Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 301
บทที่ 301
ดุร้ายและทรงพลัง
“มู่หรงตี๋แพ้?”
หลังจากการแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันมาอย่างดุเดือดกว่า 100 กระบวนท่า ผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาก็ช่างน่าตื่นตกใจ
ความสามารถของมู่หรงตี๋นั้นน่ากลัว แต่หลี่ฟู่เฉินก็ได้ซ่อนความสามารถของเขาและระเบิดออกมาในตอนนี้เอง
หลี่ฟู่เฉินยั้ยไม่สามารถถูกอธิบายด้วยคำว่าม้ามืดอีกต่อไป เขาควรถูกอธิบายว่าเป็นมังกรซ่อนเสียมากกว่า
มันก็คงจะดีถ้ามังกรที่ซ่อนอยู่ไม่ปรากฏขึ้น แต่มันปรากฏขึ้นมาก็มีแต่จะทำให้โลกตกตะลึงเท่านั้น
นอกเหนือจากราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ยแล้ว พวกอัจฉริยะที่เหลือต่างก็ตกตะลึง ตอนนี้ใบหน้าของ ราชาดาราแส้ทองคำ จินซูตงกระตุก ก็ในเมื่อเขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่หลี่ฟู่เฉินจะเอาชนะมู่หรงตี๋ ทันใดนั้นเองเขาก็หัวเราะ “เฉียดฉิวจริงๆ โชคต้องเข้าข้างเขาแน่นอน”
ทุกคนที่อยู่ในค่ายกลชุบสวรรค์ต่างก็ตกตะลึง แต่ผู้ที่สังเกตการณ์อยู่นอกค่ายกลนั้นตกตะลึงยิ่งกว่า
โอหยางเหวินเทียน จ้าวหวูจิน และคนอื่นๆ ต่างรู้สึกเหลือเชื่อ
แม้ว่าพวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าหลี่ฟู่เฉินมีความสามารถที่เก่งกาจ แต่พวกเขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะเก่งถึงระดับนี้ แม้แต่กระทั้งหนึ่งในหกนายน้อย มู่หรงตี๋ ก็ถูกโค่นลงไป
ผู้นำนิกายนภาดารา มู่หรงบ๋าเทียนมีสีหน้าที่ดูมืดมน
ความพ่ายแพ้ของมู่หรงตี๋เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างแท้จริง
ก่อนการแข่งขัน แผนที่วางไว้คือการกระรันตีว่ามู่หรงตี๋ต้องได้ที่ 10 ไม่ก็อันดับที่ 5 นั่นหมายความว่าเขาจะต้องก้าวขึ้นสู่สิบอันดับแรกให้ได้เป็นอย่างน้อยดและก็ต้องไปพยายามให้ติดอันดับหนึ่งในห้า
“ข้าแพ้?” มู่หรงตี๋มองลงไปยังหน้าอกที่เปื้อนเลือดของเขาด้วยสายตาที่ไม่เชื่อและปวดร้าว
เขาผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในหกนายน้อย ผู้ซึ่งมีเกียรติยศศักดิ์ศรีที่ไร้ขีดจำกัด ผู้ซึ่งเป็นที่คาดหวังของผู้คนว่าเขาจะสามารถไปถึงระดับสูงสุดของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดได้ เขาผู้ซึ่งเป็นเช่นนั้น กลับมาพ่ายแพ้ให้กับโครงกระดูกระดับ 1 ดาว ก่อนการแข่งขัน เป้าหมายขั้นต่ำของเขาคือการไปถึงสิบอันดับแรกอยู่เลย
“เป็นไปไม่ได้ ข้าแพ้ไม่ได้”
มู่หรงตี๋ลุกขึ้น สภาวะพลังฉีของเขาถูกระเบิดออกมามากยิ่งขึ้นและมันก็มีโลหิตและเจตนาสังหารแฝงปนเปือไว้อยู่
เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับความล้มเหลวและเขาก็ไม่ปรารถนาที่จะล้มเหลวเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาไม่ปรารถนาที่ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับหลี่ฟู่เฉินเลย
“เจ้ายังต้องการสู้อยู่อีก?” หลี่ฟู่เฉินมีดวงตาที่เย็นชา
หลี่ฟู่เฉินมีความตระหนักรู้ที่เหนือกว่าอยู่แล้ว แต่เขาก็ใช้มันไปเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น หากเขาต้องการ เขาสามารถจัดการกับให้มู่หรงตี๋บาดเจ็บสาหัสได้โดยสิ้นเชิง
“มู่หรงตี๋ การแข่งขันครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเกียรติยศและชื่อเสียงของนกนายน้อยเช่นพวกเรา อย่าได้ผิดพลาด” บนเสาหินชุบสวรรค์ เซี่ยฮัวชวนกล่าวอย่างไม่แยแส
ขณะนั้นเองมู่หรงตี๋คลี่ยิ้ม สภาวะพลังฉีของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดอย่างรวดเร็ว
บูม!
