Chapter 63 – ความยกย่องนับหมื่น
ผู้แปล BusTsu
ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนพูดด้วยความสงบและดูเคร่งขรึมมากอย่างไม่น่าเชื่อ ปล่อยบรรยากาศของเซียนผู้ทรงพลังออกมา เขาดูเหมือนจะต่างไปจากตัวเขาในยามปกติที่ไร้ความกังวลไปอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เขาได้มีความรู้สึกแห่งอำนาจและเกียรติไหลซึมออกมา เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของเขา ฝูงชนทั้งหมดก็ถูกส่งเข้าสู่ความบ้าแทบสิ้นสติ
“อะไรนะ? เราได้รับเม็ดยาเช่นกัน?”
“ฮ่าฮ่า ขอบคุณมากท่านผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยว!”
“ตระกูลเซี่ยวช่างใจกว้างนัก!”
“พวกเราเต็มใจที่จะติดตามตระกูลเซี่ยวในอนาคตอย่างเปิดเผย!” ได้ยินสิ่งนี้ ผู้ฝึกตนจากตระกูลอื่นจำนวนมากก็คลุ้มคลั่งไปด้วยความสุขและรีบป้องหมัดขอบคุณ
มองไปที่ผู้คนเหล่านี้ เซี่ยวหยุนก็ยิ้มอย่างสงบ เมื่อผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางประกาศว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ คนเหล่านี้จำนวนมากก็ได้กล่าวว่าพวกเขาติดตามอย่างเปิดเผย
แต่อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตา คนเหล่านี้ก็ได้ตัดสินใจที่จะติดตามตระกูลเซี่ยว – มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขามีโอกาสที่จะเอนเอียงไปมาได้ง่ายๆ
แต่ไม่จะอย่างไร เซี่ยวหยุนก็เป็นผู้ใหญ่มานานแล้ว และยังรู้ดีด้วยว่านี่เป็นโลกที่พลังปกครองอยู่สูงสุด ใครก็ตามที่แข็งแกร่งก็จะควบคุมได้ทุกสิ่ง ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ค่อยจริงใจมากนัก แต่การมีพวกเขาคอยติดตามตระกูลเซี่ยวอย่างน้อยมันก็ช่วยตระกูลเซี่ยวจากปัญหาได้เยอะพอสมควร เนื่องจากถ้าพวกเขาไม่ลงมือ คนที่สำคัญจากตระกูลฝางจำนวนมากก็จะหนีไปได้
“อย่าได้กังวลไปเลยท่านปู่ ตราบเท่าที่ข้ามีส่วนผสมสมุนไพร ข้าก็จะสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขายิ้ม
“ดีมาก” ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวได้อนุมัติขณะที่เขายังยิ้มและพยักหน้า
“ส่วนผสมสมุนไพร?” ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ มองไปและรีบถามว่า “นายน้อยเซี่ยวหยุนได้โปรดบอกพวกเราด้วยว่าส่วนผสมสมุนไพรอะไรที่ท่านต้องการ แน่นอนว่าพวกเราจะรวบรวมพวกมันให้กับท่านเพื่อช่วยเหลือท่านในกระบวนการกลั่นสกัดเม็ดยา แม้ว่าจะค่าราคาเป็นทรัพย์สมบัติของพวกเราก็ตาม”
“ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมสมุนไพรอะไร พวกเราก็จะรวบรวมพวกมันมา” ทุกคนต่างก็เห็นด้วย
ด้วยโอกาสที่จะได้รับเม็ดยา จึงไม่มีใครกล้าที่จะเย่อหยิ่ง มันเป็นที่รู้กันว่าแม้แต่เม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์ก็ยากลำบากอย่างไม่เชื่อสำหรับการที่พวกเขาจะได้รับมัน ใครจะไปเต็มใจยอมแก้ให้กับโอกาสดีๆ เช่นนี้กันล่ะ? แม้แต่เม็ดยาต้นกำเนิดไม่กี่เม็ดก็ถือเป็นพรอันยิ่งใหญ่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกสิ่งด้วยพลังของพวกเขาเพื่อให้ได้มาซึ่งพวกมัน
“เนื่องจากมันเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าจะเขียนรายชื่อลงไปเพื่อให้ทุกคนสามารถไปรวบรวมพวกมันมาได้” เพราะคนเหล่านี้กระตือรือร้น ดังนั้นเซี่ยวหยุนจึงไม่ยอมปฏิเสธ
“เราต้องลำบากนายน้อยเซี่ยวหยุนแล้ว” ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ พากันยิ้มไปที่เซี่ยวหยุน ในการตอบสรอง เซี่ยวหยุนแค่โบกมือของเขาเท่านั้นและไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก
“ฮ่าฮ่า พี่ชายหยานฉาน ท่านมีหลายชายที่น่าทึ่งมาก!” ผู้นำคนก่อนของตระกูลหลินเดินมาขณะที่เขามองไปยังเซี่ยวหยุนด้วยสายตาหลงใหล เขามองมาราวกับว่าเขาต้องการจะเอาตัวเด็กหนุ่มมาให้กับตัวเอง และก็มีร่อยรอยของความเจ้าเล่ห์อยู่ในดวงตาของเขา
“มันแน่นอนอยู่แล้ว! เขาเป็นลูกหลานของชายชราคนนี้!” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนไม่ได้อ่อมน้อมถ่อมตนเลยขณะที่เขาหัวเราะ “ใครจะมาเปรียบเทียบกับเขาได้?”
