Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี - ตอนที่ 300
บทที่ 300 – ฉันคือพ่อของพวกนาย (1)
[ฉัน…]
[อ๊า ฉันมีชีวิตขึ้นมาแล้ว แสงสว่างยามรุ่งอรุณกำลังส่องลงมาที่ตัวฉัน]
[ฉันมองเห็น ฉันสัมผัสได้ ฉันได้ยินเสียงด้วย กลิ่นของชีวิตใหม่ รสชาติที่หอมหวานของอากาศ… ฉันรู้สึกถึงมันได้!]
สมแล้วกับที่เป็นมังกร พวกเขาได้ส่งเสียงออกมาในทันทีที่ฝักออกมา บางทีอาจจะมีแค่เผ่าพันธ์มังกรเท่านั้นที่เริ่มมีอารมณ์ความรู้สึกต่างๆนับตั้งแต่เกิดเลย
[อ๊าา!]
[ผู้สร้างของฉัน นายท่านที่ได้ประทานสติปัญหาให้กับฉัน! ฉันขอสรรเสริญกับความยิ่งใหญ่ของท่าน]
เสียงร้องอันน่าอึดอัดใจได้ดังออกมาจากทั่วทั้งทวีป แน่นอนว่าไม่ใช่ว่ามอนสเตอร์ทุกตัวที่เกิดมาบนดาเรย์เป็นมังกรไปทั้งหมด แต่ว่าจากเอกลักษ์ของตัวดาเรย์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากผู้ปกครองทำให้ส่วนใหญ่แล้วเป็นมังกร
หรือก็คือมีมังกรประมาณล้านกว่าตัวเกิดขึ้นมา
“อ่า…”
“ผมคิดว่าอีกเดี๋ยวก็จะมีมากกว่านี้อีกนะครับพ่อ”
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือมังกรที่เกิดใหม่ขึ้นมาไม่ได้อยู่ในคลาส 3 แต่ว่ามังกรพวกนี้ต่างก็เป็นมังกรเต็มวัยที่มีเลเวลสูงกว่า 200 ขึ้นไปทั้งนั้น แถมยังมีมังกรที่เกิดขึ้นมามีเลเวลถึง 270 หรือกระทั่ง 280 อีกด้วยซ้ำไป
“แค่เกิดมาก็ไม่ยุติธรรมแล้ว”
“ไม่ใช่ว่าพ่อบอกว่าชีวิตมันก็ไม่ยุติธรรมอยู่แล้วหรอครับ?”
“ใช่ พ่อพูดแบบนั้นแหละ”
ยังไงก็ตามเหล่ามังกรเพิ่งเกิดก็มีระดับเลเวลสกิลที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับเลเวลที่สูงถึง 280 ยูอิลฮานได้ตัดสินใจที่จะไม่สนใจในเรื่องเลเวลอีก
แต่แลวเรื่องที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้ก็เกิดขึ้นในเวลาต่อมา
[ท่านอยู่ตรงนั้นล่ะ]
[ผู้สร้างเรา ครอบครัวของเรา]
[ท่านผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่และเปล่งประกาย]
“…หา?”
ยูอิลฮานได้แต่ส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ วินาทีต่อมามานาก็ได้กระจายออกมาทั่วทั้งทวีปดาเรย์ที่ซึ่งได้แผ่ขยายออกมาอย่างไม่สิ้นสุด
มานาพวกนี้ได้สั่นพ้องขึ้นมาจากการที่มังกรทั้งหมดได้กำลังบินขึ้นมา
[ไปหานายท่าน]
[ไปหาท่านผู้ยิ่งใหญ่]
มังกรดูจะรู้ถึงตำแหน่งที่ยูอิลฮานผู้ให้กำเนิดอยู่ได้จากสัญชาตญาณและเริ่มที่จะบินเข้ามาหายูอิลฮาน คนที่เกิดค่อนข้างจะใกล้ได้มาถึงเร็วที่สุด และคนที่เกิดอยู่ใกล้ออกไปก็จะกระพือปีกอย่างไม่สิ้นสุดพร้อมตะโกนเรียกชื่อของยูอิลฮาน การที่มีมังกรขนาดร่างกายมหีมามาร้องประสานเสียงแบบนี้มีแต่จะทำให้คนอื่นๆต้องหวาดกลัวเท่านั้น
“บ้าอะไรเนี้ย? พวกมังกรเป็นบ้าอะไรกันไปหมด? พวกเขากำลังจะทำอะไรกัน?”
