Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 123
เช้าวันถัดมา หลี่ฟู่เฉินมาถึงที่ห้องโถงภารกิจ
เพียงไม่นาน หลี่ฟู่เฉินก็หยิบภารกิจระดับสูงที่เหมาะสมกับตัวเองออกมา
ภารกิจ : ไล่ล่าและกำจัดพี่น้องหวังทั้งสามคน และเอาพระพุทธรูปหยกกลับคืนมา
พี่น้องสามหวังทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่เก้าทั้งหมด
เทคนิคบ่มเพาะ : สีเหลืองขั้นสูงสุด พลังฉีโลหิต
ทักษะต่อสู้ : วิชากระบี่โลหิต วิชาฝ่ามือประทับโลหิต และเทคนิคลับแบบร่างโลหิต
(หมายเหตุ TL : เทคนิคลับจะมีการอธิบายในหลายบทถัดไป)
รางวัลภารกิจ : 20,000 คะแนนสะสม
“ภารกิจนี้น่าสนใจมาก!” หลี่ฟู่เฉินกลายเป็นคบคิด
พี่น้องหวังเป็นนักสู้ในเมืองหลินช๋าง ภายใต้วาสนาที่ได้ประสบพบเจอ ทั้งสามคนมีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะต่อสู้จากนักสู้ขอบเขตปฐพี หลังจากที่ได้บ่มเพาะเทคนิคสีเหลืองขั้นสูงสุด เทคนิคบ่มเพาะพลังฉีโลหิตและอีกสามทักษะต่อสู้ที่น่ากลัว ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด แม้แต่กระทั้งนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดสิบคนก็ไม่สามารถต่อกรกับพี่น้องหวังได้
“ข้าอยากได้ภารกิจนี้”
ดึงเอกสารตอบรับออกมาอย่างเร่งรีบ หลี่ฟู่เฉินก้าวย่างก้าวใหญ่ออกจากห้องโถงภารกิจ
“เขาออกจากโถงภารกิจแล้ว เขาต้องออกไปทำภารกิจเป็นแน่”
นอกห้องโถงภารกิจ ผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดหลายคนกำลังแสดงท่าทางแปลกๆ ออกมา
***
เมืองหลินช๋างเป็นหนึ่งในเมืองชายแดนของแคว้นคังหลุน มันอยู่ห่างไปไม่กี่ร้อยไมล์จากแคว้นเทียนช๋างที่ถูกควบคุมโดยนิกายเทียนช๋าง ซึ่งดูเหมือนจะโดดเด่นกว่านิกายคังหลุนเล็กน้อย
ครั้งนี่ หลี่ฟู่เฉินไม่ได้เลือกที่จะใช้เทคนิคตัวเบา กลับกันเขาขี่ม้าไปแทน
มันเป็นม้าเลือดสัตว์ปีศาจระดับ 2 ที่มีความเร็วอันยอดเยี่ยมและความอดทนที่น่าตื่นตกใจ
ย๊ะ!
ขาทั้งสองข้างแนบชิดท้องม้า ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 ที่หลี่ฟูเฉินขี่อยู่ทันทีก็พุ่งออกไปเหมือนลูกธนูที่หลุดออกจากคัน ความเร็วของมันเร็วกว่าม้าเลือดปีศาจระดับ 1 อย่างน้อยสองเท่า
“ตามเขาไป!”