ทันใดนั้นเองเงาสีเลือดก็ปรากฏขึ้น ซึ่งทำให้สภาวะพลังฉีของมู่หรงตี๋พุ่งขึ้นไปถึงขีดจำกัดของเขา
เทคนิคลับระดับ 4 ดาว รวมหยางผลาญโลหิต
ในสถานการณ์ปกติ เทคนิคลับนี้ไม่ดีเท่ากับเทคนิคลับดาราไพศาล แต่ถ้าผู้ฝึกฝนได้รับบาดเจ็บหรือเลือกที่จะทำร้ายตัวเอง รวมหยางผลาญโลหิตก็จะแสดงพลังที่มากกว่าเทคนิคลับดาราไพศาลออกมาได้อย่างเหลือล้น
ถูกแล้ว มู่หรงตี๋มีเทคนิคลับระดับ 4 ดาวที่แตกต่างกันถึงสองแบบและทั้งคู่ก็เกือบจะอยู่ในขั้นที่สมบูรณ์แบบ
เกิดรอยเลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายที่อ่อนแอของเขา มันเข้าไปรวมกับพลังฉีเพื่อส่งผ่านต่อไปยังรวมหยางผลาญโลหิต สภาวะพลังฉีของมู่หรงตี๋เป็นเหมือนวิญญาณร้ายที่มีพลังในการขู่ขวัญที่น่าหวาดกลัว ผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ แม้แต่ความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับมู่หรงตี๋ก็อาจจะไม่มีเสียด้วยซ้ำ
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าจะต้องตาย!”
เปลี่ยนร่างของเขากลายเป็นรุ้งสีเลือด มู่หรงตี๋ก็พุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน ในขณะที่พัดเหล็กเองก็พลังฉีโลหิตหมุนวนอยู่รอบๆ มันถูกตราตวัดพัดออกไปอย่างรุนแรง
มันยังคงเป็นท่าสังหารระดับลึกลับขั้นสูง โคจรไร้ลักษณ์ อีกครั้ง แต่พลังฉีหมุนวนครั้งนี้ทั้งสะกดข่มได้มากกว่า กระหายเลือด และสุดโต่ง มันเหมือนกับเครื่องบดเนื้อที่จะมาบดหลี่ฟู่เฉินให้เป็นชิ้นๆ ในเวลาเดียวกัน พลังลมจากสภาวะพลังฉีสีแดงเลือดก็ได้พัดไปยังเสาหินชุบสวรรค์ด้วยเช่นกัน เหล่าอัจฉริยะที่ยืนอยู่บนเสามีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ขณะที่พวกเขาเริ่มโคจรพลังฉีเพื่อป้องกันอย่างเมามัน นี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับผลกระทบจากแรงลมและเจตนาที่ดูกระหายเลือดในนั้น
“ตั้งแต่ที่มันเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าก็จะทำให้เจ้าพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช” หลี่ฟู่เฉินลงมือ
มันไม่มีทางอธิบายท่าร่างที่หลี่ฟู่เฉินใช้ได้
ร่างของหลี่ฟู่เฉินเป็นเหมือนภาพลวงตา ขณะที่เขาทะลุเข้าไปในช่องว่างพลังฉีที่หมุนวนอยู่อย่างรุนแรงอันนั้น
ช่องว่างนี้เป็นข้อบกพร่องของโคจรไร้ลักษณ์
