Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี - ตอนที่ 277
บทที่ 277 – ทำไมมีแค่ฉันล่ะ (3)
ยูอิลฮานได้มองไปที่หัวหน้ากิลด์ที่กำลังสู้กับปีศาจด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ
“หืม กำลังไปด้วยดีเลย”
[ก๊าซซซซซซซซซซซ!]
“ไปด้วยดี!? นายคิดว่านี่มันกำลังไปด้วยดี!? ใช่ ใช่แล้วล่ะ! พวกเขากำลังตายด้วยดี!”
มิเชล สมิธสันได้หมดหวังไปแล้ว ทุกๆครั้งที่หนวดของงปีศาจกระทบเข้ากับโล่เข้ามันให้ความรู้สึกเหมือนแขนเขากำลังฉีกออกตลอดเวลา ยูอิลฮานได้เอียงหัวแล้วหันไปเรียกนายูนา
“ยูนา”
“โอเค ฉันไม่ปล่อยให้พวกเขาตายหรอก แค่ไม่ตายก็พอแล้วสินะ”
“ปีศาจ พวกนายมันปีศาจ!”
[ก๊าซซซซซซซซซ!]
ตามปกติแล้วทั้งสามคนจะไม่มีทางต่อสู้กับปีศาจนี่ด้วยกำลังตัวเองได้เลย แต่ว่าด้วยการช่วยเหลือจากสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ทำให้พวกเขาเพิ่มพลังขึ้นจนถึงจุดที่พวกเขาสามารถจะฝืนเผชิญหน้าได้
“ว้าว ดูเหมือนการผสานงามกับพลังของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้นนะ”
“นี่เป็นสิ่งที่ดี ถ้าหากมีคนอื่นอีกที่ยังต่อต้านวงเวทย์ได้ต่อให้นิดเดียว ฉันก็จะพาคนพวกนั้นมาฝึกเหมือนกัน”
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอก เรามาเพิ่มระดับคนพวกนี้ขึ้นก่อนเถอนะ ตอนนี้เรายังมีเวลาเหลืออีกเยอะ”
“นั่นก็จริงล่ะนะ…”
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจมองพวกหัวหน้ากิล์อีก ตอนนี้เขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องไปทำ
“ถ้างั้นตอนนี้คงจะเป็นเวลาสำหรับการสร้างของฉันแล้วสินะ?”
[แต่ทำไมนายท่านถึงได้มองมาที่ฉันล่ะ?]
“อืมม เธอน่าจะรู้เหตุผลมากกว่าฉันอีกนะ”
ป้อมปราการลอยฟ้าได้เจอเข้ากับหลายๆอย่างในการพัฒนามันขึ้นไป เพราะศักยภาพในการพัฒนาของมันที่เป็นอาร์ติแฟคระดับพระเจ้า ทำให้ป้อมปราการนี้สามารถจะใช้บันทึกที่มันดูดซับมาเพิ่มพลังให้กับประสิทธิภาพของอาร์ติแฟคป้อมปราการลอยฟ้าโดยการที่จะเพิ่มความทนทานอะไรแบบนี้
ยังไงก็ตามนั่นมันยังคงไม่พอ หากยูอิลฮานเอาวัตถุดิบจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงนับไม่ถ้วนที่เขาเก็บเอาไว้ในช่องเก็บของ เขาก็น่าจะพัฒนาป้อมปราการลอยฟ้าให้ไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้อีก!
[ยังจะมากกว่านี่อีกหรอ มันเป็นไปไม่ได้!]
“อย่างแรกจะต้องเป็น”ร้อยนัยน์ตา” เธอรู้ว่าฉันจะทำอะไรแล้วสินะ”
[นายท่านบ้าไปแล้ว]
ยูอิลฮานได้รวบรวมขนปีกของทูตสวรรค์กับเทวดาสวรรค์มา และเริ่มสร้างกระจกเพิ่มอีก 900 บาน มิสทิคก็ได้พัฒนาขึ้นมาเช่นกันเพราะแบบนั้นเธอก็น่าจะควบคุมกระจกนับพันได้พร้อมๆกัน
[ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้แน่ๆ]
“ไม่ เธอทำมันได้ ถ้าเธอทนไม่ได้ เธอก็จะทนกับสงครามที่กำลังจะมาถึงไม่ได้แน่!”
