นิยาย Eternal Reverence บทที่ 344 บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ
บทที่ 344
บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ
พื้นที่ว่างใต้พื้นดินนั้นใหญ่มาก ถึงแม้ว่าคนนับล้านจะลงไปด้านใน พวกเขาก็จะ เทียบได้กับมด
ท่ามกลางนิยายทั้งหมด นิกายอุปกรณ์ลึกลับไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญในปรับแต่งอ ปกรณ์แต่เพียงเท่านั้น พวกเขายังค่อนข้างเชี่ยวชาญในรูปแบบของค่ายกลด้วย ผู้ อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของนิกายอุปกรณ์ลึกลับได้เคลื่อนไหว และทําให้พื้นที่ทางเข้า ซากโบราณสถานของนิกายนภาทมิฬไร้พิษภัยได้ภายในสามวัน
“ฮ่าฮ่า พวกเรารวยแล้ว เสาทั้งต้นนี้ทั้งต้นทํามาจากโลหะระดับลึกลับขั้นสูงจริงๆ ทองแดงลายเขียว ด้วยโลหะเราจะสร้างอาวุธระดับลึกลับขั้นสูงออกมาได้มากแค่ไหน กัน?!”
“ที่นี่มีสมุนไพรเหลืออยู่จริงๆ ระดับลึกลับขั้นสูง ระดับลึกลับขั้นสูงสุด และแม้แต่ระ ดับปฐพีขั้นต่ําก็มีอยู่!”
ซากโบราณสถานของนิกายมีโอกาสมากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ อีกไม่กี่วันต่อ มา นิกายส่วนใหญ่ล้วนมีรางวัลมากมาย
แต่ยังไม่มีใครได้รับทักษะหรือยาอายุวัฒนะเลย
แต่มันก็สมเหตุสมผลเมื่อคิดถึงมัน เนื่องจากทักษะและยาอายุวัฒนะเป็นโอกาสท่า มกลางโอกาสต่างๆ อีกที่นึง เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมขอ งบุคคลได้อย่างง่ายดาย มันจะได้รับมาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
ขณะที่พวกเขาเข้าไปในโบราณสถานลึกขึ้น อัตราการตายก็เริ่มเพิ่มขึ้น มีบาง นิกายที่ค่อนข้างโชคร้าย เนื่องจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์เกือบทั้งหมดถูกกําจัดออกไป และหลงเหลือขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดไว้ให้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น มันยังมีอีกนิกาย หนึ่งที่โชคร้ายยิ่งกว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดหลงเข้าไปสู่ค่ายกลที่โหดร้ายมาก ทุกคน รวมทั้งนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดของพวกเขา ทั้งหมดตกตายลงทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เบื้องหลังแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลี่ฟูเฉิน ก็ในเมื่อเขากําลังฝึกร่างกายมังกรค ชสารปลอมแปลงอยู่ เมื่อมีแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ที่เพียงพอ มันจึงไม่ใช่ เรื่องยากเลยที่เขาจะไปถึงระดับสมบูรณ์แบบของบทที่สี่ตราบเท่าที่เขามีเวลาเพียง พอ
นอกจากนี้ เมื่อบทหลอมร่างกายมังกรคชสารปลอมแปลงมาถึงระดับสมบูรณ์แบบ ในบทที่สี่ เพียงแค่การป้องกันทางกายภาพของเขาเพียงอย่างเดียวก็สามารถปะทะ กับการโจมตีเต็มรูปแบบจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือ เชื่อมากกว่าเกราะป้องกันพลังฉีเสียอีก
***
ผ่านไปหนึ่งเดือน
นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นก่าเนิดบินขึ้นมาสู่พื้นดิน ร่างกายของเขาทรุดโทรมและมี สภาวะพลังที่อ่อนแอ
“ผู้อาวุโสหู เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? แล้วคนอื่นๆล่ะ?”
“พวกเขาตายกันหมด ข้าเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้”
“อะไรนะ? ตายกันหมด? ผู้อาวุโสหยู และผู้อาวุโสฟูก็ตายด้วยงั้นหรือ?”
นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดที่เข้ามาดูอาการเขามีสีหน้าซีดเซียวอย่างน่าตกใจ นิกายมีนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นก่าเนิดเพียงหกคนเท่านั้น เมื่อรวมกับสองคนที่ตายไป แล้ว พวกเขาประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่
ต่อจากนั้นมันมักจะมีคนบินออกมาในทุกๆ วัน และคนเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นนักสู้ ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิด มันมีนักสู้ขอบเขตสวรรค์เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดมาได้
“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินความยากในการฝึกฝนของบทหลอมร่างกานมังกรคช สารปลอมแปลงต่าไป แม้จะดื่มแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 จํานวน 1,000 หยด ข้าก็ยังไม่สามารถบรรลุระดับสมบูรณ์แบบในบทที่สี่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ประสิทธิภาพ ของแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ตอนนี้อยู่ที่ 50% ข้าเกรงว่ามันคงจะเป็นเรื่อง ยากแล้ว หากจะทะลวงไปสู่ระดับสมบูรณ์แบบด้วยแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 เพียงอย่างเดียว”
หลี่ฟูเฉินที่กําลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นได้ลืมตาขึ้นและร่างกายของเขาก็เปล่งประ กายด้วยสภาวะพลังฉีที่กดขี่ออกมา
เขาอาจจะไม่สามารถฝึกฝนถึงระดับสมบูรณ์แบบของบทที่สี่ได้ แต่ปัจจุบันการ ป้องกันทางกายภาพของเขาก็ยังคงสามารถต้านทานการโจมตีทั้งหมดจากนักสู้ระดับ 5 หรือระดับที่ 6 ของขอบเขตสวรรค์ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
นี่เป็นเพียงการป้องกันทางกายภาพของเขาเท่านั้น ถ้าเขาใช้เกราะพลังฉีและเก ราะหนังสัตว์ปีศาจระดับ 5 ของเขาด้วย บุคคลที่อยู่ต่ากว่าขอบเขตต้นกําเนิดหรือแม้ แต่กระทั้งปีศาจระดับ 4 ก็ไม่สามารถทําร้ายเขาได้
และนี่เป็นแค่สถานการณ์ที่เขายังไม่เปิดเผยไพ่ตายของเขา
ถ้าหลี่ฟูเฉินเผยไพ่ตายของตัวเองออกมา เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าความสามารถใน การป้องกันของเขาจะเป็นอย่างไร มันอาจเป็นได้สําหรับเขา ที่อาจสามารถต้านทา นการโจมตีทั้งหมดจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนต้นกาเนิดระดับ 1 ได้
มันได้รับการพิสูจน์แล้วเมื่อตอนที่เขาเผยไพ่ตายทั้งหมดออกมา เพื่อป้องกันกา รโจมตีคลื่นกระแทกจากสัตว์ปีศาจระดับ 5 ขั้นต่ํา อินทรีวายุ
“ข้าสงสัยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5”
ด้วยการพลิกฝ่ามือของหลี่ฟูเฉิน ขวดเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้น
ขวดนี้ดูว่างเปล่า และสามารถมองเห็นได้หลังจากดูอย่างระมัดระวังเท่านั้น ที่ด้าน ล่างของขวด เป็นร่องรอยของของเหลวสีเหลืองเข้ม
นี่คือแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่หลี่ฟูเฉินได้รวบรวมมาโดยเฉพาะใน สนามรบ
สัตว์ปีศาจระดับ 5 อาจทรงพลัง แต่ในระหว่างการต่อสู้ มันย่อมได้รับบาดเจ็บอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้และย่อมต้องมีเลือดไหลออกมาโดยธรรมชาติ ตราบใดที่ได้รับเลื อดจํานวนหนึ่ง มันก็สามารถสกัดเลือดที่บริสุทธิ์ออกมาได้ มันอาจจะไม่มาก เพราะ มันไม่ได้แม้แต่หยดเดียว แต่ประสิทธิภาพของมันก็เป็นบางสิ่งที่แก่นแท้โลหิตสัตว์ปี ศาจระดับ 4 ไม่สามารถเทียบได้
หลังจากดื่มแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจสีเหลืองเข้ม หลี่ฟูเฉินก็ยังคงปรับแต่งร่างกาย ของเขาต่อไป
ฟับ ฟีบ…
แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ถูกดูดซึมทันทีเมื่อเข้าสู่ร่างกาย มันรู้สึกราวกับว่า พลังฉีกาลังเผาผลาญตัวมันเอง มันทําให้เลือดและกระดูกของหลี่ฟูเฉินราวกับ ถูกแผดเผา
“มันได้ผล!” ใบหน้าของหลี่ฟูเฉินมีความยินดี
ปริมาณแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 5 นั้นน้อยเกินไป และหลี่ฟูเฉินก็รู้สึกกัง วลเล็กน้อย
แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว เนื่องจากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 อันเล็กน้อย นี้สามารถกลั่นร่างกายของเขาในระดับที่ลึกซึ้งกว่ามาก
หากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ถูกเรียกว่าเป็นอาหารธรรมดา เช่นนั้นแล้ว แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ก็คงเป็นโสม
ไม่ว่าเจ้าจะทานอาหารธรรมดามากแค่ไหน เจ้าก็ทําได้แค่บํารุงร่างกายเพียงอย่าง เดียวเท่านั้น
แต่โสมเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้วที่เจ้าจะรู้สึกถึงความแตกต่าง
“ต่อ”
หลังจากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ดูดซึมเสร็จแล้ว หลี่ฟูเฉินก็นําแก่นแท่โล หิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ออกมาอีกส่วนหนึ่ง
แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 อันนี้มีสีเทาซีด และดูเหมือนว่าจะมีสีสันมากกว่า
นี่คือแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ขั้นกลาง
แม้ว่าจะเป็นแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 เหมือนๆ กัน แต่แก่นแท้โลหิตระดับ 5 ขั้นกลางนั้นย่อมต้องบริสุทธิ์กว่าโดยธรรมชาติ และมันมีศักยภาพมากกว่าแก่นแท้ โลหิตระดับ 5 ขั้นต่ํามากนัก
หลังจากทานแล้ว หลี่ฟูเฉินก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากําลังถูกปรุงให้สุก ใน ขณะที่เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากการเผาไหม้
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็โผล่ออกมาจากซากโบราณสถานนิกายนภาทมิฬมากเรือ ยๆ
แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาย่อมต้องมาจากนิกายระดับสองหรือระดับสาม นักสู้ จากนิกายระดับหนึ่งและนิกายชั้นนําล้วนเป็นนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดระดับก ลางไม่ก็สูง
“ผู้อาสุโสโอหยาง ผู้อาวุโสกั่ว ผู้อาวุโสจ้าว”
ไม่นาน ผู้คนจากนิกายวารีครามก็กลับมา แต่มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น
“ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายอยู่ที่ไหน?” หนึ่งในผู้อาวุโสชั้นในถาม
(หมายเหตุ TL: ในคําศัพท์ของจีนย่อมมีฝ่ายซ้ายและขวาสําหรับนิกายเสมอ)
จ้าหวูจินกล่าวด้วยน้ําเสียงอันหนักอึ้ง “ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้าย เสียสละตัวเอง”
สถานการณ์วิกฤตยิ่ง และจ้าหวูจินก็สามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้เพราะเขาอยู่ ภายใต้การคุ้มครองจากผู้อาวุโสโอหยางเกี่ย แต่ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายไม่ได้โชคดีเท่าเขา แม้ว่าผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายจะอยู่ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดระดับที่ 1 แต่เขาก็ถูกฆ่าตาย ในทันที่ด้วยกับดักจากค่ายกล
เมื่อได้ยินข่าว ผู้คนจากนิกายวารีครามต่างก็รู้สึกไม่สบายใจ
หลังจากรวมผู้อาวุโสเหลียงที่ได้ตายในช่วงแรกของสงคราม นิกายวารีครามได้ สูญเสียนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดไปแล้วสองคน ในขณะที่นิกายปีศาจสวรรค์ไม่ ได้สูญเสียนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดเลยแม้แต่คนเดียว ความเหลื่อมล้ําระหว่าง สองนิกายกว้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลี่ฟูเฉินเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสทั้งสาม และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ อยู่ในใจ
การเสียสละของผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายควรจะเป็นสิ่งที่ท่าให้หัวใจของทั้งสามหนักอึ้ง และมันไม่ควรมีอารมณ์อื่นใดอีก แต่เมื่อมองไปที่สายตาของพวกเขาหลี่ฟูเฉินสามาร ถมองเห็นร่องรอยของความสุขได้
“พวกเขาได้รับสมบัติบางอย่างมาหรือไม่?” หลี่ฟูเฉินคิดกับตัวเอง
เมื่อหลี่ฟูเฉินคิดเกี่ยวกับมัน อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น หากบุคคลทั้งสามนี้มีทรัพย์ สมบัติที่ทําให้พวกเขามีความสุขอยู่ข้างในได้ มันต้องเป็นสมบัติล้ําค่ามากแน่ๆ อย่าง น้อยที่สุด มันสมควรเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิด!
