Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 735
EG บทที่ 735 ลาก่อนมหาวิทยาลัย
ตอนนี้คือเดือนกรกฎาคมและเฝิงหยู่ก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เมื่อเขาได้รับหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษา นั่นหมายความว่าวันนั้นคือวันสุดท้ายในชีวิตรั้วมหาวิทยาลัยของเขา
เฝิงหยู่โดดเรียนมาโดยตลอดและเข้าร่วมเฉพาะชั้นเรียนที่เขาสนใจเท่านั้น บางวิชาเขาไม่ได้เข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ แต่เขาอดรู้สึกเศร้าไม่ได้ที่จะต้องสิ้นสุดชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
เฝิงหยู่แทบจะไม่ค่อยคลุกคลีกับเพื่อนร่วมชั้น เขาสนิทกับเพื่อนร่วมห้องในหอพักมากกว่า แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่เมื่อพวกเขาทั้งหมดกำลังแยกย้ายไปคนละทาง เฝิงหยู่ก็คิดถึงการใช้ชีวิตอาศัยในหอพัก
พวกเขาเล่นไพ่โป๊กเกอร์ เตะฟุตบอล ดื่มและกินด้วยกัน
เฝิงหยู่ใช้ชีวิตสองแบบ คนพวกนี้ที่เคยเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาเมื่อชาติที่แล้วกลับได้มาผูกพันกับเขาในชาตินี้
แม้ว่าเฝิงหยู่จะรู้ว่ามันง่ายมากที่จะนัดเจอเพื่อนร่วมห้องของเขาเพราะพวกเขาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในปักกิ่งก็ตาม และเฝิงหยู่ก็มีเวลาว่างมากด้วย แต่มันก็แตกต่างจากการอาศัยอยู่ด้วยกันในห้อง
หลังจากทุกคนเริ่มทำงาน พวกเขาจะมีเพื่อนใหม่และความสนใจในเรื่องใหม่ๆ บางทีพวกเขาอาจจะไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อนก็ได้
นักศึกษาที่จบการศึกษาบางคนจะกลับมาดูที่ห้องเรียน โรงอาหารและสถานที่อื่นๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะจากไป
หลายคนคิดถึงช่วงเวลาในมหาวิทยาลัย พวกเขาเดินไปรอบๆ มหาวิทยาลัยเพื่อรำลึกถึงชีวิตที่นั่น
หลังจากโบกมือลาเพื่อนร่วมห้องของเขาแล้ว เฝิงหยู่ก็ขับรถไปยังอพาร์ตเมนต์ของเขาที่อยู่ไม่ไกลออกไป เขาอาจจะไม่กลับมาที่อพาร์ตเมนต์นี้อีกในอนาคต แต่เขาจะไม่ขายมัน นี่เป็นการลงทุนที่ดีด้วย มูลค่าของอพาร์ทเมนท์นี้จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า
เฝิงหยู่มองดูเพื่อนและมหาวิทยาลัยของเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากไป เขาหวังว่าพวกเขาทั้งหมดจะสามารถทำตามความฝันได้สำเร็จและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในอนาคต
ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิต เฝิงหยู่ได้ถามเพื่อนร่วมห้องของเขาก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาสนใจที่จะทำงานใน บริษัทของเขาหรือไม่ แต่ทุกคนกลับส่ายหน้า
ตอนที่พวกเขาทุกคนอยู่ในมหาวิทยาลัย เฝิงหยู่จ่ายเงินให้ทุกครั้งเวลาที่พวกเขาออกไปกินข้าวข้างนอกกัน คนอื่นๆ ไม่ได้พยายามจะจ่ายเงินเพราะเฝิงหยู่บอกว่าเขารวยมากจนเขาไม่สามารถใช้เงินคนเดียวหมดได้ ทุกคนควรช่วยพ่อแม่ประหยัดเงิน เมื่อพวกเขาสามารถหาเงินได้ในอนาคต ค่อยมาเลี้ยงเขาก็ได้ แม้จะเลี้ยงแค่อาหารข้างทาง เขาก็ยินดี
หลังจากนั้น พวกเพื่อนๆ ก็ไม่ได้พยายามช่วยเฝิงหยู่ประหยัดเลย พวกเขาจะสั่งทุกอย่างที่อยากกินแล้วก็เอามากินด้วยกัน แต่เมื่อเฝิงหยู่ขอให้พวกเขาไปทำงานในบริษัทของเขา เพื่อนร่วมห้องของเขากลับปฏิเสธ
การเลี้ยงข้าวก็คือเรื่องหนึ่ง ส่วนการทำงานกับเฝิงหยู่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เฝิงหยู่ไม่ได้บังคับพวกเขา เขาบอกแค่ว่าถ้าพวกเขามีปัญหาอะไรในอนาคต ก็สามารถมาหาเขาได้
“ผู้จัดการเฝิงต้องการจะไปไหนครับ?”
