บทที่ 164
นิกายต้นกำเนิดดาบ
“ฟู่เฉิน สิ่งที่พวกเขาพูดจริงหรือไม่?” จ้าวหวูจินถามหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟูเฉินพยักหน้า ไม่มีอะไรที่จะซ่อน ทุกคนย่อมรู้เกี่ยวกับมัน
เห็นหลี่ฟู่เฉินยอมรับด้วยการพยักหน้าของเขา จ้าวหวูจินหัวเราะ “ชายชราผู้นี้ไม่เคยเห็นศิษย์ที่โดดเด่นเช่นนี้มาก่อน มันตั้งแต่ที่ข้าได้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ในนิกายวารีคราม ในบรรดาคนในรุ่นเดียวกัน เจ้านับว่าเป็นราชาแน่นอน บางที อาจมีการดำรงอยู่ที่คล้ายกันเช่นเดียวกับเจ้าในนิกายอยู่ จงพยายามให้มากขึ้นอีก!”
เขาได้ตัดสินใจแล้ว ในอนาคต ถ้าหลี่ฟู่เฉินไม่สามารถพัฒนาเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ได้เนื่องจากข้อจำกัดของโครงกระดูกของเขา เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยหลี่ฟูเฉินเอง เมื่อหลี่ฟู่เฉินเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ ใครก็ตามที่อยู่ใต้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
“อาวุโสใหญ่ ข้าฆ่าศิษย์หลายคนจากทั้งสามนิกาย มันจะเป็นปัญหาหรือไม่?” หลี่ฟู่เฉินสอบถาม
จ้าวหวูจินตอบกลับ “สถานการณ์ในปีนี้ค่อนข้างพิเศษ ตั้งแต่ที่นิกายวารีครามของเราได้ก่อตั้งขึ้นมา สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เจ้าไม่ต้องกังวลตราบใดที่เจ้าไม่ได้ฆ่าศิษย์ทั้งหมดจากทั้งสามนิกาย มันก็จะไม่เกิดกรณีที่เลวร้ายที่สุด ส่วนมากอาจจะมีความขัดแย้งบางอย่าง แต่มันจะไม่ก่อให้เกิดสงครามระหว่างทั้งสี่นิกาย”
หากลี่ฟู่เฉินฆ่าศิษย์ทั้งหมดจากทั้งสามนิกายหรือฆ่านายน้อยนิกายปีศาจสวรรค์ หลี่หวูเซี่ย สถานการณ์จะไม่สามารถควบคุมได้ โชคดีที่สถานการณ์แบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้น
“หลี่ฟู่เฉิน เด็กสารเลว เจ้ากล้าฆ่าศิษย์นิกายปีศาจสวรรค์ของข้าไปมากมายจริงๆ ชายชราผู้นี้จะไม่เอาเจ้าไว้!” สภาวะพลังฉีที่น่ากลัวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กลางอากาศ ดูเหมือนว่าจะมีกะโหลกศีรษะสีดำสร้างแรงกดดันต่อหลี่ฟูเฉินอย่างจริงจัง
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าฆ่าศิษย์นิกายโหมกระบี่ เจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
เห่อเหลียนหู่ ผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายโหมกระบี่ตกลงสู่ความบ้าคลั่ง ภายในหน้าตาที่ดูดุดัน สภาวะพลังฉีอันโดดเด่นรูปร่างพยัคฆ์ที่กำลังคำรามสู่ท้องฟ้าปรากฏ
“เจียงเสี่ยวเหมาเป็นอัจฉริยะที่นิกายเร้นวิญญาณของข้าไม่สามารถขาดไปได้ ทำลายแขนทั้งสองข้างของเจ้าแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป!” สภาวะพลังฉีของหญิงชราจากนิกานเร้นวิญญาณได้แพร่ขยายออกไป มันคล้ายกับผ้าม่านตอนกลางคืน ปิดกั้นแสงแดดทั้งหมด
“จะดีกว่านี้ถ้าพวกเจ้าทุกคนไม่ให้มันเกินเลยเกินไป”
จ้าวหวูจินปะทุโทสะ สภาวะพลังฉีดุจดั่งเช่นมหาสมุทรที่กำลังโหมซัด เข้าปะทะกับสภาวะพลังฉีของผู้อาวุโสทั้งสาม
“จ้าวหวูจิน นิกายวารีครามของเจ้าไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ ละทิ้งเขาในขณะที่เจ้ามีโอกาส” ดวงตาของเหว่ยยี่ปิงเปล่งประกายออกด้วยเจตนาสังหาร
จ้าวหวูจินหัวเราะเย็นชา “เจ้าทุกคนแน่แท้แล้วว่าไร้ยางอาย การฆ่านั้นได้ถูกอนุญาตทำภายในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ หากพวกเขาตาย มันหมายถึงว่าพวกเขานั้นไร้ความสามารถเอง หากทุกคนทำตัวเหมือนเจ้า เช่นนั้นข้าก็สามารถชำระหนีแค้นกับเจ้าเกี่ยวกับศิษย์ทั้งหมดของนิกายวารีครามที่ตกตายไปในอดีตได้หรือไม่?”
เห่อเหลียนหู่ออกความเห็น “อดีตผ่านไปแล้ว ข้า เห่อเหลียนหู่มองดูแค่ปัจจุบันเท่านั้น วันนี้ หากนิกายวารีครามของเจ้ายืนยันที่จะช่วยเขา ถ้าเช่นนั้นก็อย่าโทษข้าว่าเป็นคนหยาบคาย”
“จ้าวหวูจิน เจ้าไม่สามารถช่วยเขาได้” เสียงของหญิงชราจากนิกานเร้นวิญญาณล่องลอยออกมา
“คนเหล่านี้แน่นอนว่าน่ารังเกียจ” เฉินฟางหัวกล่าวออกมาด้วยความเกลียดชัง
ภายในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ หากเจ้าไม่ฆ่า คนอื่นก็จะฆ่าเจ้า และต้นแต่เริ่มต้น มันเป็นศิษย์จากสามนิกายที่กระตุ้นพวกเขา
หลี่ฟู่เฉินกล่าวออกมาเบาๆ “กฎของความแข็งแกร่ง พวกเขากำลังสร้างเรื่องไร้สาระทั้งหมดนี้ขึ้นมา และหาข้ออ้างที่จะกำจัดข้า”
สภาวะพลังฉีจากนักสู้ที่อยู่ในขอบเขตสวรรค์ขั้นสูงสุดนั้นสะกดข่มมากเกินไป แม้ว่า 90% ของสภาวะพลังฉีจะถูกป้องกันโดยจ้าวหวูจิน สมดุลของส่วนที่เหลืออีก 10% ก็ทำให้หลี่ฟู่เฉินกดดันมากแล้ว
หลี่ฟู่เฉินมองไปยังผู้อาวุโสทั้งสามด้วยสายตาที่ดูลุ้มลึก
“จ้าวหวูจิน เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถต้านทานพลังของพวกเราสามคนได้หรือไม่? ไปให้พ้น!” สภาวะพลังฉีกะโหลกศีรษะสีดำฉีของเหว่ยยี่ปิงทุบลงไปยังมหาสมุทรของจ้าวหวูจิน
ในเวลาเดียวกัน สภาวะพลังฉีพยัคฆ์ของเห่อเหลียนหู่และสภาวะพลังฉีม่านกลางคืนของหญิงชราจากนิกานเร้นวิญญาณเข้าระงับสภาวะพลังฉีมหาสมุทรของจ้าวหวูจิน
จ้าวหวูจินสูดลมเสียงดัง ดุจดั่งเช่นน้ำที่ถูกดูดจากปลาวาฬ สภาวะพลังฉีมหาสมุทรพลังฉีเริ่มบวมและเป็นสีดำขณะที่เข้าปะทะกับกะโหลกศีรษะสีดำ พยัคฆ์ และสภาวะพลังฉีม่านกลางคืน
“เทคนิควารีครามแท้จริงของเจ้าอยู่ระดับที่ 19 ?” เห่อเหลียนหู่ดูตกใจมาก
เทคนิคระดับลึกลับขั้นสูงสุดนั้นยากต่อการฝึกฝนมากที่สุด อัจฉริยะส่วนใหญ่จะสามารถเข้าถึงเทคนิคลึกลับขั้นกลางระดับสูงสุดของพวกเขาได้ในขอบเขตปฐพี แต่เมื่อพวกเขาเปลี่ยนไปใช้เทคนิคระดับลึกลับขั้นสูงสุด แม้แต่กระทั่งเมื่อมาอยู่ในขอบเขตสวรรค์ พวกเขาก็จะติดอยู่ที่ระดับ 16 หรือ 17 บุคคลที่หายากเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงระดับที่ 18
