายอะไรแก่ผู้ชมโดยรอบ
มันได้โผตัวกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับความสูง 20-30.เมตรก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะค่อยจางหายไป และทันทีที่มันหายไปก็ปรากฏประกายไฟกระจายไปทั่ว เปลี่ยนเป็นฝนดาวตกกำลังร่วงหล่นมาจากฟากฟ้า
คราวนี้เหล่าคนดูไม่เพียงรู้สึกสับสน สงสัย ตกใจ และตื่นตะลึง ราวกับเพิ่งออกมาจากห้วงฝัน ทุกคนในตอนนี้ต่างก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ดอกไม้ไฟแบบนี้จะไปมีอยู่บนโลกนี้ได้ยังไงกันล่ะ