Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 85 อาวุธแห่งความตาย
ตอนที่ 85 อาวุธแห่งความตาย
ในขณะที่เซี่ยวหยุนร้องตะโกนออกมาว่า ‘จิตวิณญาณแห่งการทำลายล้าง’ พลังอันแข็งแกร่งก็ได้ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา และพุ่งเข้าใส่ร่างการของผู้อาวุโสตระกูลฉี
เซี่ยวหยุนไม่ได้ใช้หอกวิณญาณแห่งการทำลายล้าง เพราะมันจะเผาผลาญพลังวิญญาณของเขาออกมามากเกินไป เขาใช้แค่พลังวิญญาณเพียงอย่างเดียวเพื่อทำให้เหล่าพวกตะกูลฉีหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เพื่อที่เขาต้องการเวลาในการช่วยผู้นำตะกลูไทหลบหนีออกมา
เมื่อพลังที่แข็งแกร่งได้พุ่งเข้าใส่ร่างของผู้อาวุโสตระกูลฉีแล้วนั้น ก็ทำให้อากาศโดยรอบนั้นกลายเป็นน้ำแข็ง จึงทำให้ผู้คนรอบๆ นั้นรู้สึกเหมือนพระเจ้าได้เป็นผู้กระทำสิ่งนี้ แต่กลับผู้อาวุโสตระกูลฉีนั้น เขารู้สึกเหมือนวิญญาณของเขานั้นได้สั่นสะเทือนอย่างลึกลับ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!!” ร่างกายของผู้อาวุโสตระกูลฉีได้หยุดนิ่งไปเล็กน้อย และหอกของเขาก็ได้ตกอยู่ที่ข้างหน้าของเขา
“ตอนนี้หละ!!!” ไทเจิ้นหลานผู้ที่ตอนแรกเกือบจะถูกฆ่าตายนั้น ได้อาศัยช่วงที่เหล่าผู้อาวุโสตระกูลฉีหยุดนิ่ง รีบประคองร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว หมุนตัวหลบหอกที่พุ่งเข้าใส่เขา และเขาก็วิ่งพุ่งตรงไปยังผู้อาวุโสตระกูลฉีและนำดาบในมือฟันที่ผู้อาวุโสตระกูลฉีที่ยังแข็งอยู่ทันที
ถึงแม้ว่าไทเจิ้นหลานจะได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรบมาแล้วกว่า 100 ครั้ง ดังนั้นเมื่อเขาได้โอกาสเขาก็สามารถที่จะโต้กลับได้อย่างรวดเร็ว
ดาบในมือของไทเจิ้นหลานเปล่งประกายไปด้วยแสงที่สะท้องจากน้ำแข็ง และล้อมรอบไปด้วยพลังวิณญาณในขณะที่ฟันร่างของผู้อาวุโสตระกูลฉี เพียงแค่นั้นก็ทำให้ร่างของผู้อาวุโสตระกูลฉีกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร
ตอนนี้พลังวิณญาณของเขาได้สลายไปพร้อมกับหอกแล้วเป็นที่เรียบร้อย
“อึก!!!” ดวงตาของผู้อาวุโสตระกูลฉีกระพริบอย่างรวดเร็วเมื่อเขารู้สึกได้ถึงอันตราย แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปเสียแล้ว
แคร่ก!!!
ไทเจิ้นหลานได้ง้างดาบในมือฟันลงที่คอของผู้อาวุโสตระกูลฉี และเขาก็ได้ทำการแยกเอาหัวของผู้อาวุโสตระกูลฉีออกจากร่างทันที
“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?!” ไม่ไกลนัก คนจากตระกูลฉีก็จ้องมองด้วยความตกตะใจ ทุกคนในตระกูลต่างรู้สึกสับสนและมึนงงไปหมด ในตอนแรกผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขากำลังจะชนะไทเจิ้นหลานแล้วแท้ๆ แต่มันกลับกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
“ท่านผู้นำ!!!”