ดังนั้นอย่าได้กล่าวถึงระดับที่ 19
“เทคนิควารีครามแท้จริงระดับที่ 19 แล้วอย่างไร? เจ้าคิดว่าความแตกต่างเพียงระดับเดียวสามารถพลิกโต๊ะได้หรือไม่?” เหว่ยยี่ปิงเยาะเย้ย
ถ้ามันเป็นการสู้ 1 ต่อ 1 เขาจะกลัวจ้าวหวูจิน แต่ตอนนี้ มันคือ 3 กับ 1 มันไม่สำคัญว่าจ้าวหวูจินจะมีสามหัวหรือหกแขน
“จ้าวหวูจิน อย่าทำไปเพราะอารมณ์ของเจ้า เด็กคนนี้เป็นเพียงโครงกระดูกปกติ การละทิ้งเขาจะไม่ทำให้นิกายวารีครามสูญเสียใดๆ ” เสียงของหญิงชราจากนิกายเร้นวิญญาณคล้ายกับพิษ มันค่อยๆ พยายามทำลายจิตวิญญาณของจ้าวหวูจิน
จ้าวหวูจินกล่าวอย่างเหี้ยมโหด “หากข้าไม่สามารถปกป้องลูกศิษย์คนหนึ่งได้ เช่นนั้นข้าจะมีใบหน้าอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปได้อย่างไร พลังสภาวะวารี เปิดใช้งาน”
เมื่อเสียงของจ้าวหวูจินเงียบลง สภาวะพลังฉีมหาสมุทรพลังฉีก็ขยายตัวอีกครั้ง ตอนนี้มันพองตัวเป็นสองเท่าของขนาดก่อนหน้า สภาวะพลังฉีพุ่งออกไปในทุกทิศทาง ทะเลสาบร้อยพฤกษาเกิดคลื่นรุนแรง
“มันเป็นเทคนิคลับระดับ 4 ดาว พลังสภาวะวารี” เซี่ยวหลี่ไบ๋อ้าปากค้าง
หากเทคนิคความลับระดับ 3 ดาวถือว่ายอดเยี่ยม งั้นแล้วเทคนิคลับระดับ 4 ดาวก็ถือได้ว่าเป็นเทคนิคลับขั้นท้ายสุดของนิกายวารีคราม มันมีค่าอย่างยิ่ง แต่หากเชี่ยวชาญไปแล้วครั้งนึง มันก็จะเป็นสิ่งที่น่าเกรงขามและไม่สามารถยอมให้ศัตรูเอาชนะได้
“เจ้าคิดว่ามีเจ้าเพียงคนเดียวที่มีเทคนิคลับระดับ 4 ดาว? ย่างก้าวร้อยวิญญาณราตรี เปิดใช้งาน”
“พลังฉีเทพยุทธ์โดดเดี่ยว เปิดใช้งาน”
“เงาเร้นโลกันต์ เปิดใช้งาน”
สภาวะพลังฉีของกะโหลกสีดำของเหว่ยยี่ปิงเติบโตขึ้นพร้อมกับเงาวิญญาณที่ถูกเพิ่มเติม เงาผีเหล่านี้กรีดร้องอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สภาวะพลังฉีของเขาเองก็พุ่งขึ้นฟ้า มันหนาแน่นราวกับเป็นพลังฉีวิญญาณ หากว่ามันไม่ได้ถูกป้องกันไว้โดยจ้าวหวูจิน หลี่ฟูเฉินและคนอื่นๆ จะถูกกำจัดไปแล้ว
ในขณะที่เห่อเหลียนหู่เปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 4 ดาวของเขา ตอนนี้เขาสูงขึ้นกว่า 2 เมตรและพลังฉีอันก้าวร้าวได้ผสมผสามกับการสภาวะพลังฉีอันดุดันที่เขามี ส่งผลทำให้มันแปรสภาพเป็นสัตว์ร้ายยักษ์พลังฉี สัตว์ร้ายยักษ์คำรามขึ้นไปยังท้องฟ้า ราวกับกำลังพยายามกลืนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มันส่งความกลัวและตื่นตระหนกไปยังทุกคน
สำหรับหญิงชราจากนิกายเร้นวิญญาณ ร่างเงาลวงตาปรากฏขึ้น เงากำลังหัวเราะอย่างน่าขนลุก ส่งผลทำให้ม่านกลางคืนขยายออก หญิงชราซ่อนตัวอยู่ในความมืดและไร้ร่างปรากฏให้เห็น
สภาวะพลังฉีทั้งสี่ปะทะกันอีกครั้ง เพียงครู่เดียว ท้องฟ้าทั้งหมดเปลี่ยนสี ลมรุนแรงพัดไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เสียงฟ้าร้องปรากฏถี่อยู่ในท้องฟ้า สายฟ้าฟาดฟาดปะทะทุกระแห่งหน
เมื่อสภาวะพลังฉีทั้งสี่ปะทะกัน มันสร้างการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศ เกิดผลลัพธ์ที่น่ากลัว
ภายใต้แรงกดดันจากสภาวะพลังฉีทั้งสี่ที่เข้าปะทะกัน สิ่งเดียวที่ผู้อาวุโสชั้นในสามารถทำได้ก็คือปกป้องลูกศิษย์ของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ตามที่พวกเขาต้องการ
“ไม่ดีแล้ว สภาวะพลังฉีของผู้อาวุโส ไม่สามารถต้านไว้ได้นานนัก”
ใบหน้าของเซี่ยวหลี่ไบ๋เปลี่ยนไป ในมุมมองของเขา จ้าวหวูจินค่อยๆ ถูกบังคับให้ถอยหลัง สภาวะพลังฉีอันกล้าหาญที่เขาปล่อยออกมาในตอนแรกค่อยๆ ถูกบั่นทอนอย่างช้าๆ
“เหว่ยยี่ปิง พวกเจ้าเอาแต่ใจเกิน ตั้งแต่เรื่องได้เป็นเช่นนี้ ข้าจะแสดงให้เห็นถึงเทคนิคลับที่นิกายวารีครามของข้ามี – นิกายต้นกำเนิดดาบ!” เกิดการสะท้อนกันของดาบหลายหมื่นครั้ง และดาบพลังฉีนับพันก็ปรากฏขึ้นเหนือจ้าวหวูจิน ด้วยการปรากฏของสภาวะพลังแห่งดาบพลังฉี สวรรค์และโลกคล้ายกับกำลังจะแตกสลาย บุคคลทั้งสามที่จ้าวหวูจินตั้งเป้าหมายไว้รู้สึกได้ว่าสภาวะพลังฉีของพวกเขาถูกเจาะหลายครั้ง ขณะที่ร่างกายของพวกเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดคล้ายถูกจิกกัด
(เปลี่ยนชื่อเทคนิคลับเป็นนิกายต้นกำเนิดดาบ)
“เทคนิคลับที่ถูกนิกายกำหนดเอาไว้ – นิกายต้นกำเนิดดาบ” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินเบิกกว้าง
MANGA DISCUSSION