นิยาย Eternal Reverence บทที่ 341 มังกรปฐพี่เจิดจรัส บทที่ 341 มังกรปฐพีเจิดจรัส หลังจากหลบหนีไปยังเขตภูเขารกร้างได้สำเร็จปีศาจและสัตว์ปีศาจก็ไม่ได้ไล่ตามมาอย่างที่คาดไว้ แต่ร้อยนิกายก็ยังคงประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่อยู่ดีเนื่องจากมีนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดห้าคนได้ตายไปหนึ่งในนั้นอยู่ระดับกลางของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดในขณะที่อีกสี่คนอยู่ในระดับต่ำของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดมีนักสู้ขอบเขตสวรรค์ประมาณหนึ่งพันคนที่เสียชีวิตในขณะที่นักสู้ขอบเขตปฐพีจำนวนนับหมื่นได้จากไปมันถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ นี่เป็นเพียงการต่อสู้หนึ่งครั้งร้อยนิกายจะใช้อะไรเพื่อต่อสู้กับสิบภูมิภาคปีศาจในการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในการต่อสู้อีกหลายครั้งต่อจากนี้? กลับมาที่เขตภูเขาทมิฬหลี่ฟูเฉินตัดสินใจเข้าสู่ความสันโดษทันที แต่สถานที่อันเงียบสงบของเขาไม่ได้อยู่ในเมืองภูเขาทมิฬแต่เป็นเทือกเขาทมิฬซึ่งอยู่ห่างจากเมืองภูเขาทมิฬไปหนึ่งร้อยไมล์ ภูเขาทมิฬแผ่ขยายออกไปนับพันไมล์และในส่วนลึกของภูเขารัศมีที่ร้อนแรงและอันเจิดจ้าสว่างขึ้นทั่วทั้งสถานที่ดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆค่อยๆลอยขึ้นและตรงกลางของดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆนี้เป็นเจตจำนงอันร้อนแรงที่ค่อยๆเติบโต เจตจำนงของเทคนิคเพลิงโลกันต์มันเป็นเจตตำนงที่ทรงพลังยิ่งกว่าเจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์ หากเจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์สามารถใช้เพื่อเพิ่มพลังทักษะดาบของตัวเองได้เช่นนั้นแล้วเจตจำนงเทคนิคเพลิงโลกันต์ดีกว่ามากเป็นเท่าตัวเนื่องจากมันสามารถเพิ่มพลังฉีของคนผู้นึ่งได้โดยตรง การป้องกันความคล่องตัวหรือความเร็วมันจะเพิ่มขึ้นตราบเท่าที่มันเกี่ยวข้องกับพลังฉี น่าเสียดายที่เทคนิคเพลิงโลกันต์อยู่แค่ขั้นที่ 19 เท่านั้นและยังมีอีกสองขั้นก่อนที่จะเขาจะสามารถเข้าใจเจตจำนงเพลิงโลกันต์ได้โดยสมบูรณ์สองขั้นใหญ่นี้เองไม่ได้ง่ายเลย หลังจากที่เทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงทะลวงไปถึงขั้นที่19หลี่ฟูเฉินก็เริ่มฝึกฝนบทที่สี่ของบทหลอมร่างคชสารมังกร บทที่สี่สอดคล้องกับขอบเขตสวรรค์เมื่อถึงบรรลุความสำเร็จหากเสริมด้วยเกราะหนังสัตว์ปีศาจระดับที่5แล้วด้วยโดยพื้นฐานแล้วหลี่ฟูเฉินจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้พ่ายแม้แต่การป้องกันของปีศาจระดับ 4 ก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้ เมื่อเวลาผ่านไปบทหลอมร่างคชสารมังกรของหลี่ฟูเฉินมีความก้าวหน้าอย่างมาก ด้วยแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 มีอยู่มากพอบทที่สี่จึงก้าวหน้าได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นการรับประทานอาหารที่จะไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ แต่มันมีข้อกำหนดเบื้องต้นเนื่องจากผู้ฝึกฝนจะต้องสามารถต้านทานพลังฉีที่ชั่วร้ายจากแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 4 ให้ได้ด้วย แก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจมีพลังจิตที่รุนแรงและยังมีพลังฉีปีศาจมันเป็นการง่ายที่จะซึมซับหากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ผู้นั้นปรับแต่งร่างกายด้วยแก่นแท้โลหิตไม่กี่หยดแต่มันจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของคนผู้นั้นอย่างแน่นอนหากคนผู้นั้นปรับแต่งร่างกายด้วยแก่นแท้โลหิตมากกว่าสิบหยดขึ้นไปคนผู้นั้นอาจจะกลายเป็นบ้าหรือไม่ก็กลายเป็นคนวิกลจริตอย่างแน่นอนแม้ว่าผู้ฝึกฝนจะเป็นอัจฉริยะที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าก็ตามทีพวกเขาย่อมไม่กล้ากลั่นแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจมาใช้มากเกินไป คาดว่ามีเพียงหลี่ฟูเฉินเท่านั้นที่สามารถูกลั่นแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจด้วยความประมาทและไม่มีความเกรงกลัวเช่นนี้ได้ ไม่นานนักหลี่ฟูเฉินก็ได้ฝึกฝนบทที่สี่จนถึงขั้นสมบูรณ์แบบย่อย ในช่วงที่เวลาสำคัญการป้องกันทางกายภาพของหลี่ฟูเฉินสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับ 3 ได้แล้ว แต่หลังจากบรรลุขั้นสมบรูณ์แบบย่อยสำเร็จแล้วหลี่ฟูเฉินก็ตระหนักได้ว่าความก้าวหน้าของเขาช้าลงมาก ไม่ใช่เพราะความมุ่งมั่นของเขาไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไปแต่เนื่องจากร่างกายของเขาแข็งแรงเร็วเกินไปและไม่มีเวลาปรับตัวหรือปรับอารมณ์ใดๆต่างหาก ในวันที่หลี่ฟูเฉินเสริมกำลังร่างกายของเขาให้สามารถละเลยการโจมตีจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 5 ได้เหรียญส่งสารของเขาก็สัน “การต่อสู้จะเริ่มขึ้นอีกแล้วหรือไร?” หลี่ฟูเฉินลุกขึ้นและบินกลับไปยังเมืองภูเขาทมิฬ ในขณะนี้ทุกคนถูกระดมกำลังอยู่ในเมืองภูเขาทมิฬแห่งนี้ บนท้องฟ้าเหนือเมืองภูเขาทมิฬมีบุคคลหนึ่งที่มีสภาวะพลังฉีที่ดูหนาแน่นและโดดเด่นอย่างหาใดเปรียบปรากฏตัวอยู่มันเป็นผู้เฒ่าผมขาวที่ดูเย็นชาราวกับพายุหิมะที่ยะเยือกเย็น “ระดับสูงสุดของขอบเขตหวนคืนต์นกำเนิด?” ดวงตาของหลี่ฟูเฉินหดตัว ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกทั้งหมดนอกจากผู้ที่ฝึกฝนในเส้นทางเตีปีศาจแล้วก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงสุดน้อยกว่าสิบคนและไม่ใช่ทุกนิกายชั้นยอดจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด นอกจากนี้หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงสุดผู้นี้แข็งแกร่งกว่าปกติเนื่องจากเขามีเจตจำนงอันละเอียดอ่อนที่กำลังหมุนวนรอบร่างกาย เพื่อให้เจตจำนงคงอยู่ได้ด้วยตัวเองผู้ฝึกฝนจะต้องฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะระดับปฐพี่หรือทักษะต่อสู้ในระดับปฐพี “รากฐานของร้อยนิกายนั้นลึกซึ้งและมั่นคงมากไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสิบภูมิภาคปีศาจที่จะเอาชนะร้อยนิกายให้ได้อย่างสมบูรณ์” ในขณะนี้หลี่ฟูเฉินมีความมั่นใจมากขึ้นต่อร้อยนิกาย “ผู้อาวุโสสูงสุดออกมาจากที่การเก็บตัวแล้วแค่ตัวเขาเองก็เพียงพอแล้วที่จะสู้กับราชาเขาปีศาจ ผู้อาวุโสสูงสุดสี่คนจากนิกายวายุเหมันต์ที่ต่อสู้กับปีศาจเกล็ดดำเผยท่าที่ผ่อนคลาย ในนิกายวายุเหมันต์บุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดโดยธรรมชาติแล้วย่อมเป็นสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุด สุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดไม่เพียงแต่ได้ฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะระดับปฐพีขั้นต่ำที่ไม่สมบูรณ์จนถึงขั้นที่ 23 เขายังได้ฝึกฝนทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้นต่ำครึ่งแรกซึ่งทำให้เขาควบคุมเจตจำนงระดับปฐพีและสนามพลังได้อีกด้วยความแข็งแกร่งของเขานั้นเหนือกว่านักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงสุดทั่วไป “ออกเดินทาง!” หนึ่งในนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดเหวี่ยงมือของเขา ตึกตึกตึกตึก… คราวนี้สมาชิกทุกคนของเมืองภูเขาทมิฬได้ออกเดินทางและมันก็เป็นภาพที่สวยงามมาก ภูมิภาคภูเขาขาว… เวลาผ่านไปกว่าสองสัปดาห์คราวนี้ในที่สุดร้อยนิกายก็ตั้งหลักได้อย่างมั่นคงส่งผลทำให้สถานการณ์ไม่ได้วุ่นวายมากเกินไปนักโดยเฉพาะในการต่อสู้ระดับขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด เหตุผลหลักก็เพราะว่าไม่ได้มีนักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงมากคนที่ได้เข้าต่อสู้กับราชาเขาปีศาจแต่มีเพียงสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวายุเหมันต์เพียงคนเดียวเท่านั้น ด้วยนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดที่มีมากขึ้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะสามารถจัดการกับปีศาจระดับ 5 และสัตว์ปีศาจระดับ 5 ตัวอื่นๆได้ ในใจกลางสนามรบชายคนหนึ่งและปีศาจตนนึงกำลังตกอยู่ในการต่อสู้ที่บ้าคลั่ง ราชาเขาปีศาจเป็นปีศาจระดับ 5 และเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาปีศาจระดับ5ทั้งหมดเหนือกว่าปีศาจเกล็ดดำมากมายนัก ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวหนาแน่นมันมีเขาที่ดูสวยงามและดูแข็งแรงมากอยู่บนหัวตัวเขามีลวดลายที่ซับซ้อนและดูเหมือนจะมีแสงสีเขียวไหลไปมาตามลวดลายเป็นครั้งคราวมันปลดปล่อยพลังอำนาจที่ทำให้ใจของผู้คนสั่นไหวได้ออกมา ตรงข้ามกับปีศาจคือสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวายุเหมันต์ที่มีผมสีขาวซึ่งมีสภาวะพลังฉีที่ยะเยือกเย็น ราชาเขาปีศาจสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้แต่เขาก็ไม่มีอำนาจที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน “ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขากล้ากลับมามันเป็นเพราะมีคนที่สามารถควบคุมเจตจำนงระดับปฐพีและสนามพลังนี้ได้ปราฏตัวขึ้น”ราชาเขาปีศาจมีดวงตาที่ดูเย็นชา ในฐานะผู้ปกครองของภูมิภาคเขาปีศาจเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปยูนิคอร์นตะวันออกในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้แต่ก็มีคนที่เขาไม่สามารถกำจัดได้อยู่ด้วยเช่นกัน ผู้อาวุโสผมสีขาวเขาทำหน้าจริงจังเนื่องจากคู่ต่อสู้มีระดับที่ใกล้เคียงกับเขามาก เมื่อเอื้อมมือขวาออกไปราชาเขาปีศาจก็ถอดเขาที่อยู่บนศีรษะออก เขาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายและก็เป็นอาวุธของมันด้วยเช่นกัน หลังจากที่เทพลังฉีปีศาจจำนวนมากลงในเขาแล้วแสงสีเขียวก็ไหลไปตามลวดลายและมาบรรจบกันที่ปลายเขา
