Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี - ตอนที่ 320
บทที่ 320 – ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (4)
เมื่อได้เข้ามาในดาเรย์และมองไปที่พื้นที่ที่กว้างใหญ่ของมันทำให้ยูเรียลกับกาเบรียลต้องมีปฏิกิริยาขึ้นมา
[เป็นไปได้ยังไงกัน?]
[นี่ลูกชอบเล่นเดอะซิมงั้นหรอ?]
ยูอิลฮานได้มองดูผู้รอดชีวิตจากไฮเชียที่กำลังเข้ามาสู่โลกดาเรย์และหันหน้าไปตอบกาเบรียลอย่างอารมณ์ดี
“เมื่อก่อนผมก็ชอบนะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ เกมมันจะสนุกก็ต่อเมื่อมันเป็นเกมเท่นั้น ก็เหมือนเกมขับรถมันสนุกนั่นแหละ แต่การต้องมาขับในถนนรถติดตอนเช้านี่มันต่างกันเห็นๆเลย”
“แต่ว่าลูกก็ไม่เคยเล่นทั้งเกมขับรถหรืการขับรถในช่วงเช้านี่”
“เงียบไปเลยน่า”
[พ่อ!]
“อิลฮาน!”
เหล่าคนที่เฝ้ารอคอยเขากลับมาได้วิ่งมาหาเขาทันที ยูอิลฮานได้ลูบหัวของยูมิลและกอดเลียร่าโดยไม่ขวางใดๆ
“ฉันมาสายไปหน่อยสินะ?”
“นายมาสายมากเจ้าบ้า! นายน่าจะพาฉันไปด้วยนะ ทำไมถึงชอบทิ้งฉันเอาไว้ตลอดเลย? แย่ที่สุด”
“ขอโทษนะ”
เลียร่าได้ซุกหน้าของเธออยู่ที่หน้าอกยูอิลฮานอยู่พักหนึ่งถึงจะรู้ตัวว่ามีชายหนุ่มกับหญิงสาวคนอื่นนอกจากโอโรจิกับมิสทิคมากับยูอิลฮานด้วย
“หืม ออร่านี่มัน… ท่านหญิงยูเรียลกับท่านกาเบรียล!? เป็นไปได้ยังไงกัน!?”
“นี่นายฆ่าไปคนหนึ่งแล้วก็จับตัวประกันมาสองคน!?”
ยูอิลฮานได้เขกหน้าผากเลียร่าเบาๆแล้วหันไปพูดกับกาเบรียล
“แล้วร่างมนุษย์ของพ่อล่ะ?”
[ไม่เป็นไรพ่อทำได้ พ่อต้องทำมันเลยใช่ไหม?]
กาเบรียลได้พึมพัมออกมาและหลับตาลง หลังจากนั้นปีกสามคู่บนหลัง วงแหวนที่เป็นเอกลักษณ์รวมไปถึงรัศมีมานาก็ได้หายไปจนหมด
ไม่สิ จะพูดว่าหายไปก็ไม่ถูก นี่มันก็แค่เป็นการซ่อนตัวที่มิดชิดจนไม่มีใครสัมผัสได้เท่านั้น เมื่อมานาได้หายไป ริ้วรอยก็ได้ปรากฏขึ้นบนผิวจนทำให้เขาดูเหมือนกับชายวัยกลางคน
และเป็นธรรมดาที่พลังหายไปทำให้เขาไม่อาจจะอยู่บนท้องฟ้าได้อีก กาเบรียลควรที่จะล่วงลงมาเลยทันที แต่ว่ายูเรียลก็ได้เข้าไปรับเอาไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่องแบบนี้… ยังไงก็ตามก่อนที่เธอจะไปถึงตัวกาเบรียลก็ได้มีโล่เอจิสปรากฏขึ้นมารับตัวก่อน ในท้ายที่สุดแล้วเลียร่าก็ได้รู้ถึงตัวตนของชายคนนี้
“…พ่อของอิลฮาน? เมื่อกี้นี้เขายังเป็นท่านกาเบรียลอยู่เลย”
“เขาคือคนๆเดียวกัน โอ้แล้วพ่อก็ยังเป็นหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงด้วยเหมือนกันนะ”
“เจ้าเศษขยะนั่น?…ห่ะ? อะไรนะ?”