[นายท่านคือผู้ปกครองของมังกรทั้งมวลรวมถึงตัวฉันด้วย ฉันอยากจะเจอพวกเขาจริงๆเลย]
เสียงของอิชจาร์ดูจริงจังมากยิ่งกว่าที่เคย ตามปกติแล้วอิชจาร์มักจะมีคำบ่นออกมาตลอด แต่ว่าในตอนนี้น้ำเสียงของเขาดูจริงจังเอามากๆและมีกระทั่งความเคารพบูชายูอิลฮานอีกด้วย
[นายท่านได้ประกาศออกมาหลังจากที่ทำให้ฉันยอมแพ้ ในตอนนั้นนายท่านได้บอกว่าจะเป็นจ้าวของมังกรทั้งมวลรวมถึงตัวฉันด้วย นี่คือความปรารถนาของฉันที่ฉันไม่เคยทำได้เลยและเป็นคำขอของฉันในฐานะผู้แพ้]
“นายบอกว่าความปรารถนาของนายแล้วก็คำขอ…”
ครั้งหนึ่งอิชจาร์เคยเป็นมังกรแห่งความสิ้นหวังที่ได้คุกคามสิ่งมีชีวิตมากมาย แต่ว่าเขาไม่เคยไปถึงจุดหมายของเขาตลอดการเดินทางเลย
จากการพยายามมาหลายต่อหลายปีเขาควรจะไปถึงจุดๆนั้นแต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ นี่คือความหวังและความปรารถนาของเขาที่ถูกเก็บเอามาไว้เป็นระยะเวลานาน จริงๆแล้วยูอิลฮานไม่เคยคิดถึงอิชจาร์มาก่อนเลย แต่ว่ายูอิลฮานก็รู้สึกสนใจเป็นครั้งแรกหลังจากได้รู้ถึงความรู้สึกของอิชจาร์ที่มีต่อการเกิดของมังกรจำนวนนับไม่ถ้วนในดินแดนแห่งนี้
มังกรที่ครั้งหนึ่งถูกอาบย้อมไปด้วยกระดูกแห่งคำสาปและความสิ้นหลัง ในที่สุดแล้วเขาก็เรียกคืนความตั้งใจดั้งเดิมออกที่สว่างสดใสมันเหมือนกันแสงท่ามกลางความมืดมนของจิตใจเขา
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”
ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็ได้ถูกกำหนัดให้เป็นจ้าวแห่งมังกรทั้งมวลมาล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะแบบนั้นนี่จึงเป็นความรับผิดชอบชองเชาเช่นกัน การทอดทิ้งมังกรที่เรียกเขาว่าพ่อมันก็คงจะไม่ต่างไปจากการทอดทิ้งยูมิลแน่นอน
“ในเมื่อฉันสัญญากับนายเอาไว้ในตอนเราทำสัญญากัน เพราะงั้นฉันจะรับผิดชอบมังกรพวกนี้เอง”
[ขอบคุณมากๆ]
หลังจากได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อิชจาร์ก็ได้เงียบลงไป และในเวลาไม่นานมังกรก็ได้มารวมตัวกับรอบๆยูอิลฮาน
บางส่วนก็กระพือปีกบินอยู่บนท้องฟ้ารอบตัวยูอิลฮาน ในขณะที่บางส่วนก็หุบปีกมองขึ้นมาหายูอิลฮานจากพื้นดิน แน่นอนว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่ขึ้นมาทำให้ท้องฟ้าก็ยังดูทอดยาวอย่างไร้ที่สิ้นสุดแม้ว่าจะมีมังกรนับแสนมารวมตัวกันอยู่
[พ่อ]
[พ่อของฉัน]
[ท่านผู้ยิ่งใหญ่และงดงาม]
[ท่านทรงพลัง อ่า ท่านแข็งแกร่งจริงๆ]
มังกรทั้งหมดต่างก็มองมาที่ยูอิลฮานด้วยความชื่นชม พวกมังกรได้มองเห็นอิทธิพลจำนวนมหาศาลที่ยูอิลฮานมีต่อโลกใบนี้รวมไปถึงมานาจำนวนมหาศาลที่ยูอิลฮานครอบครองอยู่และพลังแห่งทวยเทพที่ซ่อนเอาไว้ภายใต้เรือนร่างเล็กๆนี่ ยูอิลฮานรู้สึกอึดอัดเอามากๆกับการถูกสายตาของมังกรนับล้านมองมา แต่สำหรับยูมิลแล้วดูเขาจะชื่นชอบเอามากๆ
“พ่อครับ มังกรพวกนี้อ่อนแอกว่าผมหมดเลย!”