“ไปรับเธอที่มหาวิทยาลัยซือต้า”
พิธีสำเร็จการศึกษาของลีน่าก็เสร็จสิ้นลงเช่นกัน แต่เธอจะศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษาที่มหาวิทยาลัยของเธอ
บางครั้งเฝิงหยู่ก็รู้สึกว่าการเรียนต่อในระดับบัณฑิตศึกษาก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับลีน่า อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเฝิหยู่อยู่รอบๆ ก็ไม่มีใครสามารถรังแกเธอได้
……
“นายอารมณ์ไม่ดีหรอ? คงรู้สึกเศร้าเพราะเรียนจบแล้วน่ะสิ?”
เฝิงหยู่มองลีน่า “เธอคิดว่าฉันเป็นคนเจ้าอารมณ์หรอ?”
ในฐานะนายหน้าทางการเงินในชาติที่แล้วของเขา เขาเก่งในเรื่องการจัดการอารมณ์มาก หากเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้และปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบงำทำให้การตัดสินใจ เขาจะสูญเสียทุกอย่าง เช่นเดียวกับที่เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตก่อนหน้านี้
แน่นอนว่าเฝิงหยู่ยังมีด้านที่เป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว แต่เฝิงหยู่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์อ่อนไหวสำหรับเรื่องการสำเร็จการศึกษา ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกันอีกในอนาคตซักหน่อย
ลีน่าบีบแก้มทั้งสองของเฝิงหยู่เบาๆ แล้วดึงยืดออก “ถ้างั้นก็ยิ้มให้ฉันดูหน่อย”
เฝิงหยู่ “……” นี่เป็นวิธีบังคับให้ฉันยิ้มงั้นหรอ?
“ไปกันเถอะ วันนี้เธออยากกินอะไร?”
ลีน่าคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันอยากกินเครปเทียนจิน (เจียนปิ่งกั่วจึ)”
เฝิงหยู่บีบจมูกของเธอ “เธอสามารถขอกินอย่างอื่นที่ดีกว่านี้ได้นะ คนที่อยู่ข้างๆ เธอตอนนี้คือคนที่รวยที่สุดในจีน ในอีกสองปี ฉันจะเป็นคนที่รวยที่สุดในเอเชีย แต่เธอกลับให้ฉันพาไปกินเครปเทียนจินเนี่ยนะ?”