สายตาของเลียร่าได้เต็มไปด้วยความสงสัยจนกาเบรียลต้องหัวเราะออกมาทื่อๆ
“ใช่แล้วฉันเป็นเศษขยะที่ทำให้เธอต้องลำบากอยู่ตลอดเวลาแหละนังหนู ฉันขอโทษด้วยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อ่า… อืมมม…? ท่านกาเบรียลคือพ่อเขยของฉัน? พ่อ?”
“โอ้ พ่อ! นี่เป็นคำที่ดีที่สุดที่ได้ยินเลยนะ? ทำไมไม่ลองเรียกฉันว่าพ่ออีกครั้งล่ะ?”
“พ่อเงียบไปเลย”
“ครับท่าน”
“หา? หาาาาาาาาาาาา?”
สมองของเลียร่าที่พยายามจะทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เปลื่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วไปพังลงไปทันที ยูอิลฮานได้ลูบคนรักของเขาและหันไปพูดกับกาเบรียล
“พ่อไปหาแม่ก่อนเถอะ ไว้ผมจัดการเรื่องต่างๆแล้วจะตามไป”
“ฮ่าาห์ สงสัยคงจะหลบไม่ได้แล้วสินะ โอเคไม่เป็นไร น่าหดหู่สุดๆไปเลย…”
[กาเบรียล…]
หากว่าคิมเยซอลได้มาเข้าสวนอาทิตย์อัสดงในก่อนหน้านี้ กาเบรียลก็คงจะได้อธิบายทุกๆอย่างให้เธอฟังไปแล้ว แต่เพราะเธอได้ปฏิเสธข้อเสนอไปทำให้เขาต้องอยู่ห่างจากภรรยาโดยไม่ได้มีเวลาไปอธิบายอะไรเลย
ภรรยาของเขายังเป็นคนเอาแต่ใจซะด้วย แต่ว่านี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอทั้งๆที่เขาเป็นหนึ่งในสี่ยอดเทวทูตก็ตาม…. แต่ก็เพราะแบบนี้ถึงได้ทำให้เขากลัวการเผชิญหน้ากับเธอ
ยังไงก็ตามโล่เอจิสที่ยูอิลฮานเรียกมาไม่ได้สนใจความลังเลของเขาเลย มันได้พาเขาไปหาคิมเยซอลในทันที
ยูเรียลที่กำลังจะตามเขาไปได้ถูกยูอิลฮานมองจนต้องถอยกลับมา
“สองในสี่ยอดเทวทูตได้ล่ะทิ้งตำแหน่งแล้ว เรื่องนี้กองทัพสวรรค์ก็น่าจะรู้แล้วเหมือนกันแต่ว่าทำไมเธอถึงไม่ตกลงมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ล่ะในเมื่อขัดต่อกฏสวรรค์?”
[ก็เพราะคนที่จะเปลื่ยนทำให้ทูตสวรรค์ตกมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำก็คือสี่ยอดเทวทูตไงล่ะ]
นี่มันจะโกงไปแล้ว เพราะแบบนี้ไงการโกงถึงไม่เคยหมดไปในแวดวงกรเมือง! ก็เพราะคนบังคับใช้กฏกลับมาโกงกันซะเองทำให้ไม่มีใครมาหยุดได้อีกแล้ว! แต่แน่นอนว่านี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับยูอิลฮาน
[แต่ว่าฉันก็คงสถานะทูตสวรรค์ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ ถ้านายไม่ว่าอะไร ฉันก็อยากจะเข้าดราก้อนเนสเหมือนกัน ฉันยังจะคงพลังเดิมของฉันเอาไว้ได้เพราะงั้นนี่ก็ไม่ใช่ข้อเสนอที่แย่เลยนะ]
“นี่เป็นคำแนะนำที่ดีนะ… แต่แล้วพ่อของฉันล่ะ?”
