Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 65 – ปรมาจารย์หยวนเยี่ยมเยียน
**เปลี่ยนจากฉินเป็นฉิวนะครับ
***เปลี่ยนจากสัตว์อสูรเป็นสัตว์ปีศาจ เปลี่ยนจากวิญญาณอสูรเป็นวิญญาณปีศาจนะครับ
Chapter 65 – ปรมาจารย์หยวนเยี่ยมเยียน
“ฮ่าฮ่า นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ซือเฟยของตระกูลท่านสามารถเป็นภรรยาหลวงและเสี่ยวเหมาของตระกูลเราเป็นแค่ภรรยาน้อยได้ ท่านคิดเช่นไร?” เมื่อเขาได้ยินคำพูดของดยุคหยาน ใบหน้าของผู้นำตระกูลหลินคนก่อนก็ไม่ได้กลายเป็นสีแดงเลย แต่กลับกัน เขายิ้มกว้างขณะที่เขาพูดคำพูดไร้ยางอายเหล่านี้ขณะที่ยิ้มอยู่
“ชายชราคนนี้ช่างไร้ยางอาย” ผู้ที่อยู่ในปัจจุบันได้นิ่งเงียบและสาปแช่งผู้นำตระกูลหลินคนก่อนที่ไม่กระดากใจตัวเองเลย มันดูเหมือนว่าผีเฒ่าชราตนนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะสร้างสัมพันธ์กับเซี่ยวหยุน!
จนถึงขณะนี้ ผู้อาวุโสจากตระกูลอื่นบางคนก็ไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป
“หลานชายเซี่ยวหยุนที่ดี อารมณ์ของหลินเสี่ยวเหมาจากตระกูลของเขารุนแรงเกินไป ถ้าเจ้าแต่งงานกับนาง นางจะแตกต่างในการควบคุมและจะสร้างปัญหามากมายให้กับเจ้า เอาเป็นหลิงเอ๋อของตระกูลข้าเป็นยังไงล่ะ? นางทั้งอ่อนโยนและบริสุทธิ์ ให้นางอยู่ในฐานะภรรยาน้อยเป็นเช่นไรเล่า?” โดยทันที หนึ่งในผู้อาวุโสจากอีกตระกูลพูดออกมา
“หลิงเอ๋อของตระกูลเจ้าจะมาเปรียบเทียบกับเย่ว์เอ๋อของตระกูลข้าในด้านรูปลักษณ์ได้เช่นไรกัน? หลานชายแสนดีเซี่ยวหยุน ถ้าเจ้าจะแต่งงานกับเย่ว์เอ๋อ นางจะต้องให้กำเนิดลูกๆ ที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นผู้ที่จะมาสืบทอดสายเลือดที่ยอดเยี่ยมของตระกูลเซี่ยวของเจ้าอย่างแน่นอน เย่ว์เอ๋อของตระกูลเรานั้นเป็นโฉมงามที่หาได้ยากแม้แต่ในเขตเมฆาม่วง”
“นายน้อยเซี่ยวหยุน…” โถงประชุมปะทุขึ้นด้วยเสียงเอ็ดตะโร ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังเดินอยู่ในตลาดสด
ดยุคหยานผู้ที่เพิ่งมาถึง ยืนอยู่ที่ทางเข้าด้วยความตกใจ
ผีเฒ่าชราเหล่านี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก
“ฮึ่ม เจ้าทั้งหมดหยุดเดี๋ยวนี้เลย ข้าไม่เห็นด้วยกับมัน” ในเวลานี้ได้มีเสียงแหลมเจาะผ่านโถงรับแขก
“ใครไม่เห็นด้วยกัน?” ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ มองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ เพราะว่าเสียงนี้ไม่ได้มาจากเซี่ยวหยุน
เมื่อฝูงชนพบแหล่งที่มาของเสียงแล้ว พวกเขาก็เห็นว่ามันเป็นเด็กสาวที่อยู่ถัดจากดยุคหยาน นอกเหนือจากหยานซือหยันแล้วจะมีใครคนอื่นอีกล่ะ?
“ขนาดหยานซือเฟยยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เด็กสาวคนนี้ก็ออกหน้าให้นางเสียแล้ว” ผู้คนจากตระกูลต่างๆ รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ
“ฮ่าฮ่า อย่าได้กังวล พี่สาวใหญ่ของเจ้าจะยังเป็นภรรยาหลวง และจะไม่ถูกเลือกปฏิบัติเลย” ผู้คนหัวเราะ
“ฮึ่ม ข้าก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี” หยานซือหยันบุ้ยปากขณะที่นางมองไปยังเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ในโถงรับแขก “เซี่ยวหยุน ถ้าเจ้ากล้าแต่งงานกับคนอื่นอีก ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่” แม้ว่าเด็กสาวคนนี้จะดูเหมือนเต็มไปด้วยความชอบธรรม แต่นางก็ดูอิจฉาเล็กน้อย!
“ไม่ใช่ว่าเป็นพี่สาวของนางหรอกหรือที่หมั้นกับเซี่ยวหยุน?” หลายคนจ้องไปด้วยความสับสน สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เซี่ยวหยุนหัวเราะแห้งๆ แล้วกล่าวว่า “ขออภัยด้วย แต่ข้าไม่ได้วางแผนที่จะแต่งงานเร็วๆ นี้”
ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ หัวเราะว่า “ฮ่าฮ่า นายน้อยเซี่ยวหยุนโปรดแจ้งให้รับทราบถ้าหากท่านวางแผนจะรับภรรยาน้อย”
“เจ้าเด็กคนนี้ช่างถูกหมายปองมากนัก” ดยุนหยานส่ายหัวและยิ้มขณะที่เขาก้าวเข้าไปในโถงประชุมในที่สุด
“เอ่อ นั่นไม่ใช่ปรมาจารย์หยวนรึ?” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนมองไปด้วยความประหลาดใจเมื่อเขามองไปยังชายชราผู้ที่เข้ามากับดยุคหยาน นี่เป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยาที่มีชื่อเสียงของเขตเมฆาม่วง หยวนซู ซึ่งการปรากฏตัวของเขาที่นี่มันค่อนข้างน่าแปลกใจ
ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ ก็มองไปและค้นพบหยวนซูเหมือนกัน
“ทักทายปรมาจารย์หยวนซู”
“ฮ่าฮ่าปรมาจารย์หยวนซู เหตุใดท่านจึงมาที่นี่กัน?” ทุกคนลุกขึ้นทักทายเขา
“ได้โปรดนั่งลงปรมาจารย์หยวน” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนโบกมือของเขาขณะที่จัดที่นั่งที่อยู่ข้างตำแหน่งผู้นำไว้ ซึ่งเป็นที่ดยุคหยานและปรมาจารย์หยวนนั่งลง
“ฮ่าฮ่า เป็นเกียรติของตระกูลเซี่ยวเราแล้วที่ปรมาจารย์หยวนมาเยี่ยมเยียน!” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนยิ้มขณะที่ลูบเคราของเขา
คำพูดของผู้นำคนก่อนค่อนข้างจะสุภาพ แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวคำพูดประจบประแจงใดๆ เหมือนกับที่ผู้อาวุโสจากตระกูลส่วนใหญ่กล่าว
ในอดีตที่ผ่านมา ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนมีความเคารพนับถืออันน่าเหลือเชื่อต่อปรมาจารย์หยวน เนื่องจากการมีความสัมพันธ์อันดีกับนักกลั่นสกัดเม็ดยาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับตระกูลทุกตระกูล แต่ตอนนี้เซี่ยวหยุนเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยาแล้ว ดังนั้นเหตุใดพวกจึงจำเป็นต้องพยายามนำความโปรดปรานมาจากคนนอกด้วยล่ะ?
“พี่เซียวมีมารยาทมากไปแล้ว” ปรมาจารย์หยวนป้องมือของเขาทักทายขณะที่เขามองไปยังเด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้เขาและพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าเด็กหนุ่มคนนี้เรียนรู้การกลั่นสกัดเม็ดยา มันจริงรึ?”
“ฮ่าฮ่า ย่อมเป็นไปตามนั้น” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนกล่าวโดยไม่ได้ซ่อนสิ่งใดไว้ เรื่องนี้ได้แผ่กระจายไปทั่วทั้งเขตเมฆาม่วงแล้ว เลยไม่มีสิ่งใดต้องซ่อนไว้
“โอ้?” สายตาขาองปรมาจารย์หยวนเริ่มจริงจังขณะที่เขาถาม “ข้าสงสัยว่านายน้อยเซี่ยวหยุนกลั่นสกัดเม็ดยามาได้นานขนาดไหนกัน?”
“แค่ 1 เดือน” เซี่ยวหยุนตอบขณะที่เขายิ้ม
“เพียงเดือนเดียว?” ดวงตาของปรมาจารย์หดแคบด้วยความตกใจภายในพวกมันขณะที่เขาถาม “เจ้าแน่ใจหรือว่าสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้?” เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้มีความคลางแคลงใจ แม้แต่ชายชราคนอื่นภายในโถงรับแขกก็มองไปที่เซี่ยวหยุนด้วยความไม่เชื่อ
“เขาเรียนรู้วิธีการกลั่นสกัดเม็ดยาในเดือนเดียวและก็กลั่นเม็ดยาระบายลึกลับที่ว่านั่นได้?”
คนอื่นสงสัย “เขาเป็นปรมาจารย์เม็ดยาผู้ยิ่งใหญ่ที่กลับมาเกิดใหม่รึ?”
เมื่อเห็นว่าพวกเขามีความไม่เชื่ออยู่ รอยยิ้มเล็กน้อยก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเซี่ยวหยุน “อะไรกัน มันเป็นไปได้ว่าปรมาจารย์หยวนไม่เชื่อว่าข้าสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้?”
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้า แต่เรื่องนี้มันเข้าใจยากจนเกินไป” ปรมาจารย์หยวนกล่าวจริงจัง “ชายชราคนนี้จะไม่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด – เหตุผลที่ข้ามาก็คือหากเจ้าสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้จริง ชายชราคนนี้ก็อยากจะแนะนำเจ้าให้กับปรมาจารย์เม็ดยาของตระกูลหยวนภายในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ ถ้าเจ้าเข้าสู่การเป็นศิษย์ของเขาได้ เจ้าก็จะมีค่ามากภายในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ และจะไม่ต้องกลัวตระกูลฉิวมาแก้แค้นด้วย”
“โอ้?” ดวงตาของผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนสว่างขึ้น
ทุกคนรู้ดีว่าตระกูลหยวนมีอำนาจมากและก็มีคนสองสามคนอยู่ภายในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ ถ้าปรมาจารย์เม็ดยาของตระกูลหยวนเต็มใจที่จะสนับสนุนเซี่ยวหยุนอย่างเปิดเผย พวกเขาก็จะไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวตระกูลฉิวอีกต่อไป
“ฮ่าฮ่า ข้าขอบคุณปรมาจารย์หยวนสำหรับมารยาทที่ดีของเขา เนื่องจากมันเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านจะทดสอบข้าเช่นไร?” เซี่ยวหยุนลุกขึ้นขณะที่เขายิ้ม
เนื่องจากเขาได้รับโอกาสแบบนี้แล้ว เขาก็จะไม่ปฏิเสธมันแน่
ถึงแม้ว่ากฎในอาณาเขตนี้จะเขียนไว้ว่าผู้เชี่ยวชาญจากนิกายไม่ได้รับอนุญาติให้ลงมือกับตระกูลอื่นๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าตระกูลฉิวจะปฏิบัติตามกฎเหล่านี้หรือเปล่า?
ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ให้การคุ้มครองพวกเขา พวกเขาก็จะสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจและออกไปข้างนอกได้โดยไร้ความกลัว
“เนื่องจากเจ้าสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ เช่นนั้นมากลั่นสกัดเม็ดยาให้กับพวกเราที่นี่เลยเป็นอย่างไร?” ปรมาจารย์หยวนถาม
เซี่ยวหยุนยิ้ม “นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ข้ายังขาดส่วนผสมสมุนไพรอยู่”
“ข้าได้นำส่วนผสมทั้งหมดที่จำเป็นมาแล้ว” ปรมาจารย์หยวนกล่าวขณะที่เขาปรบมือ หลังจากนั้นคนใช้ก็เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องหยก
จากรูปลักษ์ของมันแล้ว ปรมาจารย์หยวนได้เตรียมมันมาไว้อย่างดี
“มีส่วนผสมสมุนไพรสำหรับเม็ดยาต้นกำเนิด 10 ชุด ถ้าเจ้าสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้สำเร็จ ชายชราคนนี้ก็จะแนะนำเจ้าให้กับเขา” ปรมาจารย์หยวนกล่าว
“เม็ดยาต้นกำเนิด?” ดวงตาของเซี่ยวหยุนหดแคบลงขณะที่เขายิ้ม “นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย”
“ฮ่าฮ่า นายน้อยเซี่ยวหยุนจะอนุญาตให้พวกเราดูได้หรือไม่?”
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเซี่ยวหยุนกำลังจะกลั่นสกัดเม็ดยา ไฟก็เผาไหม้อยู่ภายในดวงตาของเหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลอื่นๆ ขณะที่พวกเขายิ้ม
นี่เป็นเหตุการณ์ที่คนของตระกูลเซี่ยวดูเหมือนจะกระตือรือร้นอย่างเหลือเชื่อในการเฝ้าดู
นักกลั่นสกัดเม็ดยาหายากอย่างเหลือเชื่อและพวกเขาก็มักจะกลั่นสกัดอย่างสันโดษ โดยปกติแล้วผู้คนจะไม่สามารถดูพวกเขากลั่นสกัดเม็ดยาได้
ตอนนี้พวกเขามีโอกาสแล้ว ทุกคนก็เลยอยากจะเป็นพยานให้กับสิ่งนี้ด้วยตัวเอง
“ได้อยู่แล้ว แต่ว่าจะไม่มีใครในหมู่พวกเจ้าได้รับอนุญาตทำให้เกิดการรบกวนใด ๆ หรือเจ้าจะไม่ได้รับอะไรเลยในอนาคต” เซี่ยวหยุนกล่าว
“แน่นอน แน่นอน” ฝูงชนพยักหน้าอย่างกระหาย “พวกเราจะไปกล้ารบกวนนายน้อยเซี่ยวหยุนได้อย่างไรกัน?”
“เอาล่ะ งั้นข้าจะทำมันข้องนอกโถงนี้” เซี่ยวหยุนยกคิ้วขึ้นขณะที่เขาเดินนำออกมาทางจากโถงประชุม
“เป็นไปได้ว่าเขาจะรู้วิธีกลั่นสกัดเม็ดยาจริงๆ?” เมื่อเขาเห็นว่าเด็กหนุ่มมีความมั่นใจมากแค่ไหน ปรมาจารย์หยวนก็ยกคิ้วขึ้นขณะที่เขาคิดกับตัวเอง
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เชื่อที่เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีจะสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่อ้างว่าพวกเขาได้เรียนรู้มาเพียงแค่เดือนเดียว
สิ่งนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง? แม้แต่ตัวตนแบบปีศาจก็ยังไม่มีพรสวรรค์เช่นนี้!
“ฮ่าฮ่า ปรมาจารย์หยวน ข้าคิดว่าท่านกังวลมากเกินไป ถ้าเซี่ยวหยุนไม่สามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ แล้วเซี่ยวหง เซี่ยวไห่ และผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนจะทะลวงผ่านมาทั้งหมดได้เช่นไร?” ดยุคหยานยิ้ม เขายังลมหายใจออกด้วยความโล่งออกเมื่อเขาเห็นว่าเด็กหนุ่มมีความมั่นใจขนาดไหน
“บางทีเขาอาจจะได้รับเม็ดยามาจากที่อยู่ของผู้ฝึกตนโบราณ” ปรมาจารย์หยวนตอบกลับ
เมื่อวาน เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับข่าวนี้ เขาก็สงสัยว่านี่เป็นวิธีที่เด็กหนุ่มได้รับเม็ดยามา มิฉะนั้นเด็กหนุ่มจะสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาระบายลึกลับได้อย่างไรกัน?