ไม่นานหลังจากที่หลี่ฟู่เฉินออกไป กลุ่มผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดก็ควบม้าเลือดสัตว์ปีศาจระดับ 2 ตามไปด้วยเช่นกัน
“น่าสนใจ สารเลวน้อยนี้มีศัตรูมากมายนัก”
หลังจากที่ผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดออกไปร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้วยเช่นกัน
หลังจากมองไปที่สภาวะพลังฉีของเขาแล้ว สามารถบ่งบอกได้ทันทีว่าบุคคลผู้นี้อยู่ขอบเขตปฐพี
“ไม่เป็นไร มันคงจะไม่สนุกเท่าไหร่หากให้สารเลวน้อยนี้ตายเร็วเกินไป ข้าจะรอจนกว่าการต่อสู้ของพวกมันจบลง ข้าจะแทรกแซงเพื่อทำลายขาสุนัขๆ ของมัน จากนั้นก็นำมันกลับไปที่ตระกูลเหลา” ร่างเงายิ้มก่อนที่จะพุ่งไปกลายเป็นเส้นๆ นึงและหายไป ร่างกายของเขาลอยไปราวกับควันสีเขียว
***
“ชายหนุ่มผู้นี้แน่นอนว่าสร้างปัญหาไว้มากมาย บางครั้งการที่ข้าออกจากนิกาย และใช้เวลาไปกับการเที่ยวชม นี้อาจจะไม่เลวร้ายเช่นกัน”
สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า มันเป็นชายวัยกลางคนซึ่งยืนอยู่กลางอากาศและมองเห็นทุกๆ สิ่ง
หากหลี่ฟู่เฉินอยู่ที่นี่ เขาจะจำชายวัยกลางคนผู้นี้ได้ทันที เขาเป็นผู้ประเมินหลักในการทดสอบเข้าเป็นศิษย์ชั้นใน อาวุโสชิ่ว
ชื่อของผู้อาวุโสชิ่วคือชิ่วฮัว เขาเป็นผู้อาวุโสชั้นในที่มีสถานะน่านับถือ ปกติแล้วเขาจะใช้เวลาไปกับการฝึกฝนอย่างสันโดษ และจะทำภารกิจนิกายบางเป็นครั้งคราวเท่านั้น เหตุผลที่เขาออกจากการปลีกตัวไปอย่างสันโดษในครั้งนี้ มันเป็นเพราะการขอร้องจากอาวุโสใหญ่ชั้นในจ้าวหวูจิ๋น เขาขอร้องให้ชิ่วฮัวปกป้องหลี่ฟู่เฉินขณะที่ออกไปปฏิบัติภารกิจนิกาย
หากเป็นศิษย์คนอื่นๆ อาวุโสชิ่วคงจะปฎิเสธในทันที หลังจากทั้งหมดแล้ว เหตุใดเขาถึงควรต้องใส่ใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของศิษย์ชั้นในผู้หนึ่ง?
แต่หลี่ฟู่เฉินต่างออกไป เขาคาดหวังกับหลี่ฟู่เฉินไว้สูงมาก หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เขาคงจะไม่เสนอให้หลี่ฟูเฉินได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นอัจฉริยะนิกายชั้นใน
เมื่อตอนที่ร่างกายของอาวุโสชิ่วทะยานขึ้นฟ้าไป ชิ่วฮัวก็คล้ายกับนกขนาดใหญ่ ร่อนอยู่บนท้องฟ้า
***
“นักสู้ระดับเก้าขอบเขตต้นกำเนิด 11 คน จำนวนเท่านี้ข้าน่าจัดการกับมันได้”
หลี่ฟู่เฉินรับรู้ได้นานแล้วว่าเขาถูกติดตาม
แต่เขาไม่ได้สังเกตการมีอยู่ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตปฐพี
หลี่ฟูเฉินปัจจุบันอยู่ข้างป่าเล็กๆ ผ่านป่าเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีทางคดเคี้ยวมากมายราวกับมังกรศักดิ์สิทธิ์สีขาวที่มุ่งหน้าไปยังจุดสิ้นสุดของสวรรค์และโลก
ถนนข้างป่า หลี่ฟู่เฉินค่อยๆ ชะลอตัวลง
“เขาสังเกตเห็นเรา?”
จากระยะไกล กลุ่มผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดก็ชะลอตัวลงเช่นกัน
“เขาสังเกตเห็นเราแล้วไง? เขาคิดว่าเขาสามารถต้านทานพวกเราทั้งสิบเอ็ดคนได้หรือไร?”
“เขาอาจเอาชนะเหลาเทียนจุนได้ และแข็งแกร่งกว่าพวกเราที่นี่ทุกคน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราทั้งสิบเอ็ดคนรวดกัน แม้แต่กระทั้งเหลาเทียนจุนสามคนรวกันก็ไม่สามารถเอาชนะเราได้”
“หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ไปกัน! ฆ่าเขาและจบทุกอย่าง!”
ย๊า!
พวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนเตะหน้าท้องม้าและควบมันเข้าไปหาหลี่ฟู่เฉิน
“เจ้าเป็นใคร?” หลี่ฟู่เฉินสำรวจพวกเขา
ในตอนแรกเขาสงสัยว่าศัตรูจะมาจากตระกูลเหลา แต่ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลเหลา พวกเขาคงจะไม่ส่งเพียงแค่นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่เก้ามา แต่กลับกันมันน่าจะเป็นนักสู้ขอบเขตปฐพี
เห็นได้ชัดว่าเขารู้ได้ตั้งแต่ตอนที่ออกจากนิกายมา เขารู้ว่าตนเองเป็ยเป้าหมาย แต่ก็ไม่มีหนทางอื่น ก็ในเมื่อเขาเองก็ต้องทำภารกิจนิกายให้เสร็จสิ้น สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือซื้อสิ่งของช่วยชีวิตตัวเอง และด้วยของเหล่านี้ แม้แต่กระทั่งนักต่อขอบเขตปฐพีก็พบว่ามันยากที่จะฆ่าเขาได้
“เราเป็นใครไม่สำคัญ เจ้าเพียงแค่ต้องรู้ว่าในวันนี้ปีหน้า มันจะเป็นวันครบรอบการตายของเจ้า ฆ่ามัน!” ผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดทั้งสิบเอ็ดคนควบตบม้าของตนเข้ามาและมุ่งที่หลี่ฟู่เฉิน
“หากข้าเดาไม่ผิด พวกเจ้าน่าจะมาจากเฉินตู่ หยาง และตระกูลกั่วถูกไหม?”
หลี่ฟู่เฉินหรี่ตาและปลดปล่อยแววตาที่น่าขนลุก
“ฆ่ามัน!”
ได้ยินสิ่งที่หลี่ฟู่เฉินกล่าว ทั้งสิบเอ็ดคนกลายเป็นกังวล พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลี่ฟู่เฉินจะสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้
ทั้งสิบเอ็ดคนเป็นเหมือนนกตัวโต แต่ละคนโจมตีหลี่ฟู่เฉินทั้งหมดสิบเอ็ดทิศ ในชั้วขณะนึง แสงดาบที่เปล่งออกมาก็พร้อมข่มขวัญผู้คนให้ตาย
หากมันเป็นเหลาเทียนจุน เขาจะกลายเป็นรังผึ้งในทันที
จ้องมองไปยังสิบเอ็ดคนนี้ราวกับได้ตายไปแล้ว หลี่ฟู่เฉินชักดาบของเขาออกมา
เมื่อดาบออกจากฝัก แสงดาบสามสายก็ปรากฏขึ้นพร้อมกัน
ปิส ปิส ปิส!
ผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดทั้งสามคนหยุดลงกลางคัน ขณะที่มีบาดแผลถูกแทงตรงหน้าอก
ร่างกายล่วงลงไปกับพื้น ขณะที่ไถลไปตามมัน หลี่ฟู่เฉินปล่อยแสงดาบออกไปกลางอากาศอีกสามครั้ง
ปิส ปิส ปิส!