[กาเบรียลก็แค่ต้องโอนพลังทั้งหมดไปที่สวนอาทิตย์อัสดงก็เท่านั้นเอง เมื่อทำแบบนั้นการจะรวบรวมพลังของสวนอาทิตย์อัสดงที่กระจายไปทั่วทั้งดวงดาวต่างๆก็จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ก็ไม่มีใครที่จะสามารถขโมยพลั… อ๊าาา]
ยูเรียลที่กำลังทำสีหน้าเต็มไปด้วยความรักในระหว่างอธิบายเรื่องกาเบรียลได้ถอยไปทันทีที่ถูกสายตาของยูอิลฮานจ้องมาอีกครั้ง ยูอิลฮานได้สอบปากคำเธอมากยิ่งขึ้นอีก
“มีอะไรที่เธอทำเพื่อขัดขวางวันสิ้นโลกอะไรนี่ได้ไหม?”
[ทั้งฉันกับกาเบรียลต่างก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างถูกจำกัดและต้องหลบซ่อนเอามากๆ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เคยไปชักจูงคนในกองทัพสวรรค์นะ แต่ว่าคนพวกนั้นส่วนใหญ่ภักดีกับมิคาเอล…]
แน่นอนสิ ถึงแม้ว่ามิคาเอลจะแพ้ยูอิลฮานเพราะธาตุเพลิง แต่ว่ามิคาเอลก็ยังเป็นคนที่ทรงพลังมาที่สุดในกองทัพสวรรค์อยู่ดี มิคาเอลมีทั้งพลังและตำแหน่งในกองทัพสวรรค์อย่างสมบูรณ์ แทนที่ทูตสวรรค์คนอื่นๆจะเลือกทรยศ พวกเขาเหล่านั้นอาจจะเลือกยอมตายแทนซะมากกว่าอีก
หากว่ามีซักวิธีที่จะเปลื่ยนความคิดทูตสวรรค์พวกนั้นได้ นั่นคงจะเป็นการตัดคอมิคาเอลและคิดกับพวกเขาอย่างสงบ แต่ว่า…
“แต่แค่เพราะแบบนั้นฉันฆ่าเขาไม่ได้… ฉันปล่อยมิคาเอลเอาไว้ก็เพื่อให้เขาหยุดยั้งซาตาน เราเชื่อใจซาตานได้ไหม?”
[ในตอนแรกที่เราต่อต้านพระเจ้า ซาตานอยู่ข้างเดียวกับเราแน่นอน ฉันคิดวามันเป็นแบบนั้น… แต่ว่าในตอนนี้ฉันไม่มั่นใจแล้ว บางทีซาตานอาจจะเปลื่ยนไปเหมือนอย่างมิคาเอลกับราฟาเอลก็ได้…]
“อย่างที่ฉันคิดเลย พวกเธอนี่ไม่ได้ช่วยอะไรซักนิด”
ยูเรียลได้เงียบลงไป ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้ตกสู่ห้วงความคิดโดยไม่สนใจยูเรียลเลย
อย่างแรกเขาได้เตรียมตัวต่อต้านคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า หรือพระเจ้าของสวรรค์เรียบร้อยแล้ว
เขาได้กระจายกับดักแห่งการฟื้นคืนไปทั่วในทุกๆโลกระดับต่ำที่เขาเคยไปมาอย่างน้อยหนึ่งครั้งแล้ว และเขากระทั่งทำให้กับดักแห่งการฟื้นคืนในโลกต่างๆรุกล้ำเข้าไปในมิติอื่่นๆได้อีกด้วย เพราะงั้นคงใช้เวลาไม่นานนักที่กับดักแห่งการทำลายทั้งหมดจะหายไปจากโลกระดับต่ำ แน่นอนว่าเขาจะทำแบบนี้ในโลกระดับสูงเช่นเดียวดัน แม้ว่าจะอยู่ในระหว่างการทำมัน แต่มันก็ราบรื่นมาตลอด
สิ่งต่อมาที่เขาต้องระวังก็คือกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ไม่สนเรื่องที่พระเจ้าจากสวรรค์ทำเลย พวกคนที่เคลื่อนไหวด้วยความคิดที่ว่า ‘เอิร์ธสำคัญกับตัวเองเท่านั้น’
การปะทะกับกองทัพสวรรค์มีแน่นอนเพราะกองทัพสวรรค์ได้ทำเหมือนยูอิลฮานเป็นศัตรูตัวฉกาจไปแล้ว ส่วนกองทัพสวรรค์แสงคงต้องรอดูก่อนเพราะยูอิลฮานไม่รู้เลยว่าพวกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ และมีเรื่องดีอยู่อย่างหนึ่งคืนสวนอาทิตย์อัสดงดูจะกลายมาเป็นพันธมิตรแล้วเพราะกาเบรียลที่เป็นคนนำพวกเขาเหล่านั้น…
จะมีก็แต่กองทัพปีศาจวิบัติที่ยังเป็นความลับอยู่
“ยูเรียล กองทัพปีศาจวิบัติจะเคลื่อนไหวไหม? พ่อไม่ได้บอกอะไรเลยหรอ?”