“ใช่แล้ว ตอนนี้มิลแข็งแกร่งมากๆแล้วไงล่ะ”
“ผมดีใจจัง!”
เหตุผลที่ยูมิลมีความสุขอาจจะไม่ใช่แค่เพราะว่าเขาแข็งแกร่งกว่ามังกรคนอื่นๆเท่านั้น แต่ว่าเขาก็น่าจะรู้สึกได้ถึงความความไม่พอใจต่อมังกรของยูอิลฮานได้หายไปแล้วด้วย
ก่อนหน้านี้ยูมิลไม่อาจจะแสดงความรู้สึกแบบนี้กับยูอิลฮานได้เนื่องจากว่ายูอิลฮานมีความเป็นศัตรูกับมังกรอยู่ แต่ว่าเขาก็ยังคงมีความโหยหาในเผ่าพันธ์เดียวกันเป็นธรรมชาติของตัวเองอยู่ และในตอนนี้มังกรจำนวนมากมายที่เพิ่งจะเกิดมาก็ได้ติดตามยูอิลฮานแล้ว เพราะแบบนี้เองก็เลยทำให้เขารู้สึกมีความสุข
“พวกนายอยากจะทำอะไรกันล่ะ? พูดออกมาตรงๆนะ”
แม้ว่ามังกรพวกนี้จะเพิ่งเกิดขึ้นมา แต่ว่าพวกมังกรก็สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้ตามความต้องการและมีเหตุมีผลด้วยเช่นกัน เพราะแบบนี้ทำให้ยูอิลฮานได้เลือกที่จะปล่อยให้พวกมังกรได้ทำตามความต้องการของตัวเอง และมังกรทุกๆคนก็ได้ตอบกลับมาโดยไม่ลังเล
[ผมอยากที่จะแข็งแกร่ง!]
[ผมอยากที่จะอยู่กับท่าน!]
ใช่แล้ว เป้าหมายแต่เดิมของมังกรก็เป็นแบบนี้นี่แหละ ยูอิลฮานได้หยักไหล่ขึ้นมาอย่างสบายๆเพราะเขาได้คาดเอาไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้
“ได้เลย ฉันจะทำให้พวกนายแกร่งขึ้นเอง”
[ขอบคุณครับนายท่าน]
มังกรนับล้านตัวได้คำรามออกมาพร้อมๆกัน ยูอิลฮานได้หยักหน้าและหยิบเอาเนื้อมังกรออกมาจากช่องเก็บของ
เนื้อส่วนใหญ่พวกนี้ก็คือเนื้อของมังกรคลาส 4 และก็มีเนื้อมังกรคลาส 5 อยู่มากเช่นกัน รวมไปถึงเนื้อมังกรคลาส 6 ทราก้า ด้วยเช่นกัน และในท้ายที่สุดก็คือเนื้อของมังกรแห่งความสิ้นหวังอิชจาร์
“นี่คืออาหารมื้อแรกสำหรับพวกนาย หลังจากที่กินเนื้อไปแล้วพวกนายก็จะต้องออกกำลังกายกันเพราะงั้นกินให้อิ่มล่ะ”
มังกรรู้ได้ดีว่า ‘ออกกำลังกาย’ ของยูอิลฮานจะไม่ใช่การยืดเส้นยืดสายตามปกติแน่แม้ว่าพวกเขาจะเกิดมาไม่ถึง 20 นาทีก็ตาม
จากการที่มังกรได้ถูกสร้างขึ้นจากบันทึกของยูอิลฮานทำให้มังกรทุกๆคนสามารถจะเข้าใจได้ถึงคำพูดไร้สาระที่คลุมเครือของยูอิลฮานได้เป็นอย่างดี
[หรือก็คือนับจากนี้…]
[นี่คือภารกิจแรก!]
มังกรจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็มีขึ้นมาด้วยกระตือรือร้น เนื้อจำนวนมากนี่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งมีอยู่จำกัดและมีคู่แข่งอยู่มากมายเพราะงั้นพวกเขาจึงต้องสู้กันเพื่อแย่งมาเท่านั้น
“แต่ว่าจะต้องไม่มีใครตายนะ ในตอนนี้พวกนายทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน และคนที่ฆ่าครอบครัวของตัวเองจะไม่ได้รับการให้อภัย”
[เข้าใจแล้วครับ!]
