Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 679
การสตรีมที่แสนบ้าคลั่ง
ในช่วงเวลาในขณะที่ซูจิ้งทยานตัวออกไปพร้อมสเกตบอร์ด เต็งหมินจี้ ปันเสวี่ย เฉียนหยินหนิง และทุกคนที่กำลังดูการสตรีมอยู่นั้นต่างหยุดหายใจ เพียงแค่เห็นตอนที่ซูจิ้งกำลังทยานอยู่ในอากาศ นั่นก็ทำให้ทุกคนประทับใจแล้ว แต่เมื่อทันทีที่ซูจิ้งพาสเก็ตบอร์ดที่เขากำลังเล่นขึ้นไปไถลบนราวเหล็กจับ ลงบันไดจนกระทั่งเกิดเสียงครูดขึ้นมา
เขานั้นทรงตัวบนสเก็ตบอร์ตในท่วงท่าที่สง่างาม ดูสมดุลเหมือนไม่ต่างกับการไถลธรรมดาบนพื้นมาแม้แต่น้อย จนกระทั่งหลุดจากราวบนได เขากระโดดยกตัวขึ้นพร้อมถีบสเก็ตบอร์ดให้มันหมุนหลายรอบ ก่อนจะเหยียบมันลงบนพื้นอย่างสวยงาม
ความจริงแล้วมันก็เป็นเพียงท่าพื้นๆที่หลายๆคนก็ทำได้ แต่ด้วยความสูงและความเร็วที่ซูจิ้งทำนั้นมันเร็วมาก นอกจากนั้นเขาทำมันเหมือนกับเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา มันพิเศษซะจนถ้าคนที่เป็นแชมป์สเก็ตบอร์ดมาเห็น ยังต้องคิดว่าต่อให้พวกเขาทำท่าเดียวกันก็ด้อยค่ากว่ามากนัก
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เขากระโดดออกจากราวบนไดความสูงที่เขาใช้นั้น มันสูงจากจุดที่กระโดดราวๆ สองเมตร มันเหมือนกับว่าเขากำลังบินอยู่กลางอากาศ และจุดที่ลงเขาเลือกจุดลงที่เป็นพื้นที่ช่องเดินที่มีสวนดอกไม้ข้างๆ เขานั้นลงได้ตรงกลางพวกมันพอดี ซึ่งไม่มีทางที่คนเล่นทั่วไปจะเลือกพื้นที่แบบนั้นเพราะมันค่อนข้างเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
“แ-งเอ๊ยยยย โคตรเจ๋งอ่ะ”
“มันน่าอัศจรรย์จริง”
“สวนนั้นไกลจากราวตั้งสามเมตร เขากระโดดไปง่ายๆเลยอ่ะ”
“แถมมันยังเท่ด้วย”
“พี่จิ้งเก่งที่สุดเลย”
“อย่าเพิ่งเอะอะกันสิ เหมือนจะยังไม่หมดนะ”
ทั้งหมินจิ้ ปันเสวี่ย และหยินหนิง รวมถึงคนที่ดูการสตรีมทุกคนต่างทึ่งอึ้งกิมกี่ในเวลาเดียวกัน
ในขณะนี้ตัวเลขผู้เข้าชมสูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาได้แต่จ้องดูไปยังซูจิ้งว่าจะทำอะไรต่อไป ซูจิ้งได้ไถลไปข้างๆ แปลงดอกไม้ ทันใดนั้นเขาก็กระโดดพร้อมตีลังกากลับหลังไปบนอากาศ ในท่วงท่าที่ดูสง่างามแปลกตา ทั้งแบบกลับหน้า กลับหลัง กลับข้าง มันดูยากมากๆ แต่ซูจิ้งทำมันได้เป็นธรรมชาติทั้งๆที่เขาทำพวกมันอยู่บนสเก็ตบอร์ด ที่ต้องทรงตัวตลอดเวลาแต่ไม่พลาดเลยซักครั้ง
