Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 339 ปีศาจระดับ 4
Eternal Reverence บทที่ 339 ปีศาจระดับ 4
บทที่ 339
ปีศาจระดับ 4
เมื่อคนไม่กี่พันคนเข้ามาในสนามรบ มันก็เหมือนกับการเทน้ําใส่ขวดโหล มันไม่ได้สร้างระลอกคลื่นกับสภาพการณ์โดยรวมมากนัก
ด้วยความแข็งแกร่งของสัตว์ปีศาจและปีศาจ พวกมันก็เพียงแค่ต้องดึงพลังออกมามากขึ้นเล็กน้อยเพื่อสร้างสมดุลให้กับสถานการณ์ในสนามรบ
สําหรับผู้ที่จะได้รับชัยชนะในตอนสุดท้าย ย่อมไม่มีใครรู้จนกว่าจะต่อสู้กันจนถึงจุดจบสิ้น
เลือดสดสาดกระเซ็นไม่หยุด มีทั้งเลือดจากมนุษย์และสัตว์ปีศาจ แต่มันกลับมีเลือดปีศาจอยู่บ้างเล็กน้อยเป็นครั้งคราวเท่านั้น
สังเกตได้ว่าในแง่ของตัวเลข มนุษย์มีมากที่สุด ก็ในเมื่อสัตว์ปีศาจมีเพียงครึ่งเดียวหากเทียบกับมนุษย์และตัวปีศาจเองก็มีเพียงแค่ประมาณ 10% จากจํานวนรวมของสัตว์ปีศาจ อย่างไรก็ตาม 10% กลับนี้เป็นการดํารงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุด และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้เห็นฉากปีศาจล้มลงอยู่ที่พื้นในสนามรบแห่งนี้
ในสนามรบ ปีศาจระดับ 3 จะต้องมีนักสู้ขอบเขตปฐพีระดับสูงสุดมาต่อสู้หลายคนเพื่อต่อต้านมัน แต่มันก็เป็นเพียงแค่การต่อต้านมันเท่านั้น การเอาชนะอาจจะทําได้ยากแม้ว่าจะมีจํานวนของพวกเขามากกว่าสองเท่าจากที่ต่อสู้อยู่ก็ตาม สําหรับการฆ่ามัน สิ่งๆนี้ไม่จําเป็นต้องคิดเกี่ยวกับ มันภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ เว้นแต่จะเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ที่เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง
ในทํานองเดียวกัน ปีศาจระดับ 4 จะต้องมีนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุดหลายคนเพื่อต่อต้านมัน การเอาชนะมันต้องใช้คนเป็นสองเท่า และการฆ่ามันเป็นไปไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น
หากจะให้อธิบาย ปีศาจก็เป็นเหมือนการรวมกันระหว่างมนุษย์และสัตว์ปีศาจ หากจะให้เจาะจงมากกว่านี้ พวกมันคือการรวมกันระหว่างจุดแข็งของทั้งสองเผ่าพันธุ์
รวดเร็วและว่องไวกว่ามนุษย์ ร่างกายแข็งแกร่งยิ่งกว่าสัตว์ปีศาจ เป็นดั่งความแข็งแกร่งที่แท้จริง โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าปีศาจ ถึงอัจฉริยะได้ต่อสู้กับปีศาจด้วยตัวเอง พวกเขา เหล่าอัจฉริยะก็ไม่อาจกล้ากล่าวว่าการเอาชนะปีศาจจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
หากให้เปรียบเทียบกัน สัตว์ปีศาจที่มีระดับเดียวกันกับปีศาจ แม้ว่าจะอยู่ในระดับสูงสุด ก็ยังอ่อนแอกว่าพวกมันมาก แต่นั่นเป็นเพียงเมื่อเปรียบเทียบกับปีศาจ
สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุด คืนดับสังหาร น่ากลัวกว่าที่คิดไว้มาก
สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดก็เหมือนกับนักสู้ขอบเขตสวรรค์ชั้นสูงสุด