[ครับ!]
จากคำตอบที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญหรือเวทย์เพลิงขั้นสูงของพวกมังกรทำให้ดูเหมือนพวกเขาจะอัดอีกฝ่ายไปจนถึงสภาพกึ่งตายแน่นอน
“ตอนนี้ลูกไม่ต้องการอะไรแล้วงั้นหรอมิล?”
“ไม่หรอกครับ พวกเด็กๆควรที่จะกินเยอะๆและก็โตขึ้น”
ระหว่างเฝ้าดูลูกมังกรสู้กัน ยูมิลก็ได้ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ คนที่ได้กินเนื้อของอิชจาร์ไปก็น่าจะมีศักยภาพที่จะกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเช่นกัน
ยูอิลฮานรู้สึกแปลกใจนิดๆขณะที่มองดูมังกรนับล้านทำสงครามเพื่อแย่งอาหารมื้อแรกกัน ทั้งบนท้องฟ้าหรือบนพื้นดินต่างกเต็มไปด้วยเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนและการปะทะกันของร่างกายที่ดูน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการต่อสู้ใดๆที่ยูอิลฮานเคยเห็นมา แต่ว่าเป้าหมายของการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่นี่กับแค่อาหารเพียงมื้อหนึ่งเท่านั้น…
“ดูเหมือนทุกๆคนจะหิวกันมากเลยนะ”
“มันไม่น่าจะใช่แค่นั้นนะครับ”
สำหรับมนุษย์แล้วการกินเนื้อกันเองคือเรื่องต้องห้าม แต่ว่าสำหรับมังกรการกินเนื้อกันเองนั่นคือพิธีกรรมที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของเผ่าพันธต่อไป พวกมังกรเหล่านี้ก็น่าจะรู้ในเรื่องนี้
“นายคิดยังไงล่ะอิชจาร์? เนื้อที่มังกรเหล่นี้อยากจะกินที่สุดก็คือนายเลยนะ?”
[ในตอนนี้เนื้อนั่นมันไร้ประโยชน์สำหรับฉันไปแล้ว ถ้ามันจะทำให้เด็กๆแกร่งขึ้นมา ถ้างั้นฉันก็ยินดี]
“…เดี๋ยวนี้นายพูดตรงๆเป็นแล้วนี่”
บางทีนี่คงถึงเวลาที่หยุดแกล้งอิชจาร์แล้ว ยูอิลฮานได้ยักหล่และมองกลับไป เอลฟ์กับหมาป่าที่รวมตัวกันอยู่บนที่ราบสูงต่างก็อ้าปากจนกรามค้างจากการต่อสู้ของมังกร
“มังกรตัวใหญ่นั่น”
“มอนสเตอร์ที่ฉันไม่อาจจะสู้ได้เพียงลำพังมีอยู่ตรงหน้าเป็นล้าน… ท่านจักรพรรดิช่าง… ยิ่งใหญ่จริงๆ”
มังกรที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวกำลังสู้กันตามคำสั่งของยูอิลฮานอยู่ สำหรับพวกเอลฟ์แล้วมันยิ่งทำให้ได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของยูอิลฮาน ยูอิลฮานได้หันมาปลอบเอลฟ์กับหมาป่าที่กำลังตื่นเต้นกันมากๆด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“สำหรับพวกนายที่อยากจะเป็นนักขี่มังกรกันก็ควรจะเตรียมตัวไว้นะ”
“โอ้วววววว!”
มีมังกรอยู่จำนวนมาก เพราะแบบนี้บางทียูอิลฮานก็อาจจะได้นักขี่มังกรมาอย่างน้อยก็ประมาณร้อยคนได้แน่ๆ ถึงต่อให้พวกเอลฟ์กับเผ่าพันธ์หมาป่าไม่อยากจะเป็น ยูอิลฮานก็จะบังคับเอง ยูอิลฮานไดตัดสินใจแบบนี้เอาไว้ภายในใจและหยักหน้าขึ้นมา เพราะแบบนี้เองทำให้เหล่าเอลฟ์จะต้องได้บุกเบิกเส้นทางใหม่ในการขี่มังกรหลังจากที่ได้ขี่หมาป่า!