ครั้งนี้ซูจิ้งไถลสเกตบอร์ดไปซักสี่เมตรโดยเร่งความเร็วขึ้นทันใดนั้น เขากระโดดขึ้นอีกครั้งเขาพาตัวเขาทยานขึ้นไปพร้อมสเกตบอร์ด ข้ามต้นไม้ต้นเล็กๆต้นหนึ่ง ถ้ามองดูดีจะเหมือนกับหนังกำลังภายในที่ใช้ปลายเท้าเหยียบยอดไม้ แล้วกระโดดไปต่อแต่นี้เขาใช้ล้อสเกตบอร์ด แตะไปบนยอดต้นไม้ต้นเล็กนั้นแทน แล้วก็หล่นลงบนราวจับเหล็กที่อยู่ข้างๆนั่น เขาพาสเกตบอร์ดไถลไปบนราวจับจนสุดราวลงบนพื้นอย่างสวยงาม ในครั้งนี้ต่างออกไป ตอนที่ก่อนจะสุดราวกั้น เขาดีดตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมสเกตบอร์ดพร้อมออกท่าทางต่างๆ ในขณะที่อยู่บนอากาศ เหมือนกับปุยนุ่นที่หมุนตัวพลิกกลับไปมา ท่ามกลางกระแสลมอยู่นานจนกว่าจะหล่นลงพื้น ทุกคนที่ดูต่างก็คิดไปว่าซูจิ้งลอยอยู่ในอากาศได้นานมาก นานจนเหมือนลอยอยู่เป็นอาทิตย์กว่าจะลงพิ้นได้
ในที่สุดซูจิ้งก็ลงพื้นได้อย่างสวยงาม เขานั้นไถลตัวต่อไปอีกเล็กน้อยก่อนที่จะหยุดไถลแล้วใช้เท้าเหยียบสเกตบอร์ดให้ลอยขึ้นมาอยู่ในมือ
“ฉันปลื้มมากๆๆๆๆ ช่างดูเท่ หล่อ คม บาดใจ ชวนตื่นเต้น น่าหลงไหลมากเลย ถ้าบอกว่าเขาติดจรวดไว้กับตัวก็เชื่อนะเนี่ย”
“ฉันเกือบลืมหายใจไปเลย ฉันจ้องจนตากลมเป็นปลาเลยหล่ะ”
“ฉันมองตาไม่กระพริบจนตาแข็งเจ็บตาไปหมดแล้ว”
“มนุษย์ทำได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ ไม่ใช่แล้วหล่ะ”
“เห็นด้วย ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์แล้ว”
“ซูจิ้ง เทพขนาดนี้อยู่แต่บนสวรรค์ดีกว่า”
“ฮ่าฮ่า ฉันต้องอยู่บนท้องฟ้าแน่ๆ พวกนายต้องเห็นฉันนั่งเครื่องบินออกจากหลังอินทรีย์ทองแหงๆ”
“พี่จิ้ง ผมขอคุกเข่าคารวะ โปรดรับการคารวะนี้ด้วย”
นอกจากข้อความแนวนี้ยังมีข้อความก่อกวนอย่าง
“มู่หยุนทำได้ดีกว่า”
“มู่หยุนทำได้ดีกว่า”
“มู่หยุนทำได้ดีกว่า”
“เซี่ยหมิงชางเก่งกว่าตั้ง100เท่า”
“เซี่ยน้อยเก่งกว่าตั้ง500เท่า”
“เทียนหยู เทียนยี่ เก่งกว่า”
“เทียนหยู เทียนยี่ เก่งกว่าตั้ง100เท่า”
“หลงชิฉางเก่งกว่าตั้ง100 เท่า”
“สองพี่น้องตระกูลเทียนเก่งกว่าตั้ง200 เท่า”
ตามมาด้วยข้อความอวยดาราคนอื่นเถียงกันอย่างถล่มทลาย แต่ในช่วงระหว่างการสตรีมทุกคนที่พิมข้อความเหล่านี้ ต่างก็จ้องซูจิ้งตาไม่กระพริบจนถึงขั้นหยุดหายใจ ไม่มีใครสนใจจะพิมข้อความพวกนี้อีก ด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้ซูจิ้งเป็นที่โดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม หนึ่งเป็นผลมาจากช่วงนี้ซูจิ้งเป็นที่กล่าวถึงในโลกอินเตอร์เนตอยู่แล้ว อีกหนึ่งคือการสตรีมนี้ที่ทำให้ตกตะลึงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ใครจะไปคิดว่าจากการสตรีมที่ไม่มีอะไรเลยจะกลายเป็นกระแสโด่งดัง ได้มากมายขนาดนี้ ช่างน่ากลัวจริงๆ
