Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 66 – ยอมรับโดยบริสุทธิ์ใจ
**เปลี่ยนนักกลั่นสกัดเม็ดยา = นักปรุงยา
Chapter 66 – ยอมรับโดยบริสุทธิ์ใจ
ถึงแม้ว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ประเภทไฟและเปลวไฟแปรผันจะเป็นจิตวิญญาณไฟทั้งคู่ แต่ความแตกต่างระหว่างพวกมันก็เป็นเหมือนกับความแตกต่างระหว่างสวรรค์และปฐพี ผู้ฝึกตนที่ควบคุมเปลวไฟแปรผันได้จะถูกจำกัดไว้อย่างมากด้วยวิธีอันดีที่พวกเขาสามารถควบคุมมันได้ พวกเขาจะไม่สามารถไปถึงระดับหลอมจิตเป็นหนึ่งกับเปลวไฟได้ มีเพียงแค่การหลอมรวมกับเปลวไฟแปรผันอย่างสมบูรณ์เท่านั้นจึงจะทำให้มันเป็นจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาซึ่งจะสามารถหลอมรวมจิตใจกับเปลวไฟได้
เช่นเดียวกับที่ปรมาจารย์หยวยตกใจเกี่ยวกับการควบคุมเปลวไฟของเซี่ยวหยุน เด็กหนุ่มก็ได้กลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรชุดแรกสำเร็จไปแล้ว เซี่ยวควบคุมไฟเพื่อนำแป้งเปียกสมุนไพรไปไว้ที่ด้านอื่นของหม้อปรุงยาและโยนส่วนผสมสมุนไพรชุดอื่นลงไป
หวือ!
เปลวไฟภายในหม้อปรุงยาประกายแสงและเริ่มปกคลุมและกลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรที่เพิ่งถูกโยนเข้าไป ส่วนแป้งเปียกสมุนไพรชุดแรกที่วางไว้อยู่อีกด้านของหม้อก็ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลวไฟขนาดเล็กมากๆ และถูกขัดเกลาด้วยไฟอ่อนอย่างช้าๆ
“เขาสามารถทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้!” ปรมาจารย์หยวนดูตกตะลึงมากยิ่งขึ้น
ในฐานะของนักปรุงยา เขารู้ดีว่ามันยากขนาดไหนที่จะควบคุมสองเปลวไฟที่อุณหภูมิแตกต่างกันในการกลั่นสกัดสองชุดที่แตกต่างกัน
ถึงแม้ว่าจะใครทำสิ่งนี้สำเร็จ มันก็ไม่ควรเป็นไปได้ภายในเวลาแค่เดือนหรือสองเดือน
แม้เป็นผู้ที่ปรุงยามาหลายปีแล้วก็ยังต้องระมัดระวังอย่างเหลือเชื่อ ถ้าการควบคุมของพวกเขาพลาดเพียงเล็กน้อย แป้งเปียกสมุนไพรก็จะถูกทำลาย เม็ดยาก็จะต้องได้รับการเริ่มกลั่นสกัดใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสของความล้มเหลวด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มดูเหมือนจะผ่อนคลายอย่างเหลือเชื่อ และเขาก็ไม่ได้มีลังเลหรือตื่นกลัวบนใบหน้าของเขาเลย
“เขาเพิ่งเรียนรู้การปรุงยามาแค่หนึ่งเดือนจริงรึ?” ปรมาจารย์หยวนกำลังสงสัยขณะที่เขาจ้องด้วยดวงตาที่เบิกกว้างไปยังเด็กหนุ่ม
ที่ด้านข้าง ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ พากันมองไปด้วยความกลัว พวกเขาแต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ที่อยู่ในปัจจุบันจะไม่รู้ถึงวิธีการปรุงยา แต่พวกเขาก็ยังเข้าใจว่ามันยากขนาดไหนที่จะแบ่งความคิดออกเป็นสองเมื่อปรุงยา
มันต้องเป็นที่รู้กันดีว่าขนาดของเปลวไฟ อุณหภูมิของเปลวไฟ รวมไปถึงเวลาที่สิ่งต่างๆ ถูกกลั่นสกัดทั้งหมดต้องการความแม่นยำ ถ้ามีความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ระดับของเม็ดยาก็จะลดลงไปหรือส่วนผสมสมุนไพรก็จะถูกทำลายไปในทันที
เมื่อคนที่อยู่ด้านข้างมองการกระทำของเด็กหนุ่ม พวกเขาก็เริ่มเหงื่อออก มันเห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้สึกกระวนกระวายขนาดไหน
หวือ!