“ท่านพ่อ!!” คนในตระกูลฉีทุกคนต่างร้องไห้และเสียใจกบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขารู้สึกราวกับว่าดวงตาของพวกเขากำลังจะถลนออกมา เมื่อจ้องมองไปยังภาพตรงหน้า
ไม่อยากจะเชื่อเลย เหล่าแม่ทัพของตระกูลฉีเองก็ไม่สามารถประมวลผลกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ พวกเขาทำได้เพียงแค่ยืนมองอย่างโง่เขลาเท่านั้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ในระยะไกล ผู้คนในตละกูลฉีทุกคนต่างพากันประหลาดใจ เพราะผู้นำของเขาในตอนแรกดูเหมือนจะมีโอกาสที่จะชนะอยู่มาก แต่ทำไมจึงถูกไทเจิ้นหลานตัดหัวไปได้?
“เป็นเพราะเด็กหนุ่มคนนั้นใช่ไหม?” หลังจากเงีบหายไปสักพัก ทุกคนก็ทันไปมองยังเด็กที่เพิ่งมาใหม่ทันที
หลังจากเด็กหนุ่มคนนั้นปรากฎตัวขึ้นและตะโกนออกมา สถานการณ์หลังจากนั้นก็กลับตาลปัตรทันที เป็นไปได้ไหมว่า เสียงของเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้ผู้อาวุโสตระกูลฉีเสียสมาธิไป ซึ่งไม่น่าจะเป็นไม่ได้สิ!!!
ในขณะที่ทุกคนกำลังมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้น ไทเจิ้นหลานก็มองไปที่ร่างของผู้อาวุโสตระกูลฉีอย่างเสียดายเล็กน้อย
“แคร่ก!!!!” ไทเจิ้นหลานได้ไออกมาเป็นเลือดสีดำ เขาได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีในการต่อสู้ไปหมดแล้ว จึงทำให้พลังวิณญาณของเขากลายเป็นพิษตีกลับเขาสู่ร่างกายของเขาในทันที
“ท่านพ่อ!!” ไทหรงเอ๋อรีบวิ่งเข้าไปดูพ่อของเธอทันที และรีบพยุงร่างของไทเจิ้นหลานขึ้นมา สีหน้าของไทหรงเอ๋อเป็นห่วงพ่อของเธอมาก
“พ่อไหว” ไทเจิ้นหลานโบกมือเพื่อให้รู้ว่ายังไหว เขาหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับพิษในร่างกายของเขา
“เจ้าเด็กนั้นมันเป็นใคร?” ไม่ไกลนักผู้ถือยาพิษเฟิงได้จ้องมองไปยังไทเจิ้นหลาน เหตุการณ์ในตอนนั้นไม่น่าเชื่อเกินไปและน่าจะเกี่ยวข้องกับเด็กคนนั้นซึ่งทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้น
“ท่านอาจารย์เฟิง! พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?” คนในตระกูลฉี ถอยไปด้านข้างหนึ่งก้าว ขณะที่พูดกับอาจารย์เฟิง
ตอนนี้ผู้อาวุโสฉีก็ได้ตายไปแล้ว พวกเขาจึงเริ่มหาผู้นำคนใหม่อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
“พวกเจ้าจะกลัวไปทำไมกัน อยู่กับฉันพวกมันไม่มีทางทำอะไรเราได้!!” ดวงตาของผู้ถือพิษเฟิงมองไปรอบๆตัว และพึมพำออกมาว่า “ถึงเวลาที่ข้าจะต้องใช้มันแล้วสินะ ตรายใดที่ข้ายังครอบครองเหรียญลอยฟ้าอยู่ มันก็คุ้มค่า!!!” ท่าทางของผู้ถือพิษเฟิงน่ากลัวมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาหยิบวัตถุที่เป็นโลหะรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนออกมา วัตถุนั้นมีจารึกที่แกะสลักอยู่และตามที่ปรากฏมันทำให้เกิดระลอกคลื่นลึกลับ
“นั้นมันคืออะไรกัน” ห่างออกไป เซี่ยวหยุนสัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นได้ทันที ระลอกคลื่นพวกนี้ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับพลังวิญญาณ และเซียวหยุนส่งความรู้สึกของเขาออกไปยังวัตถุโลหะได้ทันที
“นี่มันแย่ สิ่งนั้นมีจารึกอยู่ในตำราและน่าจะเป็นเวทมนตร์ระดับต่ำ มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน” ขณะที่เซียวหยุนสงสัยว่ามันคืออะไรนกกระจอกที่กินสวรรค์ก็พูดขึ้น
“เวทมนต์ระดับต่ำงั้นรึ?” เมื่อฟังจบ เซี่ยวหยุนรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมาก สิ่งนี้เป็นเวทมนต์ที่ร้างแรงงั้นหรือ?