[ก็อย่างทีเรารู้กัน ทุกๆสิ่งที่พวกกองทัพปีศาจวิบัติคิดก็มีแต่การทำลายทุกๆอย่าง เพราะแบบนั้นพวกกองทัพปีศาจวิบัติคือสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้บัญชาการกองพันและกองกำลังที่มหาศาลเท่านั้น แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเลยคือหัวหน้าของพวกมัน ความโลภ เดิมทีแล้วซาตานกับกาเบรียลต่างก็มาจากกองทัพสวรรค์กันทั้งนั้น แต่มีแค่ความโลภเท่านั้นที่ก่อตั้งองค์กรขึ้นมาเองหลังจากได้เข้าไปถึงพลังของเทพด้วยตนเอง]
แน่นอนว่าเพราะมีความวุ่นวายจากยูอิลฮานได้ทำให้พลังของแต่ล่ะกองกำลังลดลงอย่างมาก แต่ถึงแบบนั้นพลังของความโลภก็ยังมหาศาลอยู่ดี และต่อจากนี้มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น หรือก็คือสิ่งที่ต้องระวังรองลงมาจากพระเจ้าจากสวรรค์แล้วก็คือความโลภนี่แหละ
“ชิ ในท้ายที่สุดแล้วฉันก็ต้องทำมันสินะ”
ความโลภได้บอกให้ยูอิลฮานกลายเป็นพระเจ้า ยูอิลฮานไม่ได้สนใจคำพูดของเขาและไม่เชื่อด้วยซ้ำ แต่ว่าเพื่อที่จะเอาตัวรอดและมีชีวิตต่อไป ยูอิลฮานรู้ว่าพวกเขาจะต้องทำสงครามกับกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแต่เดิม
ถ้างั้นสิงแรกที่เขาควรทำคืออะไรล่ะ? สิ่งแรกเลยเขาจะต้องปิดประตูเอิร์ธโลกของเขา และดาเรย์ จากนั้น…
“ไปบุกหาแร่โลหะชั้นสูงที่สวรรค์กัน”
[นายพูดเรื่องน่าทึ่งแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน]
“หลังจาสกนั้นฉันจะได้ทำกับดักแห่งการฟื้นคืนแล้วก็ไปขโมยโลกระดับสูงจากกองกำลังอื่นๆ”
[นี่นายคือที่จะก่อวันสิ้นโลกขึ้นมาเองงั้นหรอ?!]
ยูเรียลได้ถามออกมาอย่างประหลาดใจ ยูอิลฮานชอบในคำพูดนี้ของเธอและหัวเราะออกมาอย่าเต็มที่
“ใช่แล้ว ฉันไม่ชอบการถูกโจมตี ทุกอย่างของการต่อสู้ขึ้นอยู่กับการโจมตีครั้งแรก”
“ฉันชอบมัน ทุกอย่างของการต่อสู้ขึ้นอยู่กับการโจมตีครั้งแรก”
ระหว่างที่ยูอิลฮานกับโอโรจิกำลังเข้าขากันอยู่ได้มีเสียงตบดังขึ้นจากมุมขอบฟ้า หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องที่เจ็บปวด
“คุณคิดจะไปไหนกัน? นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้นเอง!”
“ที่รัก ขอร้องล่ะเบามือหน่อยนะ เบาๆ… แอ๊ก!”