แต่ในแง่ของความแข็งแกร่งนั้น มันต้องเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ขั้นสูงสุดที่อ่อนแอหลายคนถึงจะเทียบกับสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดได้ แต่ถ้ารวมมือกันได้ดีพอ นักสู้ขอบเขตสวรรค์ขั้นสูงสุดที่อ่อนแอหลายคนก็อาจมีโอกาสเอาชนะหรือสังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดได้
ด้วยบุคคลสี่คนที่ร่วมมือกันกับหลี่ฟูเฉิน พวกเขาสองคนอยู่ที่ระดับ 9 ของขอบเขตสวรรค์ ในขณะที่อีกสองคนที่เหลืออยู่ระดับที่ 8 ของขอบเขตสวรรค์ ด้วยขอบเขตนี้พวกเขากลับได้รับความช่วยเหลือจากหลี่ฟูเฉิน ซึ่งอยู่ระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์
ในสถานการณ์ปกติ พวกเขาทั้งห้าคนยอมไม่ใช่คู่ต่อสู้คืนดับสังหาร
แต่หลี่ฟูเฉินมีความแข็งแกร่งที่สามารถสังหารสัตว์ปีศาจปีสีเงินระดับ 4 ขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย หากไม่เช่นนั้นแล้ว ทั้งสี่คนคงไม่เลือกให้หลี่ฟูเฉินมาร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาอาจจะไปเลือกนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 9 คนอื่นมาแทน
เมื่อทั้งห้าคนร่วมมือกัน มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่คืนดับสังหารจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้ในเวลาอันสั้น ถึงแม้ว่ามันจะทรงพลังมากก็ตามที
แต่มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้งห้าคนจะสามารถทําให้สัตว์ปีศาจคืนดับสังหารบาดเจ็บได้
คืนดับสังหารนั้นเร็วมากและมีสภาวะพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่ง หากไม่เพ่งมองและจดจ่ออยู่ตลอด พวกเขาคนใดคนหนึ่งก็อาจได้รับบาดเจ็บจากมัน ดังนั้นแล้วจิตใจของทุกคนจึงรู้สึกตึงเครียดตลอดเวลา
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันเป็นถึงสัตว์ปีศาจรระดับ 4 ขั้นสูงสุด”
หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันไปเล็กน้อย หลี่ฟูเฉินก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของสัตว์ปีศาจคืนดับสังหารได้อย่างคร่าวๆ
คืนดับสังหารเหนือกว่าชายสวมหน้ากากหมาป่าอยู่ระดับหนึ่ง หลี่ฟูเฉินคิดว่าเขาอาจต้องการแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันเล็กน้อย เพื่อทําร้ายชายสวมหน้ากากหมาป่าได้อย่างรุนแรง และอาจต้องใช้กว่าสิบกระบวนท่าเพื่อสังหารเขา
แต่เพื่อที่จะต่อสู้กับสัตว์ปีศาจคืนดับสังหารแบบหนึ่งต่อหนึ่ง คนผู้นั้นอาจจะต้องเป็นอัจฉริยะในขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 7 หรือ 8
สําหรับเหล่าอัจฉริยะที่สามารถไปถึงระดับที่ 7 หรือ 8 ของขอบเขตสวรรค์ได้ เทคนิคบ่มเพาะของพวกเขาอย่างน้อยก็ต้องอยู่ขั้นที่ 18 หรือ 19 และพวกเขาจะต้องเข้าใจเจตจํานงทักษะระดับลึกลับขั้นสูงสุด นอกจากนี้เองเจตจํานงของพวกก็จะต้องไม่อยู่ในระยะเริ่มต้น เมื่อมีทั้งหมดนี้แล้วก็ยังต้องมีเทคนิคลับระดับ 5 ดาวอีกหนึ่งเทคนิคด้วยเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะสังหารสัตว์ป์สาจระดับ 4 ขั้นสูงสุด
“แก่นแท้ตทลาย!”