“อืมมม” นกกระจอกผู้กินสวรรค์ตอบว่า “เจ้าสิ่งนี้มันต้องใช้พลังงานวิญญาณเพื่อกระตุ้น”
ในขณะนั้น ระหว่างที่ไทเจิ้นหลานกำลังนำคนในตระกูลไทอยู่นั้น เหล่าคนในตระกูลต่างก็ตั้งข้อสงสัยให้กับผู้ถือพิษเฟิงว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดระลอกคลื่นลึกลับขึ้นมา
พรึ๊บบบ!!!
แสงดาบแหลมคมได้ฉีกผ่านอากาศไปยังผู้ถือเฟิง ในเวลาเดียวกันผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณอีกสามคนได้โจมตีพร้อมกันเพื่อทำลายกองกำลังของตระกูลฉีให้สิ้นซาก
“หึ! เวลานี้หล่ะ ช่างเหมาะสมซะจริง!!” ผู้ถือพิษเฟิงยิ้มอย่างโหดเหี้ยมในขณะที่เขาส่งความคิดของเขาไปยังวัตถุในมือของเขา และได้พึมพำคาถาใส่เหรียญเวทมนต์
ขณะที่จิตใจของเขาเข้าไปในวัตถุนั้นคำจารึกบนสิ่งของรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนก็สว่างวาบและระลอกคลื่นลึกลับก็ทวีความรุนแรงขึ้น จากนั้นดวงตาของผู้ถือพิษเฟิงก็แข็งกร้าวขึ้น และเขาโยนเหรียญเวทย์มนตร์รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนออกไป
จากนั้นเหรียญวิเศษรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนถูกโยนออกไปมันก็เปล่งประกายด้วยแสงสีม่วงขณะที่คาถาที่ผู้ถือพิษเฟิงได้ร่ายใส่เหรียญนั้นดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา และเหรียญก็ได้ระเบิดออกมาด้วยพลังงานอันทรงพลังและทันใดนั้นเหรียญเวทย์มนตร์ก็ส่งเศษโลหะที่บินออกมาเหมือนมีดคมพุ่งเข้าใส่ทันที!!!