หนึ่งในสี่ยอดเทวทูตกาเบรียลตอนนี้กำลังเผชิญกับการทรมานจากฝ่ามือของภรรยาเขาเอง ยูอิลฮานได้พึมพัมกับตัวเองเบาๆอยางพอใจ
“ตบพ่อเผื่อผมสักพันทีด้วยนะครับแม่”
ระหว่างกาเบรียลกำลังตกอยู่ในโลกแห่งการทรมาน ยูอิลฮานก็ได้มองดูทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นทุกๆการเปลื่ยนแปลงที่มีอยู่ในตอนที่เขาไม่อยู่ และพลังชีวิตจาก ‘พรม’ ที่ค่อนข้างจะไม่เสถียรเพราะการเพิ่มเข้ามาของไฮเชีย เขาจึงไม่ลืมที่จะเพิ่มมานาเข้าไป
“อิลฮาน”
ไม่นานหลังจากนั้นคังมิเรย์ก็ได้มองมาที่เขา จากที่เธอได้รู้ถึงการกลับมาเจอกันของคิมเยซอลกับกาเบรียลแล้ว เธอดูเหมือนกับจะสับสนยิ่งกว่าที่เคยอีก
“สิ่งที่ฉันได้ยินกับได้เจอนี่มันคือเรื่องจริง จริงๆน่ะหรอ?”
“หากว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องพ่อของฉันที่เป็นทั้งกาเบรียลแล้วก็หัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงล่ะก็ นั่นมันคือเรื่องจริงนั่นแหละ”
“ว่าไงนะ!? เขายังเป็นหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงด้วย!?”
โอ้ เธอยังไม่ได้รู้นี้สินะ ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาให้กับเธอ คังมิเรย์เธอได้ยิ้มออกมาฝืนๆหลังจากที่รู้ว่ายูอิลฮานก็กำลังรู้สึกเหมือนกับเธอ ถึงแม้ว่าระหว่างคุยกันนี้จะมีเสียงตบดังมาเรื่อยๆ แต่คังมิเรย์ก็พูดต่อไปอย่างไม่สนใจ
“ฉันได้พาทุกๆคนจากโลกของเรามาที่ดาเรย์แล้ว ถึงพวกเขาจะตื่นตระหนกเล็กๆจากการเปลื่ยนของมิติเวลานิดๆ แต่อีกไม่นานก็น่าจะปรับตัวได้”
“โอ้ ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ ขอบคุณมากนะ”
เนื่องจากว่าผู้คนจากไฮเชียก็ได้มาที่นี่แล้วเช่นกันทำให้เขาได้จัดการทุกเรื่องแล้ว ยูอิลฮานได้มองไปที่พลังมานาของเขาถูกเติมเต็มแล้วและเปิดใช้งานสกิลประกาศิตเพื่อที่จะอธิบายเหตุการในปัจจุบันทุกๆอย่างให้กับทุกๆชีวิตบนดาเรย์
[อ่า หนึ่ง สอง สาม เทสๆ คุณสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษบนดาเรย์ทุกท่าน ผมคือพระเจ้าของพวกคุณ ยูอิลฮาน]
“นี่มันเหมือนประกาศเที่ยวบินเลยนะนายท่าน! ทำให้มันยิ่งใหญ่กว่านี้หน่อยสิ”
ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ยังประกาศออกไปด้วยน้ำเสียงเดิมที่ไม่ต่างไปจากประกาศเที่ยวบนิเลย สภาพดาเรย์ในปัจจุบันนี้จะมีแต่มอนสเตอร์ที่มีตั้งแต่คลาส 3 ขึ้นไปเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นมา เพราะงั้นพวกเขาจะต้องกำหนดพื้นที่ต่างๆ ห้ามออกไปไหนในกลางดึก ช่วงเวลาต่างๆของดาเรย์และเรื่องยิบย่อยต่างๆทำนองนี้
ส่วนเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากนั้นมันไม่มีความหมาย การที่คนเหล่านี้จะรู้เรื่องที่มากไปกว่านั้นันไม่ใช่เรื่องดี มันมีแต่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
“โอ้ แล้วเรื่องเร็กน่าล่ะ? พวกมันไม่บุกมาเลยหรอ?”