[เผด็จการ! นายท่านมันเผด็จการ!]
เนื่องจากว่ายูอิลฮานเคยมีประสบการณ์ทำมันมาก่อน ทำให้เขาไม่ต้องใช้เวลาในการสร้างกระจกมากเลย ความเร็วของยูอิลฮานได้เร็วมากยิ่งๆขึ้นจนมากพอที่จะดึงดูดในคนอื่นๆที่อยู่ในบาเรียต้องหันมอง
“อย่ามามองฉัน ไปทำหน้าที่ของตัวเองไป”
“ครับ!”
ยูอิลฮานได้สร้างกระจก 900 อันในเวลาเพียงแค่ 14 ชั่วโมง จากนั้นดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างอยู่ก่อนที่สร้างกระจกเพิ่มขึ้นอีก 4 อัน เขาได้ใช้วัตถุดิบที่เหลืออยู่มาทำกระจกสี่อันนี้ที่เป็นกระจกที่มีขนาดใหญ่และดูอันตรายที่สุด!
[ทำไมถึงทำสี่อันนี้ล่ะ?]
“ก็เพราะว่าศัตรูจะได้ตกใจไงล่ะว่าทำไมมันถึงมีอีก 4 อันในเมื่อชื่อมันจะถูกเรียกว่า ‘พันนัยน์ตา’”
[…อ่า ฉันก็พอจะเดาเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว]
ร้อยนัยน์ตาไปเป็นพันนัยน์ตา นี่คือการพัฒนาขึ้นขนาดใหญ่ของอาร์ติแฟคและจะทำให้อาร์ติแฟคเลื่อนระดับได้เลย จากโกลาหลได้ไปสู่ระดับกึ่งเทพ
ยูอิลฮานดูจะผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากว่าเขาเล็งไว้ที่จะทำให้มันเป็นระดับเทพเจ้า แต่ว่าเนื่องจากว่าป้อมปราการลอยฟ้าได้ถูกอัพเกรดตามเขาตั้งใจเอาไว้แต่แรก ทำให้เขาตัดสินใจปล่อยไว้แค่นี้
“ถ้างั้นฉันควรจะเพิ่มอะไรอีกดี?”
[นายท่าน? ท่านจะไม่เชื่อใจในตัวฉันมากไปนิดหรอ…?]
“ฉันรู้แน่ๆว่าอะไรที่เธอทำได้แล้วก็อะไรที่เธอทำไม่ได้ด้วย เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
[นี่ยิ่งทำให้ฉันกังวลมากกว่าเดิมซะอีก!]
สิ่งมีชีวิตชั้นสูงของกองทัพปีศาจวิบัติส่วนใหม่มักจะวิวัฒนาการขึ้นมาจากมอนสเตอร์ แล้วก็หลายครั้งที่เลือดและเนื้อของพวกมันจะเต็มไปด้วยพิษร้ายแรง นอกไปจากนี้ทุกๆส่วนขงพวกมันยังมีคุณสมบัติพิเศษแล้วเมื่อนำมารวมกันกับสิ่งต่างๆระดับของพิษก็ยังจะวิวัฒนาการขึ้นไปอีกด้วย
ในท้ายที่สุดแล้วพิษจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็เป็นปกติที่มันจะต้องใช้ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงด้วยกัน ในหมู่สมาชิกกองทัพปีศาจวิบัติมีหลายคนที่ใช้การโจมตีด้วยพิษ แน่นอนว่ายูอิลฮานได้มีเวอร์ชั่นที่พัฒนาของการป้องกันพิษขั้นสูง คือร่วงหล่นทำให้เขาไม่ได้ผลจากพิษพวกนี้เลย
ใช่แล้ววิธีที่สองที่จะอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้านั่นกคือพิษ ในช่องเก็บของของเขามีร่างของพวกกองทัพปีศาจวิบัติอยู่มากมาย เพราะงั้นเขาจึงมีวัตถุดิบมากพอแล้ว
“มีตัวอย่างอยู่มากเกินไป… ฉันคงจะต้องผสมพวกมันเข้าด้วยกันสินะ?”
[แล้วนายท่านจะตรวจสอบความเป็นพิษของมันยังไงกันล่ะ?]