หนึ่งถูกเจาะจากร่างกายส่วนล่างขึ้นมา อีกหนึ่งถูกเจาะเอวทะลุอวัยวะภายใน และอีกหนึ่งถูกเจาะกระดูกสันหลัง
หลังจากทั้งหมดแล้วการโจมตีทั้งหมดเหล่านี้ก็เกิดขึ้นก่อนที่ร่างกายจะตกถึงพื้น มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ หลี่ฟู่เฉินสังหารไปแล้วหกคนจากสิบเอ็ดคน
“บ้าเอ้ย… ดาบของเขาเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า และมีพลังมากกว่าเดิมสามเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาสู้กับเหลาเทียนจุน”
ทั้งห้าคนถูกทิ้งไว้ท่ามกลางความลังเลเนื่องจากความกลัว
พวกเขาไม่เคยเห็นดาบที่รวดเร็วเช่นนี้มาก่อน ความเร็วเกินขีดจำกัดที่สายตาจะมองเห็นได้หรือจะสตอบได้
“หนี!”
ทั้งห้าสูญเสียเจตนาต่อสู้และกระจัดกระจายกันหนีออกมาไป
“พวกเจ้าคิดว่าสามารถหนีออกไปได้?”
กระทืบพื้นดิน หลี่ฟู่เฉินใช้ออกด้วยเทคนิคตัวเบาและทักษะลูกเตะจนถึงขีดสุด เขาราวกับปีศาจ ในขณะที่เขาเดินผ่านไปมาระหว่างพวกเขาทั้งห้าคน สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคือพวกเขาทั้งห้าล้มลงกับพื้นด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง บางคนหันหน้าไปทางท้องฟ้า บางคนหันหน้าลงพื้นดิน คนอื่นๆ เองก็กระจัดกระจายออกไปและหันไปในทิศทางที่ต่างกัน
นำดาบเหล็กดำกลับลงฝัก หลี่ฟู่เฉินค่อยๆ หายใจออกมา
“ด้วยผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดทั้งสิบเอ็ดคนนี้ แน่นอนแล้วว่ามันจะต้องเป็นตระกูลเฉินตู่ หยางและกั่วที่ส่งมาจัดการข้า!”
สามตระกูลใหญ่ของเมืองหยุนหวูนั้นไม่ใช่ตระกูลเหลา พวกนั้นมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตปฐพีเพียงหยิบมือเดียว และนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับเก้าเป็นกองกำลังหลักของพวกเขา และด้วยนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่เก้าที่ตายไปเหล่านี้ หลี่ฟู่เฉินเชื่อว่าทั้งสามตระกูลอาจจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้าง
หลี่ฟู่เฉินตั้งใจที่จะค้นซากศพ ทันใดนั้นเองตัวเขาก็แข็งทื่อ ขณะที่เหงื่อเย็นหยดลงมาจากหน้าผากของเขา
“น่าสนใจ เจ้าซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้าไว้เมื่อตอนที่อยู่บนเวทีเฟิงหยุน ตั้งแต่ที่มันเป็นเช่นนั้น ข้าคงไม่สามารถปล่อยให้เจ้าอยู่ต่อไปได้”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างที่ดูแก่ประสบการณ์อยู่ห่างออกไปหลายเมตร
ร่างที่ดูแก่ประวบการณ์นั้นสวมเสื้อคลุมสีเทาและสวมหน้ากาก มีสายตาอันแหลมคม
“นักสู้ขอบเขตปฐพี?”
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้หันกลับไป แต่ก็รู้สึกได้จากสภาวะพลังฉีของเขา เขารู้ว่าภัยคุกคามที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้นั้นต้องมาจากนักสู้ขอบเขตปฐพีแน่นอน สำหรับเรื่องที่ว่าบุคคลทิ่อยู่ขอบเขตปฐพีผู้นี้เป็นใคร หลี่ฟู่เฉินเองก็ไม่สามารถระบุได้
“อย่าได้กังวล ข้าจะไม่ข้าเจ้าทันที นั่นจะง่ายเกินไปสำหรับเจ้า”
ร่างนั้นเดินเข้ามาอย่างช้าๆ การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ปั๊ง!
ขณะนั้นเอง หลี่ฟู่เฉินก็โยนของบางออกจากด้านหลังของเขา มันเป็นระเบิดสีขาวหลายลูก ควันสีขาวจำนวนมากมาพร้อมกับการระเบิด และแพร่กระจายออกไปหลายสิบเมตรในชั่วพริบตา