ในบรรดาทั้งห้าคนนั้น เป็นชายวัยกลางคนในชุดสีเหลืองที่อยู่ในระดับที่ 9 ของขอบเขตสวรรค์ เขาจับจ้องไปที่ร่างของสัตว์ปีศาจคืนดับสังหาร
ความเร็วของดาบนี้เร็วราวกับสายฟ้า และถ้าเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงปกติที่โดนโจมตี อย่างน้อยมันก็น่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่อเขามองดูไปที่คืนดับสังหาร มันแทบไม่สามารถเฉือนและแยกผิวหนังของคืนดับสังหารออกได้เลย และมันก็จะยากยิ่งกว่านั้นหากจะทําลายเส้นเลือดและกระดูกของมัน
“การป้องกันทรงพลังอะไรเช่นนี้” ชายชุดเหลืองมีท่าทางที่สยดสยอง
ถ้าแม้แต่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขายังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับพื้นดับสังหารได้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะฆ่ามันได้อย่างไร?
ชายเครายาวที่เชิญหลี่ฟูเฉินมาต่อสู้ด้วยกันกล่าวว่า “คืนดับสังหารมีการป้องกันที่แข็งแกร่งมาก โจมตีข้อต่อของมัน และทําให้มันเคลื่อนที่ไม่ได้”
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ปีศาจ หรือปีศาจเอง ข้อต่อของคนเรามักเป็นจุดอ่อนเสมอ เว้นแต่จะพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีข้อต่อ
“ถามหาความตาย” สัตว์ปีศาจคืนดับสังหารกล่าวด้วยภาษามนุษย์ ในขณะที่ดวงตาสีเขียวชอุ่มของมันเต็มไปด้วยการแสดงออกที่โหดร้าย
ราวกับสายฟ้าสีดําที่แวบผ่าน คืนดับสังหารมาถึงหน้านักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 8 แทบจะทันที
นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 8 นี้เป็นชายชราสวมชุดเกราะหนังสีเขียวอ่อน อาวุธที่เขาเลือกคือถุงมือหมัดอันหนาทึบ และถุงมืออันนี้เองก็ชกออกไปอย่างรวดเร็วแทบจะทันที ส่งเงาหมัดนับไม่ถ้วนไปที่คืนดับสังหาร
คืนดับสังหารตั้งเป้าไปที่เขาเพราะเขาอ่อนแอที่สุด
เมื่อเงาหมัดนับไม่ถ้วนถูกส่งไปคืนดับสังหาร นอกจากเสียงอูอี้ในลําคอแล้ว พวกมันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายที่แท้จริงให้แต่อย่างใด อย่างมากที่สุด สัตว์ปีศาจตนนี้อาจจะรู้สึกเจ็บปวด และเลือดของมันก็จะเดือดพล่านเล็กน้อย
กรงเล็บที่คมกริบของมันราวกับเป็นกระบี่และดาบขนาดใหญ่ห้าเล่มรวมเข้าด้วยกัน ขณะที่พวกมันทั้งหมดตะกุยเข้าไปที่เป้าหมายอย่างกะทันหัน
“ไม่ดีแล้ว ข้าเสร็จแน่” ดวงตาของชายชราที่สวมเกราะสีเขียวเบิกกว้าง ขณะที่นันย์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความไม่เต็มใจ
ปัส!