บิสส! เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นในความว่างเปล่าซึ่งให้ความรู้สึกราวกับว่ามันอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ ราชาเขาปีศาจยกเขาขึ้นสูงและจับไปที่ผู้อาวุโสผมขาว “ทรงพลังอย่างแท้จริง!” หัวใจของผู้อาวุโสผมขาวเต้นเร็วขึ้นขณะที่เขาใช้ทักษะฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งจนสุดถือขีดสุดสนามพลังที่มองไม่เห็นได้แผ่ขยายออกไปอย่างบ้าคลั่งและค่อยๆหดตัวเจตจำนงฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งที่ดูไร้ลักษณ์แต่มีอยู่จริงได้พุ่งออกมาในเวลาต่อมา ฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งทักษะฝ่ามือระดับปฐพีขั้นต่ำ หลายสิบปีที่แล้วสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดผู้นี้ได้รับครึ่งแรกของทักษะฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งนี้มา หลังจากที่เก็บตัวเป็นเวลหลายสิบปีในที่สุดเขาก็เข้าใจทักษะฝ่ามือทมิฬเยือกแข็ง แคร็ก! รู้สึกราวกับว่าความว่าเปล่าวมแช่แข็ง ซึ่งทำให้เงาของเขาสีเขียวช้าลงแต่เขามันก็ยังคงรุกไปข้างหน้าด้วยความทรงพลังขณะที่มันทำลายสิ่งกีดขวางที่ละน้อย บูม! ขณะที่สนามพลังและเจตจำนงฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งถูกทำลายลงผู้อาวุโสผมขาวก็บินกลับมามันสามารถเห็นรอยเลือดบนหน้าอกของเขาได้อย่างชัดเจน “นี่คือความแข็งแกร่งของจักรพรรดิหนึ่งจากสิบของสิบภูมิภาคปีศาจใช่หรือไม่?” ผู้อาวุโสผมขาวสังเกตว่าเขายังคงประเมินความแข็งแกร่งของราชาเขาปีศาจต่ำเกินไปในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งเขาด้อยกว่าคู่ต่อสู้ของเขามาก แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่จะต้องป้องกันการโจมตีสุดกำลังของราชาเขาปีศาจก่อนหน้านี้ราชาเขาปีศาจต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงสุดห้าคนจากหุบเขานิรันดร์พวกเขาทั้งห้าผนึกกำลังกันด้วยรูปแบบที่เรียกว่าห้าธาตุนิรันดร์กาลมันเป็นรูปแบบการโจมตีที่อยู่ในระดับปฐพีแต่มันก็ยังด้อยกว่าราชาเขาปีศาจอยู่เล็กน้อย “เขากันมันได้?”ราชาเขาปีศาจโกรธจัดขณะที่มันกวัดแกว่งเขาในมือเพื่อผ่าแทงฟาดและโจมตีผู้อาวุโสผมขาวอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าจะใช้เจตจำนงฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งและสนามพลังทมิฬเยือกแข็งผู้อาวุโสผมขาวก็แทบจะไม่สามารถต้านทานราชาเขาปีศาจได้ยา ในสนามรบฉากที่คุ้นเคยสามารถเห็นได้อีกครั้ง ทันทีที่หลี่ฟูเฉินเข้าร่วมทีมทีมนั้นก็จะเอาชนะศัตรูได้ทันที ในการต่อสู้มันสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทั้งยังรวดเร็วการรับรู้จึงมีความสำคัญมากกว่าความแข็งแกร่งในบางครั้งการรับรู้ที่พิเศษทำให้หลี่ฟูเฉินสามารถเข้าใจกลยุทธ์ในการต่อสู้ของศัตรูได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของเขาเองก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกันไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย เป็นเรื่องดีที่หลังจากเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงทะลวงขั้นที่19ได้ความแข็งแกร่งของที่แสดงออกมาของหลี่ฟูเฉินทียบได้กับระดับสูงสุดของขอบเขตสวรรค์แล้วและไม่ว่าเขาจะเข้าร่วมทีมไหนเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของผู้นำการโจมตีทันที
“เจ้าไปฆ่ามนุษย์คนนั้นซะ” บนท้องฟ้าสัตว์ปีศาจระดับ5ขั้นกลางส่งข้อความไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งเป็นสัตว์ปีศาจระดับ4ขั้นสูงสุดกลายพันธุ์มันคือมังกรปฐพี่เจิดจรัส มังกรปฐพีนั้นเป็นสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายอยู่แล้วแต่หลังจากที่มันกลายพันธุ์มันก็ได้รับพลังแห่งเปลวเพลิงความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่าปีศาจระดับ4ส่วนใหญ่ไปมากโดยเฉพาะลมหายใจเปลวเพลิงของมันการโจมตีแบบพื้นที่ของมันนั้นเหนือกว่าปีศาจระดับ 4 มาก ครืน! เกิดการระเบิดของเปลวเพลิงขึ้นขณะที่มังกรปฐพี่เจิดจรัสพุ่งตัวออกไป “มันคือสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ4ขั้นสูงสุดมังกรปฐพี่เจิดจรัส!