เปลวไฟส่องแสงวาบขึ้นมาและส่งแป้งเปียกส่วนผสมสมุนไพรชุดที่สองไปที่ด้านข้างเพื่อกลั่นสกัดอย่างรอบคอบ จากนั้นเซี่ยวหยุนก็หยิบส่วนผสมสมุนไพรชุดที่สามและโยนพวกมันเข้าไปในหม้อปรุงยา แสงสีม่วงสว่างวาบขณะที่กระแสแห่งเปลวไฟแยกมันออกมาจากส่วนที่เหลือ และเริ่มกลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรชุดที่สามชุดนี้
ในขณะนี้ เซี่ยวหยุนได้แบ่งจิตใจออกเป็นสามส่วน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การควบคุมเปลวไฟของเขานั้นก็ยังแม่นยำมาก และเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนจะสร้างความผิดพลาดขึ้นมาเลย การควบคุมประเภทนี้ไม่ใช่บางสิ่งที่คนที่เพิ่งจะได้เรียนรู้การปรุงยามาแค่เดือนเดียวจะบรรลุได้
“การชำนาญทักษะเช่นนี้และการควบคุมอันเหลือเชื่อเช่นนี้… เขาควรจะปรุงยามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว!” ปรมาจารย์หยวนร้องออกมาอยู่ในใจ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงการควบคุมระดับนี้และความเชี่ยวชาญจากเด็กหนุ่มผู้ที่เรียนรู้การปรุงยามาแค่เดือนเดียวเท่านั้น นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการทำงานของผู้เชี่ยวชาญ!
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ปรมาจารย์หยวนก็ไม่กล้าทำเสียงรบกวน เพราะผู้ที่ปรุงยามิอาจถูกรบกวนได้ขณะที่ปรุงยา
เซี่ยวหยุนยังคงโยนส่วนผสมสมุนไพรลงไปต่อ จนในตอนท้าย มีส่วนผสมสมุนไพรเม็ดยาต้นกำเนิดอยู่ 7 ชุดภายในหม้อพร้อมกัน
เซี่ยวหยุนได้แยกเปลวไฟของเขาออกเป็นเจ็ดส่วน – การควบคุมประเภทนี้ทำให้เหล่าผู้คนที่อยู่ในปัจจุบันต้องตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง
“เจ้าเด็กคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่อีกรึ?” ปรมาจารย์หยวนแปลกใจและตกใจอย่างมาก – แม้แต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งเช่นนี้ได้! โดยปกติปรมาจารย์หยวนจะนำแป้งเปียกสมุนไพรหลังจากที่กลั่นสกัดแล้วไปไว้ที่ด้านข้าง เมื่อส่วนผสมสมุนไพรทั้งหมดถูกกลั่นสกัดเป็นแป้งเปียกสมุนไพรแล้ว เขาก็จะเอาพวกมันไปไว้ในหม้อปรุงยาด้วยกันทั้งหมดเพื่อกลั่นสกัด แต่เขาไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มที่ควบคุมได้ถึงเจ็ดชุดในคครั้งเดียวเลย
“พลังวิญญาณของเขาต้องทรงพลังขนาดไหนกันถึงจะบรรลุถึงการควบคุมเช่นนี้ได้?” ปรมาจารย์หยวนสงสัยขณะที่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพที่มีต่อเด็กหนุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ มันราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับปรมาจารย์เม็ดยา ไม่ใช่บางคนที่เขากำลังทดสอบอยู่!
หลังจากกลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรทั้ง 7 ชุดแล้ว เซี่ยวหยุนก็เริ่มหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกัน
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญในการปรุงยา – การขึ้นรูปเม็ดยา
เม็ดยาจะก่อร่างได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่ส่วนนี้ และก็มีหลายสิ่งที่จะทำให้เกิดความล้มเหลวได้
ถ้าคุณสมบัติทางยาของส่วนผสมสมุนไพรไม่ได้ถูกกลั่นสกัดอย่างเหมาะสม ส่วนผสมสมุนไพรต่างๆ ก็จะไม่หลอมรวมกัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าการควบคุมของนักปรุงยามีไม่เพียงพอหรือพวกเขาถูกรบกวนโดยปัจจัยภายนอกก็อาจจะส่งผลกระทบถึงการขึ้นรูปของเม็ดยา มันยังมีอีกหลายสิ่งที่นำไปสู่ความล้มเหลว แต่ถึงกระนั้นเซี่ยวหยุนก็ยังดูผ่อนคลายเช่นเดิม
เขาสามารถจัดการกับความแข็งแกร่งสมุนไพรอันบ้าคลั่งของเม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์และเม็ดยาระบายลึกลับได้ แล้วทำไมเขาถึงต้องไปรู้สึกร้อนรนกับแค่เม็ดยาต้นกำเนิดด้วยเล่า? เขาได้กลั่นสกัดเม็ดยาเหล่านี้มาเป็นร้อยแล้วในอดีต!