ทันใดนั้นเอง แสงดาบที่สว่างไสวส่องประกายวาบว่านไปทั่ว การโจมตีของคืนดับสังหารพลาดเป้าไปในทันที เนื่องจากข้อต่อในขาส่วนหน้าของมันมีรอยดาบปรากฏขึ้นมา ซึ่งรอยดาบนั้นเองก็มีควันสีเขียวปนดําลอยขึ้นมาเป็นระยะ
อาการบาดเจ็บที่ข้อต่อทําให้สัตว์ปีศาจโจมตีชายชราที่สวมเกราะสีเขียวพลาดไป
หลังจากรอดพ้นจากภยันตราย ชายชราชุดเกราะสีเขียวยังคงมีความกลัวอยู่ในใจ เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วและกล่าวขอบคุณหลี่ฟูเฉิน “ขอบคุณเจ้าที่ช่วยชีวิตข้า”
โดยธรรมชาติแล้งคนที่แทงดาบไปย่อมต้องเป็นหลี่ฟูเฉิน ในช่วงเวลาที่สําคัญที่สุด เขาเปลี่ยนจากพลังหยางพิสุทธิ์เป็นพลังฉีดาบเหล็กดํา ซึ่งได้เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาอย่างมากก่อนที่เขาจะแทงไปยังข้อต่อของคืนดับสังหาร แน่นอน เขาเพียงแค่เจาะข้อต่อและด้วยความแข็งแกร่งที่เขาเปิดเผยออกมา เขายังไม่สามารถสะกดข่มสัตว์ปีศาจคืนดับสังหารตนนี้ได้ และยังด้อยกว่าสัตว์ปีศาจมาก
แต่ตราบใดที่มีบุคคลที่สามารถยับยั้งสัตว์ปีศาจคืนดับสังหารเอาไว้ได้ หลี่ฟูเฉินก็สามารถจัดการกับคืนดับสังหารได้ง่ายเหมือนกับการรับประทานอาหาร
เมื่อตอนที่เขาอยู่ในขอบเขตปฐพี การรับรู้ของเขาก็มาถึงขีดจํากัดสูงสุดแล้ว
หลังจากก้าวขึ้นมาในขอบเขตสวรรค์ การรับรู้ของหลี่ฟูเฉินก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ปฏิกิริยาทางร่างกายของเขากลับดีขึ้นมากกว่าเดิมถึงสองเท่า สิ่งนี้ทําให้เขามองเห็นทุกย่างก้าวของคืนดับสังหารได้อย่างไม่ต้องออกความพยายาม และจริงๆแล้วมันก็ไม่ต่างจากการมองอะไร บางอย่างที่ดูเชื่องช้ามากๆจากมุมมองของเขา
เนื่องจากข้อต่อได้รับบาดเจ็บ คืนดับสังหารก็โกรธจัด ใช้กําลังจากขาหลัง สัตว์ปีศาจกระโจนตัวและเหวี่ยงกรงเล็บไปที่หลี่ฟูเฉิน
กรงเล็บนี้มีพลังอัดแน่นอยู่มหาศาลและมีพลังฉีปีศาจสีดํารวมตัวกันเคลือบอยู่บนกรงเล็บของมัน หากถูกกรงเล็บนี้โจมตี แม้แต่กระทั่งปีศาจระดับ 4 ก็ยังได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าการฉีกสั้นนักสู้ที่อยู่ต่ํากว่าขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดให้เป็นชิ้นๆนั้นเป็นงานที่ง่ายดาย
อย่างไรก็กรงเล็บนี้นี้ตามคืนดับสังหารไม่สามารถโจมได้อย่างเต็มที่
เมื่อกรงเล็บนี้ผ่านไปได้ครึ่งทางของการโจมตี หลี่ฟูเฉินก็แทงดาบของเขาเข้าไปที่ตาซ้ายของมันแล้ว
เมื่อจู่ๆ ก็เสียดวงตาข้างซ้ายไป มันจึงส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสัตว์ปีศาจตนนี้ แม้แต่กระทั่งทําให้มันเริ่มตื่นตระหนก
ดังนั้น กรงเล็บนี้จึงต้องดึงโดยไม่แม้แต่จะได้ทําอะไร
“เป็นกระบวนดาบที่รวดเร็วและแม่นยําอะไรเช่นนี้” ชายเครายาวถึงกับตกใจ
“เขาทําได้อย่างไร?” ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเหลืองเองก็ตกใจเช่นกัน ดาบของหลี่ฟูเฉินอาจจะรวดเร็วมากก็จริง แต่เขาก็รู้สึกว่ามันยังเร็วไม่พอถึงขั้นที่คืนดับสังหารจะไม่สามารถตอบสนองได้ มันให้ความรู้สึกกับว่าคืนดับสังหารเอาตัวมันเองเข้าไปโดนดาบของหลี่ฟูเฉินมากกว่า
บรูวว!
ด้วยดวงตาอีกข้างที่เหลืออยู่ คืนดับสังหารตกอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์ พลังฉีปีศาจสีดําพุ่งออกมาจากร่างกาย เกิดเป็นระลอกคลื่นแผ่ออกมาตามผืนดิน ส่งพวกเขาทั้งห้าบินออกไปด้วยคลื่นกระแทก
ในฐานะที่เป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุด พลังฉีปีศาจของคืนดับสังหารจึงให้ความรู้สึกที่กดดันเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางที่หลี่ฟูเฉินจะสังหารมันได้ หากเขาไม่เปิดเผยไฟของเขาออกมา
“ไป!”