ทุกคนระวัง!” ทีมปัจจุบันของหลี่ฟูเฉินมีมากกว่าสิบคนและพวกเขาทั้งหมดเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงไม่ก็ระดับสูงสุดแต่มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่กดดันอย่างมากสำหรับพวกเขาสำหรับการจัดการกับสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ4ขั้นสูงสุด สัตว์ปีศาจส่วนใหญ่ไม่ได้มีความสามารถในการโจมตีที่ทรงพลังแต่สัตว์ปีศาจตัวนี้เป็นข้อยกเว้น โฮก! มังกรปฐพีเจิดจรัสนั้นคล้ายกับจิ้งจกยักษ์ที่มีขาเรียวยาวและมีแขนขาที่แข็งแกร่งความยาวลำตัวยาวกว่า 200 ฟุตและสูงมากกว่า 100 ฟุตเมื่ออ้าปากออกเปลวเพลิงอันร้อนระอุก็จะพุ่งออกมาแผดเผาผู้คนมันแผดเผาพื้นดินให้กลายเป็นหินหนืดเหลวได้ในทันที มีนักสู้คนหนึ่งซึ่งอยู่ที่ระดับ7ของขอบเขตสวรรค์ที่ไม่สามารถหลบหนีได้ทันเวลาและกลายเป็นถ่านหินในทันที่ “ทุกคนกระจัดกระจายออกไป”หลี่ฟูเฉินไม่มีร่องรอยของความกลัว สามารถแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้เขาคงสามารถสังหารมังกรปฐพีเจิดจรัสตัวนี้ได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว หลังจากที่กระจัดกระจายออกไปมังกรปฐพีเจิดจรัสก็ไม่ลังเลใจใดๆเนื่องจากเป้าหมายของมันคือหลี่ฟูเฉินและไม่มีใครอื่นอีก “เป้าหมายคือข้า?” เมื่อหลี่ฟูเฉินเห็นมังกรปฐพีเจิดจรัสพุ่งเข้ามาหาเขาโดยที่ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างหลี่ฟูเฉินก็เข้าใจได้ในทันที “ฟูเฉินถอยออกไป” ในขณะนี้ร่างที่น่าเกรงขามปรากฏขึ้นข้างหลี่ฟูเฉิน มันเป็นจ้าวหวูจิน หลังจากพ่ายแพ้ในศึกครั้งก่อนจ้าวหวูจินก็ได้กลับมายังเมืองภูเขาทมิฬแล้ว “มันเป็นจ้าวหวูจิน” บางคนจำจ้าวหวูจินได้ ชื่อเสียงของจ้าวหวูจินค่อนข้างโด่งดังในการจัดอันดับการต่อสู้ของขอบเขตสวรรค์จ้าวหวูจินอยู่ 100 อันดับแรกสำหรับผู้ที่อยู่ใน 100 อันดับแรกโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งในระดับของอัจฉริยะพวกเขาส่วนใหญ่เป็นอัจฉริยะในการจัดอันดับดวงดาวสี่หรือห้าชั่วอายุคนเมื่อก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ถึงระดับระดับสูงสุดของขอบเขตสวรรค์หรือไม่ก็สูงมากกว่านี้ด้วยโครงกระดูกระดับ5ดาวหรือ6ดาวจึงไม่จำเป็นต้องพูดว่าอัจฉริยะเหล่านี้ย่อมต้องมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างยิ่งนั้นจึงแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของจ้าวหอูจินก็ในเมื่อเขาอยู่ในรายชื่อของ 100 อันดับแรก “นิกายต้นกำเนิดดาบควบแน่น!” จ้าวหวูจินเปิดใช้งานเทคนิคลับนิกายต้นกำเนิดดาบส่งผลทำให้ดาบพลังฉีนับพันบินมาบรรจบกันและกลายเป็นดาบยักษ์จากนั้นดาบยักษ์ก็แทงไปทางด้านหลังของมังกรปฐพีเจิดจรัสปิสส! มีบาดแผลจากการฟาดฟันขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่หลังของมังกรปฐพีเจิดจรัสมีน้ำพุเลือดสดพุ่งออกมามังกรตัวนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัญในทันที มันเป็นไปไม่ได้ที่จ้าวหวูจินจะเข้าสู่ 100 อันดับแรกของขอบเขตสวรรค์เพียงแค่การอาศัยความแข็งแกร่งของเขาด้วยการโจมตีเต็มกำลังของนิกายต้นกำเนิดจึงทำให้เขามีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่ 100 อันดับแรกแต่เมื่อพลังฉีของนิกายต้นกำเนิดดาบของเขาหมดลงความแข็งแกร่งของเขาจะลดลงอย่างมาก “ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสใหญ่จะได้พบกับโชคชะตามากมาย!” หลี่ฟูเฉินจะไม่สังเกตเห็นได้อย่างไรว่าการรับรู้ของจ้าวหวูจินนั้นแข็งแกร่งมากไม่เช่นนั้นแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะรวมพลังฉีของนิกายต้นกำเนิดดาบเข้าด้วยกัน หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสมังกรปฐพีเจิดจรัสก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทุกคนอีกต่อไปนอกจากนี้เมื่อมีระดับอัจฉริยะเข้ามาเพิ่มเติมด้วยการที่จ้าวหวูจินอยู่รอบๆเพียงเวลา 1 ชั่วโมงทุกคนที่ผนกกำลังกันก็สังหารมังกรปฐพีเจิดจรัสลงได้และแกนปีศาจในร่างของมันได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของทุกคน สัตว์ปีศาจกลายพันธุ์โดยทั่วไปมีแกนปีศาจอยู่ภายใน แกนปีศาจของสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ 4 ขั้นสูงสุดไม่ได้มีมูลค่าหลายสิบล้านเหรียญทองแต่มีหลายร้อยล้านเหรียญทอง แกนปีศาจของสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 70 ถึง 80 ล้านเหรียญทองแต่แกนปีศาจของสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ4ขั้นสูงสุดมีค่าอย่างน้อยห้าเท่าส่งผลทำให้อย่างน้อยๆก็มีค่า 300 ถึง 400 ล้านเหรียญทอง
นิยาย Eternal Reverence บทที่ 341 มังกรปฐพี่เจิดจรัส
บทที่ 341
มังกรปฐพีเจิดจรัส
หลังจากหลบหนีไปยังเขตภูเขารกร้างได้สำเร็จปีศาจและสัตว์ปีศาจก็ไม่ได้ไล่ตามมาอย่างที่คาดไว้
แต่ร้อยนิกายก็ยังคงประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่อยู่ดีเนื่องจากมีนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดห้าคนได้ตายไปหนึ่งในนั้นอยู่ระดับกลางของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดในขณะที่อีกสี่คนอยู่ในระดับต่ำของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดมีนักสู้ขอบเขตสวรรค์ประมาณหนึ่งพันคนที่เสียชีวิตในขณะที่นักสู้ขอบเขตปฐพีจำนวนนับหมื่นได้จากไปมันถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
นี่เป็นเพียงการต่อสู้หนึ่งครั้งร้อยนิกายจะใช้อะไรเพื่อต่อสู้กับสิบภูมิภาคปีศาจในการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในการต่อสู้อีกหลายครั้งต่อจากนี้?