เมื่อคิดถึงความจริงที่ว่าหลานชายของเขาได้กลั่นสกัดเม็ดยาระบายลึกลับที่หายากและล้ำค่าอย่างไม่น่าเชื่ออกมา ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวก็รู้สึกดีใจเหลือล้นด้วยความสุข สำหรับการที่เขามีความสำเร็จมากขนาดนี้ในตอนที่ยังเยาว์วัย มันมีคนน้อยมากในราชอาณาจักรจันทราวายุจะสามารถเทียบกับเขาได้
“ถูกแล้ว ถูกแล้ว” ดวงตาของผู้นำตระกูลหลินคนก่อนสว่างขณะที่เขาโบกมือของเขา หญิงสาวที่มีขายาวและรูปร่างอันร้อนแรงเดินมาอย่างช้าๆ ดวงตาของนางดูเบลอ ริ้มฝีปากของนางเม้มอยู่เล็กน้อย และใบหน้าของนางก็ดูแปลกๆ หญิงสาวคนนี้คือหลินเสี่ยวเหมา (ใช้เสี่ยวแทนเซี่ยวนะครับ ใช้เซี่ยวแล้วมันดูซ้ำกับตระกูลของเซี่ยวหยุนครับ)
เซี่ยวหยุนเลิกคิ้วขึ้นขณะที่นางเดินมา
“เซี่ยวหยุน ยินดีกับชัยชนะบนศึกประลองยุทธ์ด้วย” หลังจากเดินมา หลินเสี่ยวเหมาก็ส่ายหัว โยนความคิดซับซ้อนในหัวใจของนางทิ้งไปไกลๆ นางยิ้มให้กับเซี่ยวหยุนและเหยียดแขนของนางออกมาอย่างไม่ใส่ใจและทักทายกับเด็กหนุ่ม
“ฮึ่ม ยัยคนเสแสร้ง” หยานซือหยันสาปแช่งด้วยหน้านิ่วคิ้ว อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกกังวลเล็กน้อยขณะที่พึมพำ “แน่ใจได้ว่าพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนจะไม่ลุ่มหลงนางใช่ไหม?”
ขนตาของหยานซือหยันกระพือขณะที่นางมองไปด้วยความกังวลอย่างมาก หลินเสี่ยวเหมาสวมใส่กางเกงสั้นพอสมควร เปิดเผยให้ขาที่ผอมบางและขาวของนาง ยิ่งไปกว่านั้น หน้าอกของนางก็สมบูรณ์อย่างเหลือเชื่อ ราวกับว่ามันจะระเบิดออกมาจากเสื้อของนาง มีส่วนเปลือยที่ขาวบริสุทธิ์เหมือนหิมะแสดงออกมา ซึ่งดูน่าหลงใหลอย่างมาก ใครก็ตามที่มองไปยังรูปร่างที่ร้อนแรงของนางก็จะรู้สึกเร้าใจ
“ไม่ต้องมาแสดงความยินดีกับข้า” เซี่ยวหุยนตอบกลับขณะที่เขาชำเลืองมองอย่างสงบไปที่หญิงสาวและมือที่ยื่นออกมาของนาง
“เจ้า!” หลินเสี่ยวเหมารู้สึกโกรธอย่างไม่น่าเชื่อและก็ขบฟันของนาง เมื่อไหร่กันที่มีคนกล้าปฏิบัติแบบนี้ต่อนาง?