หลังจากที่ครอบคลุมไปทั่วหม้อปรุงยาแล้ว เซี่ยวหยุนก็เริ่มใช้เปลวไฟเพื่อก่อรูปเม็ดยาขึ้นมา
ไม่นานหลังจากนั้น เส้นใยของกลิ่นหอมสมุนไพรก็ซึมออกมาจากหม้อ ทุกคนรู้สึกได้ราวกับว่าจิตใจของพวกเขาถูกชะล้างเมื่อพวกเขาได้กลิ่นหอมของสมุนไพรกลิ่นนี้
“ช่างเป็นกลิ่นหอมของสมุนไพรที่หนาแน่นยิ่งนัก!”
“เขากำลังจะก่อรูปเม็ดยา” ผู้อาวุโสทั้งหมดต่างก็พากันประหลาดใจอยู่ในใจ
ที่ด้านข้าง ปรมาจารย์หยวนมองไปด้วยสายตาอันเร่าร้อนซึ่งเต็มไปด้วยความมุ่งหวัง
“ดูเหมือนว่าเซี่ยวหยุนคนนี้จะไม่ธรรมดาเลย!” ดวงตาของดยุคหยานหดแคบลงขณะที่เขายิ้มกว้าง
หัวใจของทุกคนเต็มไปด้วยความคาดหวัง กลิ่นหอมของสมุนไพรยังคงล่องลอยออกมาจากหม้อปรุงยาที่กำลังสั่นสะเทือนบางเบา
“เขาจะทำสำเร็จไหม?” ในขณะนี้ ทุกคนมุ่งเน้นความสนใจทั้งหมดของพวกเขาไปบนหม้อปรุงยา
ในบริเวณใกล้เคียง ปรมาจารย์หยวนก็ยังรู้สึกร้อนรนอย่างไม่น่าเชื่อ จนมาถึงตอนนี้เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ทำลายส่วนผสมสมุนไพรแม้แต่ชุดเดียว และก็ผ่านกระบวนการทั้งหมดมาได้โดยไม่ต้องหยุด ถ้าเขาสามารถกลั่นสกัดเม็ดยานี้ได้สำเร็จ ปรมาจารย์หยวนก็รู้ยิ่งกว่าคนอื่นๆ ว่ามันมีความหมายอะไร!
ในขณะนี้เซี่ยวหยุนได้ออกมาจากภวังค์ของเขา ด้วยความคิดเพียงเล็กน้อย เปลวไฟสีม่วงก็ถอยห่างออกมาจากหม้อปรุงยาและถูกดูดซึมกลับเข้าไปในร่างกายของเขา จากนั้นเขาก็เปิดฝาครอบของหม้อปรุงยาขณะที่กลิ่นหอมของเม็ดยาที่หอมอย่างไม่น่าเชื่อได้ล่องลอยยอกมาและแสงเม็ดยาสีเหลืองก็ปรากฏขึ้นมา
เม็ดยาเป็นประกายและโปร่งแสงจนดูเหมือนกับอัญมณีล้ำค่าที่เจิดจรัสด้วยแสง มือของเซี่ยวหยุนเคลื่อนไหวและคลื่นของแก่นแท้แห่งปราณก็นำเอาเม็ดยาออกมา
การควบคุมนี้ทำให้ทุกคนต้องถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ
“เม็ดยาก่อตัวแล้ว?” เมื่อพวกเขาเห็นเม็ดยาในมือของเซี่ยวหยุน ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ ทั้งหมดก็พากันเข้ามาใกล้ๆ ซึ่งมีความอยากรู้อยากเห็นในดวงตาของพวกเขา มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนอื่นกลั่นสกัดเม็ดยา
“ข้าดูได้ไหม?” ปรมาจารย์หยวนก็เดินเข้ามาด้วยความตื่นเต้น ทัศนคติของเขาต่อเด็กหนุ่มคนนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก และเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่มีความเคารพมากยิ่งขึ้น มันราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสและเต็มไปด้วยความถ่อมตน
“ได้” เซี่ยวมองไปที่เม็ดยาในมือของเขาอย่างสงบก่อนที่จะส่งมอบมันให้กับปรมาจารย์หยวน
ปรมาจารย์รับเม็ดยามาและมองไปที่มันอย่างต่อเนื่อง มันมีขนาดใหญ่ประมาณลูกลำไย และก็มีสีเหลืองอ่อนๆ แต่ก็แวววาวด้วยแสง เมื่อคนมองมันอย่างใกล้ชิด พวกเขาก็จะพบว่ามันเหมือนกับอัญมณีซึ่งเรียบและลื่น
“สีแบบนี้แสดงให้เห็นว่ามันไม่มีสิ่งเจือปนใดๆ และคุณสมบัติทางยาก็ถูกขัดเกลาอย่างไม่น่าเชื่อ เม็ดยาประเภทนี้อย่างต่ำก็เป็นเม็ดยาต้นกำเนิดระดับ 2!” ปรมาจารย์หยวนถือเม็ดยาและประเมินมันอย่างต่อเนื่อง เขาได้ยกย่องมันอยู่ซ้ำๆ “ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่าส่วนผสมสมุนไพรไม่มีคุณภาพดีเยี่ยมละก็ บางสีเม็ดยาเม็ดนี้ควรจะเป็นอย่างน้อยเม็ดยาระดับ 3”
“มันควรเป็นเม็ดยาระดับ 3?” ดวงตาของผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้เคียงเกือบจะหลุดออกมา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือถ้าเด็กหนุ่มคนนี้ได้รับส่วนผสมที่ดี เขาก็จะสามารถปรุงเม็ดยาที่ดีกว่านี้ได้!
เม็ดยาระดับ 3 มันหมายถึงอะไร? ทุกคนรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขากำลังจะกระโดดออกมาจากทรวงอกของพวกเขา
มันควรทราบกันว่าปรมาจารย์หยวนตามปกติสามารถปรุงเม็ดยาต้นกำเนิดได้แค่ระดับ 1 เท่านั้น และก็จะสามารถปรุงเม็ดยาต้นกำเนิดระดับ 2 เมื่อเขาโชคดีเท่านั้น
แต่เด็กหนุ่มคนนี้สามารถปรุงเม็ดประเภทนี้ด้วยความพยายามเพียงครั้งเดียว สิ่งนี้มันมีความหมายอะไรกัน?
“เจ้าได้เรียนรู้การปรุงยามาเพียงเดือนเดียวจริงรึ?” ปรมาจารย์หยวนรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ และได้ดึงมือของเด็กหนุ่มมาขณะที่เขาถาม
“ใช่” เซี่ยวหยุนตอบกลับขณะที่เขายิ้ม
“เพียงเดือนเดียว?” ปรมาจารย์หยวนจ้องเขม็งไปที่เด็กหนุ่มข้างหน้าเขาขณะที่อุทานออกมาข้างใน “เจ้าเด็กนี้ยังเป็นมนุษย์หรือ? เขาเป็นปรมาจารย์เม็ดยากลับมาเกิดใหม่จริงๆ รึ?” เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
สามารถปรุงเม็ดยาระดับ 2 ได้อย่างง่ายดายหลังจากที่เรียนการปรุงยามาเพียงเดือนเดียว… หากพรสวรรค์นี้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ มันก็จะทำให้โลกต้องตกตะลึง!
“แล้วข้าผ่านการทดสอบรึยัง?” เซี่ยวหยุนเกาศีรษะขณะที่เขาปล่อยรอยยิ้มอึดอัดใจออกมา
“ทดสอบ?” ปรมาจารย์หยวนกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “นี่ไม่สามารถเรียกว่าการทดสอบได้อีกต่อไปแล้ว ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า เจ้าได้เป็นนักปรุงยาระดับ 2 หรือระดับ 3 ไปแล้ว ถ้าข้ารายงานเรื่องนี้ไปยังตระกูล ตระกูลหยวนของข้าก็จะแจ้งเรื่องนี้ให้ผู้อาวุโสในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ได้ทราบและรับเจ้าเข้าไปอย่างแน่นอน”
“แน่นอนว่าเจ้าอาจได้รับมรดกมาแล้วก็มีทักษะการปรุงยาที่ยอดเยี่ยม แต่การมีผู้ที่คอยแนะนำเจ้าก็ยังคงเป็นเรื่องดีอยู่ สถานะบรรพบุรุษของพวกเราในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์เป็นสิ่งพิเศษและจะสามารถปกป้องเจ้าได้ เขาไม่ใช่คนที่ผีชราของตระกูลฉิวจะเปรียบเทียบได้” เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์หยวนดูตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อและพูดเร็วอย่างน้ำไหลไฟดับ มันราวกับว่าเขากำลังกลัวว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะปฏิเสธการเรียนรู้ภายใต้บรรพบุรุษของเขา
พวกเขาจะยอมให้อัจฉริยะเช่นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร?