กลับมาที่เขตภูเขาทมิฬหลี่ฟูเฉินตัดสินใจเข้าสู่ความสันโดษทันที
แต่สถานที่อันเงียบสงบของเขาไม่ได้อยู่ในเมืองภูเขาทมิฬแต่เป็นเทือกเขาทมิฬซึ่งอยู่ห่างจากเมืองภูเขาทมิฬไปหนึ่งร้อยไมล์
ภูเขาทมิฬแผ่ขยายออกไปนับพันไมล์และในส่วนลึกของภูเขารัศมีที่ร้อนแรงและอันเจิดจ้าสว่างขึ้นทั่วทั้งสถานที่ดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆค่อยๆลอยขึ้นและตรงกลางของดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆนี้เป็นเจตจำนงอันร้อนแรงที่ค่อยๆเติบโต
เจตจำนงของเทคนิคเพลิงโลกันต์มันเป็นเจตตำนงที่ทรงพลังยิ่งกว่าเจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์
หากเจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์สามารถใช้เพื่อเพิ่มพลังทักษะดาบของตัวเองได้เช่นนั้นแล้วเจตจำนงเทคนิคเพลิงโลกันต์ดีกว่ามากเป็นเท่าตัวเนื่องจากมันสามารถเพิ่มพลังฉีของคนผู้นึ่งได้โดยตรง
การป้องกันความคล่องตัวหรือความเร็วมันจะเพิ่มขึ้นตราบเท่าที่มันเกี่ยวข้องกับพลังฉี
น่าเสียดายที่เทคนิคเพลิงโลกันต์อยู่แค่ขั้นที่ 19 เท่านั้นและยังมีอีกสองขั้นก่อนที่จะเขาจะสามารถเข้าใจเจตจำนงเพลิงโลกันต์ได้โดยสมบูรณ์สองขั้นใหญ่นี้เองไม่ได้ง่ายเลย
หลังจากที่เทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงทะลวงไปถึงขั้นที่19หลี่ฟูเฉินก็เริ่มฝึกฝนบทที่สี่ของบทหลอมร่างคชสารมังกร
บทที่สี่สอดคล้องกับขอบเขตสวรรค์เมื่อถึงบรรลุความสำเร็จหากเสริมด้วยเกราะหนังสัตว์ปีศาจระดับที่5แล้วด้วยโดยพื้นฐานแล้วหลี่ฟูเฉินจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้พ่ายแม้แต่การป้องกันของปีศาจระดับ 4 ก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้
เมื่อเวลาผ่านไปบทหลอมร่างคชสารมังกรของหลี่ฟูเฉินมีความก้าวหน้าอย่างมาก
ด้วยแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 มีอยู่มากพอบทที่สี่จึงก้าวหน้าได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นการรับประทานอาหารที่จะไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ
แต่มันมีข้อกำหนดเบื้องต้นเนื่องจากผู้ฝึกฝนจะต้องสามารถต้านทานพลังฉีที่ชั่วร้ายจากแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 4 ให้ได้ด้วย
แก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจมีพลังจิตที่รุนแรงและยังมีพลังฉีปีศาจมันเป็นการง่ายที่จะซึมซับหากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ผู้นั้นปรับแต่งร่างกายด้วยแก่นแท้โลหิตไม่กี่หยดแต่มันจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของคนผู้นั้นอย่างแน่นอนหากคนผู้นั้นปรับแต่งร่างกายด้วยแก่นแท้โลหิตมากกว่าสิบหยดขึ้นไปคนผู้นั้นอาจจะกลายเป็นบ้าหรือไม่ก็กลายเป็นคนวิกลจริตอย่างแน่นอนแม้ว่าผู้ฝึกฝนจะเป็นอัจฉริยะที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าก็ตามทีพวกเขาย่อมไม่กล้ากลั่นแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจมาใช้มากเกินไป
คาดว่ามีเพียงหลี่ฟูเฉินเท่านั้นที่สามารถูกลั่นแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจด้วยความประมาทและไม่มีความเกรงกลัวเช่นนี้ได้
ไม่นานนักหลี่ฟูเฉินก็ได้ฝึกฝนบทที่สี่จนถึงขั้นสมบูรณ์แบบย่อย
ในช่วงที่เวลาสำคัญการป้องกันทางกายภาพของหลี่ฟูเฉินสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับ 3 ได้แล้ว
แต่หลังจากบรรลุขั้นสมบรูณ์แบบย่อยสำเร็จแล้วหลี่ฟูเฉินก็ตระหนักได้ว่าความก้าวหน้าของเขาช้าลงมาก
ไม่ใช่เพราะความมุ่งมั่นของเขาไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไปแต่เนื่องจากร่างกายของเขาแข็งแรงเร็วเกินไปและไม่มีเวลาปรับตัวหรือปรับอารมณ์ใดๆต่างหาก
ในวันที่หลี่ฟูเฉินเสริมกำลังร่างกายของเขาให้สามารถละเลยการโจมตีจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 5 ได้เหรียญส่งสารของเขาก็สัน
“การต่อสู้จะเริ่มขึ้นอีกแล้วหรือไร?”
หลี่ฟูเฉินลุกขึ้นและบินกลับไปยังเมืองภูเขาทมิฬ
ในขณะนี้ทุกคนถูกระดมกำลังอยู่ในเมืองภูเขาทมิฬแห่งนี้
บนท้องฟ้าเหนือเมืองภูเขาทมิฬมีบุคคลหนึ่งที่มีสภาวะพลังฉีที่ดูหนาแน่นและโดดเด่นอย่างหาใดเปรียบปรากฏตัวอยู่มันเป็นผู้เฒ่าผมขาวที่ดูเย็นชาราวกับพายุหิมะที่ยะเยือกเย็น
“ระดับสูงสุดของขอบเขตหวนคืนต์นกำเนิด?” ดวงตาของหลี่ฟูเฉินหดตัว
ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกทั้งหมดนอกจากผู้ที่ฝึกฝนในเส้นทางเตีปีศาจแล้วก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงสุดน้อยกว่าสิบคนและไม่ใช่ทุกนิกายชั้นยอดจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด
นอกจากนี้หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงสุดผู้นี้แข็งแกร่งกว่าปกติเนื่องจากเขามีเจตจำนงอันละเอียดอ่อนที่กำลังหมุนวนรอบร่างกาย
เพื่อให้เจตจำนงคงอยู่ได้ด้วยตัวเองผู้ฝึกฝนจะต้องฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะระดับปฐพี่หรือทักษะต่อสู้ในระดับปฐพี
“รากฐานของร้อยนิกายนั้นลึกซึ้งและมั่นคงมากไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสิบภูมิภาคปีศาจที่จะเอาชนะร้อยนิกายให้ได้อย่างสมบูรณ์”
ในขณะนี้หลี่ฟูเฉินมีความมั่นใจมากขึ้นต่อร้อยนิกาย
“ผู้อาวุโสสูงสุดออกมาจากที่การเก็บตัวแล้วแค่ตัวเขาเองก็เพียงพอแล้วที่จะสู้กับราชาเขาปีศาจ
ผู้อาวุโสสูงสุดสี่คนจากนิกายวายุเหมันต์ที่ต่อสู้กับปีศาจเกล็ดดำเผยท่าที่ผ่อนคลาย
ในนิกายวายุเหมันต์บุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดโดยธรรมชาติแล้วย่อมเป็นสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุด
สุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดไม่เพียงแต่ได้ฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะระดับปฐพีขั้นต่ำที่ไม่สมบูรณ์จนถึงขั้นที่ 23 เขายังได้ฝึกฝนทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้นต่ำครึ่งแรกซึ่งทำให้เขาควบคุมเจตจำนงระดับปฐพีและสนามพลังได้อีกด้วยความแข็งแกร่งของเขานั้นเหนือกว่านักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงสุดทั่วไป
“ออกเดินทาง!” หนึ่งในนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดเหวี่ยงมือของเขา
ตึกตึกตึกตึก…
คราวนี้สมาชิกทุกคนของเมืองภูเขาทมิฬได้ออกเดินทางและมันก็เป็นภาพที่สวยงามมาก
ภูมิภาคภูเขาขาว…
เวลาผ่านไปกว่าสองสัปดาห์คราวนี้ในที่สุดร้อยนิกายก็ตั้งหลักได้อย่างมั่นคงส่งผลทำให้สถานการณ์ไม่ได้วุ่นวายมากเกินไปนักโดยเฉพาะในการต่อสู้ระดับขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด
เหตุผลหลักก็เพราะว่าไม่ได้มีนักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับสูงมากคนที่ได้เข้าต่อสู้กับราชาเขาปีศาจแต่มีเพียงสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวายุเหมันต์เพียงคนเดียวเท่านั้น
ด้วยนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดที่มีมากขึ้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะสามารถจัดการกับปีศาจระดับ 5 และสัตว์ปีศาจระดับ 5 ตัวอื่นๆได้
ในใจกลางสนามรบชายคนหนึ่งและปีศาจตนนึงกำลังตกอยู่ในการต่อสู้ที่บ้าคลั่ง
ราชาเขาปีศาจเป็นปีศาจระดับ 5 และเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาปีศาจระดับ5ทั้งหมดเหนือกว่าปีศาจเกล็ดดำมากมายนัก
ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวหนาแน่นมันมีเขาที่ดูสวยงามและดูแข็งแรงมากอยู่บนหัวตัวเขามีลวดลายที่ซับซ้อนและดูเหมือนจะมีแสงสีเขียวไหลไปมาตามลวดลายเป็นครั้งคราวมันปลดปล่อยพลังอำนาจที่ทำให้ใจของผู้คนสั่นไหวได้ออกมา
ตรงข้ามกับปีศาจคือสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวายุเหมันต์ที่มีผมสีขาวซึ่งมีสภาวะพลังฉีที่ยะเยือกเย็น
ราชาเขาปีศาจสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้แต่เขาก็ไม่มีอำนาจที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน
“ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขากล้ากลับมามันเป็นเพราะมีคนที่สามารถควบคุมเจตจำนงระดับปฐพีและสนามพลังนี้ได้ปราฏตัวขึ้น”ราชาเขาปีศาจมีดวงตาที่ดูเย็นชา
ในฐานะผู้ปกครองของภูมิภาคเขาปีศาจเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปยูนิคอร์นตะวันออกในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้แต่ก็มีคนที่เขาไม่สามารถกำจัดได้อยู่ด้วยเช่นกัน
ผู้อาวุโสผมสีขาวเขาทำหน้าจริงจังเนื่องจากคู่ต่อสู้มีระดับที่ใกล้เคียงกับเขามาก
เมื่อเอื้อมมือขวาออกไปราชาเขาปีศาจก็ถอดเขาที่อยู่บนศีรษะออก
เขาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายและก็เป็นอาวุธของมันด้วยเช่นกัน
หลังจากที่เทพลังฉีปีศาจจำนวนมากลงในเขาแล้วแสงสีเขียวก็ไหลไปตามลวดลายและมาบรรจบกันที่ปลายเขา
บิสส!
เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นในความว่างเปล่าซึ่งให้ความรู้สึกราวกับว่ามันอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ
ราชาเขาปีศาจยกเขาขึ้นสูงและจับไปที่ผู้อาวุโสผมขาว
“ทรงพลังอย่างแท้จริง!”
หัวใจของผู้อาวุโสผมขาวเต้นเร็วขึ้นขณะที่เขาใช้ทักษะฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งจนสุดถือขีดสุดสนามพลังที่มองไม่เห็นได้แผ่ขยายออกไปอย่างบ้าคลั่งและค่อยๆหดตัวเจตจำนงฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งที่ดูไร้ลักษณ์แต่มีอยู่จริงได้พุ่งออกมาในเวลาต่อมา
ฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งทักษะฝ่ามือระดับปฐพีขั้นต่ำ
หลายสิบปีที่แล้วสุดยอดผู้อาวุโสสูงสุดผู้นี้ได้รับครึ่งแรกของทักษะฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งนี้มา
หลังจากที่เก็บตัวเป็นเวลหลายสิบปีในที่สุดเขาก็เข้าใจทักษะฝ่ามือทมิฬเยือกแข็ง
แคร็ก!
รู้สึกราวกับว่าความว่าเปล่าวมแช่แข็ง
ซึ่งทำให้เงาของเขาสีเขียวช้าลงแต่เขามันก็ยังคงรุกไปข้างหน้าด้วยความทรงพลังขณะที่มันทำลายสิ่งกีดขวางที่ละน้อย
บูม!
ขณะที่สนามพลังและเจตจำนงฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งถูกทำลายลงผู้อาวุโสผมขาวก็บินกลับมามันสามารถเห็นรอยเลือดบนหน้าอกของเขาได้อย่างชัดเจน
“นี่คือความแข็งแกร่งของจักรพรรดิหนึ่งจากสิบของสิบภูมิภาคปีศาจใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสผมขาวสังเกตว่าเขายังคงประเมินความแข็งแกร่งของราชาเขาปีศาจต่ำเกินไปในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งเขาด้อยกว่าคู่ต่อสู้ของเขามาก
แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่จะต้องป้องกันการโจมตีสุดกำลังของราชาเขาปีศาจก่อนหน้านี้ราชาเขาปีศาจต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงสุดห้าคนจากหุบเขานิรันดร์พวกเขาทั้งห้าผนึกกำลังกันด้วยรูปแบบที่เรียกว่าห้าธาตุนิรันดร์กาลมันเป็นรูปแบบการโจมตีที่อยู่ในระดับปฐพีแต่มันก็ยังด้อยกว่าราชาเขาปีศาจอยู่เล็กน้อย
“เขากันมันได้?”ราชาเขาปีศาจโกรธจัดขณะที่มันกวัดแกว่งเขาในมือเพื่อผ่าแทงฟาดและโจมตีผู้อาวุโสผมขาวอย่างบ้าคลั่ง
แม้ว่าจะใช้เจตจำนงฝ่ามือทมิฬเยือกแข็งและสนามพลังทมิฬเยือกแข็งผู้อาวุโสผมขาวก็แทบจะไม่สามารถต้านทานราชาเขาปีศาจได้ยา
ในสนามรบฉากที่คุ้นเคยสามารถเห็นได้อีกครั้ง
ทันทีที่หลี่ฟูเฉินเข้าร่วมทีมทีมนั้นก็จะเอาชนะศัตรูได้ทันที
ในการต่อสู้มันสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทั้งยังรวดเร็วการรับรู้จึงมีความสำคัญมากกว่าความแข็งแกร่งในบางครั้งการรับรู้ที่พิเศษทำให้หลี่ฟูเฉินสามารถเข้าใจกลยุทธ์ในการต่อสู้ของศัตรูได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของเขาเองก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกันไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย
เป็นเรื่องดีที่หลังจากเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงทะลวงขั้นที่19ได้ความแข็งแกร่งของที่แสดงออกมาของหลี่ฟูเฉินทียบได้กับระดับสูงสุดของขอบเขตสวรรค์แล้วและไม่ว่าเขาจะเข้าร่วมทีมไหนเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของผู้นำการโจมตีทันที
“เจ้าไปฆ่ามนุษย์คนนั้นซะ”
บนท้องฟ้าสัตว์ปีศาจระดับ5ขั้นกลางส่งข้อความไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งเป็นสัตว์ปีศาจระดับ4ขั้นสูงสุดกลายพันธุ์มันคือมังกรปฐพี่เจิดจรัส
มังกรปฐพีนั้นเป็นสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายอยู่แล้วแต่หลังจากที่มันกลายพันธุ์มันก็ได้รับพลังแห่งเปลวเพลิงความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่าปีศาจระดับ4ส่วนใหญ่ไปมากโดยเฉพาะลมหายใจเปลวเพลิงของมันการโจมตีแบบพื้นที่ของมันนั้นเหนือกว่าปีศาจระดับ 4 มาก
ครืน!
เกิดการระเบิดของเปลวเพลิงขึ้นขณะที่มังกรปฐพี่เจิดจรัสพุ่งตัวออกไป
“มันคือสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ4ขั้นสูงสุดมังกรปฐพี่เจิดจรัส!ทุกคนระวัง!”
ทีมปัจจุบันของหลี่ฟูเฉินมีมากกว่าสิบคนและพวกเขาทั้งหมดเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงไม่ก็ระดับสูงสุดแต่มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่กดดันอย่างมากสำหรับพวกเขาสำหรับการจัดการกับสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ4ขั้นสูงสุด
สัตว์ปีศาจส่วนใหญ่ไม่ได้มีความสามารถในการโจมตีที่ทรงพลังแต่สัตว์ปีศาจตัวนี้เป็นข้อยกเว้น
โฮก!