ยูอิลฮานได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“ก็ง่ายๆไง ฉันก็แค่กินมันลงไป การร่วงหล่นมีการต้านพิษอยู่เพราะงั้นถ้าฉันกินมันไปฉันก็จะได้ฝึกการร่วงหล่นไปด้วย นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนี่”
[แผนโรคจิตแบบนี้มัน โอ้ก็สมกับนายท่านนั่นแหละนะ….]
อย่างแรกเขาได้แยกประเภทของพิษที่มีก่อนแล้วก็เค้นเลือดของพวกมันออกมาจนซากแห้ง เพราะแบบนี้ทำให้เขาได้เลือดที่แตกต่างกันกว่าพันชนิดรวมเป็นเลือดหลายล้านลิตร ในจุดๆนี้ยูอิลฮานได้ใช้สัญชาตญาณของเขาเริ่มทำการผสมมันเข้าด้วยกันแบบสุ่มๆ
“ไม่ล่ะ นี่มันอ่อนไปแล้ว นี่ก็ด้วย นี่ก็อ่อนเหมือนกัน!”
[อย่าโยนพิษทิ้งลงพื้นสินายท่าน! ป้อมปราการกำลังละลายแล้วนะ]
“พิษนี่ก็อ่อนไป… แล้วก็นี่ แกร่งขึ้นหน่อยแล้วแหะ”
เขาได้เก็บเอาพิษที่มีผสมได้มาเป็นส่วนที่แข็งแกร่งมาเก็บเอาไว้ จากนั้นก็เอามันมาผสมเข้ากัน การผสมพิษของยูอิลฮานได้ดำเนินไปแบบนี้อย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่น่าตกใจอีกเรื่องก็คือยิ่งเขาชินกับการผสมพิษเท่าไหร่ ความเร็วในการผสมของเขาได้กลายเป็นเร็วยิ่งๆขึ้น
[นายท่านไม่ปกติแล้ว]
“ใช่แล้ว ฉันไม่ปกติไงล่ะ!”
[อย่ามาภูมิใจกับเรื่องแบบนี้สิ]
ทุกๆวินาทีจะมีพิษสามหรือสี่อย่างปรากฏขึ้นมาและหายไป พิษที่อ่อนแอจะถูกโยนทิ้งไป ส่วนพิษที่แข็งแกร่งก็จะถูกสร้างซ้ำๆจนเกิดมาเป็นพิษใหม่ที่มีรากฐานมาจากพิษที่แข็งแกร่งและเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ทั่วทั้งจักรกาลไม่เคยเลยที่จะมีการสร้างและทำลายพิษจำนวนมากในที่ๆเดียวแบบนี้ ไม่สิ มันไม่เคยมีใครที่คิดจะเอาพิษของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงจำนวนมากมาใช้แต่แรกแล้ว
“ฉันมาดูว่าอิลฮานกำลังทำอะไรอยู่… แต่ทำไมฉันถึงได้เห็นนรกในส่วนหนึ่งของป้องปราการลอยฟ้าล่ะ?”
“เลียร่า ฉันเข้าใจนะว่าเธออยากจะมาดู แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่ เพราะงั้นไปฝึกกับคนอื่นๆก่อนนะ”
ขวดนับหมื่นที่บรรจุพิษที่มีทั้งพิษที่กำลังเดือดและพิษที่หนาวสั่นนี้ทำให้มันดูน่ากลัวมา และเลียร่าได้เข้ามาใกล้ยูอิลฮานนี่นับได้ว่าเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก แต่ถึงแบบนั้นเมื่อมาถึงระยะหนึ่งเธอก็เข้ามาใกล้เขาไม่ได้อีก
“อิลฮาน ตรงนั้นที่กำลังกระตุกอยู่…นั่นมันพิษใช่ไหม?”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ นี่ก็คือชีวิตที่กำลังจะเกิดใหม่ขึ้นมาในพิษ”
“แล้วนี่มันใช่เรื่องเล็กๆหรอ!?”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันหยุดมันได้”
มอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นมาจากมานานั้นเป็นเรื่องปกติ แล้วก็มอนสเตอร์ที่เกิดมาจากมานาพิษที่เข้มขนสูงก็ไม่ได้หายากเช่นกัน ยูอิลฮานได้กวนพิษต่อไปเพื่อทำลายสัญญาณชีวิตทิ้งอย่างไร้ปราณี และตักขึ้นมาดื่มหนึ่งทัพพี