“เราจะได้เห็นหลังจากที่เราดู” ดยุคหยานกล่าวขณะที่เขาส่ายหัวและยิ้ม ก่อนหน้านี้เขาก็ยังมีความคลางแคลงใจอยู่ แต่เมื่อเขาได้เห็นว่าเซี่ยวหยุนดูสบายขนาดไหน เขาก็เชื่อถือในตัวเด็กหนุ่มมากขึ้น ถ้าเขาไม่มีคุณสมบัติ เขาจะไปตกลงข้อเสนอนี้ง่ายๆ ได้อย่างไรกัน?
“ข้าหวังว่าเขาจะสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้จริงๆ” ปรมาจารย์หยวนพึมพำขณะที่เขาส่ายหัว อัจฉริยะประเภทนี้หาได้ยากอย่างเหลือเชื่อ!
ข้างนอกโถงรับแขก เซี่ยวหยุนได้จัดโต๊ะขึ้นมา ด้านบนของโต๊ะเป็นปม้อสีม่วงซึ่งปลดปล่อยระลอกคลื่นลึกลับออกมา โดยใกล้ๆ พวกผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ พากันชี้และพยักหน้าด้วยความอัศจรรย์ใจในดวงตาของพวกเขา
“สิ่งนี้คือหม้อที่ใช้กลั่นสกัดเม็ดยา?”
“กลิ่นอายของหม้อนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาอย่างมาก!” ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการกลั่นสกัดเม็ดยา แต่พวกเขาก็ยังสามารถบอกได้ว่าหม้อสีม่วงนั้นไม่ธรรมดาอย่างมาก
ตอนนี้ ปรมาจารย์หยวนก็เดินมา รูม่านตาของเขาหดตัวเมื่อเห็นหม้อสีม่วง
“หม้อปรุงยาล้ำค่านี้มีระดับอะไรกัน?!” ความตกใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของปรมาจารย์หยวน จากกลิ่นอายของหม้อปรุงยา เขาบอกได้เลยว่ามันเป็นราชาแห่งหม้อปรุงยา “เด็กหนุ่มคนนี้มีหม้อปรุงยาที่ล้ำค่าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? เป็นไปได้ว่าเขาได้รับมรดกของผู้ฝึกตนโบราณ?” ปรมาจารย์หยวนเดินมาที่ด้านข้างของเซี่ยวหยุน
ส่วนผสมสมุนไพรได้ถูกวางไว้แล้ว และเซี่ยวหยุนก็โบกมือของเขาเพื่อเปิดฝาครอบหม้อออก
“ทุกท่าน ข้ากำลังจะเริ่มกลั่นสกัดเม็ดยา โปรดงดการสร้างเสียงรบกวนที่ดังมาเกินไป” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขามองไปรอบๆ
“แน่นอน!” ทุกคนพยักหน้า มองดูจริงจังอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครที่กล้าจะไม่พอใจ แม้แต่ปรมาจารย์หยวนก็หายใจแบบเงียบๆ เพื่อไม่ให้รบกวนเด็กหนุ่ม ในญานะนักกลั่นสกัดเม็ดยา เขาย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่าขณะปรุงยามิอาจถูกรบกวนได้
ในความจริง ปรมาจารย์หยวนก็ตกใจมากที่เด็กหนุ่มคนนี้อนุญาตให้คนอื่นเฝ้าดูขณะที่เขากลั่นสกัดเม็ดยาได้ เขาเพียงแค่อยากจะเห็นว่าเด็กหนุ่มสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้จริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดอะไรออกไป – ถ้าหากเด็กหนุ่มคนนี้ได้ตกลงอย่างง่ายดายในขณะที่ไม่มีทักษะใดๆ มันก็จะแสดงให้เห็นว่าเขาจะไม่มีทางกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้
ทันใดนั้นดวงตาของเซี่ยวหยุนก็ประกายด้วยสมาธิขณะที่อากาศรอบๆ ตัวเขาเปลี่ยนไป เขาโยนความคิดเหลวไหลทิ้งออกไปขณะที่เขาจมไปในคำพูดของตัวเอง เขาจ้องไปที่หม้อปรุงยา แล้วปลดปล่อยบรรยากาศของปรมาจารย์ออกมา ทุกคนรู้สึกได้ความรู้สึกแห่งความเคารพที่มีต่อเขา
“เด็กคนนี้มีกลิ่นอายรอบตัวเขา” ปรมาจารย์หยวนคิด แล้วมองไปที่เด็กหนุ่มด้วยความมุ่งหวัง
เฟี้ยว!