หากมองอย่างใกล้ชิดพวกเขาจะพบว่ามีจารึกที่แกะสลักอยู่บนเศษโลหะแต่ละชิ้นมีพลังงานมหาศาลอย่างมาก เศษโลหะที่มองทะลุผ่านไทเจิ้นหลาน และการโจมตีของคนอื่น ๆ ยิงไปที่ร่างกายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“พลังร้ายกาจมาก!!!!” ร่างกายของเซี่ยวหยุนปรับตัวโดยใช้พลังวิญญาณอันทรงพลังของเขาเพื่อดูจารึกบนเหรียญวิเศษนั้นรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของมัน มีใครบางคนได้แกะสลักจารึกเวทย์มนตร์นั้นเก็บพลังงานจำนวนมากไว้ในนั้น หุ่นของเซียวหยุนปรับตัวโดยใช้พลังวิญญาณอันทรงพลังของเขาเพื่อดูจารึกบนสิ่งของวิเศษนั้นรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของมัน ใครบางคนได้แกะสลักจารึกเวทย์มนตร์นั้น เมื่อเปิดใช้งานแล้วมันจะระเบิดออกมาด้วยพลังที่น่ากลัวเปลี่ยนเศษโลหะเหล่านั้นให้เป็นอาวุธร้ายแรง อาวุธประเภทนี้เป็นอาวุธที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางอาวุธเวทมนตร์ทำให้ยากต่อการป้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ
“อึก!! มันมาทางนี้แล้ว!!” เมื่อเห็นเศษโลหะพุ่งเข้าหาพวกเขา ผู้นำคนที่สองของครอบครัวและคนอื่น ๆ จ้องมองด้วยความตกใจและหวาดกลัวและต่างวิ่งหนีกันอย่างเร่งรีบ เศษโลหะกำลังพุ่งมาอย่างรวดเร็วเกินไป พวกมันระเบิดออกมาเหมือนสายฟ้าฟาดและดูเหมือนจะยากที่จะผ่านพ้นไปได้
ผู้นำคนที่สองของตระกูลไท โบกดาบในมืของเขา พยายามที่จะหยุดเศษโลหะให้ได้ แต่แล้วแขนข้างซ้ายของเขาถูกเจาะและเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงในทันที เขามองไปและเห็นว่าเนื้อตรงนั้นเริ่มไหม้ เห็นได้ชัดว่าโลหะเหล่านั้นล้วนมีพิษ
“อ๊ากกกก!!!!!!!”
ข้างหลังเขามีหัวใจของเซียนเพียงไม่กี่คนถูกแทงทะลุและพวกเขาก็ล้มลงทันที
ดวงตาของเหล่าผู้ฝึกฝนตระกูลไท เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและพวกเขาก็รีบถอยกลับ อาวุธที่ซ่อนอยู่นั้นทรงพลังเกินไป
เซี่ยวหยุนผ่อนลมหายใจ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไปและแม้ว่านกกระจอกที่กินสวรรค์จะเตือนเขา แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้
“ท่านลุง!!!” ไทหรงเอ๋อร้องออกมา หลังจากที่พ่อของเธอได้รอดออกมาแล้วก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ผู้นำตละกูลคนที่สองของตระกูลไทและคนอื่น ๆ ไม่ยอมเข้าใกล้ เพราะกำลังหวาดกลัวกับเหรียญเวทย์มนตร์พิษของผู้ถือพิษเฟิง
ข้างหน้านั้น ซึ่งเวทมนตร์ได้ระเบิดของเหลวที่เป็นพิษบางส่วนตกลงที่พื้นและกัดกร่อนก้อนหินในบริเวณนั้นจนหมด พิษที่ทรงพลังเช่นนี้น่ากลัวเกินไป ถ้าเกิดโดนพิษพวกนี้เข้าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก!
“พลังมาหาศาลเช่นนี้มันคืออะไรกัน?!!”
“ผู้ถือพิษผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป!” ผู้คนที่เฝ้าดูจากระยะไกลก็หมดหวังที่จะโจมตี ก่อนหน้านี้พวกเขากำลังพิจารณาว่าจะโจมตีหรือไม่ แต่แม้กระทั่งเหล่าเซียนทั้งหลายก็ยังเกรงกลัว พิษนั้นไม่ธรรมดาเลย
คนของตระกูลฉีต่างก็สั่นคลอนเช่นกัน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นผู้ถือพิษเฟิงโจมตี อย่างไรก็ตามหลังจากรู้สึกตกใจพวกเขาทุกคนก็ดีใจและเริ่มตะโกนออกมาโดยลืมนึกถึงความสิ้นหวังที่พวกเขารู้สึกเมื่อเห็นผู้นำคนเก่าของตระกูลฉีตายไปแล้ว
“ฮ่าๆๆๆๆ ท่างอาจารย์เฟิงไร้เทียมทาน!!!”