หลังจากที่คืนดับสังหารระเบิดพลังฉีออกมาแล้ว ชายเครายาวเป็นผู้นําในการเข้าไปสังหารสัตว์ปีศาจ
เนื่องจากหลี่ฟูเฉินแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัวสัตว์ปีศาจคืนดับสังหารอีกต่อไป
ปัง ปัง ปัง
ในเวลาเพียงชั่วครู่ เกราะพลังฉีปีศาจของคืนดับสังหารก็ถูกทําลายลง หลังจากสูญเสียดวงตาข้างซ้าย และได้รับบาดเจ็บที่ข้อต่อขาหน้า ความแข็งแกร่งของมันจึงได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล ทําให้ไม่สามารถโจมตีได้อย่างแม่นยํา ชายเครายาว และคนอื่นๆจึงมีโอกาสโจมตีมากขึ้น
ปัสส!
มีแสงดาบสว่างวาบขึ้นตรงที่ตาขวาของสัตว์ปีศาจคืนดับสังหาร
คืนดับสังหารที่ตอนนี้เริ่มตื่นตระหนกก็บ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง มันไม่ได้ยับยั้งตัวเองอีกต่อไปและระเบิดพลังฉีปีศาจทั้งหมดในร่างกายออกมา ที่ไหนก็ตามที่มีการเคลื่อนไหว มันจะพุ่งเข้าหาที่นั่นอย่างเหตุผล แบบไม่นึกคิดใดๆ
เมื่อต้องรับมือกับคืนดับสังหารที่กําลังตื่นตระหนกและบ้าคลั่ง ทุกคนจึงมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นมาก แม้จะไม่มีหลี่ฟูเฉิน พวกเขาก็สามารถค่อยๆสังหารคืนดับสังหารลงได้อย่างง่ายดาย
สิ่งต่างๆ ถูกเร่งให้กําเนินเร็วขึ้นเมื่อมีหลี่ฟูเฉินอยู่ด้วย
ดาบของหลี่ฟูเฉินสามารถโจมตีส่วนสําคัญของคืนดับสังหารได้อยู่เสมอ หลังจากทําให้ดวงตาของคืนดับสังหารบอด หลี่ฟูเฉินเริ่มกําหนดเป้าหมายไปที่ข้อต่อของสัตว์ปีศาจ
ในช่วงเวลาสั้นๆ ข้อต่อทั้งสี่ของคืนดับสังหารก็ได้รับบาดเจ็บ ความรวดเร็วของมันลดลงหลายเท่า เปลี่ยนให้มันกลายเป็นเป้าเคลื่อนที่ได้อย่างแท้จริง
สูดหายใจเข้าลึกๆ ดาบของหลี่ฟูเฉินพุ่งทะลุเข้าไปในสมองของคืนดับสังหารตาข้างขวาของมัน ดาบพลังเพลิงโลกันต์ทําลายทุกรูปแบบชีวิตอย่างสมบูรณ์
“อะไรนะ? พวกเขาสังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดได้แล้ว?”