ดวงตาของเซี่ยวหยุนประกายขณะที่จู่ๆ เขาก็เหยียดมือขวาออกมาและเปลวไฟสีม่วงก็ระเบิดออกมาจากฝ่ามือของเขา เปลวไฟได้ปรากฏขึ้นฉับพลัน อุณหภูมิโดยรอบพุ่งสูงขึ้น
ทันใดนั้นเปลือกตาของปรมาจารย์หยวนก็เบิกกว้างขึ้น “ช่างเป็นเปลวไฟที่ช่วงโชติยิ่งนัก เขาสามารถควบคุมเปลวไฟแปรผันได้จริงรึ?”
ในขณะนี้ ความร้อนเป็นไฟได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของปรมาจารย์หยวน เปลวไฟแปรผันประเภทนี้เป็นบางสิ่งที่เขาได้แต่ฝันถึงว่าจะได้รับมันมา! แต่อย่างไรก็ตาม มันช่างน่าสงสรที่เขาก็ไม่เคยได้รับมาเลย
ด้วยความคิดเล็กน้อย เปลวไฟสีม่วงเหมือนกับมีชีวิตจริงได้โดดลงไปในหม้อสีม่วง
หวือ!
เปลวไฟสีม่วงโดดลงไปในหม้อปรุงยาอย่างเชื่อฟัง มองดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ และด้วยการควบคุมจากเซี่ยวหยุนมันก็เริ่มอุ่นหม้อปรุงยา
ก่อนที่จะกลั่นสกัดเม็ดยา สิ่งที่จำเป็นต้องทำก็คืออุ่นหม้อปรุงยาเพื่อให้อุณหภูมิภายในหม้อปรุงยาร้อนขึ้น ด้วยวิธีนี้ก็จะสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ด้วยความสำเร็จที่เพิ่มมากขึ้น
“ความรู้เด็กหนุ่มคนนี้ดีพอใช้ได้” ปรมาจารย์หยวนคิดขณะที่เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ในขณะนี้ เซี่ยวหยุนได้หยิบเอาส่วนผสมสมุนไพรขึ้นมาและโยนพวกมันลงไปในหม้อปรุงยา
เมื่อส่วนผสมสมุนไพรอยู่ภายในหม้อแล้ว เปลวไฟสีม่วงก็ห่อหุ้มรอบตัวพวกมันเหมือนกับงูแห่งไฟ เปลวไฟทั้งปราดเปรียวและรวดเร็ว ราวกับว่าเปลวไฟมีจิตใจเป็นของพวกมันเอง
การควบคุมไฟแบบนี้เป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของปรมาจารย์หยวนกระโจนไปมา
“เป็นไปได้ว่าเขาหลอมรวมกับเปลวไฟแปรผันได้สมบูรณ์แล้วทำให้มันเป็นจิตวิญญาณการต่อสู้แห่งไฟของเขา?” หลังจากคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น ปรมาจารย์หยวนก็มองไปยังเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่เผาไหม้จนสว่างสดใส นักกลั่นสกัดเม็ดยากับจิตวิญญาณการต่อสู้แห่งไฟเป็นสิ่งที่หาที่เปรียบมิได้กับนักกลั่นสกัดเม็ดยาผู้ที่แค่ควบคุมเปลวไฟแปรผันได้!