พูดถึงเรื่องน่ากลัว
เต็งหมินจิ้แทบจะสิ้นสติไปในทันที เขานั้นเคยอิจฉาช่องสตรีมอันดับหนึ่งในเว็บสตรีมที่ทำอะไรก็มีแต่คนดู แต่เมื่อเทียบกับซูจิ้งที่มาแต่ตัวเปล่าแล้ว จำนวนคนดูผ่านช่างของเขาขึ้นหลักแสนคนในพริบตา นอกจากนั้นช่องทางในอินเตอร์เนตอื่นๆ อย่างวีแชต ฟอรั่ม โพสต์บาร์ ไมโครบล็อก แม้แต่ข่าวทีวียังเผยแพร่สิ่งที่ซูจิ้งทำแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก นั่นทำให้ซูจิ้งโด่งดังมากขึ้นแน่นอน
ในไมโครบลอกของซูจิ้งยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“ไปดูพี่จิ้งกัน พี่เขาสตรีมการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมอยู่”
“ห้ะ พี่จิ้งไปสตรีมได้ไง เขาไม่มีอะไรทำแล้วหรอ”
“ไม่แน่ใจนะแต่ได้ยินว่าเขาไปช่วยค่ารักษาพยาบาลของแม่ของหมินถัง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปจบที่การสตรีมได้ไง”
“ไม่ว่ายังไงก็ไปแจมซักหน่อยดีกว่า”
“ไปกันไปกัน ไม่สิไม่ต้องไปละ รู้สึกว่าพี่เขาสตรีมเสร็จแล้วอ่ะ บอกช้าไปหน่อย ”
“แงงงง ไม่ทันอ่า…”
“ไปดูทีหลังก็ได้น่า ว่าแต่ดูเหมือนจะยังทันอยู่นะ เหมือนพี่เขาจะเล่นต่อ”
“ไปสิ ต้องไปดูแน่นอน จะพลาดได้ยังไง”
การเคลื่อนไหวของชาวเน็ตได้สร้างแรงกระเพื่อมจนกระทั่งผู้จัดการเว็บไซต์ได้ยินเรื่องราวจนต้องเข้าไปดูด้วยความตื่นเต้น มันเป็นเรื่องยากอย่างไม่ต้องสงสัยในการจะชวนดาราซักคนมาทำการสตรีมโดยเฉพาะดาราอย่างซูจิ้งถ้าจะให้สตรีม ต้องยอมจ่ายเงินอย่างมหาศาลอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ซูจิ้งมาด้วยตัวเองถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมเก่งหรือไม่เก่ง แค่เขาโผล่หน้ามาก็เรียกคนดูได้อย่างล้นหลามแล้ว
แทบไม่ต้องพูดถึงระบบเซิฟเวอร์เว็บตอนนี้ทุกคนที่รับหน้าที่ กำลังเร่งจัดการอย่างจ้าละหวั่น นอกจากยกเลิกขีดจำกัดคนดูในช่องที่ซูจิ้งกำลังสตรีมแล้ว พวกเขายังต้องใช้ทรัพยากรที่เตรียมไว้ให้ช่องสตรีมอันดับหนึ่งของเว็บรวมถึงช่องอื่นๆ ยกให้ช่องที่ซูจิ้งกำลังสตรีม เพื่อไม่ให้การสตรีมของซูจิ้งต้องติดขัด ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่กับพวกเขาแน่นอน
ตอนนี้ทั้งหมินจี้ ปันเสวี่ย และหยินหนิง กำลังวิ่งลงจากบันไดไปหาซูจิ้งที่กำลังเดินกลับมา พวกเขากำลังจ้องมองซูจิ้งอย่างตะลึงเหมือนเห็นผี พวกเขามองแบบไม่ละสายตา