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ หลี่ฟูเฉินยังคงพาตัวเองจมลงไปในการฝึกฝนบทหลอม ร่างกายมังกรคชสารปลอมแปลง
ไม่กี่วันต่อมา ร่างกายของหลี่ฟูเฉินหดตัวลงเนื่องจากพลังงานที่พุ่งพล่านเกิดขึ้น ภายในร่างกายของเขา
บทที่สี่ของบทหลอมร่างกานมังกรคชสารปลอมแปลงสําเร็จระดับสมบรูณ์แบบ
“ในที่สุดข้าก็มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบ” หลี่ฟูเฉินปล่อยพลังที่ตกค้างผ่านการหายใจ
เขาสัมผัสได้ถึงพลังทางกายภาพของเขาที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงสัดส่วนที่ไม่รู้จัก ใน ขณะที่กระดูก เนื้อ เส้นชีพจร และแม้แต่กระทั้งผิวของเขาก็แข็งแรงขึ้นหลายเท่า
ปัก!
หลี่ฟูเฉินชักดาบเหล็กดํา และฟันมันใส่แขนด้วยกําลังทั้งหมดที่มี มีเสียงแปลก ประหลาดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผิวของเขากับไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย
“ด้วยการป้องกันทางกายภาพของข้าในปัจจุบัน แม้แต่นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 9 ก็ไม่สามารถทําอันตรายข้าได้ หากข้าใช้เกราะพลังฉีด้วยแล้ว มันก็เพียงพอแล้วที่ จะต้านทานการโจมตีจากปีศาจระดับ 4 ได้ หากข้าเปิดใช้งานเกราะหนังสัตว์ปีศาจระ ดับ 5 ความสามารถในการป้องกันของข้าก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้” หลี่ฟูเอ็นเผยรอยยิ้ม
เป็นช่วงเวลานี้ที่ในที่สุดเขาก็มีสิ่งที่สามารถรับรองความปลอดภัยของเขาได้ เขา อาจจะไม่สามารถปะทะกับนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดได้ตรงๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ สามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดได้
“หลังจากถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว ยังคงมีขั้นดีเลิศอยู่อีก ข้าสงสัยว่านานแค่ไหนกัน ก่อนที่ข้าจะไปถึงระดับดีเลิศของบทที่สี่
ระดับดีเลิศของบทที่สี่นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าระดับชั้นปัจจุบันเสียอีก เนื่องจากการ ป้องกันทางกายภาพของเขาอาจจะสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีทั้งหมดของนักสู้ ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุดได้เลย
“หากข้าต้องการฝึกฝนให้ถึงระดับดีเลิศของบทที่สี่ ข้ายังต้องการแก่นแท้ โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่มากพอ”
หลี่ฟูเฉินถอนหายใจเพราะแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 นั้นยากเกินไปที่จะได้ รับมัน เป็นการยากที่จะสกัดแก่นแท้โลหิตให้ได้จํานวนมากจากเลือดสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่กระจายอยู่ทั่วพื้น นอกจากนี้ ในช่วงเวลาต่อจากนี้ต่อไป อาจไม่ได้มีการต่อสู้ใดๆ เกิดขึ้นอีก และเขาก็ไม่ต้องการมันด้วยเช่นกัน
“ช่างมันเถอะ ข้าจะค่อยๆ ก้าวไปที่ละก้าว”
เมื่อลุกขึ้น หลี่ฟูเฉินเริ่มสํารวจสัตว์ปีศาจและปีศาจที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
