Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 270
บทที่ 270
การรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญ
ชายผู้โดดเด่นได้ประเมินการรับรู้และความสามารถในการสร้างสรรค์ของหลี่ฟู่เฉินต่ำไป
หากหลี่ฟู่เฉินยังไม่เข้าใจเจตจำนงแห่งดาบเพลิงปีศาจ เขาคงไม่สามารถสร้างกระบวนท่าสังหารระดับลึกลับขั้นสูงได้ แต่หลังจากที่เข้าใจเจตจำนงแห่งดาบเพลิงปีศาจแล้ว วิธีการสร้างกระบวนท่าสังหารระดับลึกลับขั้นสูงสำหรับหลี่ฟู่เฉินก็ไหลลื่นขึ้นมาก มันเป็นเพียงการสร้างท่าสังหารที่สูงกว่าท่าสังหารที่สามของเขาหนึ่งขั้น ซึ่งไม่มากเกินไปนัก
ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน หลี่ฟู่เฉินมีเคร้าโครงของกระบวนท่าสังหารระดับลึกลับขั้นสูงของเขาแล้ว
เหลือประมาณครึ่งปีก่อนการแข่งขันการจัดอันดับดวงดาว
“ทำลาย!”
กิ่งไม้เหี่ยวเฉาในมือของหลี่ฟู่เฉินได้แตกออกเป็นชิ้นๆ แต่มีแสงสีแดงคลุมไว้จึงทำให้กิ่งไม้ไม่ถูกเผา
กิ่งไม้เหี่ยวแห้งถูกยกขึ้นสูงก่อนที่หลี่ฟู่เฉินจะเหวี่ยงลงอย่างแรง
บูม!
กิ่งไม้เหี่ยวเฉากลายเป็นฝุ่นในทันที ในขณะที่แสงสีแดงเข้มก็เหมือนกับคบเพลิงที่มีสีแดงเพลิงได้กระทบลงไปที่พื้น
พื้นดินถูกแยกออก แสงสีแดงเป็นเหมือนมังกรที่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อแสงสีแดงแตกตัว มีหุบเหวที่ยาวกว่าสิบเมตรปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
หุบเหวอาจดูแคบ แต่มันกลับกว้างเป็นแนวยาวและความกว้างสุดท้ายก็กว้างถึงหนึ่งเมตร
ส่วนที่ลึกที่สุดของหุบเหวลึกอย่างน้อยก็หกเมตร
ในแง่ของความลึกซึ้ง ท่านี้ด้อยกว่ากระบวนท่าเงาสังหารเพลิงปีศาจเล็กน้อย แต่ในแง่ของพลังทำลาย มันแข็งแกร่งกว่าเงาสังหารเพลิงปีศาจมาก
“ดี ข้าประเมิณเจ้าต่ำเกินไป” ในขณะที่ร่างของเขาปรากฏขึ้น ชายผู้โดดเด่นจ้องมองไปที่หลี่ฟู่เฉินด้วยสายตาหลงใหล
หายใจเอาอากาศร้อนๆ ออกมา หลี่ฟู่เฉินหันกลับมาก “อาจารย์ ข้าจะไม่ทำให้ความคาดหวังของท่านต้องผิดหวัง”
เจตจำนงดาบเพลิงปีศาจมีพลังทำลายล้างที่น่าประหลาดใจ ด้วยเหตุนี้หลี่ฟู่เฉินจึงตั้งใจลดการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนลง และผลักดันพลังของดาบเพลิงปีศาจไปจนถึงขีดสุด
“การรับรู้ของเจ้ามีมากเพียงพอที่จะดูถูกวีรบุรุษทั้งหมดในทวีปนี้ แต่ เจ้าไม่ได้มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะปกป้องตัวเอง”
ในขณะนั้นเองชายผู้โดดเด่นยื่นมือออกมาและแสดงท่าทาง หลี่ฟู่เฉินก็บินออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ไม่ต้องดิ้นรน” ชายผู้โดดเด่นคว้าเข้าที่ข้อมือขวาของหลี่ฟู่เฉิน
ชี่ ชี่ ชี่ ชี่ ชี่ ชี่…
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกราวกับว่าข้อมือของเขาถูกตีด้วยเหล็กเพราะเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากการเผาไหม้ที่รุนแรง
ในช่วงเวลาต่อจากนั้น หลี่ฟู่เฉินถึงสามารถมองเห็นได้ รูปแบบที่คล้ายกับรูปแบบลวดลายเริ่มแพร่กระจายจากข้อมือขวาของเขาขึ้นมาจนไปสุดที่หลังฝั่งขวาของเขา
“นี่คือ?” หลี่ฟู่เฉินประหลาดใจ
ชายผู้โดดเด่นอธิบายว่า “นี่คือลวดลายต่อสู้ระดับปฐพี ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเจ้า เจ้าไม่สามารถเข้าใจทักษะต่อสู้ระดับปฐพีได้ แต่ข้าได้ตีตราลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีไว้บนมือของเจ้าแล้ว ซึ่งเจ้าสามารถถ่ายพลังฉีของเจ้าเข้าไปโดยตรงและระเบิดพลังลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีออกมา พลังเทียบเท่ากับทักษะต่อสู้ระดับปฐพี แน่นอน พลังของลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสภาวะพลังฉีของเจ้า ยิ่งพลังฉีของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีนี้มีมันหมด และยิ่งเจ้าใช้มันมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งหมดเร็วเท่านั้น เมื่อวันที่ลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีหมดลงอย่างสมบูรณ์ และเจ้าจะไม่สามารถใช้มันได้อีก”
“ลวดลายต่อสู้ระดับปฐพี?” หลี่ฟู่เฉินอ้าปากค้าง