เซี่ยวหยุนเลือกที่จะไม่สนใจนางและหันไปมองที่อื่น ที่นั่น หยานซือเฟยและท่านหญิงหยานเดินมาอย่างช้าๆ
ผู้ฝึกตนจากตระกูลต่างๆ ทั้งหมดก็ถอยกลับไปเพื่อเปิดทางให้นางอย่างรู้งาน สิ่งนี้เป็นเพราะทุกคนรู้ดีถึงความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างใกล้ชิดของหญิงสาวกับเซี่ยวหยุน
เนื่องจาก พวกเขาเคยจับมือกันเมื่อพวกเขามาถึง!
“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?” หยานซือเฟยเดินมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของนาง ความงามของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และเมื่อนางมองไปที่เด็กหนุ่ม ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความห่วงใยและความเป็นห่วง นางเคยมีความกลัวที่เหนือกว่าความเชื่อ!
“จะไปมีอะไรเกิดขึ้นกับข้าได้อย่างไรกัน?” เซี่ยวหยุนยิ้มขณะที่เขายักไหล่
“โอ้ เจ้า!” ดวงตาของหยานซือเฟยหดแคบลง รู้สึกค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะตอบกลับอย่างเฉยเมยค่อนข้างมาก แต่นางก็รู้ดีว่าอันตรายขนาดไหนที่เขาเพิ่งจะพบมา ถ้าหากเขาไม่ได้พลิกโต๊ะในช่วงเวลาที่สำคัญล่ะก็ มันก็จะมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะถูกแยกออกจากกันไปตลอดกาล
เห็นว่าพวกเขารักใคร่กันและกันมากขนาดไหน ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ ก็ไปที่อื่นกัน
เซี่ยวหงและคนอื่นหัวเราะ “ฮ่าฮ่า เด็กคนนี้โตขึ้นแล้วจริงๆ” คนอื่นก็หัวเราะเช่นกัน และพากันรู้สึกมีความสุขค่อนข้างมาก
“อะหึ่ม” ดยุนหยานเดินมาและกระแอมอย่างเชื่องช้า
“ดยุคหยานค่อนข้างมีความสุข!” บางคนแซวเล่น
“อะฮ่าฮ่า” ดยุคหยานหัวเราะอย่างกระดากอายขณะที่เขาเดินมาหาเซี่ยวหยุน “นี่เป็นเหรียญสำหรับการเป็นผู้ชนะของศึกประลองยุทธ์ครั้งนี้ ด้วยสิ่งนี้ เจ้าจะมีสิทธิ์เพื่อไปรับการตรวจสอบจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ได้ ความแข็งแกร่งของเจ้ามันต้องเพียงพอที่จะทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ต้องตกใจอย่างแน่นอน” หลังจากกล่าวสิ่งนี้เขาก็ส่งมอบเหรียญให้กับเซี่ยวหยุน
“นี่เป็นเหรียญตรวจสอบของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์รึ?” เซี่ยวหยุนพึมพำขณะที่เขารับเหรียญมา
ที่อยู่ใกล้กัน คนรุ่นเยาว์ทุกคนมองมาด้วยความชื่นชม เหรียญนี้เป็นสิ่งที่อัจฉริยะนับไม่ถ้วนปรารถนาจะได้มา มันมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาและอนุญาตให้พวกเขาเข้ามาติดต่อกับโลกแห่งการต่อสู้อันไม่มีที่สิ้นสุดได้ กับเหล่าลูกหลานที่เยาว์วัยจากตระกูลใหญ่ มันจะเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นปลาหลีฮื้อที่กระโดดผ่านประตูมังกร
เซี่ยวหยุนเก็บเหรียญไว้แล้วมองไปยังหญิงวัยกลางคนผู้สวยงามที่อยู่เคียงข้างดยุคหยาน
รู้สึกได้ถึงสายตาของดวงหนุ่มที่ตกมายังนาง ผู้หญิงคนนั้นเบือนสายตาของหน้าหนี นางดูอับอายอย่างมาก
“ท่านหญิงหยาน ข้าควรที่จะมีสิทธิ์อยู่กับลูกสาวของท่านในตอนนี้ได้แล้วใช่ไหม?” เซี่ยวหยุนถามด้วยรอยยิ้ม
เด็กหนุ่มพูดชัดเจนและเสียงดัง และเสียงของเขาก็ข้ามผ่านไปทั่วทั้งสนามเพื่อให้ทุกคนได้ยินมัน
“เซี่ยวหยุนกำลังขอหยานซือเฟยแต่งงานหรือ?”