สัตว์ปีศาจและปีศาจมีจํานวนน้อยกว่าร้อยนิกายมาก อย่างไรก็ตามแต่ละตัวมันก ลับก็มีสภาวะพลังที่ทรงพลัง หลังจากที่พวกมันรวมตัวกัน พลังฉีปีศาจและพลังฉีอัน ชั่วร้ายเริ่มวนเวียนอยู่รอบ ๆ นี้แล้ว ส่งผลทําให้ราวกับว่าอากาศกําลังบิดเบี้ยวและ พร่ามัว
แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่หลี่ฟูเฉินก็ยังเห็นร่างใหญ่ได้สองสามตัว
สิบภูมิภาคปีศาจมีตัวตนที่ทรงพลังอยู่ทั้งหมดสิบตัวตน
มันไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังตัวไหนเข้าไปในซากโบราณสถานของนิกายนภาทมิฬ
ด้านซ้ายสุดคือ ปีศาจโลหิต ซึ่งมีความสูงประมาณสิบเมตร ร่างกายของมันถูก ปกคลุมไปด้วยหนามสีเลือดและสภาวะพลังที่ท่วมท้น มันแทบจะกลายเป็นสนามพ ลัง รัศมีขนาดใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยปราณสีเลือดของเขา รัศมีพลังขนาดใหญ่ถูกปกคลุม ไว้ด้วยสภาวะพลังฉีโลหิตของมัน ส่งผลทําให้บรรยากาศรอบด้านราวกับเป็นโลกสี เลือด และเขาก็เป็นผู้ปกครองเพียงตนเดียวของโลกสีเลือดแห่งนี้
ด้านขวาสุดเป็นสัตว์ที่มีหัวเป็นเสื้อและร่างกายเป็นมนุษย์ สิ่งมีชีวิตตนนี้มีสีดําสนิท และแม้แต่หัวเสือก็มีสี่ดา แต่หน้าผากกลับมีลวดลายสีทอง เมื่อพลังฉีปีศาจและพลัง ฉีปีศาจถูกทักทอเข้าด้วยกัน มันจึงให้ความรู้สึกทั้งรุนแรงและดุร้าย
ตัวที่อยู่ด้านหลังที่ไกลที่สุดดูพร่ามัวเล็กน้อยและเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นครึ่ง คนครึ่งงู แต่หลี่ฟูเฉินกลับรู้สึกได้ว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด
“ราชาปีศาจโลหิต ราชาปีศาจลวดลายพยัคฆ์ และราชินีสาปศิลา”
หลี่ฟูเฉินเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทั้งสามนี้
ราชาปีศาจโลหิตเป็นผู้ปกครองของภูมิภาคปีศาจโลหิต
ปีศาจลวดลายพยัคฆ์เป็นผู้ปกครองของภูมิภาคปีศาจพยัคฆ์
ราชินีสาปศิลาเป็นผู้ปกครองของภูมิภาคศิลา
ในบรรดาทั้งสามตน ราชาปีศาจโลหิตและปีศาจลวดลายพยัคฆ์มีชื่อเสียงมากกว่า ในอดีตนั้นพวกมันเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ปีศาจระดับ 5 และมันก็โหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง ว่ากันว่าเขาให้ที่พักพิงแก่พวกเต่ปีศาจมากมาย เช่นลัทธิโลหิตที่สร้างความหายนะ ให้กับทวีปมันก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเช่นกัน และดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ในเขตของปี ศาจโลหิต
ปีศาจลวดลายพยัคฆ์เป็นสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ 5 ขั้นสงสด มันมีทั้งพลังฉีปี ศาจและพลังฉีของสัตว์ปีศาจ ส่งผลทําให้มันทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
ราชินีสาปศิลามีชื่อเสียงน้อยกว่า แต่ทุกคนรู้ว่าราชินีสาปศิลาเป็นตัวตนที่เก่าแก่ที่ สุดในสิบภูมิภาคปีศาจ ว่ากันว่าเธอมีสายเลือดของราชาอสูรเหมือนคชสารทลายผา แต่ความเข้มข้นของสายเลือดเธอนั้นเหนือกว่าคชสารทลายผามาก
ความสามารถในการสาปให้คนกลายเป็นหินของเธอทําให้ทั้งทวีปยูนิคอร์นตะวัน ออกถึงกับต้องตกตะลึง เธอต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนที่ 8 และไม่ได้รับ บาดเจ็บใดๆ
MANGA DISCUSSION