มังกรปฐพีเจิดจรัสนั้นคล้ายกับจิ้งจกยักษ์ที่มีขาเรียวยาวและมีแขนขาที่แข็งแกร่งความยาวลำตัวยาวกว่า 200 ฟุตและสูงมากกว่า 100 ฟุตเมื่ออ้าปากออกเปลวเพลิงอันร้อนระอุก็จะพุ่งออกมาแผดเผาผู้คนมันแผดเผาพื้นดินให้กลายเป็นหินหนืดเหลวได้ในทันที
มีนักสู้คนหนึ่งซึ่งอยู่ที่ระดับ7ของขอบเขตสวรรค์ที่ไม่สามารถหลบหนีได้ทันเวลาและกลายเป็นถ่านหินในทันที่
“ทุกคนกระจัดกระจายออกไป”หลี่ฟูเฉินไม่มีร่องรอยของความกลัว
สามารถแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้เขาคงสามารถสังหารมังกรปฐพีเจิดจรัสตัวนี้ได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว
หลังจากที่กระจัดกระจายออกไปมังกรปฐพีเจิดจรัสก็ไม่ลังเลใจใดๆเนื่องจากเป้าหมายของมันคือหลี่ฟูเฉินและไม่มีใครอื่นอีก
“เป้าหมายคือข้า?”
เมื่อหลี่ฟูเฉินเห็นมังกรปฐพีเจิดจรัสพุ่งเข้ามาหาเขาโดยที่ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างหลี่ฟูเฉินก็เข้าใจได้ในทันที
“ฟูเฉินถอยออกไป”
ในขณะนี้ร่างที่น่าเกรงขามปรากฏขึ้นข้างหลี่ฟูเฉิน
มันเป็นจ้าวหวูจิน
หลังจากพ่ายแพ้ในศึกครั้งก่อนจ้าวหวูจินก็ได้กลับมายังเมืองภูเขาทมิฬแล้ว
“มันเป็นจ้าวหวูจิน”
บางคนจำจ้าวหวูจินได้
ชื่อเสียงของจ้าวหวูจินค่อนข้างโด่งดังในการจัดอันดับการต่อสู้ของขอบเขตสวรรค์จ้าวหวูจินอยู่ 100 อันดับแรกสำหรับผู้ที่อยู่ใน 100 อันดับแรกโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งในระดับของอัจฉริยะพวกเขาส่วนใหญ่เป็นอัจฉริยะในการจัดอันดับดวงดาวสี่หรือห้าชั่วอายุคนเมื่อก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ถึงระดับระดับสูงสุดของขอบเขตสวรรค์หรือไม่ก็สูงมากกว่านี้ด้วยโครงกระดูกระดับ5ดาวหรือ6ดาวจึงไม่จำเป็นต้องพูดว่าอัจฉริยะเหล่านี้ย่อมต้องมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างยิ่งนั้นจึงแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของจ้าวหอูจินก็ในเมื่อเขาอยู่ในรายชื่อของ 100 อันดับแรก
“นิกายต้นกำเนิดดาบควบแน่น!”
จ้าวหวูจินเปิดใช้งานเทคนิคลับนิกายต้นกำเนิดดาบส่งผลทำให้ดาบพลังฉีนับพันบินมาบรรจบกันและกลายเป็นดาบยักษ์จากนั้นดาบยักษ์ก็แทงไปทางด้านหลังของมังกรปฐพีเจิดจรัสปิสส!
มีบาดแผลจากการฟาดฟันขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่หลังของมังกรปฐพีเจิดจรัสมีน้ำพุเลือดสดพุ่งออกมามังกรตัวนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัญในทันที
มันเป็นไปไม่ได้ที่จ้าวหวูจินจะเข้าสู่ 100 อันดับแรกของขอบเขตสวรรค์เพียงแค่การอาศัยความแข็งแกร่งของเขาด้วยการโจมตีเต็มกำลังของนิกายต้นกำเนิดจึงทำให้เขามีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่ 100 อันดับแรกแต่เมื่อพลังฉีของนิกายต้นกำเนิดดาบของเขาหมดลงความแข็งแกร่งของเขาจะลดลงอย่างมาก
“ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสใหญ่จะได้พบกับโชคชะตามากมาย!”
หลี่ฟูเฉินจะไม่สังเกตเห็นได้อย่างไรว่าการรับรู้ของจ้าวหวูจินนั้นแข็งแกร่งมากไม่เช่นนั้นแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะรวมพลังฉีของนิกายต้นกำเนิดดาบเข้าด้วยกัน
หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสมังกรปฐพีเจิดจรัสก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทุกคนอีกต่อไปนอกจากนี้เมื่อมีระดับอัจฉริยะเข้ามาเพิ่มเติมด้วยการที่จ้าวหวูจินอยู่รอบๆเพียงเวลา 1 ชั่วโมงทุกคนที่ผนกกำลังกันก็สังหารมังกรปฐพีเจิดจรัสลงได้และแกนปีศาจในร่างของมันได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของทุกคน
สัตว์ปีศาจกลายพันธุ์โดยทั่วไปมีแกนปีศาจอยู่ภายใน
แกนปีศาจของสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ 4 ขั้นสูงสุดไม่ได้มีมูลค่าหลายสิบล้านเหรียญทองแต่มีหลายร้อยล้านเหรียญทอง
แกนปีศาจของสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 70 ถึง 80 ล้านเหรียญทองแต่แกนปีศาจของสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ4ขั้นสูงสุดมีค่าอย่างน้อยห้าเท่าส่งผลทำให้อย่างน้อยๆก็มีค่า 300 ถึง 400 ล้านเหรียญทอง
MANGA DISCUSSION