สำหรับคนปกติ แม้ว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นข้อบกพร่อง พวกเขาก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ แต่หลี่ฟู่เฉินสามารถทำได้ ด้วยความตระหนักรู้อันทรงพลังของเขา เขาหลบหลีกขุมพลังยับยั้งที่รุนแรงของพลังฉีหมุนวน และมาถึงเขตที่ปลอดภัย ซึ่งนี่ถือเป็นจุดบอดของโคจรไร้ลักษณ์
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วราวกับประกายไฟที่เกิดจากหินกระทบหิน แม้แต่กระทั้งราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ยก็ไม่สามารถสังเกตเห็นรายละเอียดได้ เขาเพียงแค่รู้สึกแปลกๆ ก็เพียงเท่านั้น
“เขาเพลิงปีศาจ”
เล็งไปที่จุดหนึ่งในพลังฉีหมุนวน ดาบของหลี่ฟู่เฉินพุ่งไปข้างหน้าในทันที
เขาสีแดงสดที่ดูเหมือนจริงปรากฏขึ้น มันทะลุผ่านพลังฉีหมุนวนและเกราะพลังฉีของมู่หรงตี๋ไป ก่อนที่จะแทงทะลุร่างของมู่หรงตี๋
มันทั้งตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพ ทั้งดุร้ายและทรงพลัง
ในตอนนี้เอง นี่ก็คือความรู้สึกที่หลี่ฟู่เฉินมอบให้กับทุกคน
เมื่อร่างกายของเขาลอยขึ้น มู่หรงตี๋ก็ตกลงไปในความหวาดกลัว มันเป็นเพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉึก!
ด้วยการแกว่งดาบดำ มู่หรงตี๋ก็ถูกส่งบินออกไปโดยหลี่ฟู่เฉิน หน้าอกมีเลือดพุ่งออกมาราวกับบ่อน้ำพุ และเขาก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทั้งหมดไป
“การรับรู้ทรงพลังอะไรเช่นนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก?”
ไม่มีใครในเขตแดนชุบสวรรค์สามารถมองเห็นมัน แต่ด้านนอกเขตแดน ผู้ที่อยู่ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดและขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุดสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
โอหยางเหวินเทียนและจ้าวหวูจินมองหน้ากัน
หัวใจของพวกเขารู้สึกประหลาดใจ และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็ไม่รู้ถึงขีดจำกัดที่แท้จริงของหลี่ฟู่เฉิน
ความตระหนักรู้ในด้านการต่อสู้ดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่นักสู้ขอบเขตปฐพีจะมีได้
“เฮ้อ เขาก็ยังคงพ่ายแพ้อยู่ดี หนึ่งในหกนายน้อยพ่ายแพ้แล้ว ข้าสงสัยว่าคนต่อไปจะเป็นใคร?”