“ฉันมาที่ดาเรย์ก็เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับโลกของฉัน และนี่ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีทีสุดที่ฉันได้เลือกอีกด้วย”
ในตอนนี้ยูอิลฮานได้เป็นผู้ปกครองของเหล่ามังกรทั้งมวล และประกายให้โลกแห่งมังกรเป็นเขตปกครองแรกของเขา แถมด้วยเอกลักษณ์ส่วนตัวของเขาทำให้โลกระดับต่ำภายใต้การปกครองของเขาหลอมรวมเข้ากับโลกใบนี้อีกด้วย
โลกได้ใหญ้ยิ่งขึ้นและมีมังกรที่เต็มไปด้วยศักยภาพกำเนิดขึ้นมา แค่นี่ก็มาพอที่จะเรียกว่าปาฏิหาริย์แล้ว
“ดูเหมือนว่าใกล้จะจบแล้วนะ”
แน่นอนว่ามหาภัยพิบัติขั้นที่ 6 ไม่ได้จะจบลงแค่นี้ แต่ว่ามานาในชั้นบรรยากาศได้เริ่มแสดงความสเถียรขึ้นมาแล้ว ในตอนนี้โอกาสฝนฟ้าคะนองในระหว่างกำลังเดินอยู่…น่าจะลดลงไปแล้ว แต่ก็สำหรับตอนนี้เท่านั้น
“ท่านจักรพรรดิ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ?”
หนึ่งในเอลฟ์ที่มองดูยูอิลฮานที่กำลังอยู่ในความคิดอยู่ได้เรียกเขา ยูอิลฮานได้หยักไหล่ออกมา
“ฉันกำลังคิดถึงสิ่งที่ฉันจะทำในดาเรย์ต่อจากนี้น่ะ เพราะว่ามีหลายๆอย่างเปลื่ยนแปลงไปในทันที พวกเอลฟ์อย่างพวกนายกับเผ่าพันธ์หมาป่าจะเอาตัวรอดผ่านมันไปได้ก็ต่อเมื่อพวกนายแข่งแกร่งขึ้น…”
“ผมจะทำให้ได้ครับ!”
“ฉันชอบในความมั่นใจของพวกนายนะ แต่ว่า…”
ยูอิลฮานได้มองไปที่มอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นมาทั่วทั้งโลก พวกเอลฟ์กับหมาป่าในปัจจุบันไม่อาจจะมีโอกาสจะเอาชนะมอนสเตอร์พวกนั้นได้เลย
มังกรไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตเดียวที่เกิดมาแข็งแกร่ง มีมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีเลเวลสูงกว่า 270 เกิดขึ้นมาทั่วทั้งดาเรย์
ในตอนนี้การเปลื่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ลดลงไปแล้ว แต่ว่ามานาที่มีในดาเรย์ก็เปลื่ยนเป้าหมายไปที่การทำให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธ์และวิวัฒนาการเร็วขึ้นแทน
“หากพวกนายอยากจะสู้กับสัตว์ร้ายแบบนั้นพวกนายจะต้องให้พวกมังกรช่วย”
“เราไม่อาจจะกังขาในคำพูดของท่านจักรพรรดิอยู่แล้ว แต่ว่าพวกเราจะใช้ชีวิตร่วมกันกับมังกรได้งั้นหรอ…”
เอลฟ์ต่างก็ไม่มั่นใจ นี่เป็นเรื่องปกติเพราะว่าเอลฟ์เคยเป็นเพียงเหยื่อของมังกรมาก่อน ยูอิลฮานได้ยิ้มแห้งๆออกมา
“มังกรทั้งหมดนั่นต่างก็ทำตามคำสั่งฉันและไม่ได้ต่อต้านฉัน เพราะงั้นเรื่องที่พวกนายเป็นกังวลกันอยู่ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ …ยังไงก็ตามพวกนายก็อาจจะต้องสู้กับศัตรูที่น่ากลัวและน่ารำคาญในอนาคตแน่ๆ”
[กรรรรรรร!]
“พวกเราพร้อมอยู่เสมอครับตราบใดที่ท่านจักรพรรดิยังคงอยู่กับเรา!”