“ พี่จิ้ง ลูกพี่จิ้งสุดยอดไปเลย” ตอนนี้สรรพนามที่ใช้เรียกซูจิ้งของหมินจี้เปลี่ยนไปแล้ว เขาเองก็เคยเห็นวิดีโอที่ซูจิ้งขี่อินทรีย์ไปขึ้นเครื่องบิน ถึงมันจะดูตื่นตาแต่มันก็เป็นเรื่องที่ไกลตัวเขาเกินไป แต่นี่ในวันนี้ที่นี่ต่อหน้าเขานั้นเขาได้เห็นซูจิ้งใช้สเกตบอร์ดของเขา เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมกลางอากาศมันทำให้เขาตื่นตายิ่งกว่า
“คุณซู คุณนี่ไม่กลัวอะไรเลยรึไง” เฉียนหยินหนิงมองซูจิ้งด้วยความประหลาดใจ เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาคนนี้คือคนที่เรียนจบมาจากที่เดียวกัน
ปันเสวี่ย เองก็มองไปที่ซูจิ้งด้วยตาเป็นประกายแบบที่ไม่รู้จะพูดว่าอะไรเลย
“ฮ่าฮ่า ก็แค่มีความสามารถด้านกีฬาดีหน่อยน่า” ซูจิ้งพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหันไปพูดกับกล้องว่า
“สวัสดีครับทุกคน หวังว่าการสตรีมของผมในวันนี้จะถูกใจทุกคนนะ ยังไงก็อย่าไปเลียนแบบทำตามกับซะล่ะเพราะผมเอง ก็ฝึกมาไม่น้อยเลยกว่าจะทำได้ ถ้ามีคนคิดว่าทำได้ง่ายๆ แล้วไปทำตามล่ะก็ ต้องเกิดอุบัติเหตุเจ็บหนักแน่นอน แล้วก็วิธีการเล่นแบบนี้ผมคิดว่าพวกคุณไม่น่าจะได้เห็นมาก่อน เพราะฉะนั้นหากใครมีคำถามก็ขอให้ถามได้ผมพอจะแนะนำได้บ้าง แบบตัวต่อตัวหล่ะนะ ส่วนใครที่อยากเห็นผมเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่างอื่นหล่ะก็ถ้าไม่ได้วุ่นมากล่ะก็ รอผมอีกแป๊บนึงนะเดี๋ยวขอลองคิดก่อนว่าจะสตรีมอะไรต่อ เอาหล่ะสำหรับการสตรีมสเก็ตบอร์ดนี้ผมคิดว่าน่าจะพอได้แล้ว ผมก็ไม่อยากรบกวนช่องอื่นมากไปกว่านี้แล้วด้วย ยังไงก็ขอโทษช่องอื่นด้วยแล้วกันนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจก่อกวนพวกคุณนะ บายยยยย”
หลังจากได้ยินคำพูดของซูจิ้งนั้น ได้ทำให้เกิดคลื่นให้ความตื่นเต้นของผู้คนเป็นอย่างมาก ถึงแม้การสตรีมสเก็ตบอร์ดจะจบลงไปแล้ว แต่ช่องข้อความก็ยังมีความเคลื่อนไหว พวกนั้นต่างก็คุยกันว่าซูจิ้งจะทำอะไรต่อไปนั่นก็เพราะว่า ถ้าเพียงซูจิ้งบอกแค่ว่าจะมาเล่นสเกตบอร์ดก็ยังไม่เท่าไหร่ เพราะทุกคนก็เห็นฝีมือเขากันแล้วแต่นี่ เขาบอกกีฬาเอกซ์ตรีมซึ่งภายใต้คำๆนี้แทบจะบอกได้ว่า มีกีฬาเกือบทุกประเภทแต่หฤโหดกว่าปกติ นั่นทำให้ทุกคนต่างจับตาคอยการสตรีมอย่างอดใจแทบไม่ไหวกันแล้ว
ความจริงนั้นซูจิ้งตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยได้บังเอิญ ได้เรียนวิธีการเล่นสเกตบอร์ดมานิดหน่อยเท่านั้น เขาก็ไม่คิดว่าด้วยการที่เขานั้นฝึกฝนร่างกายตัวเองจะส่งผลต่อ ทักษะในการเล่นกีฬาด้วยเช่นกัน แต่ในตอนนี้ถือได้ว่าร่างกายของเขายังฝึกฝนได้ไม่ดีพอ ที่จะเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมได้ดีอย่างแท้จริง