“ดูเหมือนพวกมันจะเมินเฉยต่ออิทธิพลของยูอิลฮานไม่ได้น่ะ พวกมันไม่เคยบุกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
“คงใกล้ถึงเวลาที่พวกมันจะมาแล้ว…”
เทพเจ้าคือผู้ที่ไปถึงระดับพลังเทพเป็นคนแรกเชียวนะ ไม่ว่าการป้องกันของยูอิลฮานจะทรงพลังแค่ไหน ยูอิลฮานก็ไม่คิดว่าพระเจ้าจะยอมแพ้ทั้งแบบนี้หรอก
“ช่างเถอะ มันไม่สำคัญหรอกว่าจะบุกมาเมื่อไหร่ เรามาเริ่มงานต่อไปกันดีกว่า”
“อิลฮานนายจะไม่เป็นไรหรอ? นี่นายยังไม่ได้พักเลยนะ…”
“มีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว เราจะต้องรีบทำรวดเดียวให้จบ”
เขาจะเริ่มทำงานในทันทีที่แม่เขาใจเย็นลงซักนิดแล้ว แต่ดูเหมือนเสียงตบที่ดังสนั่นจะไม่มีวันหยุดเลย ข้างๆตัวเขายูเรียลก็ดูจะเปํนกังวลเอามากๆ ยูอิลฮานได้แต่ถอนหายใจและไปที่ป้อมปราการผู้พิทักษ์ ที่ที่คิมเยซอลกับกาเบรียลอยู่
“ละ ลูกพ่อ! ช่วยพ่อด้วย!!!”
“ลูกแม่ ตอนนี้แม่โกรธอยู่เพราะงั้นถอยไปก่อนนะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
“ลูกพ่ออออออ!
แม้ว่าแม่ของเขาในตอนนี้จะกลายมาเป็นมังกรที่แท้จริงภายใต้ดราก้อนเนสและยูอิลฮานคือหัวหน้ากองกำลังนี้ แต่ยูอิลฮานก็ไม่คิดจะขัดใจแม่เขาอยู่ดี
แถมความโกรธของแม่ก็ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เขาแต่เป็นพ่อเขา ไม่ใช่แค่เขาขัดใจแม่ไม่ได้เท่านั้น แต่เขายังไม่คิดจะทำด้วย ยูอิลฮานได้ตัดสินใจยืนรออย่างสงบจนกว่าพ่อแม่ของเขาจะจัดการเรื่องจนจบ แต่ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้เขาก็สัมผัสได้ถึงสิ่งโอหังที่พยายามจะบุกเข้ามาในดาเรย์
[สิ่งผิดปกติ อุปสรรคใหม่สุดที่ขัดขวางแผนการ]
[คำสั่งกำจัดสิ่งผิดปกตินี้]
[กำจัด ทำลาย ลบล้าง]
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน…!”
คำสั่งกำจัดจากพระเจ้า กลุ่มเร็กน่าได้ฉีกกระชากโล่ของยูอิลฮานทิ้งเหมือนกับเศษกระดาษ! ยูอิลฮานรู้สึกประหลาดใจมากที่ได้เจอกับพวกมัน
“คำพูดหยั่งกับออกมาจากหุ่นยนต์ในเกมยุค 90 เลยแหะ! จังหวะการพูดก็ง่อยสุดๆไปเลย!”
“นี่นายมาตกใจกับเรื่องพวกนี้เนี่ยนะ!?”
เร็กน่ากว่ายี่สิบตัวได้บุกเข้ามาในดาเรย์แล้ว พวกมันทั้งหมดยี่สิบสามตัวต่างก็มีเลเวลที่สูงกว่า 500! นอกไปจากนี้เมื่อคิดถึงพลังในการยับยั้งมานาแล้ว เจ้าพวกเร็กน่าทั้งยี่สิบสามตัวนี้สามารถจะกลายร่างสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ในโลกใบนี้ไปได้เลย
“เยี่ยมเลย ฉันมีแหล่งโลหะใหม่ก่อนที่จะไปบุกสวรรค์แล้วล่ะ”
แน่นอนว่าในสายตาของยูอิลฮานพวกมันไม่ต่างอะไรกับโลหะเลย เขาได้ยิ้มออกมาและไปเผชิญหน้ากับพวกผู้บุกรุกอยู่กลางอากาศ เขาได้ตะโกนไปทาง ‘พระเจ้าจากสวรรค์’ ที่กำลังแอบมองอยู่อย่างแน่นอน
“หากว่านายอยากจะเอาชนะฉัน งั้นก็เอากองทัพมาให้มากกว่านี้ประมาณซักสามพันเท่านะ! เข้ามาเลยสิ!”