“ข้ารู้สึกอิจฉามากที่ท่านหญิงหยานคนโตสามารถจับกุมหัวใจของเซี่ยวหยุนไว้ได้”
“มันจะดีขนาดไหนกันนะ ถ้าหากเซี่ยวหยุนเลือกข้า”
เห็นว่าเด็กหนุ่มจริงจังเพียงใด ลูกสาวจากตระกูลชั้นสูงทั้งหมดต่างก็มองไปที่หยานซือเฟยด้วยความนับถือและอิจฉา เนื่องจากเซี่ยวหยุนนั้นเป็นอัจฉริยะผู้ที่ยากจะพานพบได้ในรอบร้อยปี!
หลินเสี่ยวเหมารู้สึกแย่ลง นางเคยใกล้ชิดกับเด็กหนุ่มเมื่อตอนที่ยังเด็ก แต่มันก็ช่างน่าเสียดายหลังจากที่เขาสูญเสียพรสวรรค์ไป นางก็ได้เว้นระยะห่างของตัวเองกับเขา จนตอนนี้ทั้งคู่ก็กลายเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ และเขาก็ไม่เต็มใจแม้แต่จะจับมือกับนาง แล้วนับประสาอะไรกับการจะมาใกล้ชิดกับนาง
“น่ะ-แน่นอนว่าเจ้าทำได้” ท่านหญิงหยานดูอึดอัดอย่างเหลือเชื่อและก็รู้สึกขมขื่นมาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฟังจากการสนทนารอบตัวนาง นางทำได้แค่บีบยิ้มและพยักหน้าออกมา นางกลัวว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะถูกขโมยไปโดยเด็กสาวคนอื่น!
ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ตราบเท่าที่เซี่ยวหยุนเต็มใจ จะมีเด็กสาวนับไม่ถ้วนมากลุ้มรุมเขา
เด็กหนุ่มในปัจจุบันไม่ได้เป็นขยะเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว – ตอนนี้เขาเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ดังนั้นใครบ้างจะไม่ต้องการสร้างความสัมพันธ์กับเขา?
“ดีแล้ว” เห็นว่าท่านหญิงตกลงด้วยในตอนนี้แล้ว เซี่ยวหยุนก็รู้สึกค่อนข้างดีใจ และความขมขื่นภายในหัวใจของเขาก็กระจายหายไปในที่สุด
ย้อนกลับไปตอนนี้ ท่านหญิงหยานทำสิ่งต่างๆ ให้ยากลำบากต่อเขาอยู่ตลอด และคิดว่าการที่เขาต้องการอยู่ใกล้กับหยานซือเฟิยก็เหมือนกับกับคางคกที่ต้องการกินเนื้อหงส์ ตอนนี้เขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว และแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นคางคกเสมอไป สักวันหนึ่ง เขาจะกลายเป็นราชาที่ได้รับความยกย่องนับหมื่น
“ตราบเท่าที่ข้าพยายามอย่างหนัก ทุกสิ่งมันก็เป็นไปได้” เซี่ยวหุยนคิดกับตัวเองอย่างตื่นเต้น ถ้ามันไม่ใช่เพราะความมุมานะและความดิ้นรนของตัวเขาเองแล้ว เขาจะรอดพ้นจากการโจมตีของฉินหยูเฉินได้อย่างไร?
ดังนั้นมันจะเหลืออะไรถ้าหากเขาชนะศึกประลองยุทธ์แต่ก็ต้องตายระหว่างการประลอง?
มีแค่ความพยายามอย่างหนักและการดิ้นรนเท่านั้นเขาจึงจะชนะได้!
ในขณะนี้ได้มี ความเชื่ออย่างแรงกล้าได้หยั่งรากลงไปจิตใจของเขาแล้ว
เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับอันตราย เขาก็จะไม่มีหดหัวกลัวไป แม้ว่ามันจะมีโอกาสสำเร็จแค่หนึ่งในหมื่น เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อมัน!