ห่างออกไปหลายไมล์ มีบางคนที่ประหลาดใจอย่างยิ่ง
หากไม่มีสัตว์ปีศาจระดับ 5 คงอยู่ ปีศาจระดับ 4 และสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดย่อมต้องเป็นกองกําลังหลัก การตายของสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดทุกตัวจะมีผลกระทบเล็กน้อยต่อสถานการณ์ของการต่อสู้ หากพวกมันตายมากๆเข้า มันก็จะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์
หลังจากทั้งหมดแล้ว ปีศาจระดับ 5 และสัตว์ปีศาจก็ยังต้องการลูกน้องจํานวนมากเพื่อช่วยพวกเขาในการปกครองแคว้นที่ใหญ่มากกว่าที่เป็นอยู่นี้ หากลูกน้องของพวกเขาตกตายมากเกินไป พวกมันคงไม่สามารถควบคุมพื้นที่ของมนุษย์ได้หลังจากที่ได้ครอบครองมัน
หลังจากสังหารคืนดับสังหารแล้ว ชายเครายาว และคนอื่นๆ มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก พวกเขากําลังเตรียมที่จะสังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดอีกตัว
เพียงไม่นานพวกเขาทั้งห้าก็พบเป้าหมายต่อไป
เป้าหมายครั้งนี้คือระดับ 4 ขั้นสูงสุด สัตว์ปีศาจเปลือกหนาม ซึ่งมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคืนดับสังหารเลย ตอนนี้มันกําลังต่อสู้อยู่กับนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุด และนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับ 9 อีกสองคน แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสามคนไม่สามารถจัดการกับปีศาจเปลือกหนามตัวนี้ได้ ขณะที่สัตว์ปีศาจตนนี้เองกําลังสร้างความเสียหาย และพวกเขาก็กําลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
15 นาทีต่อมา สัตว์ปีศาจเปลือกหนามล้มลง
ด้วยความช่วยเหลือจากหลี่ฟูเฉิน สัตว์ปีศาจเปลือกหนามนั้นตาบอดและกลายเป็นสัตว์ที่พิการ หลังจากที่กลายเป็นเป้านิ่ง ด้วยการถูกโจมตีจากผู้คนโดยรอบมันจะสามารถอยู่รอดได้อย่างไร?
1 ตัว 2 ตัว
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา กลุ่มที่ถูกนําโดยหลี่ฟูเฉิน พวกเขาไล่สังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดทีละตัวๆ
“อ๊าก!”
ไม่ไกลนัก นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุดห้าคนถูกส่งให้บินออกไป ทันทีหลังจากนั้น หนึ่งในนั้นถูกแขนยักษ์ที่ดุร้ายฉีกออกเป็นสองส่วนใน ขณะที่เลือดสดกระเซ็นไปทั่วทุกที่
นี่คือปีศาจระดับ 4
นอกเหนือจากปีศาจระดับ 5 สัตวปีศาจระดับ 5 และนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิด มันถือเป็นการดํารงอยู่ในระดับเดียวกับราชา
“การสังหารปีศาจระดับ 4 หนึ่งตัวนั้นเทียบเท่ากับการสังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดถึง 10 ตัว” หลี่ฟูเฉินคิดกับตัวเอง
ไวกว่าความคิด หลี่ฟูเฉินเริ่มเข้าใกล้ปีศาจระดับ 4 อย่างรวดเร็ว
ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง
หลี่ฟูเฉินเข้าไปพัวพันกับปีศาจระดับ 4 ที่มีผิวสีฟ้าซีดและเขาสั้นสองเขาบนหัว เขาทํามันด้วยการฟันดาบออกไปหลายสิบครั้ง
แต่ความเร็วของปฏิกิริยาปีศาจสีฟ้าซีดตนนี้นั้นรวดเร็วเกินไป ด้วยกรงเล็บอันแหลมคมขอ งมัน มันทําให้กระบวนท่าของหลี่ฟูเฉินนั้นกลายเป็นเปล่าประโยชน์ ไม่เพียงเท่านั้น มันยังส่งการโจมตีด้วยกรงเล็บไปยังหลี่ฟูเฉิน ซึ่งรวดเร็วราวกับสายฟ้า หลี่ฟูเฉินสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ปรากฏขึ้นก่อนที่กรงเล็บจะมาถึง
“นิกายต้นกําเนิดดาบ ควบแน่น!”
ปีศาจสีฟ้าซีดนั้นรวดเร็วและทรงพลังมาก แต่การรับรู้ของหลี่ฟูเฉินนั้นรวดเร็วยิ่งกว่า
ก่อนที่ปีศาจสีฟ้าซีดจะได้ทําอะไร บริเวณโดยรอบของหลี่ฟูเฉินปกคลุมไปด้วยพลังฉีดาบเหล็กดํา พลังฉีดาบเหล็กดําจํานวนหนึ่งร้อยเล่มสร้างดาบเหล็กดําขนาดใหญ่สองเล่ม เล่มนึงฟันเข้าปะทะกับกรงเล็บของปีศาจสีฟ้าซีด ขณะที่ดาบเหล็กดําอีกเล่มฟันเข้าไปยังหัวของปีศาจ