“หืมมม”
ทันทีที่เขาได้ดื่มมันลงไป ก็ได้ทีกลิ่นเผ็ดร้อนที่เหมือนกับผ่านการหมักมาหลายพันปีพุ่งขึ้นมาที่จมูกของเขา พร้อมกันกับการกระตุกอย่างรุนแรงที่ระบบย่อยอาหารของเขา
ยูอิลฮานทนไม่ได้จนถึงกับต้องเปิดปากเรอออกมาพร้อมกับควันสีเขียวเข้มลอยออกมาจากปาก ความรักพันปีอาจจะหายไปได้เลยหากมาเห็นภาพนี้
“อี๋”
“ฉันให้คะแนน 10/10 เลยล่ะ”
“…นายไม่เป็นไรนะ”
“แน่…”
เมื่่อเขากำลังจะตอบกลับไปก็ได้มีข้อความที่เขาไม่คิดว่าจะปรากฏโผล่ขึ้นมาให้เขาได้เห็น
[คุณได้เชี่ยวชาญสกิลทำอาหาร คุณได้เชี่ยวชาญในการทำอาหารที่มีพลังเวทย์และมานาทุกชนิด ความต้านทานธาตุไฟกับธาตุน้ำเพิ่มขึ้นรวมถึงพลังโจมตีธาตุ 30% ]
“หืม”
“อะไรงั้นหรอ?”
ยูอิลฮานได้มองลงไปที่ทัพพีเงียบๆก่อนที่จะหยักไหล่ขึ้นมา ถึงแม้ว่านี่มันจะน่าตกใจอยู่แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นซะหน่อย ไม่ว่ายังไงความสามารถในการสร้างพิษของเขาก็ได้เพิ่มขึ้น แล้วก็การควบคุมธาตุไฟกับธาตุน้ำของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน นี่มันคือเรื่องดี
เลียร่าที่รู้สึกได้ถึงการเปลื่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเขาได้ถามขึ้นมาด้วยความสับสน
“อิลฮานเมื่อกี้นี้ฉันรู้สึกเหมือนนายแกร่งขึ้นนะ…”
“ถ้าฉันพูดไปเธอคงจะหงุดหงิดแน่ เพราะงั้นฉันจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ”
“…?”
แน่นอนว่าไม่มีใครคิดแน่ว่าการกินพิษจะทำให้สกิลการทำอาหารมาถึงขั้นสูงสุดได้
ยูอิลฮานได้ส่งเลียร่าออกไปก่อนที่จะกลับมาผสมพิษต่ออีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นประมาณสามวันเขาก็ได้รับพิษสามชิดที่เขาชอบมา และทำพิษสามชนิดนี้อย่างล่ะประมาณ 20 ลิตร แม้ว่านี่จะน้อยมากเมื่อเทียบกับพิษทั้งหมดที่เขามีตั้งแต่อรก แต่ว่ายูอิลฮานก็คิดว่านี่แหละคือความสำเร็จแล้ว
“ดูเหมือนถ้าฉันกะปริมาณได้ถูก ฉันก็อาจจะฆ่าคลาส 6 ได้ด้วยพิษนี้ด้วย”
[ศพของกองทัพปีศาจวิบัติ… แม้ว่าพวกนี้จะได้ไปถึงจุดสูงสุดในโลกของตัวเองแต่กลับกลายมาเป็นแค่วัตถุดิบในการทำพิษ!]
ยูอิลฮานได้สร้างและติดตั้งกับดักที่ใช้พิษขึ้นมาบนป้อมปราการลอยฟ้า และจัดการทาพิษลงบนคมมีดในทุกๆจุดของป้อมปราการ
ส่วนที่เลวร้ายที่สุดของพิษนี้เลยก็คือมันเต็มไปด้วยเศษเสี้ยวของอาหารเวทมนต์อยู่ภายใน เดิมที่มันก็มีพิษที่เลวร้าวอยู่แล้ว แต่มันจะยังเปลื่ยนแปลงรูปร่างไปตามยูอิลฮานต้องการเพื่อโจมตีศัตรูได้อีกด้วย! ไม่เพียงแค่นี้จะทำให้พรรคพวกของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากพิษเท่านั้น แต่ว่ายังเป็นไปได้อีกด้วยที่จะใช้พิษต่อสู้ให้ได้อย่างทรงประสิทธิภาพถึงขีดสุด
“ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังใช้วิธีนี้หลอกศัตรูว่านี่เป็นเพียงพิษที่อ่อนแอได้อีกด้วย
[นายท่านมันชั่วร้ายจริงๆ!]