“ตลกแล้ว! มู่หรงตี๋ยังเด็กและอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น นายน้อยคนอื่นๆ คงพ่ายแพ้ไม่ได้ง่ายๆ”
“ข้าก็แค่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาลอยๆ เท่านั้น หลังจากทั้งหมดแล้ว สิ่งที่หลี่ฟู่เฉินแสดงออกมามันก็น่าตกใจเกินไป”
ทุกคนไม่คิดถึงการที่หลี่ฟู่เฉินจะเอาชนะนายน้อยคนอื่นๆ ได้
ยอดฝีมือของหกนายน้อย นายน้อยหุบเขานิรันดร์ เถิงฉิงหยุนอยู่ในอันดับที่ 5 ของการแข่งขันครั้งก่อนหน้าและก็มีความสามารถมากมาย หลี่ฟู่เฉินไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
นายน้อยดาบทยาน หลั่วเฟ่ยหยุนอยู่อันดับที่ 11 ของการแข่งขันครั้งก่อน เทคนิคลับดาบบินของเขาไม่เคยพลาดเป้า หลี่ฟู่เฉินยังมีความสามารถไม่เพียงพอที่จะเอาชนะเขา
นายน้อยวายุ ฮั่นยี๋หมิงเคยอยู่ในอันดับที่ 12 และเทคนิคตัวเบาของเขาก็เป็นรองเพียงแค่ราชาอัสนี สือตูเหล่ย เท่านั้น และเทพธิดาไตรสิกขา เจียงหรั่วหลิว เองก็เหมือนกัน เขาจะไม่พ่ายแพ้ให้กับหลี่ฟู่เฉินแน่นอน
นายน้อยต้วนหลิน เซี่ยฮัวชวน อยู่ในอันดับที่ 15 ในของการแข่งขันครั้งก่อนและรูปแบบการต่อสู้ของเขาก็คล้ายกับราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง เขาตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ด้วยความนิ่งเฉย มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่หลี่ฟู่เฉินจะเอาชนะเขาได้
สำหรับนายน้อยดาบมังกร จื่อหยูเย่… เขาอาจใกล้เคียงกับมู่หรงตี๋ ในแง่ของอันดับดารา เนื่องจากเขาอยู่ในอันดับที่ 35 ขณะที่มู่หรงตี๋อยู่ในอันดับที่ 28 แต่จื่อหยูเย่เป็นที่รู้กันว่ามีศักยภาพโดยกำเนิดชั้นยอด หากไม่ใช่เพราะว่าเขายังเด็กเกินไป เขาก็คงเทียบเท่ากับราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย ได้ ความสามารถในปัจจุบันของเขาแม้แต่กระทั้งมู่หรงตี๋ก็ไม่อาจเทียบได้
ในทางตรงกันข้าม เซี่ยฮัวชวนอาจเอาชนะได้ง่ายกว่า อย่างน้อยก็ยังคงมีความหวัง
“เก่งเกินไปแล้ว” ข้างจ้าวหวูจิน จ้าวหมิ๋งเยว่เผยสีหน้ามึนเมา
นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างรุนแรง มันนับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ตี๋เอ๋อ” มู่หรงบ๋าเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์ของเขา
“น่าอับอาย!” เซี่ยฮัวชวนมีท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม ในขณะที่เขามองไปยังหลี่ฟู่เฉินด้วยสีหน้าสงสัย
หลังจากเอาชนะมู่หรงตี๋ได้แล้ว เสาหินชุบสวรรค์ของหลี่ฟู่เฉินก็ถูกล้อมไปด้วยพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ และรูปร่างของงูหลามยักษ์ก็ชัดเจนมากขึ้นแล้วในตอนนี้ เสียงคำรามเองก็ดังขึ้นมาก รู้สึกได้เลยว่ามันกำลังเคลื่อนตัวไปตามพื้น ในขณะที่มันให้ความรู้สึกที่ทรงพลัง
ชนะ 29 นัดติดต่อกัน ชนะ 30 นัดติดต่อกัน
ย่างก้าวของหลี่ฟู่เฉินไม่เคยหยุดเลยแม้แต่เพียงชั่วขณะ
สำหรับตอนนี้ มีคงมากกว่าสิบคนเล็กน้อยที่ได้รับชัยชนะติดต่อกัน 30 ครั้ง มีบางคนที่โชคดีมากพอที่พวกเขาไม่ต้องพบศัตรูที่น่ากลัวใดๆ ไม่เช่นนั้นแล้ว ตัวเลขนี้อาจจะน้อยกว่านี้