หยานซือเฟยเดินอย่างสละสลวยมาที่ด้านข้างของเซี่ยวหยุน และได้เป็นฝ่ายจับมือของเขาก่อน
มันราวกับว่านางได้เห็นความกดดันภายในหัวใจของเซี่ยวหยุนจากดวงตาของเขาได้
รู้สึกได้ถึงในมือของเขา เซี่ยวหยุนผ่อนคลายลงเล็กน้อยและก็ยิ้มบางเบา ด้วยหญิงงามนางนี้อยู่เคียงข้างเขา ทุกสิ่งมันก็คุ้มค่าแล้ว
เมื่อเห็นว่าเซี่ยวหยุนและพี่สาวใหญ่ของนางอยู่ด้วยกันแล้วสมบูรณ์แบบขนาดไหน หยานซือหยันก็ดูไม่พอใจมาก
“เจ้าพวกหัวสูงทั้งหลาย ไม่กี่วันก่อน เจ้าไม่ยอมปล่อยให้พี่สาวมหญ่อยู่ด้วยกันกับพี่ใหญ่เซี่ยวหยุน แต่ตอนนี้เจ้ากลับเปลี่ยนใจแล้ว” หยานซือหยันบุ้ยปาก และรู้สึกไร้ความสุขอยู่มาก นางมองไปที่มารดาของนางและเปิดเผยการแสดงออกที่ดูถูกเหยียดหยาม
“ข้ากล่าวไว้ แต่มันเกี่ยวอะไรกับเจ้าล่ะ ลูกสาวข้า?” ท่านหญิงสาวรู้สึกสับสนมาก – เกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวคนนี้กัน?
เมื่อนางต่อต้านไม่ให้หยานซือเฟยกับเซี่ยวหยุนอยู่ด้วยกัน เด็กสาวคนนี้ก็ไม่มีความสุข แต่ตอนนี้นางอนุญาติแล้ว แต่เด็กสาวก็ยังไม่มีความสุขอยู่ดี
“อย่างน้อยการที่ซือเฟยอยู่เซี่ยวหยุนก็หมายความว่านางจะมีคนคอยสนับสนุนนาง” ดยุคหยานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เช่นเดียวกันกับศึกประลองยุทธ์ที่ได้รับบทสรุปแล้ว
“พี่หยวนฉาน ท่านมีแผนอะไร?” ผู้นำตระกูลหลินคนก่อนถาม
“แผน?” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนยกคิ้วของเขาขึ้น แล้วมองไปอย่างสงสัย
“ถึงแม้ว่าท่านจะสังหารฝางคุนไป แต่เซี่ยวหยุนก็สังหารฉินหยูเฉินด้วยเช่นกัน – อาจจะมีปัญหาจากเรื่องนั้นได้!” ผู้นำคนก่อนของตระกูลหลินกล่าว
“ตาเฒ่าหลินถูกแล้ว” ได้ยินสิ่งนี้ ผู้อาวุโสบางคนจากตระกูลอื่นพยักหน้าด้วยความเห็นด้วย
“นั่นเป็นปัญหาจริงๆ” ดยุคหยานกล่าวขณะที่เขาขมวดคิ้ว
ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนตกลงสู่ความสูง
“ฉินหยูเฉินมีสถานะที่สำคัญภายในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ใช่ไหม?” เซี่ยวหยุนถามขณะที่เขาเดิมมา
“ใช่” ดยุคหยานพยักหน้า “หนึ่งในลุงของเขาเป็นผู้อาวุโสของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ และก็ต้องการที่จะรับฝางเฮ่าเป็นศิษย์ด้วย”
“ผู้อาวุโสนิกายต้นกำเนิดสวรรค?? ดูเหมือนจะมีปัญหาแล้วสินะ!” เซี่ยวหยุนขมวดคิ้ว
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป” ดยุคหยานกล่าว “นิกายต้นกำเนิดสวรรค์ไม่ได้ถูกควบคุมโดยตระกูลฉิน”
หลังจากที่หยุดพักชั่วครู่ ดยุคหยานก็พูดต่อ “พรสวรรค์ของเจ้าไม่เคยมีมาก่อน และไม่ใช่แค่เจ้าจะมีเปลวไฟแปรผันเท่านั้น แต่เจ้ายังสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ด้วย เจ้าจะต้องโดดเด่นระหว่างการตรวจสอบอย่างแน่นอน เมื่อเจ้าถูกเลือกโดยใครสักคนแล้ว มันก็แน่นอนแล้วว่าเจ้าจะต้องถูกหล่อเลี้ยงและกลายเป็นศิษย์หลักของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์แน่นอน เมื่อมันเกิดขึ้น ทำไมเจ้าต้องไปกลัวตระกูลฉินอีกเล่า?”
“ศิษย์หลัก?” ดวงตาของเซี่ยวหยุนเป็นประกายขณะที่ความร้อนแรงปรากฏขึ้นภายในพวกมัน
MANGA DISCUSSION