ยังไงก็ตามแผนชั่วของยูอิลฮานเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง หลังจากเขาได้สร้างพิษขึ้นมาแล้ว เขาก็ได้ใช้ร่างของกองทัพปีศาจวิบัติที่ถูกดูดเลือดออกมาจนแห้งมาเสริมพลังให้กับป้อมปราการลอยฟ้าอีก! เพราะแบบนี้เองทำให้กำแพงภายนอกของป้อมปราการลอยฟ้าทรงพลังขึ้นไปอีก อาร์ติแฟคทั้งหมดแหลมคมยิ่งขึ้น และอาวุธภายในคฤหาสน์ก็ได้รับการเสริมพลัง รวมไปถึงจำนวนกับดักก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แต่ถึงแบบนั้นข้อมูลที่บันทึกนภามีให้กับป้อมปราการลอยฟ้าก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนะ
“นี่ยังดีไม่พออีกหรอ…? ป้อมปราการลอยฟ้าเป็นงานชิ้นแรกเลยนะที่ฉันทุ่มขนาดนี้!”
[นายท่านยังอยากที่จะก้าวข้ามระดับเทพเจ้าไปอีกงั้นหรอนายท่าน? ยอมแพ้เถอะนะ นั่นมันเป็นไปไม่ได้]
“แน่นอนว่าถ้ามันเป็นไปไม่ได้ฉันก็จะยอมแพ้ แต่ว่าจนถึงตอนนี้ฉันกำลังทำในสิ่งที่มันเป็นไปได้อยู่”
[นายท่านชั่งหัวรั้นจริงๆ]
ถ้ากองทัพปีศาจวิบัติใช้ไม่ได้ผล งั้นเขาก็แค่ต้องใช้ซากอื่นๆของกองกำลังอื่นๆสิ! เขาได้ใช้ซากทูตสวรรค์ เทวดาตกสวรรค์และผู้เฝ้าประตูสวนมาอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้า พลังที่มหาศาลอยู่แล้วของป้อมปราการลอยฟ้าได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก
ได้มีหินพลังเวทย์คลาส 5 อีกนับร้อยได้ถูกใช้และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับการเสริมพลังขึ้นเช่นกัน ในตอนนี้จำนวนของอาร์ติแฟคในป้อมปราการลอยฟ้ามีมากมายจนเขาขี้เกียจจะนับแล้ว
แต่ถึงแบบนั้นป้อมปราการลอยฟ้าก็ยังคงอยู่ในระดับเทพเจ้า
[ฉันบอกแล้วไงว่ามันเป็นไปไม่ได้]
“ฟู่…”
ตอนนี้ยูอิลฮานได้แต่ยอมรับในความเป็นจริง แม้แต่กองทัพสวรรค์ก็ยังไม่รู้เลยว่ามีสิ่งที่อยู่เหนือระดับเทพเจ้าหรือป่าว? ในเมื่อขนาดยูอิลฮานที่เป็นสุดยอดช่างตีเหล็กและสุดยอดนักหัตถกรรมมานาก็ยังทำไม่ได้เลยถ้างั้นการที่ทูตสวรรค์ไม่รู้นั่นก็ไม่น่าแปลกใจเลย
[ตอนนี้นายท่ายคงจะยอมแพ้แล้วใช่ไหม]
“ใช่สิ ตอนนี้ฉันควรจะ…”
ยูอิลฮานได้พึมพัมกับตัวเอง
“ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”
[ไหนนายท่านบอกว่าท่านทำแต่ในสิ่งที่เป็นไปได้ไงล่ะ!?]
“แน่นอน”
ยูอิลฮานได้หยักหน้าอย่างตั้งมั่นและยกมือขึ้นบนฟ้า ในตอนนี้เองร่างกายร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมา
“ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็คือสถานการณ์ที่ฉันจะเอาร่างของเจ้านี่มาใช้งาน”
[…พระเจ้า]
นี่ก็คือร่างกายของหัวหน้าผู้เฝ้าประตูสวนอาทิตย์อัสงดง เคลาทูค