เหล่าหมาป่ารู้สึกแปลกๆกับคำว่า ‘ศัตรูที่น่ากลัวและน่ารำคาญ’ ในขณะที่ฝั่งของเอลฟ์ได้ตะโกนออกมาอย่างกล้าหาฐ หืมดูเหมือนไม่จำเป็นต้องสอนพวกเขาแล้วนะ
ยูอิลฮานได้หยักหน้าด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ และตอนนี้เขาก็มองกลับไปหามังกร มังกรทั้งล้านตัวที่เพิ่งจะจบศึกแย่งชิงอาหารก็กำลังมองมาที่ยูอิลฮานอยู่
“เอาล่ะถ้างั้นก็…”
เขาได้ดูตัวที่แข็งแกร่งที่สุดที่ได้เอาเนื้อของอิชจาร์จาไปซึ่งนี่ทำให้ยูอิลฮานตกใจกับผลลัพธ์มาก
[ฟู่ กรรรรรรรรรรร!]
มีตัวหนึ่งได้ยึดเอาเนื้ออิชจาร์ทั้งหมดไป
“นายนี่โลภน่าดูเลยนะ”
[พ่อ ผมอยากแข็งแกร่ง!]
ตัวนี่ก็คือตัวที่ดึงดูดสายตาของยูอิลฮานตั้งแต่แรกแล้ว นี่คือมังกรที่เกิดมามีเลเวล 280 และมีเกล็ดสีแดงเพลิงที่สื่อถึงพลังแห่งเพลิงที่อยู่ในสายธาตุเดียวกับยูอิลฮาน
แน่นอนว่าตอนนี้มังกรแดงที่ได้กินเนื้ออิชจาร์ไปอีกทำให้เลเวลของมันเพิ่มขึ้นมาจนถึง 294 สกิลอื่นๆก็น่าจะพัฒนาขึ้นมาอย่างมากเช่นกัน
[ผมอยากจะแกร่งยิ่งกว่านี้ อยากที่จะเอาชนะ!]
“ดีมาก ฉันจะให้นายเป็นผู้นำกลุ่มนี้นะ ฉันจะให้ชื่อกับนายนั่นคือรูบี้”
[มีความสุขจัง!]
รูบี้มังกรแดงได้หลบสายตายูมิลที่จ้องมาเงียบๆราวกับจะถามรูบี้ว่านายดูถูกชื่อนี้งั้นหรอ ยูอิลฮานได้จัดการรักษาบาดแผลให้กับมังกรที่บาดเจ็บ สำหรับการรักษานั่นก็แค่ใส่โพชั่นที่ผสมขึ้นมาจากเลือดมังกรที่ผสมกับอ่างแห่งปาฏิหาริย์และเลือดของเขาเล็กน้อยก็พอแล้ว
[พ่อ แล้วต่อจากนี้เราจะทำอะไรกัน?]
“มันเป็นเรื่องดีนะที่จะฝึกสกิลที่มีตั้งแต่เกิดของพวกนาย… แต่ว่าสำหรับในตอนนี้ก็ไปสู้กับมอนสเตอร์ที่่อนแอจนไม่อาจจะคุกคามชีวิตพวกนายได้ก่อน ในอนาคตเป้าหมายแรกของพวกนายทุกคนก็คือห้ามไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอื่นมาปกครองโลกใบนี้นอกจากตัวพวกนายเอง โอเคนะ?”
[เข้าใจแล้วครับ]
[เราจะทำตาม!]
มังกรทั้งหมดต่างก็บินแยกกันออกไปเหมือนกับตอนนี้มา เมื่อรูบี้คำรามขึ้น มังกรทั้งหมดก็ส่งเสียงออกมาพร้อมๆกัน
[เดี๋ยวจะกลับมานะครับ!]
เสียงคำรามของมังกรนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับพ่อแม่ที่ส่งลูกๆออกไปเรียนเป็นครั้งแรก ยูอิฮานได้มองส่งพวกมังกรจากไปและคิดว่าตราบใดที่ไม่มีใครตายก็ไม่มีปัญหา
“พ่อครับ แล้วเราจะทำอะไรต่อล่ะ?”
“ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่ยังเหลืออยู่”
ดวงตาของยูอิลฮานได้เป็นประกายขึ้นมา ผลกระทบหลังจากมหาภัยพิบัติยังคงอยู่ ในขณะที่วงเวทย์เอลฟ์โบราณก็ได้ทำงานแล้วด้วย
แต่ว่าเรื่องที่ต้องจัดการก็คือเขาไม่อาจจะปล่อยให้ที่ราบสูงที่เอลฟ์กับหมาป่ายืนอยู่เป็นเหมือนก้อนหินๆและหญ้าเฉยๆได้ เพราะแบบนี้…
“เรามาสร้างเมืองไว้ให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่กันเถอะ”
จิตวิญญาณแห่งนักสร้างของเขากำลังลุกโชนขึ้นมาแล้ว