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาไม่สามารถเข้าใจทักษะต่อสู้ระดับปฐพีได้ เขาอาจจะต้องก้าวไปสู่ขอบเขตสวรรค์ก่อนถึงจะทำได้
หลี่ฟู่เฉินไม่รู้ว่าทักษะต่อสู้ระดับปฐพีนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
แต่จากการประเมินของเขา พลังของมันคงจะแข็งแกร่งกว่าทักษะดาบเพลิงปีศาจอย่างน้อยสิบเท่า
แนวคิดของพลังสิบเท่าคืออะไร? หลี่ฟู่เฉินมั่นใจว่าเขาจะสามารถสังหารคู่ต่อสู้ได้ทันที แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับต่ำก็ตาม
นอกจากนี้ ยิ่งพลงฉีของเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีก็จะแสดงพลังได้มากขึ้นเท่านั้น เมื่อเขาอยู่ขอบเขตสวรรค์ มันก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีนี้จะน่ากลัวและทรงพลังเพียงใด
หลังจากเวลานาน ในที่สุดการสร้างรูปแบบลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีก็เสร็จสมบูรณ์ ชายที่โดดเด่นดูซีดเซียวและดวงตาของเขาหรี่แคบ
“ท่านอาจารย์” หลี่ฟู่เจินรู้สึกตื้นตันใจยิ่ง
เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าการสร้างตราสัญลักษณ์รูปแบบลวดลายต่อสู้อาจต้องใช้แก่นแท้ของวิญญาณ และถ้าใช้มากเกินไป มันก็เป็นการยากที่จะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่แล้ว
ชายผู้โดดเด่นส่ายมือของเขา “มันไม่ได้เป็นอันตราย หากข้าต้องออกจากเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ ข้าจะต้องจ่ายเป็นราคาที่สูงกว่านี้”
เหตุผลที่เขาสามารถให้ตรารูปแบบลวดลายต่อสู้ระดับปฐพีแก่หลี่ฟู่เฉินก็เป็นเพราะเขามีสถานะเป็นผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ หากเขาพึ่งตัวเอง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเช่นนั้น
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้พูดอะไรและมองไปที่มือขวาของเขา ลวดลายได้หายไปแล้ว แต่หลี่ฟู่เฉินก็ยังคงรู้สึกได้ถึงการคงอยู่ของมัน
‘ข้าสงสัยว่าลวดลายที่ข้าได้รับจากประตูแห่งโลกและประตูแห่งสวรรค์เป็นรูปแบบลวดลวยต่อสู้ด้วยหรือไม่?’
ในประตูโลก ทั้งตัวของเขามีลวดลาย ซึ่งหายไปในเวลาต่อมาและเขาก็ไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้
ในขณะที่อยู่ในประตูสวรรค์ ก็มีตราประทับพุ่งเข้ามาประทับที่บนฝ่ามือซ้ายของเขา
รอยประทับนั้นหายไปและเขาก็รู้สึกไม่ได้เช่นกัน
***
เมื่อการแข่งขันจัดอันดับดาราเข้ามาใกล้มากขึ้น ก็ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อใดที่มีการรวมตัวกันของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ และนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด นอกเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ
แม้ว่าทุกคนตั้งใจเก็บสภาวะพลังฉีของพวกเขาไว้แล้ว แต่ทว่าเมื่อสภาวะพลังฉีของพวกเขาสัมผัสกัน ก็จะมีพายุและสายฟ้าปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือสถานที่แห่งนี้
นักสู้ขอบเขตสวรรค์ไม่เป็นอย่างไร แต่การที่นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดมาอยู่ที่นี่ดูอเหมือนจะยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน
ประตูของพระราชวังเปิดขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ ไม่มีอัจฉริยะคนใดเข้าไปยังเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ เหลือน้อยกว่าสามเดือนแล้วก่อนที่จะถึงการแข่งขันจัดอันดับดารา หากพวกเขาเข้าไปในตอนนี้ พวกเขาก็ออกได้หลังจากการเปิดเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับครั้งต่อไปเท่านั้น
เงาว่างเปล่ารูปมนุษย์ก่อตัวขึ้น มันชำเลืองมองทุกคน ขยาดแรงดันพลังฉีที่ไร้รูปร่างออกไป
ทุกคนกลั้นหายใจ
ในเวลาปกติ คนเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก และสามารถเรียกลมและฝนได้
แต่ต่อหน้าเงาที่ว่างเปล่านี้ พวกเขาไม่ต่างจากมด
ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ…
ร่างโผล่ออกมาจากเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับทีละคนๆ
“พวกเขาออกมาแล้ว!”
ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด เจ้านิกายวารีคราม โอหยางเหวินเทียน และนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดอีกสองคนจากนิกายวารีครามก็อยู่ท่ามกลางความประหลาดใจเช่นกัน
นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดสองคนนี้เป็นผู้พิทักษ์ของนิกายวารีคราม และอันดับของพวกเขาก็อยู่ต่ำกว่าเจ้านิกายและผู้อาวุโสสูงสุด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หลี่ฟู่เฉิน หลี่เซียงหรู เฉินหยวนหู และเซี่ยเฟิงทั้งหมดก็ออกมา
โอหยางเหวินเทียนเผยรอยยิ้ม ครั้งนี้ นิกายวารีครามของเขาได้รับชื่อเสียงมากมายอย่างแท้จริง
เดิมทีเขาคิดว่าหลี่เซียงหรูเป็นพรสำหรับนิกายวารีครามแล้ว เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าหลี่ฟู่เฉินเองก็ปรากฏตัวขึ้นมา
ย้อนกลับไป เมื่อตอนที่จ้าวหวูจินนึกถึงหลี่ฟู่เฉิน เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับหลี่ฟู่เฉินมากนักและเพียงปฏิบัติต่อเขาในฐานะอัจฉริยะที่มีศักยภาพ
เขาคิดว่าแม้ว่าหลี่ฟู่เฉินจะไม่สามารถก้าวไปสู่ขอบเขตสวรรค์ได้ในอนาคต มันก็จะไม่มีผลเสียใดๆ
ตอนนี้ เขามีความกลัวอยู่ในใจ
ใช่ เขากลัวมาก
กลัวว่าเขาอาจพลาดท่าให้หลี่ฟู่เฉิน
ความสำเร็จของหลี่ฟู่เฉินในเขตแดนร้อนสมุนไพรเป็นที่รู้กันดีในนิกายวารีคราม มันทำให้เกิดความโกลาหลในทั้งนิกาย
ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หก เป็นคนแรกที่เข้าสู่ประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ด ประตูแห่งโลก ได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก แต่ละความสำเร็จเหล่านี้สว่างไสวและรุ่งโรจน์อย่างน่าประหลาดใจ
ในประวัติศาสตร์ของนิกายวารีคราม ไม่เคยมีอัจฉริยะยอดเยี่ยมขนาดนี้มาก่อน
“หลี่ฟู่เฉิน!” โอหยางเหวินเทียนส่งข้อความถึงหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟู่เฉินและคนอื่นๆ สังเกตเห็นโอหยางเหวินเทียนและผู้พิทักษ์ทั้งสองแล้ว ขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไป
“เจ้านิกาย!” พวกเขาทั้งสี่ทักทายด้วยการป้องหมัด
“ดี! เจ้าทุกคนยอดเยี่ยมและไม่ได้ทำให้นิกายวารีครามของข้าต้องอับอาย ข้าภูมิใจในตัวเจ้า” โอหยางเหวินเทียนยิ้มแย้มแจ่มใส ในบรรดาสี่คนนั้น หลี่ฟู่เฉินและหลี่เซียงหรูได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ นี่เป็นเครื่องรางป้องกันอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ผลกับพวกเขาสองคน และมันยังมีผลกับนิกายวารีครามอีกด้วย
ตราบใดที่ยังมีผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอยู่ใกล้ๆ ก็จะไม่มีนิกายอื่นใดกล้าจัดการนิกายวารีคราม
พลังฉีสังหารถูกระเบิดออกมา ในฐานะที่เป็นเจ้านิกายสวรรค์ปีศาจ หลี่เซี่ยเทียนเองก็สังเกตเห็นหลี่ฟู่เฉินเช่นกัน
พลังฉีสังหารถูกแผ่ออกมาจากร่างกายเขาโดยตรงและไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดแต่อย่างใด
โอหยางเหวินเทียนจ้องมองไปที่หลี่เซี่ยเทียน “หลี่เซี่ยเทียน ทำไม? เจ้าต้องการลงมือหรือไม่?”
หลี่เซี่ยเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มืดมน “ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอาจปกป้องเจ้าได้ในตอนนี้ แต่พวกเขาไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ตลอดชีวิต เมื่อถึงเวลา ข้าจะให้เจ้าชดใช้คืนให้ข้าเป็นสิบร้อยพันเท่า และข้าจะทำให้เจ้าต้องทนทุกข์กับผลที่ตามมา”
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels