Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 806 ภัตตาคารใต้ท้องทะเล
ตอนที่ 806 ภัตตาคารใต้ท้องทะเล
…………….
สั่งผลิต ‘สมรภูมิเอาชีวิตรอด’
หลินเยวียนไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับชื่อเกม เขาสั่งผลิตเกมจากระบบโดยตรง หลังจากนั้นจึงสรุปข้อมูลที่จำเป็นในการออกแบบภายในหนึ่งวัน และส่งมอบให้กับซุนเย่าหั่ว
เมื่อคำนึงถึงระดับเทคโนโลยีของบลูสตาร์ หลินเยวียนคิดว่าระยะเวลาในการผลิตเกมนี้น่าจะไม่นานมากนัก
“สมรภูมิเอาชีวิตรอด?”
ซุนเย่าหั่วอ่านชื่อเกมออกมาตามสัญชาตญาณ
หลินเยวียนพยักหน้า ไม่ได้อธิบายมากเกินจำเป็น
ซุนเย่าหั่วไม่ได้ซักไซ้เกี่ยวกับรูปแบบการเล่นของเกมนี้ สำหรับเขาแล้วเกมยิงปืนก็คล้ายๆ กันหมด
เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ฉันนัดทุกคนไว้แล้ว เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหม?”
“ตกลงครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า
‘ทุกคน’ ที่ซุนเย่าหั่วพูดถึงคือนักร้องในราชวงศ์ปลาอย่างแน่นอน
โดยทั่วไปแล้ว เหล่านักร้องในราชวงศ์ปลาจะจัดงานรวมตัวสังสรรค์กันบ้างเป็นครั้งคราว
ซุนเย่าหั่วเป็นคนจัดเตรียมสถานที่รวมตัว
หลินเยวียนมักจะเข้าร่วมหลังจากได้รับคำเชิญ
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
ในเย็นวันนั้น
หลินเยวียนมาถึงยังสถานที่ซึ่งซุนเย่าหั่วแจ้งไว้
สิ่งที่ทำให้หลินเยวียนประหลาดใจคือที่นี่กลายเป็นร้านอาหารซึ่งใช้ธีมใต้น้ำ
เมื่อเข้าไปในร้านอาหาร โดยรอบของหลินเยวียนมีอยู่ทั่วทุกสารทิศ ทั้งร้านอาหารเต็มไปด้วยตู้ปลาสารพัดรูปแบบ สามารถมองดูฝูงปลาเขตร้อนว่ายน้ำผ่านหน้าเขาไป
นี่ไม่ใช่มหาสมุทรจริงๆ เป็นเพียงการจำลองสภาพแวดล้อมของมหาสมุทร
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ ย่อมให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร
เมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัว
ทุกคนมาถึงแล้ว
หลังจากทักทายกันเรียบร้อย สายตาของทุกคนต่างจับจ้องอยู่ที่ซุนเย่าหั่ว
สีหน้าของเว่ยห่าวอวิ้นแลดูประหลาดใจเล็กน้อย และเอ่ยขึ้นว่า “ร้านอาหารที่พวกเราเลือกมารวมตัวกันไม่เหมือนเดิมเลยสักครั้ง แต่สิ่งที่ร้านอาหารทั้งหมดนี้มีเหมือนกันคือเจ้าของคือซุนเย่าหั่ว ร้านอาหารใต้น้ำในครั้งนี้ก็เป็นของคุณเหมือนกันหรือ?”
“ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ?”
ซุนเย่าหั่วยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ พยักหน้ายอ มรับ “ร้านอาหารนี้เป็นร้านที่ฉันลงทุนลงแรงไปมากที่ในบรรดาร้านอาหารภายใต้ชื่อทั้งหมดของฉัน อาจพูดได้ว่าเป็นร้านที่ออกแบบมาเพื่อราชวงศ์ปลาของเราโดยเฉพาะ ราชวงศ์ปลากินข้าวดวยกันใต้ท้องทะเล พวกเธอไม่คิดว่าสุดยอดหรือไง?”
ทุกคนมีสีหน้างุนงง
ร้านอาหารนี้เมื่อมองแวบแรกคือภัตตาคารราคาแพง แลดูหรูหราเหลือเกิน ต่อให้ผู้ที่นั่งอยู่ในที่นี้จะมีแต่คนดัง พวกเขาก็อดประหลาดใจกับขนาดของร้านอาหาร!
“ที่แท้ก็เป็นร้านของเย่าหั่วนี่เอง”
เฉินจื้ออวี่พูดด้วยสีหน้าแปลกพิลึก “ร้านนี้คือหนึ่งในสองร้านอาหารชื่อดังระดับห้าดาวในเมืองซูที่จัดอันดับโดยนิตสารเทาเที่ย ร้านอาหารในระดับเดียวกันนี้ทั่วทั้งบลูสตาร์มีไม่เกินหนึ่งร้อยร้าน ผมเคยมาร้านนี้กับผู้จัดการสองครั้ง แค่สั่งอาหารมาไม่กี่อย่างก็จ่ายไปแล้วสี่หมื่ นกว่า…”
“คนรวยนี่นา!”
ทุกคนต่างมองไปยังเฉินจื้ออวี่
เฉินจื้ออวี๋เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “คนรวยตัวจริงไม่ใช่เจ้าของร้านนี้หรอกเหรอ?”
ทุกคนได้ยิน ดังนั้นก็รู้สึกว่ามีเหตุผล และจับจ้องไปยังซุนเย่าหั่ว “ไม่แสดงความคิดเห็นหน่อยเหรอ?”
ซุนเย่าหั่วถลึงตา “ถึงจะเป็นพี่น้องกันก็ต้องคุยเรื่องเงินกันให้รู้เรื่อง ที่นี่มีวัตถุดิบหลายอย่างนำเข้าโดยขนส่งทางเครื่องบิน ต่อไปถ้าพวกคุณจะกินก็จ่ายเงินมา อย่างมากก็บอกชื่อผมไปได้ลดสี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามากินทุกวันผมจะขาดทุนเอาได้!”
“พี่ซุนใจกว้างจริงๆ !”
ทุกคนโห่ร้องและเอ่ยชมเปาะ
ซุนเย่าหั่วกระแอม มองไปยังหลินเยวียนซึ่งกำลังนั่งมองคนด้านนอกว่ายน้ำกับปลาฉลาม
“ส่วนรุ่นน้องมากินฟรีได้เลย”
“…”
ทุกคนเบ้ปาทันที
นิสัยขี้ประจบประแจงของหมอนี่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
หลินเยวียนพยักหน้า “อย่างอย่างนั้น ผมจะพาครอบครัวมากิน”
ซุนเย่าหั่วคลี่ยิ้มกว้าง “กินได้ตามสบาย ฉันจะบอกให้เชฟบริการรุ่นน้องเป็นอย่างดี”
โถ่เอ๊ย!
ทุกคนกลอกตาไปหลายตลบ
เจียงขุยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เย่าหั่ว ใต้ชื่อของนายมีกี่ร้าน”
ซุนเย่าหั่วไม่ได้ปิดปัง “ตอนนี้มีทั้งหมดสี่สิบหกร้าน ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองซู เมืองรอบๆ ก็มีแต่ไม่นับว่ามากมาย แต่ในสิ้นปีนี้ไม่มีแผนจะขยายต่อไป ฉันวางแผนว่าจะร่วมมือกับบริษัทเพื่อทำโรงแรมห้าดาวในเมืองซู”
ทุกคนต่างตกตะลึง
“จะสร้างโรงแรมห้าดาวอีก!”
“นายมีเงินเยอะขนาดไหนกันแน่”
“เงินพวกนี้ได้จากการเปิดร้านอาหารเหรอ?”
“ให้ตายสิ ฉันไม่อยากเป็นนักร้องแล้ว”
“รวยขนาดนี้ทำไมถึงยังอยากมาเป็นนักร้องอีก!”
“…”
ระดับความมั่งคั่งของซุนเย่าหั่วเกินความคาดหมายของทุกคนอย่างสิ้นเชิง นี่ไม่ใช่มูลค่าทรัพย์สินที่นักร้องแถวหน้าทั่วไปจะถือครองได้!
“ความสนใจก็ส่วนความสนใจ”
ซุนเย่าหั่วพูดอย่างจริงจัง “เงินทองเป็นแค่ทรัพย์สมบัติภายนอก ความฝันของฉันคือการเป็นราชานักร้อง”
เฉินจื้ออวี่สีหน้าแปลกไป “คุณเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่ถูกการร้องเพลงถ่วงไว้ รายรับระดับนี้ยากกว่าการเป็นราชาเพลงซะอีก”
“นายก็พูดไป”
ซุนเย่าหั่วส่ายหน้า “ถ้าการร้องเพลงมันง่ายเหมือนหาเงินก็ดีน่ะสิ”
นี่มันใช่คำพูดที่คนปกติเขาพูดกันไหม!
ทุกคนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี
ในเวลานั้น
พนักงานเริ่มเสิร์ฟอาหาร
เมื่อพิจารณาถึงราคาอาหารที่นี่ ทุกคนจึงกินอย่างอิ่มหมีพีมัน เพลิดเพลินกันเต็มที่
หลินเยวียนก็กินเช่นเดียวกัน
ขณะที่กินอาหารอยู่นั้น จู่ๆ หลินเยวียนก็สังเกตเห็นว่าซย่าฝานซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังใจลอย
“อะนี่ เธอชอบกินปู”
หลินเยวียนหักขาปูหิมะส่งให้ซย่าฝาน
เขากับซย่าฝานรู้จักกันมานาน และรู้ความชอบของกันและกัน
“ขอบคุณนะ”
ซย่าฝานรับขาปูและกัดไปสองสามคำ แต่กลับยังดูไม่มีชีวิตชีวา
“ซย่าฝาน?”
ซุนเย่าหั่วอดไม่ได้จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “อาหารไม่ถูกปากเหรอ? เธออยากกินอะไร ฉันจะให้คนทำให้”
“บทของซย่าฝานถูกคนอื่นมาแทนที่ กำลังเศร้าน่ะ”
จ้าวอิ๋งเก้อตอบไปอย่างอดไม่ไหว ก่อนจะคีบของกินให้ซย่าฝาน “ยิ้มเข้าไว้ บางทีนั่นอาจเป็นหนังห่วยๆ เรื่องหนึ่งก็ได้”
“บทอะไร”
ทุกคนจะลง เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อย่าพูดเรื่องนี้เลย กินข้าวกันเถอะ”
ซย่าฝานตั้งสติได้ ก้มหน้ากินอาหารต่อไป
หลินเยวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เจียงขุยชำเลืองมองซย่าฝาน “ฉันเล่าเองแล้วกัน ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ต้องถูกนักข่าวเอามาเปิดเผยหลังจากนี้”
ซย่าฝานไม่พูดอะไร ยอมจำนนแต่โดยดี
เจียงขุยมองทุกคน “นอกเหนือจากการเติบโตในวงการเพลง ไม่กี่ปีมานี้ซย่าฝานยังถ่ายหนังกับซีรีส์มาบ้าง เรื่องนี้ทุกคนคงรู้”
ทุกคนพยักหน้า
หลินเยวียนก็รู้เรื่องนี้
ซย่าฝานเคยบอกในกลุ่มแช็ตเล็กว่าเธอไม่เพียงชอบร้องเพลง แต่ยังชื่นชอบการแสดงด้วย ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้ร่วมงานกับภาพยนตร์และซีรีส์มาบ้าง
ในเวลานั้นเจี่ยนอี้ตบอก บอกว่าจะสอนการแสดงให้กับซย่าฝาน
หลินเยวียนก็ขบคิดอยู่ในใจเช่นกันว่าถ้ามีโอกาสจะร่วมงานด้านภาพยนตร์กับซย่าฝาน
“เมื่อเร็วๆ นี้ซย่าฝานได้รับบทนางเอกในหนังเรื่องหนึ่ง แต่ตอนที่เตรียมจะเริ่มถ่ายทำ ตัวละคนนี้ถูกนักแสดงหญิงอีกคนหนึ่งเข้ามาเสียบแทน ซย่าฝานออกกำลังกายมาตลอด พยายามมาตลอดสองเดือนเพื่อบทนี้ ปรากฏว่าที่ทำมาเสียแรงเปล่า ก็เลยเศร้าน่ะ”
ในราชวงศ์ปลามีเพียงจ้าวอิ๋งเก้อและเจียงขุยเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะลอบถอนหายใจ เรื่องแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมบันเทิง
หลินเยวียนมองไปยังซย่าฝาน “ทำไมไม่บอกฉันล่ะ”
ซย่ามองไปที่ทุกคน “ตอนนี้ก็บอกแล้วไง…”
“ฉันจะเตรียมบทภาพยนตร์ให้เธอเอง”
หลินเยวียนเอ่ยขึ้น
หากมีใครในราชวงศ์ปลาได้รับความไม่เป็นธรรม หลินเยวียนจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
และถ้าเป็นซย่าฝานละก็ เขายิ่งไม่มีทางยืนดูอยู่เฉยๆ
เจี่ยนอี้กับซย่าฝาน สนิทสนมกับหลินเยวียนมาตั้งแต่เด็กจนโต
จะว่าไปแล้ว
ต่อให้ไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อซย่าฝานแสดงความสนใจในด้านภาพยนตร์ซีรีส์ หลินเยวียนก็วางแผนที่จะดึงตัวซย่าฝานมาแสดงเช่นเดียวกัน
ท่ามกลางสายตาซึ่งเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยของทุกคน
ซุนเย่าหั่วมองไปยังซย่าฝาน “บทอะไรที่เธอถูกคนอื่นแย่งไป มีใครเข้ามาแทรกแซงหรือเปล่า?”
“ปู้ลั่วเข้ามาแทรกแซง”
จ้าวอิ๋งเก้อซึ่งอยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นมาทันที