สำหรับผู้ถือพิษเฟิงจิตวิญญาณการต่อสู้ของครอบครัวจะเป็นเช่นไรไม่รู้ ผู้ถือพิษเฟิงปล่อยลมหายใจออกมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมากในหัวใจของเขา -ของชิ้นนั้นมีค่ามากทีเดียวและเขาได้รับมันมาจากโบราณที่วังมรดกของผู้ปลูกฝังโบราณ ทุกครั้งที่เขาใช้มันพลังมันน้อยกว่าที่เขามียิ่งนัก!
“มอบสิ่งนั้นมาซะ!! ไม่งั้นคุณจะตายกันหมด” เมื่อนึกถึงเหรียญบนท้องฟ้าดวงตาของผู้ถือพิษเฟิงก็สว่างขึ้นขณะที่เขามองไปที่ผู้นำตระกูลคนที่สองของตระกูลไท และอีกคนหนึ่งอย่างเย็นชา “ คุณถูกวางยาหมดแล้ว ถ้าคุณต้องการมีชีวิตอยู่คุณก็ควรจะทำตามที่เราบอกซะ!”
ผู้นำตระกูลคนที่สองของตระกูลไท และคนอื่น ๆ ก็ขมวดคิ้วอย่างหนักและถอยกลับไปที่ที่เซียวหยุนอยู่
“ไทหรงเอ๋อให้ยาแก้พิษเหล่านี้กับพ่อของเจ้าและคนอื่น ๆซะ” เซียวหยุนกล่าวขณะที่เขามองไปที่ผู้นำตระกูลงคนที่สองของตระกูลไท และอาการบาดเจ็บของคนอื่น ๆรอบๆ
“อะ..อื้มม!!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นไทหรงเอ๋อก็วิ่งมาหยิบยาแก้พิษออกมาสองสามเม็ดและส่งให้พ่อของเธอและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ทันที
“นั้นคือยาแก้พิษรึ?!” ไทเจิ้นหลานถามออกไปด้วยความประหลาดใจ
“อื้ม!” ไทหรงเอ๋อพยักหน้าตอบ และรีบนำยาแก้พิษใส่ให้เหล่าผู้อาวุโสทันที
ผู้นำตระกูลคนที่สองของตระกูลไท และคนอื่น ๆ ดูมีความสุขมากและรีบกินยาเม็ดซึ่งเริ่มล้างพิษออกจากร่างกายของพวกเขาออกมาทันที!
“ยาแก้พิษ” ไม่ไกลเกินไปสายตาของอาจารย์เฟิงผู้ถือพิษนั้นก็มืดลง ขณะที่เขาคิดว่า เจ้าพวกนั้นได้รับยาแก้พิษพวกนั้นมาได้อย่างไรกัน!!!!!!!
“พวกเขาสามารถซื้อได้จากพันธมิตรพ่อค้าทะเลเมฆ เจ้าไม่รู้งั้นรึ?!” ผู้อาวุโสของตระกูลฉีบอกกับอาจารย์เฟิง
เมื่อเห็นผู้อาวุโสของตระกูลไทกินยาแก้พิษเรียบร้อย เซียวหยุนเลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ และมองไปที่ผู้ถือพิษเฟิงและถามว่า “แล้วเจ้าต้องการที่จะรอดตอนนี้ หรือยังอยากจะต่อสู้ต่อ” คำพูดของเด็กหนุ่มนั้นดูน่ากลัวและมีความเย็นชามากภายในดวงตาของเขา
“เจ้าต้องการให้พวกข้ารอดไปงั้นรึ?!! เจ้าโง่ไปหรือเปล่า!!!คนในตระกูลไทของเจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและเจ้าต้องการให้พวกข้าจากไปรึ?!! งั้นถ้าเจ้ามียาแก้พิษวันนี้ผู้อาวุโสของเจ้าจะยังคงฆ่าพวกข้างั้นสิ ฮ่าๆๆๆๆ” เซียนท่านหนึ่งที่เหลืออยู่ของครอบครัวฉีกร้าวคำออกมาอย่างโมโห และหัวเราะอย่างเย็นชา