“ว้าว!!!! นายนี่สุดยอดเลย! นายเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศจีนแล้วหรอ? ปีที่แล้วนายบอกฉันแล้วไม่ใช่หรอ? ฉันก็แค่อยากกินเครปเทียนจิน มีหญิงชราขายอยู่ที่ร้านแผงลอยริมถนนตรงมุมถนนด้านหน้าไปกินกบฉันหน่อยนะๆๆ……” ลีน่ากอดแขนเฝิงหยู่ และเขย่าเบาๆ
เฝิงหยู่ยอมและพูดว่า “เลี้ยวซ้ายด้านหน้าและจอดเมื่อคุณเห็นรถเข็นขายเครปเทียนจินครับ”
เหม่ยจื้อกางพยักหน้าและแสร้งทำเป็นไม่เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่เบาะหลัง หลิวจื้อฉวนเป็นคนสั่งให้เขาห้ามถามคำถามและต้องทำเป็นไม่สนใจกับทุกสิ่งที่เขาเห็น งานของเขาคือแค่ขับรถและปกป้องผู้จัดการเฝิงเท่านั้น หากเขาสามารถทำสิ่งพวกนี้ได้ เงินเดือนของเขาอาจสูงกว่าผู้บัญชาการในบริษัทเก่าของพวกเขาเสียอีก
รถเข็นอาหารนี้ขายเครปเทียนจินแบบดั้งเดิมสุดๆ ซึ่งเป็นเพียงเครปที่ใส่ไข่และห่อด้วยแป้งกรอบเท่านั้น ไม่มีการโรยต้นหอมหรือมันฝรั่งฝอยอะไรทั้งนั้น ซึ่งมีขนาดเล็กเกินไป แม้ว่าเฝิงหยู่จะไม่ได้กินเก่งเหมือนเหวินตงจวิน แต่เขาก็ไม่รู้สึกอิ่มเลย
“คุณยายหวังคะ หนูอยากได้เครปเทียนจิน 3 ชิ้น เพิ่มไข่สองชิ้น และก็ขอเป็นชิ้นใหญ่สุดค่ะ” ลีน่าจูงมือเฝิงหยู่ขณะที่เธอสั่งอาหาร
ลีน่ารู้ชื่อของเจ้าของร้านนี้ด้วยหรอ? เธอต้องเป็นลูกค้าประจำที่นี่แน่ๆ เครปเทียนจินที่นี่รสชาติดีกว่าที่อื่นหรอ? ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องนี้เลยล่ะ?
เมื่อลีน่าส่งเครปเทียนจินชิ้นใหญ่ให้เฝิงหยู่ เขาก็กัดคำใหญ่ ซึ่งรสชาติก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้ถือว่าอร่อยเลย
แต่เมื่อเฝิงหยู่เห็นลีน่ากำลังกินอย่างมีความสุข เขาก็รู้สึกว่าเครปเทียนจินรสชาติดีขึ้นทันที เหม่ยจื้อกางก็เป็นเหมือนเดิม เขากินเครปเทียนจินทั้งหมดภายในเวลาไม่ถึงนาทีและเช็ดปากเรียบร้อย หลังจากนั้นเขาก็ไปยืนสังเกตการณ์รอบๆ ไม่ไกลจากเฝิงหยู่
“อร่อยมั้ย?” ลีน่าถามเฝิงหยู่เมื่อกลับมาที่รถ
“ฉันไม่ค่อยชอบกินนะ เธอมาที่นี่บ่อยหรอ? เธอชอบกินเครปเทียนจินที่นี่หรอ?”
“ใช่ ยายของฉันเคยทำเครปเทียนจินให้กิน และเครปเทียนจินร้านนี้รสชาติก็คล้ายกับของยายฉันเลย หลังจากที่ฉันมาที่นี่และเจอร้านแผงลอยนี้ ฉันก็กลับมากินอีกบ่อยมาก”
“โอเค งั้นคราวหน้าฉันจะมากินเป็นเพื่อนเธอที่นี่อีก เราจะกลับมากินบ่อยๆ” เฝิงหยู่พูด
“กลับมากินบ่อยๆ หรอ? ไม่เอาอ่ะ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบรสชาติเหมือนกัน ทั้งหมดเป็นความผิดของนายนั่นแหละ ชอบพาฉันไปกินแต่ของอร่อยๆ จนเคยตัวไปหมดแล้ว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……โอเคๆ มันเป็นความผิดของฉันคนเดียวก็ได้ ฉันยังไม่อิ่ม ไปหาอะไรกินต่อกันเถอะ”
ลีน่าขยับเข้ามาใกล้เฝิงหยู่และกระซิบเบาๆ “ ฉันก็ยังไม่อิ่มเหมือนกัน เครปเทียนจินของฉันเล็กกว่าของนายอีก ด้านหน้ามีร้านเบเกอรี่ เราไปกินเค้กกันดีกว่า อยู่ดีๆ ฉันก็รู้สึกอยากกินเค้กช็อกโกแลตอ่ะ”
“ได้สิ ถ้าเธอชอบเค้กร้านนั้น ฉันจะซื้อเบเกอรี่ให้ทั้งร้านเลย”
การอยู่กับลีน่าทำให้เฝิงหยู่ลืมความรู้สึกอ่อนไหวเรื่องการสำเร็จการศึกษาไปได้…….