“ต้องลำบากปรมาจารย์หยวนแล้ว” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขายิ้ม
ถ้าสิ่งนี้จะทำให้เขาพ้นจากอันตราย เขาก็ควรจะเต็มใจมากกว่า
“ฮ่าฮ่า พรสวรรค์ของน้องชายคนนี้เป็นสิ่งพิเศษ และก็เป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมา เจ้าไม่ต้องสุภาพจนเกินไปหรอก” ปรมาจารย์หยวนกล่าวขณะที่เขายิ้มกว้าง “นี่… มาอยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกันเถอะ” ชายชราคนนี้ไม่ได้ดูเย็นชาและห่างเหินอีกต่อไปแล้ว
“อยู่ในฐานะที่เท่าเทียม?” เซี่ยวหยุนรู้สึกตกใจมากขณะที่เขามองไปยังชายชราที่อยู่ถัดไปจากเขา ปรมาจารย์หยวนไม่ได้ตัวสูงมากนักและก็ค่อนข้างผอม แต่ก็มีอายุอย่างน้อยก็ 50 หรือไม่ก็ 60 ปี
แต่เขาก็ยังต้องการให้เซี่ยวหยุนและตัวเองอยู่อยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน?
ดยุคหยานและผู้นำตระกูลเซี่ยวก่อนก็ดูตกตะลึงและตกใจมากเช่นกัน
เหตุใดปรมาจารย์หยวน – ผู้ที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา – จึงขอร้องเช่นนี้?
“ฮี่ฮี่ ข้าเห็นว่าเจ้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับเม็ดยาเป็นพิเศษ ข้าจึงสงสัยว่าเราสามารถมาเปรียบเทียบบักทึกย่อเป็นบางครั้งเมื่อเจ้าว่างได้หรือไม่?” ปรมาจารย์หยวนกล่าวขณะที่เขาถูมือเข้าด้วยกัน
“อี๋!” ผู้คนในปัจจุบันเกือบจะอาเจียนเอาเลือดออกมา ดังนั้นมันจึงกลายเป็นว่าชายชราต้องการคำแนะนำจากเด็กหนุ่มคนนี้ในเรื่องการปรุงยา! แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ยังรู้สึกได้ว่าเซี่ยวหยุนพิเศษขนาดไหน – สำหรับการที่ปรมาจารย์หยวนทิ้งความภาคภูมิใจของเขาแบบนี้ ทักษะของเด็กหนุ่มมันต้องน่าจริงมากอย่างแน่นอน
“ฮ่าฮ่า ข้าหวังเราจะทำเช่นนั้นได้เหมือนกัน” เซี่ยวหยุนยิ้มเมื่อเขาเห็นว่าปรมาจารย์หยวนวางตัวสุภาพมากขนาดไหน ปรมาจารย์หยวนเป็นตัวตนที่โดดเด่นอยู่มาก ดังนั้นมันจึงจะไม่มีอันตรายอะไรกับการที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเซี่ยว เนื่องจากเซี่ยวหยุนจะไม่อยู่ในเขตเมฆาม่วงตลอดไป
“เยี่ยม เราจะไปที่พักอาศัยของข้าหลังจากนี้ใช่ไหม?” ปรมาจารย์หยวนถาม
“ดีมาก” เซี่ยวหยุนพยักหน้า “แต่ข้าไม่มีส่วนผสมสมุนไพรเลย”
“อย่าได้กังวล” ปรมาจารย์หยวนตอบกลับ “พันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทรของข้ามีส่วนผสมสมุนไพรอยู่มากมายก่ายกอง”
“ฮ่าฮ่า ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนขอให้ท่านอย่าได้กังวล – ตระกูลหยวนของข้าจะดูแลเรื่องตระกูลฉิวอย่างแน่นอน ข้าสัญญาเลยว่าพวกเขาจะไม่กล้าทำสิ่งใดกับท่านเลย” หลังจากพูดคุยเล็กน้อย ปรมาจารย์หยวนก็ลากเซี่ยวหยุนออกไปอย่างกระตือรือร้น “ฮี่ฮี่ ชายชราคนนี้จะขอยืมหลานชายของท่านสักสองสามวัน!”